My MCV and Doomsday - ตอนที่ 550
Chapter 550: พบกับผู้รอดชีวิตคนอื่น
ไม่มีมีใครสังเกตเห็นเจียงลู่ฉีและหลันซิหยู่ออกจากพื้นที่ปลอดภัยหรือพบร่องรอยของทีมนี่หยิงเลย มันเหมือนกับว่าพวกเขาหายไปจากบนพื้นโลก ในเวลาเดียวกัน ชื่อของเจียงลู่ฉีได้สร้างความหวาดกลัวให้กับพวกที่มีตําแหน่งสูงในพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิง
“พี่เจียง พวกเราควรไปไหนต่อดีคะ?” หลิงที่ยืนพิงประตูถามออกมาอย่างนุ่มนวล เมื่อพลังของเธอเริ่มวิวัฒนาการ เธอก็ยิ่งเหมือนกับแมวมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อหลิงเงียบ เธอจะดูน่ารักมาก แต่เมื่อเธอขยับตัว ใครก็ตามก็จะเห็นออร่าอันตรายพวยพุ่งออกมาจากตัวเธอ
“พวกเราจะต้องหาหัวหน้าของฮานหยวนให้เจอ” เจียงลู่ฉีพูด เขาเป็นเพียงคนเดียวที่พวกเขารู้จักจากกลุ่มลึกลับนั่น
“แล้วเธอละ? เธอต้องการที่จะมากับพวกเราไหม?” เจียงลู่ฉีถาม เขาก็มองไปทางโซฟา
ซึ่งพืชและเว่ยเฟยเฟยกําลังนั่งอยู่ด้านบนโซฟานั่นเอง เมื่อพวกเธอได้ยินคําพูดของเจียงลู่ฉีแล้ว พีชก็ก้มหัวและพึมพําออกมา” เอ่อ…” หลังจากนั้นเธอก็มองไปที่เว่ยเฟยเฟยที่ซึ่งรู้ว่าเธอกําลังคิดอะไรอยู่ เธอรู้อย่างชัดเจนเลยว่าพี่ชต้องการที่จะไปกับเจียงลู่ฉี แต่ในส่วนของเธอแล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ว่าระยะห่างระหว่างพวกเธอมันห่างกันมากเกินไปแล้วก็ตามที เธอก็ยังรู้สึกว่า มันเป็นโอกาสที่ดี ถ้าพวกเธอสามารถอยู่กับพวกเขาได้อีกสักพัก
“ถ้าคุณโอเคแล้วละก็ พวกเราก็ยินดีที่จะไปกับคุณค่ะ อย่างน้อย สักพักหนึ่งมันก็มากพอ ทําให้พืชได้ฟื้นตัว ถ้าคุณผ่านพื้นที่ปลอดภัยแห่งอื่น คุณก็สามารถที่จะปล่อยพวกเราลงไว้ที่นั่นได้ใช่ไหมคะ?” เว่ยเฟยเฟยพูด
เมื่อมองไปยังดวงตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของเด็กสาวอายุ 17 เจียงลู่ฉีก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี
ในเวลาเดียวกัน เจียงจู้อิงก็พูดแทรกขึ้น “ไม่ต้องกังวลหรอก พี่ชายของฉันใจดีกับสาวงามมากเลยนะ”
เจียงลู่ฉีพูดไม่ออก และเขาก็จ้องไปที่น้องสาวของเขา แต่เธอก็ยิ้มกลับมาให้แทน
“เธอเรียนอะไรมาบ้างเนี่ย?” เจียงลู่ฉีถาม เขาต้องการที่จะดุน้องสาวของเขาในความขี้เล่นของเธอ
เหตุผลที่เขาช่วยพวกเธอไว้ เป็นเพราะว่าความสงสารและความใจดีของพวกเธอ แต่คําพูดของจู้อิงมันทําให้เกิดความเข้าใจผิด จนทําให้ใบหน้าของพืชและเว่ยเฟยเฟยต่างแดงฉานกันทั้งคู่
เจียงลู่ฉีพยายามอธิบาย “ไม่ต้องสนใจที่เธอพูดนะ เธอสามารถที่จะอยู่กับน้องสาวฉันได้เลย เมื่อพวกเราหาที่พักเหมาะๆไว้นอนตอนกลางคืน เธอก็สามารถจัดการเรื่องของเธอได้เลย”
“ขอบคุณค่ะ กัปตันเจียง” พีชพยักหน้า แต่เธอค่อนข้างผิดหวัง แล้วเธอก็เงยหน้าขึ้นและถามออกมา “ฉันขออนุญาตเรียกคุณว่าพี่เจียงได้ไหมคะ?”
