My MCV and Doomsday - ตอนที่ 551
Chapter 551: เมืองเหล็ก
“สวัสดีทุกคน ฉันมีเรื่องที่อยากจะถามอยู่หน่ะ” เจียงลู่ฉีพูด
ผู้รอดชีวิตคนหนึ่งรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว “คุณได้ช่วยพวกเราไว้ ดังนั้นคุณสามารถที่จะถามสิ่งที่คุณต้องการได้เลยครับ”
“นายเคยได้ยินเกี่ยวกับพื้นที่ปลอดภัยที่เรียกว่าเมืองชิงไห้ไหม?” เจียงลู่ฉีถาม
“เคยได้ยินมาก่อนครับ” ผู้รอดชีวิตตอบกลับ
“ดี แล้วนายรู้ไหมว่ามันอยู่ที่ไหน?” เจียงลู่ฉีถามอีกครั้งหนึ่ง
“เอ่อ…นี่มัน…” ผู้รอดชีวิตมองหน้ากันและกัน เพื่อหวังว่าใครสักคนจะรู้เกี่ยวกับมัน
เจียงลู่ฉีรู้สึกผิดหวัง เมื่อผู้รอดชีวิตเคยแต่ได้ยินเกี่ยวกับเมืองชิงไห่ แต่ไม่เคยมีใครสักคนเคยไปที่นั่นมาก่อน
ทันใดนั้น อาตงก็พูดขึ้น “บางทีอาจจะมีใครสักคนในค่ายของพวกเรารู้ว่ามันตั้งอยู่ที่ไหนก็ได้ครับ คุณสามารถที่จะตามพวกเรากลับไปได้นะครับ ถ้าคุณต้องการ”
เจียงลู่ฉีเหลือบไปมองอาตงและพยักหน้า “เอาสิ นําไปเลย”
“ผมขออนุญาตทําแผลตัวเองก่อนนะครับ” อาตงพูด
“พี่เจียง พี่ต้องการที่จะตามพวกเขากลับไปยังค่ายงั้นเหรอคะ?” หลิงถาม
เจียงลู่ฉียิ้มและตอบกลับ “ไม่ต้องกังวลไปนะ แม้ว่ามันจะเป็นสถานที่เต็มไปด้วยเสือหรือหมาปาก็ตามที มันก็ยังปลอดภัยกับพวกเราอยู่ดีนั่นแหละ” เมื่อเขาตอบกลับ สายตาของเจียงลู่ฉีก็แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจ
หลิงมึนงง แต่เธอก็ยิ้มออกมา เธอตระหนักได้ว่าเมื่อพลังของเจียงลู่ฉีกําลังพัฒนาขึ้น อารมณ์และความมั่นใจของเขาก็ยิ่งเหมือนกับชายที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
ในเวลาเดียวกัน หญิงสาวที่แต่งตัวด้วยชุดที่สง่างามก็เดินออกมา เธอกําลังสวมเสื้อที่เผยหลังกระโปรงสั้นและเสื้อแจ็คเก็ตกันหนาว ทั้งหมดต่างถูกทํามาอย่างดีและคุณภาพชั้นเยี่ยม ถึงแม้ว่าเสื้อผ้าแบรนด์ชั้นดังจะหมดคุณค่าของมันไปในโลกที่ล่มสลายเช่นนี้ คนมากมายก็ยังมองหาพวกมันอยู่ดี เจียงลู่ฉีก็แค่เหลือบตาไปมอง แล้วเขาก็รู้ได้ทันทีเลยว่าหญิงสาวคนนี้ไม่ได้แข็งแกร่งอะไรเลย ดังนั้น เขาจึงค่อนข้างมั่นใจว่าเธอจะต้องมีภูมิหลังที่เป็นคนทรงพลังอย่างแน่นอน
เค่าของมันอกทํามาอย่างดีและออกาลังสวมเสื้อที่เผยด
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเซี่ยฉาฉา ฉันรู้สึกขอบคุณมากเลยค่ะที่คุณได้ช่วยพวกเราไว้ ก่อนหน้านี้ฉันกลัวมากเลย และฉันคิดว่าพวกเราคงจะตายกันทั้งหมดแล้วด้วย” เซี่ยฉาฉามองไปที่เจียงลู่ฉีและเอามือแนบอก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกขอบคุณของเธอ เมื่อเธอทําแบบนั้น มันทําให้หน้าอกของเธอกระเด้งขึ้นลง
