My MCV and Doomsday - ตอนที่ 544
Chapter 544: โลกมืด
“นายไปได้ยินอะไรเกี่ยวกับพลังงานแสงดํากัน?” ฮานหยวนถามอย่างประหลาดใจ
เจียงลู่นี่จ้องไปที่เขาอย่างเย็นชาและตอบกลับ “ฉันเป็นคนถาม ไม่ใช่นาย ตอบคําถามฉันมาซะ อย่ามัวแต่พูดอะไรไร้สาระ”
ฮานหยวนมองไปที่เจียงลู่ฉีและปืนสไนเปอร์ด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน “ฉันไม่รู้ว่านายไปได้ยินมันมาจากไหน แต่ตั้งแต่ที่นายรู้ มันเป็นเรื่องที่ดีที่สุดว่าแก่นแท้มันไม่ได้เป็นของนาย มันเป็นหัวใจของเจ้าหลุมดํา ตราบเท่าที่แก่นแท้ยังคงอยู่ คุณสามารถบอกได้เลยว่ามันคล้ายคลึงกับสุดยอดพลังงานที่สามารถชาร์จพลังได้ตลอดเวลา”
ซอมบี้ สัตว์ปากลายพันธุ์และทองแดงหรือเหล็กสามารถที่จะถูกดูดซึมและเปลี่ยนมันไปเป็นพลังงาน การพัฒนาของพลังงานนี้เป็นดั่งการพัฒนาของอารยธรรมของมนุษย์ ในโลกที่ล่มสลายเช่นนี้แล้ว พลังงานมันกระจัดกระจายมาก ไม่สําคัญว่าใครก็ตามที่ได้รับแก่นแท้ไป ซึ่งเป็นพลังงานที่ไม่มีวันหมดแล้ว พวกเขาก็เปรียบดั่งกับเป็นเจ้าของโรงงานน้ำมัน ก่อนวันโลกาวินาศ มันเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการว่ามันจะนําพาความรุ่งเรืองมาให้กับพวกเขามากขนาดไหน
“เจียงลู่ฉี แก่นแท้เป็นของที่ดีมาก แต่เพราะเหตุนี้ นายมันไม่มีพลังมากพอในการเก็บมันไว้กับตัวหรอก เทียบกับพวกเขาแล้ว นายมันก็ไม่มีค่าอะไร!” ฮานหยวนก่นด่าออกมา
“ พวกเขาคือใคร?” เจียงลู่ฉีถาม เขาไม่ได้ชอบที่จะเถียงกันเรื่องผลประโยชน์กับคนใกล้ตาย อย่างไรก็ตาม เจียงลู่ฉีก็สนใจเกี่ยวกับคนที่ฮานหยวนพูดถึง”
“พวกเขาเป็นคนจากกองทัพ?” เจียงลู่ฉีถาม
เจียงลู่นี้ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับสถานการณ์ของเกาะฮัวเซีย แต่เขาคิดว่าภูมิภาคนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลและกองทัพ สุดท้ายแล้ว ในโลกใบนี้ มีเพียงแค่อาวุธสมัยใหม่จํานวนมากเท่านั้นที่จะทําให้แน่ใจได้ว่าพื้นที่ปลอดภัยยังคงอยู่อย่างปลอดภัย
“สิ่งที่นายพูดมันไม่ผิดไปหรอก คนทั้งหมดที่ฉันพบเจอต่างเป็นสมาชิกของรัฐบาล พวกเขาบางคนอยู่ในตําแหน่งที่สูง ดังนั้นอย่าฝันเลยว่าจะพบกับพวกเขาได้ อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่มีใครในพวกเราที่รู้ว่าใครเป็นหัวหน้า ฉันพึ่งจะเคยได้ยินใครบางคนพูดถึงเขาอยู่ครั้งหนึ่ง แต่ชื่อและข้อมูลส่วนตัวของเขายังเป็นที่ลึกลับอยู่ ฉันมั่นใจเลยว่า นายคงไม่มีโอกาสได้พบกับผู้นําของพวกเรา นายมันมีฝีมือห่างเกินไป กับผู้นําของพวกเรา..ฉันจะบอกนายว่าพวกเราไม่มีโค้ดลับที่ไว้ระบุตัวตนของกันและกันด้วย พวกเราเพียงแค่รู้ว่าพวกเราเป็นสมาชิก เมื่อพวกเราพบหน้ากันมาก่อน นายจะต้องระมัดระวังตัวกับพวกเราไปตลอดกาล… เมื่อพวกเขารู้ว่านายมีแก่นแท้นั่น มันก็จะมีเพียงความตายที่รอคอยนายอยู่เท่านั้นแหละ! นายจะตายอย่างน่าอนาถ เลวร้ายยิ่งกว่าฉันเสียอีก!”