“เอาตามที่เธอสะดวกเลย” เจียงลู่ฉีตอบกลับ เขาไม่ได้สนใจเรื่องเล็กน้อยนี้เลย
“พี่เจียง!” พีชตะโกนออกมาอย่างมีความสุข พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ
“พี่… พี่นี่มัน..” เจียงจู้อิงส่ายหัว ในความคิดของเธอ พี่ชายของเธอเป็นชายที่ดูยอดเยี่ยม แต่กลับมีข้อผิดพลาดอันใหญ่หลวงอยู่เรื่องหนึ่ง เขาไม่ได้รู้จักคําว่ารักและเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย หลังจากนั้น เธอก็มองหลันซิหยู่ที่เดินกลับไปขึ้นบันได และพยักหน้าให้กับเธอ
“แต่มันก็ยังเป็นเรื่องที่ดีด้วยเช่นกัน ที่เขาซื่อบื้อแบบนี้ หรือไม่อย่างงั้นแล้วมันคงน่าจะเป็นเรื่องที่ซับซ้อนน่าดู แต่ว่าใครจะกลายเป็นพี่สะใภ้ของเธอกันแน่ละ? ทางที่ดีสุดคงจะเป็นพวกเธอทั้งหมดกลายเป็นพี่สะใภ้ของฉันแบบนั้นละ” เจียงจู้อิงคิด
รถบัสได้ขับไปทางใต้ตลอดทาง และเพียงเวลาไม่นาน มันก็มาถึงสถานที่ที่เจียงลู่ฉีไม่เคยไปมาก่อนที่โลกล่มสลาย มันเห็นได้เด่นชัดเลยว่าพื้นผิวได้เปลี่ยนแปลงไปมาก เมื่อต้นไม้ทางใต้สามารถ ที่จะเห็นได้ทั่วทุกแห่ง มันเป็นเช่นเดียวกันกับสถานที่แห่งอื่น พืชเหล่านี้ต่างงอกเงยขึ้นในสภาพแวดล้อมที่แปลกประหลาด หลังจากวันโลกาวินาศ
ต้นไม้ที่อยู่ข้างถนนมันสูงกว่าสิบสองเมตร ทําให้ถนนดูเหมือนกับสร้างขึ้นมากลางป่า มันเป็นภาพที่แปลกตามาก มีเพียงแค่ตึกที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าไม้ ซึ่งแสดงให้เห็นเลยว่าผู้คนมากมายเคยอยู่กันคับคั่ง ในเมืองหวั่นโถว มันเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่มีประชากรหนาแน่นและรุ่งเรืองกว่าเมืองเล็กๆบ้างเมืองเสียอีก แต่ในตอนนี้ มันกลับกลายเป็นสรวงสวรรค์ของซอมบี้และสัตว์ปากลายพันธุ์แทน
“มันอาจจะมีผู้รอดชีวิตอยู่ที่นี่ก็ได้ ถ้าพวกเราหาใครสักคนพบแล้ว พวกเราอาจจะไปถามพวกเขาได้ว่าเมืองชิงไห่อยู่ที่ไหน” เจียงลู่ฉีพูด
ในตอนแรก เจียงลู่ฉีคิดว่าเมืองชิงไห่น่าจะอยู่ใกล้กับเมืองชิง แต่หลังจากที่มาถึงเมืองชิง พวกเขาก็พบว่ามันกลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยซอมบี้แล้ว เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวสัมผัสได้ถึงการไหลเวียนพลังงานที่อันตรายมากมายในเมืองแห่งความตายนั่น ถ้ามันไม่จําเป็นแล้ว เจียงลู่ฉีไม่ต้องการที่จะยั่วยุพวกนั้น