เมื่อมองเห็นมัน หลิงรู้สึกไม่พอใจมาก ร่างกายของเธอมันดูโดดเด่นมากก็จริง แต่หญิงสาวที่อยู่ด้านหน้าพวกเธอก็มีร่างกายที่ดูดีมากด้วยเหมือนกัน
“เอ่อ คุณชื่ออะไรงั้นเหรอคะ?” เซี่ยฉาฉาถาม ในขณะที่จ้องไปที่เจียงลู่ฉี เธอรู้สึกว่าเขาเป็นที่น่าดึงดูดมาก และรอยยิ้มของเธอก็หวานมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
อาตงที่กําลังทําแผลอยู่ในร้านค้ารู้สึกหงุดหงิดมาก เซี่ยฉาฉาเป็นหนึ่งในน้องสาวในนาม ของหัวหน้า และอาตงก็ต้องการเธอมากนานมากแล้ว ไม่สําคัญว่าเธอต้องการอะไร อาตงก็จะช่วย หาให้เธอให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ในครั้งนี้ เธอต้องการที่จะหาเสื้อผ้าใหม่ ดังนั้นอาตงจึงพาเธอมาพร้อมกับพวกเขาด้วย แต่โชคร้ายที่เขากลับไปเจอกับซอมบี้กลายพันธุ์โดยไม่ได้คาดคิดแบบนี้แทน
สําหรับเจียงลู่ฉีแล้ว อาตงไม่ได้รู้สึกขอบคุณเขาเลยด้วยซ้ํา แม้ว่าทีมจี้หยิงจะไม่ปรากฏตัวขึ้น เขาก็เชื่อว่าเขาสามารถที่จะหนีไปได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่เพื่อนร่วมทีมของเขาล่อซอมบี้ไว้อยู่ ความประทับใจของเจียงลู่ฉียิ่งแย่ขึ้นไปอีก เมื่อเซี่ยฉาฉาสนใจในตัวเขา เขายิ่งเต็มไปด้วยความอิจฉามากเท่านั้น
อาตงอดหงุดหงิดไม่ได้ เขาอดที่จะสงสัยว่าทําไมสาวงามอย่างนั้นถึงอยู่ข้างเจียงลู่ฉี เขาไม่สามารถที่จะสัมผัสได้ถึงการไหลเวียนพลังงานที่ทรงพลังจากเจียงลู่ฉีเลย ทันใดนั้นเขาเขาก็ครุ่นคิดบางอย่าง “นี่มันเรื่องบังเอิญหรือเปล่าเนี่ย? ถ้าฉันเดาถูกแล้วละก็ หึหึหึ!” หลังจากนั้น อาตงก็ก้มหัวลง เพื่อไม่ให้ความตื่นเต้นของเขาถูกพบ
“จริงเหรอคะ? ฉันก็เคยไปเจียงเบยมาก่อน คุณเป็นนักศึกษาจากมหาลัยเจียงเบยงั้นเหรอคะ? ไม่แปลกใจเลยว่าทําไมคุณถึงดูเด็กแบบนี้ ถ้าไม่ได้เป็นเพราะการระบาดของไวรัสแล้ว คุณก็ยังคงเป็นแค่นักศึกษามหาวิทยาลัยอยู่เลย!” เซี่ยฉาฉาพูดอย่างตื่นเต้น เธอพยายามอย่างดีที่สุดที่จะหาเรื่องคุยกับเจียงลู่ฉี แต่เขาก็พูดออกมาเพียงไม่กี่คําเท่านั้น
ในตอนแรก เจียงลู่ฉีต้องการที่จะหาข้อมูลที่มีประโยชน์จากเซี่ยฉาฉา แต่เธอกลับกลายเป็นพวกที่ไม่รู้เรื่องอะไรสักเท่าไหร่ นอกจากนี้แล้ว เขาก็ไม่ต้องการที่จะคุยกับเธอนานสักเท่าไหร่ โชคร้ายที่เธอมันไม่เข้าใจและมัวแต่ชวนเจียงลู่ฉีคุยอยู่นั่น
“ผมทําแผลเสร็จแล้วครับ พวกเราไปกันเถอะ” อาตงพูดขัด
“อ๊า? พร้อมแล้วเหรอ?” เซี่ยฉาฉายิ้มให้กับเจียงลู่ฉีและพยายามที่จะถามออกมา “รถทัวร์ของคุณดูดีมากเลย ด้านในมันน่าจะมีที่นั่งเยอะมากใช่ไหมคะ? ให้ฉันขึ้นไปนั่งบนรถกับคุณได้ไหม?”