ฮานหยวนรู้ว่าเจียงลู่ฉีจะไม่ปล่อยเขาไป ดังนั้นเขาจึงไม่แคร์ ว่าเขาจะเปิดเผยความลับทั้งหมดไป แต่กลับกัน ยิ่งเขาพูด เขายิ่งตื่นเต้นมากขึ้น เขาต้องการให้เจียงลู่ฉีรับรู้ถึงความน่าหวาดกลัวของกองกําลังด้านหลังเขา และทําให้เขาหวาดกลัวจนตอนกลางคืนไม่กล้านอนหลับ
“โอ้? จริงเหรอ?” เจียงลู่ฉีขมวดคิ้วและพูดออกมา “ฉันเข้าใจละ มันเหมือนว่ามีกลุ่มลึกลับ นั่นจะทรงพลังน่าดูเลย”
“นายกลัวงั้นเหรอ? แต่มันสายเกินไปแล้วละ” ฮานหยวนยิ้มออกมาอย่างตื่นเต้น
“ฉันเดาว่าพวกเขาคงมีทรัพยากรจํานวนมากเลยใช่ไหม? บางที่พวกเขาอาจจะหาแก่นแท้อีกแก่นนึงพบแล้วก็ได้!” เจียงลู่ฉีตื่นเต้น เขาสนใจทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับกลุ่มนี้ “ฮ่าๆๆๆๆ หัวหน้าของนายทําให้ฉันสนใจมาก! เอาละ ฉันได้คําตอบแล้ว ดังนั้น…” เจียงลู่ฉีพูดและดวงตาของเขาก็ส่องประกายขึ้น
เมื่อเขาได้ยินมัน ฮานหยวนตะโกนออกมาอย่างสิ้นหวัง “เจียงลู่ฉี! ในไม่ช้านี้ นาย เพื่อนและครอบครัวของนายจะตายกันทั้งหมด!”
เจียงลู่ฉีก็แสดงความสามารถในการยิงปืนที่ยอดเยี่ยมของเขาอีกครั้งหนึ่ง เขายิงไปที่ฝ่ามือ แขน และไหล่ของฮานหยวนอย่างสวยงาม จนสุดท้ายแล้ว ท่ามกลางเสียงกรีดร้องอันแสนเจ็บปวดของฮานหยวน หัวของเขาก็ระเบิดออก ร่างกายของเขาทั้งร่างสั่นกระตุกก่อนที่จะกองลงบนพื้นอย่างไม่มีชีวิต เจียงลู่ฉีก็ทําตามคําพูดของเขาแล้ว
ผู้ชมทั้งหมดต่างรู้สึกหวาดเสียวสันหลังกันทั้งหมด จากภาพที่เกิดขึ้น
“นายพลฮาน… ไม่ แม้ว่าฮานหยวนจะน่ารังเกียจก็ตาม แต่กัปตันเจียงก็ไม่ได้เป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยนด้วยเช่นกัน…” ผู้บังคับบัญชาขบวนรถถังพูดพึมพําออกมา เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าเจียงลู่ฉีจะฆ่าฮานหยวนด้วยวิธีแบบนั้น และต่อหน้าคนจํานวนมากเช่นนี้
“ยู่ซิน!” เจียงลู่ฉีตะโกนออกมา “เธอสํารวจศพของฮานหยวนสิว่า มีอะไรพิเศษบ้างหรือเปล่า”
“โอเคค่ะ” หลี่ยู่ซินพยักหน้า ไม่นานหลังจากนั้น เธอก็ส่ายหัวและพูดออกมา “ฉันไม่พบอะไรค่ะ”
“ไม่เป็นไร” เจียงลู่ฉีตอบกลับ
เขาสงสัยว่าทําไมฮานหยวนถึงพูดว่าสมาชิกแต่ละคนจะจดจํากันและกันได้ เมื่อพบเจอกันตามคําพูดของฮานหยวนแล้ว กลุ่มลึกลับกําลังซ่อนตัวอยู่ในเงามืด ควบคุมกองทัพและกองกําลังหลักของกองทัพ ฮานหยวนไม่รู้ว่าใครคือหัวหน้าของพวกเขา ซึ่งหมายความว่าเขาไม่ใช่สมาชิกหลัก ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นนายพลใหญ่ เขาถูกผลักดันให้ไปสู้
เจียงลู่ฉีตระหนักได้ว่ากลุ่มลึกลับไม่ได้ธรรมดาทั่วไป เมื่อพวกเขาผู้รอดชีวิตธรรมดาทั่วไป ในเวลาเดียวกัน เจียงลู่ฉีไม่เชื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่ฮานหยวนพูด