ในตอนนี้ พวกเขาต่างหลงทาง เมืองหวันโถวเป็นเมืองที่สามแล้วที่พวกเขามา หลังจากที่ไปยังเมืองชิง ถ้าพวกเขาหาใครไม่เจออีกแล้ว พวกเขาก็คงทําได้เพียงแต่ขับต่อไป อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ที่พวกเขามายังถึงเมืองนี้ เจียงลู่ฉีก็รู้สึกว่ามันน่าจะมีคนอยู่ที่นี่ เมื่อร้านค้าหลายต่อหลายแห่งในพื้นที่โดยรอบต่างถูกรื้อค้นไป
ทันใดนั้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงปืนที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่ได้ห่างไปจากพวกเขาสักเท่าไหร่ พวกเขาก็ได้ยินเสียงของซอมบี้ดังขึ้นพร้อมๆกัน
“ไปตรวจดูตรงนั้นกันเถอะ” เจียงลู่ฉีสั่ง
หยิงขับไปทางที่เสียงดังขึ้น และเพียงเวลาไม่นาน พวกเธอก็มาถึงด้านหน้าร้านค้า ด้านนอกร้านค้าคือซอมบี้หลายสิบตัว ในขณะที่ด้านในคือผู้รอดชีวิตหลายต่อหลายคนกําลังกันพวกมันอยู่ ผู้รอดชีวิตเหล่านี้ต่างตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลําบาก พวกเขาใช้ชั้นวางของและโต๊ะในการบังประตู ในขณะที่ยิงปืนผ่านรอยแตก โชคร้ายที่พวกเขาไม่สามารถยิงซอมบี้ได้มากสักเท่าไหร่ ยิ่งแย่ไปกว่านั้น กลุ่มของซอมบี้นี้ได้ถูกนําโดยซอมบี้กลายพันธุ์ซึ่งใจเย็นมาก
“เชี่ยเอ้ย เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นกําลังรอให้กระสุนของพวกเราหมดอยู่!”
“พวกเราจะทํายังไงดี? อาตงที่ทรงพลังมากที่สุดของพวกเราได้รับบาดเจ็บ ถ้าพวกเรากระสุน หมดลงเมื่อไหร่ ซอมบี้ก็จะพุ่งเข้ามาฆ่าพวกเราทั้งหมดแน่ๆ!”
ผู้รอดชีวิตเหล่านี้ต่างกังวล พวกเขาต่างเห็นว่าหนึ่งในสหายของพวกเขาถูกลากออกไปโดยความไม่ระมัดระวัง ชายที่โชคร้ายถูกขยี้เป็นชิ้นๆ และโดนกินไปในชั่วพริบตา นอกจากนี้แล้ว อาตงยังมีบาดแผลลึกที่แขนของเขา และเขากําลังนั่งอยู่บนพื้นพร้อมกับใบหน้าที่ซีดขาว ด้านข้างของอาตงก็คือหญิงสาวที่กําลังนั่งร้องไห้อยู่ ที่ซึ่งแต่งตัวในชุดที่สวยงาม
“พี่ตง พวกเราจะทํายังไงดี” หญิงสาวคนนี้ถามออกมาอย่างกระวนกระวายใจ ถ้าอาตงไม่ใช่หัวหน้าทีมของพวกเธอแล้วละก็เธอก็คงจะไม่ออกมาพร้อมกับพวกเขาหรอก ในความคิดของเธอ ภารกิจนี้มันง่ายมาก เธอไม่เคยคาดคิดเลยว่าพวกเธอจะพบกับตัวตนที่อันตรายแบบนี้!