อาตงขมวดคิ้วมาก มันเห็นได้เด่นชัดเลยว่าเซี่ยฉาฉาต้องการที่จะอยู่กับเจียงลู่ฉีให้นานมากขึ้นอีกสักนิด
“ผมสงสัยมากเลย ผมไม่เคยเห็นใครขับรถเมล์คันใหญ่แบบนี้มาก่อนเลย หลังจากที่ไวรัสระบาด คุณนี่มีงานอดิเรกที่แปลกมากเลย! บางทีผมขอขึ้นไปดูสักหน่อยได้ไหมครับ?” อาตงถามออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม
เจียงลู่ฉีส่ายหัว “ฉันไม่ให้คนแปลกหน้าขึ้นบนรถของฉัน”
ร่องรอยของความผิดหวังปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเซี่ยฉาฉา “โอ้ นั่นก็สมเหตุสมผล เช่นกันค่ะ”
อาตงหงุดหงิดมาก มันเป็นสิทธิ์ของเจียงลู่ฉี ถ้าใครสักคนสามารถที่จะขึ้นไปบนรถของเขาได้ แต่อาตงไม่ได้คิดแบบนั้น ในความคิดของเขาแล้ว คําปฏิเสธของเจียงลู่ฉีมันหยิ่งยโสมากเกินไป และรถทัวร์มันก็ไม่ได้พิเศษพิโสอะไร มันก็แค่ใหญ่กว่ารถคันอื่นเท่านั้นแหละ เขามั่นใจมากเลยว่าเจียงลู่ฉีขับมันไป เพื่อที่จะเป็นดึงดูดความสนใจของคนอื่นเท่านั้น
“มันเหมือนกับว่ารถเมล์ของคุณมันค่อนข้างลึกลับมากเลยนะ มันคงน่ามหัศจรรย์มากเลยสินะครับ” อาตงพูดพร้อมกับการฝืนยิ้ม หลังจากนั้นเขาก็หยุดพูดกับเจียงลู่ฉี ก่อนที่จะเดินกลับขึ้นไปบนรถของทีมคันหนึ่ง “พวกเราพร้อมแล้ว ไปกันเถอะ!”