“ไม่สําคัญว่าผู้นําพวกเขามีอํานาจมากแค่ไหน มันไม่ใช่เรื่องของฉัน อย่างน้อย ฉันก็มีเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว เรื่องทั้งหมดสําหรับฉันคือการวิวัฒนาการต่อไป จนถึงจุดที่ฉันสามารถไปที่ไหนก็ได้ตามที่ฉันต้องการ มีเพียงแค่ตอนนั้นที่ฉันจะไม่กลัวใครอีกเลย เจียงลู่ฉีคิด
มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยสําหรับใครหนึ่งคนที่จะสู้กับกองทัพหรือประเทศ ไม่สําคัญว่าผู้นําจะทรงพลังมากขนาดไหน เขาก็ไม่สามารถที่จะรวมประเทศได้ ด้วยเหตุนี้ เจียงลู่ฉีจึงยังคงมั่นใจอยู่ แม้ว่าจะได้ยินเกี่ยวกับกลุ่มลึกลับแล้ว ในความคิดของเขา เขาไม่สามารถที่จะปล้นทรัพยากรจากพื้นที่ปลอดภัยได้ แต่เขาก็ชอบที่จะไปปล้นทรัพยากรจากกลุ่มลึกลับ ถ้าเขามีโอกาส
“พวกเรายังอยู่ใกล้กับพื้นที่ปลอดภัยและมันจะยุ่งยากมากขึ้น เจียงลู่ฉีคิด หลังจากนั้น เขาก็มองไปรอบๆและคิดว่าตั้งแต่ที่ฮานหยวนตายไป รถถังอาจจะโจมตีต่อ ถ้ามันเป็นแบบนั้นแล้ว รถ MCV คันใหม่ของเขาจะได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง
มันเป็นเรื่องปกติที่เข้าจะฝ่าวงล้อมออกไป แต่มันเป็นช่วงเวลาที่พิเศษ สําหรับรถMCV คันใหม่ของเขา เมื่อมันอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลง ในขณะที่เจียงลู่ฉีกําลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่ ผู้บังคับบัญชาก็กําลังรู้สึกซับซ้อนกับตัวเองเช่นกัน
“โฮกกกก!”
ทันใดนั้น พื้นดินก็เริ่มสั่นสะเทือน ในขณะที่เสียงคํารามออกมาจากระยะไกล ในชั่วพริบตาฝูงซอมบี้ที่หนาแน่นปรากฏขึ้นที่อีกฝั่งของถนน ซอมบี้เหล่านั้นต่างถูกดึงดูดด้วยเสียงระเบิดและเสียงปืน
ทันทีที่ผู้บังคับบัญชาเห็นซอมบี้ เขาตะโกนออกมา “สมาชิกทุกนาย! เตรียมพร้อมสู้” หลังจากนั้น รถถังทั้งหมดต่างเล็งไปทางฝูงซอมบี้
เจียงลู่ฉีก็เหลือบตาไปมองผู้บังคับบัญชา หลังจากนั้นเขาก็ออกคําสั่งอย่างรวดเร็ว “ไปกันเถอะ”
เมื่อผู้บังคับบัญชาได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของรถมินิบัส ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความซับซ้อน เขาหันกลับไปมอง แต่รถมินิบัสก็ได้หายไปแล้ว
“ฉันปล่อยคนฆ่านายพลฮานให้หนีไปได้…” ผู้บังคับบัญชาถอนหายใจ ทั่วทั้งโลกคงจะพลิกผันเปลี่ยนไป แต่เขาเชื่อว่า ถ้าพวกเขาปะทะกัน ทั้งสองฝ่ายก็จะได้รับความเสียหายหนัก ถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว พวกเขาควรที่จะสู้กับซอมบี้แทนเสียดีกว่า มันไร้ประโยชน์สําหรับมนุษย์ในการสู้กันเอง ในยามที่เผชิญหน้ากับศัตรู
“แก่นแท้นั่น…” ผู้บังคับบัญชารู้สึกกังวลใจ เมื่อเขาคิดถึงวัตถุดํานั่น เขาเชื่อว่ามันเป็นเรื่องที่ดีที่สุด ในการอยู่ห่างกับเจ้าสิ่งนั้นให้ไกลที่สุดเท่าที่เป็นไปได้