ท่ามกลางการต่อสู้ที่ดุเดือด ผู้รอดชีวิตก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ที่ดังมาจากที่ห่างไกล
“เสียงนี่มันอะไร? เพื่อนของเรามาช่วยงั้นเหรอ?” ใครบางคนถามขึ้น แต่พวกเขาก็มองไม่เห็นอะไรเลย สายตาของพวกเขาทุกคนต่างถูกบดบังโดยซอมบี้ที่อยู่ด้านหน้าพวกเขา
“พี่น้อง! มันมีซอมบี้กลายพันธุ์ที่มีปัญญาอยู่ด้านนอก! นายควรที่จะระวังไว้นะ มันสามารถควบคุมซอมบี้ได้หลายตัว” ชายคนหนึ่งตะโกนให้กับกลุ่มคนที่อยู่ด้านนอก
ก่อนที่เสียงของเขาจะหายไป พวกเขาก็ได้ยินเสียงดังขึ้น! หลังจากนั้น ซอมบี้ทั้งหมดที่อยู่นอก ร้านค้าต่างถูกชนกระเด็นเหมือนกับพินโบว์ลิ่ง! ในขณะที่ซอมบี้กลายพันธุ์ตัวใหญ่ก็ถูกชนใส่ประตูร้าน จนกระเด็นไปติดกําแพง มันเป็นหัวหน้าซอมบี้! และครึ่งหัวของมันก็หายไปแล้ว!
ทุกคนต่างมองไปทางนั้นด้วยสายตาที่ไม่น่าเชื่อถือ พร้อมกับดวงตาที่เปิดกว้าง หลังจากนั้น พวกเขาต่างมองออกไปและเห็นรสทัวร์คันใหญ่จอดอยู่ด้านนอกร้าน บนป้ายทะเบียนรถมีคําว่าฉี่หยิงถูกเขียนไว้อย่างชัดเจน
ในพริบตาต่อมา ประตูของรถทัวร์ได้เปิดออก และสาวงามก็เดินลงมาอย่างสง่างาม หลังจากนั้นเธอก็พุ่งเข้ามาในร้านจนทิ้งไว้เพียงแค่ภาพติดตา ทุกคนต่างตกตะลึง เมื่อเธอปรากฏขึ้นด้านข้างซอมบี้กลายพันธุ์ด้วยมีดที่ส่องประกายในมือของเธอ เธอก็เหยียบลงไปบนอกของซอมบี้กลายพันธุ์ และเธอก็ตัดมันอย่างแม่นยําและดึงนิวเคลียสเลือดออกมา
“เธอเกือบจะเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับ 2 แล้วนะ…”
“ว้าว! เธอทรงพลังมากเลย แต่พวกเราก็มีผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับ 2 ในค่ายเราเหมือนกัน!”
ผู้รอดชีวิตทั้งหมดต่างตกใจกับสาวผมสั้น มันเป็นเรื่องที่ยากมากในการพบกับสาวงามที่ทรงพลังและสวยงามเช่นนี้
แต่เธอคือใครกันละ? ทําไมพวกเขาถึงไม่เคยเห็นเธอมาก่อนเลย?
อาตงยืนขึ้น “ขอบคุณนะที่ช่วยพวกเรา คุณผู้หญิงงาม ผม ซงเฮอตง เป็นกัปตันของทีมนี้ครับ คุณมาจากที่ไหนกัน? คุณต้องการที่จะเข้ามาในค่ายของพวกเราไหมครับ? ผมจะได้แสดงความขอบคุณ” อาตงถามออกมาด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น
ในสายตาของอาตงแล้ว มันเต็มไปด้วยร่องรอยของความอิจฉา สุดท้ายแล้ว สาวผมสั้นคนนี้ เป็นสาวที่สวยงามมาก แม้แต่สาวของหัวหน้าของเขาก็เทียบกับเธอไม่ได้เลย
แต่มันกลับกลายเป็นว่า สาวผมสั้นก็เมินเขาและเดินกลับขึ้นรถทัวร์ “พี่เจียง ฉันได้นิวเคลียสเลือดมาค่ะ”
ซื้อ? ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่หัวหน้าทีมงั้นเหรอ?” อาตงตกตะลึงกับการแสดงออกที่ดูเคารพของสาวงามคนนั้น
ไม่นานหลังจากนั้น เจียงลู่ฉีก็เดินลงจากรถทัวร์ หลังจากที่อัพเกรดแล้ว เจียงลู่ฉีก็ยิ่งหล่อและปลดปล่อยออร่าลึกลับออกมามากกว่าเดิม จนทําให้คนอื่นรู้สึกถึงความด้อยกว่าอย่างมาก!