ในตอนแรก ทีมของอาตงมีสามคัน แต่ซอมบี้ได้ทําลายไปแล้วคันหนึ่ง เมื่อพวกเขาสตาร์ทรถสองคันที่เหลือ ท่อรถก็ปล่อยควันดําออกมา อาตงก็ยิ่งเร่งความเร็วรถขึ้น และเขามองไปเจียงลู่ฉี ท่ามกลางเปลวควันที่หนาแน่น เขาต้องการที่จะแสดงให้เจียงลู่ฉีเห็นว่า ชายหนุ่มที่แท้จริงจะต้องขับรถที่มันดูเท่ห์แบบนี้ รถทัวร์มันก็เหมาะแค่การขับเดินทางไปทั่วแค่นั้นแหละ แต่อาตงกลับพบว่าเจียงลู่ฉีได้ขึ้นไปบนรถทัวร์แล้ว ในเวลาเดียวกัน เจียงลู่ฉีก็เมินเสียงเครื่องยนต์ของพวกเขาไป
“ฉันถามเขาไปหลายรอบเลยละ เกี่ยวกับชื่อของเขา และในที่สุดเขาก็บอกฉันสักที เขาชื่อว่าเจียงลู่ฉีแหละ! ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลา และเย็นชาก็ตามที ชื่อของเขาก็ดูดีมากเลย ฉันชอบมันละ!” เซี่ยฉาฉาพูดออกมา ซึ่งตอนนี้เธอกําลังนั่งอยู่ข้างอาตง
อาตงจ้องไปที่เซี่ยฉาฉาอย่างเย็นชาและถามอย่างกราดเกรี้ยว “ฉาฉา เธอหลงรักเจ้าอ่อนนั่นงั้นเหรอ? ฉันแนะนําว่าเธอละทิ้งความคิดปัญญาอ่อนนั้นไปจะดีกว่านะ”
“อะไรนะ? เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว! เขาหล่อและไม่อ่อนนะ!” เซี่ยฉาฉาหงุดหงิดกับคําพูดของอาตงมาก
“อย่าลืมไปว่าเขาไม่ใช่สมาชิกของค่ายเรา พี่เซี่ยจะไม่อนุญาตให้เธอเข้าใกล้กับเขาอย่างแน่นอน”
พี่ในนามของเซี่ยฉาฉามีชื่อว่า เซี่ยเฟิง ซึ่งเป็นบุคคลที่สําคัญในค่าย เขาเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับ 2 ถึงแม้ว่าเซี่ยฉาฉาจะชื่นชอบมาก เธอก็ทําตัวน่ารักและอ่อนโยนต่อหน้าเขา เซี่ยเฟิงปฏิบัติกับเซี่ยฉาฉาเหมือนกับเป็นน้องสาวของเขา เนื่องจากว่าพวกเขามีนามสกุลเหมือนกัน และพวกเขาค่อนข้างสนิทกันมาก ในช่วงก่อนวันโลกาวินาศ สําหรับน้องสาวที่แท้จริงของเซี่ยเฟิง แล้วเธอได้กลายไปเป็นซอมบี้หลังจากที่ไวรัสระบาด และเซี่ยเฟิงก็เป็นคนที่ฆ่าเธอทิ้งไปด้วยมือของเขาเองด้วย
ยิ่งทําให้เซี่ยฉาฉารู้สึกขยะแขยงมากขึ้นไปอีก เมื่ออาตงใช้ชื่อของพี่ชายในนามมาสั่งเธอแบบนี้ “มันไม่ได้เป็นเรื่องของนายสักหน่อย” เซี่ยฉาฉาเชื่อว่า ตราบเท่าที่เธอเชิญเจียงลู่ฉีมาเข้าร่วมกับค่ายของพวกเขา เซี่ยเฟิงก็จะยินดีมากด้วยเช่นกัน
ดวงตาของอาตงหม่นหมองมาก เขาสังเกตเห็นการแสดงออกของเซี่ยฉาฉาต่อเขานั้นเปลี่ยนไป และเขาโทษเจียงลู่ ว่ามันเป็นเพราะเขา เขาตัดสินใจที่จะเลิกคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และขับนําทางไปตลอดเวลา รถทัวร์ได้ขับตามรถทั้งสองคันอย่างต่อเนื่อง และผ่านไปสักพักหนึ่ง พวกเขาก็มาถึงพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรม โรงงานส่วนใหญ่นั้นเกี่ยวข้องกับโลหะ
เจียงลู่ฉีไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับนิคมอุตสาหกรรมเลย มันค่อนข้างแตกต่างออกไปจากซอมบี้ในเมืองหวั่นโถว เมื่อพวกเขามองไม่เห็นซอมบี้เลยสักตัวเดียว มันเหมือนกับว่าพวกมันได้ถูกฆ่าไปนานแล้ว หรือไม่มีใครอยู่แถวนี้ เมื่อตอนที่ไวรัสระบาด
เพียงเวลาไม่นาน พวกเขาก็มาถึงและหยุดอยู่ด้านนอกโรงงานแห่งหนึ่ง
โรงงานแห่งนี้เป็นโรงงานที่ใหญ่มาก และถูกเสริมด้วยเหล็กบนกําแพง มีร่องรอยน้ําเมือกแห้งทาไว้ ด้านนอกของโรงงานมีรถบรรทุกหลายต่อหลายคันจอดไว้อยู่
เมื่อผู้คนด้านในเห็นรถทัวร์ พวกเขาก็ต่างเล็งไปที่รถทัวร์อย่างรวดเร็ว เมื่อพวกเขาต่างระมัดระวังตัว เจียงลู่ฉีก็ไม่ได้สนใจอะไรเลยกับพวกปืนเหล่านั้น เมื่อพวกมันไม่ได้มีภัยคุกคามกับรถทัวร์ของเขาเลย
“ผมเอง อาตง!” อาตงตะโกนออกมา ในขณะที่กําลังขับไปทางประตู
คนที่อยู่ในป้อมยามด้านในเปิดหน้าต่างออกมาในทันที ด้านในป้อมยามเห็นปืนกลหลายต่อหลายกระบอก
“อาตงทําไมนายเอารถกลับมาได้แค่สองคันกันละ? แล้วรถทัวร์นั่นคืออะไร?” ชายคนหนึ่งถามขึ้น
“พวกเราพบกับซอมบี้กลายพันธุ์ที่ดุร้ายมาก่อนหน้านี้” อาตงอธิบาย ในขณะที่โบกมือของเขาไปมา “รถทัวร์คันนี้ขับผ่านมา และคนด้านในนั้นช่วยพวกเราไว้ พวกเขาตามพวกเรามาที่นี่ เนื่องจากว่าพวกเขาต้องการข้อมูลบางอย่าง” เสียงของเขาดังก้อง ดังนั้นเจียงลู่ฉีและคนอื่นจึงได้ยินที่เขาพูดอย่างชัดเจน
ชายที่อยู่ด้านในพยักหน้าออกมาและปล่อยพวกเขาผ่านเข้าไป เพียงเวลาไม่นาน ประตูที่ถูกเสริมความแข็งแกร่งโดยลวดหนามและแท่งเหล็กก็เปิดออก คนทั้งหมดที่อยู่ด้านหลังประตูต่างมองไปที่รถทัวร์คันใหญ่อย่างสงสัย
“ฉันสามารถสัมผัสได้ถึงการไหลเวียนพลังงานที่แข็งแกร่งหลายคนเลยค่ะ จากในค่าย หนึ่งในพวกเขาแข็งแกร่งมากเช่นกันค่ะ” หลันซิหยู่พูด
“เทียบกับลู่ฉางเฟยในพื้นที่ปลอดภัยเซียหยวนละ?” เจียงลู่ฉีถาม ลู่ฉางเฟยเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่แข็งแกร่งที่สุดที่พวกเขาพบเจอมาก่อน
หลันซิหยู่ครุ่นคิดและตอบกลับ “พวกเขาเกือบจะเท่ากันเลยค่ะ”
“ฉันไม่คิดว่าจะพบกับคนที่แข็งแกร่งแบบนี้ที่นี่เลยนะเนี่ย” เจียงจู้อิงพูด แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเธอให้พวกเขามาอยู่ในสายตาของเธออยู่ดี สุดท้ายแล้ว เธอก็เป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับ 2 ด้วยเช่นกัน
อาตงจอดรถของเขาและตะโกนออกมา “นี่คือของพวกเราละครับ เมืองเหล็ก คุณตามผมมาเลยครับ อย่าเดินไปไหนมั่วซั่วละ!”