My MCV and Doomsday - ตอนที่ 552
Chapter 552: ติดเหยื่อ
มันเห็นได้เด่นชัดเลยว่าอาตงได้ส่งคําเตือนกับพวกเขา
“ถึงแม้ว่าฉันจะสามารถช่วยคุณไปคุยกับหัวหน้าของพวกเราได้ กฏของค่ายเรามันก็เคร่งขรัดมาก ถ้าคุณไม่ทําตามกฏ มันก็จะไม่มีใครช่วยคุณอีก”
เจียงลู่ฉีไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่เจียงจู้อิงก็แสดงการดูถูกออกมา พวกเธอได้ผ่านการต่อสู้มามากมายและค่ายอย่างงี้ มันไม่ได้อยู่ในสายตาของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว นั่นทําให้ไม่มีใครในพวกเธอสนใจกับคําเตือนหรือรู้สึกโดนคุกคามเลยกันเลย
อาตงหงุดหงิดกับปฏิกิริยาของพวกเขา แต่เขาก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดออกมา “ผมจะพยายามแนะนําคุณกับหัวหน้าของพวกเรานะครับ เขาค่อนข้างสนใจในทีมผู้รอดชีวิตที่มาจากด้านนอกมาก เขาสามารถที่จะตอบคําถามของคุณได้ทั้งหมดเลย ได้โปรดเดินตามผมมาด้วยครับ”
“ไม่ละ” เจียงลู่ฉีปฏิเสธคําเชิญของอาตงอย่างไม่คาดคิด พวกเขาไม่ได้มาเยี่ยมหัวหน้าของอาตงหรือผู้นําของเขาสักหน่อย
อาตงมึนงง แต่เขาก็ยังคงยิ้มไว้อยู่ “ถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว ผมขอตัวไปรายงานก่อนนะครับ หัวหน้าของพวกเราคงจะกลับมาพบกับพวกคุณแน่ๆ” หลังจากนั้น เขาก็กระพริบตาให้กับเพื่อนร่วมทีม
“ฉันจะไปกับนายด้วย” เซี่ยฉาฉาพูดอย่างตื่นเต้น
“ได้สิ” อาตงไม่ได้ปฏิเสธเธอและพวกเขาก็เข้าไปด้านใน
เจียงลู่ฉีก็ถามขึ้น หลังจากที่พวกอาตงได้เดินจากไป “ซิหยู่ เธอคิดว่าอาตงเป็นยังไง?”
“พี่เจียงคะ ฉันคิดว่าคุณไม่ต้องการคําแนะนําของฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยด้วยซ้ํา คุณก็น่าจะรู้คําตอบของคุณอยู่แล้วนี่คะ?” หลันซิหยู่ตอบกลับ
“เธอพูดถูก อาตงไม่ได้เป็นชายที่ดูธรรมดาเลย และเขาก็เต็มไปด้วยความคิดชั่วร้ายเลยละ เจียงลู่ฉีพูด ในความเป็นจริงแล้ว เขาก็ไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ํา สิ่งที่เจียงลู่ฉีต้องการก็เพียงแค่ข้อมูลเท่านั้น ถ้าพวกเขากล้ามีความคิดตลกๆแล้วละก็ เขาก็ยินดีอย่างมากเลยละ ที่จะทดสอบความแข็งแกร่งของเขากับคนเหล่านี้
ในตอนนี้ อาตงและเซี่ยฉาฉาก็เข้าไปด้านในตึก ภายในตึกของโรงงานนั้นซับซ้อนและแบ่งออกไปเป็นหลายต่อหลายส่วน ภายในห้องห้องหนึ่ง มีชายที่ดูจริงจังนั่งอยู่บนโซฟา ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยรอยสัก ซึ่งมันทําให้เขาดูดุดันมาก เขี้ยวของสัตว์ได้ถูกทําเป็นสร้อยคอและเขากําลังสวมมันอยู่ เขาดูโหดเหี้ยมจนไม่มีใครกล้าจ้องเข้าไปในสายตาของเขาเลยสักคน
อาตงเดินเข้าไปยืนอยู่ด้านหน้าชายคนนี้ และโค้งคํานับอย่างนอบน้อม “พี่เซี่ยครับ”
เซี่ยฉาฉากสุภาพมากขึ้นและพูดออกมา “พี่ชายคะ”
เซี่ยเฟิงเงยหน้าขึ้นและเหลือบตามองไปที่อาตง “ทําได้ดีมาก นายได้พาฉาฉากลับมาอย่างปลอดภัย”
“มันเป็นหน้าที่ของผมครับ” อาตงตอบกลับ
“แต่ทําไมนายถึงมายืนอยู่ที่นี่กัน? มีอะไรงั้นเหรอ?” เซี่ยเฟิงถามออกมา
อาตงลังเลอยู่ชั่วครู่หนึ่ง แต่เขาพูดสิ่งที่เขาคิดออกมา “ผมได้ยินจากหัวหน้าคนอื่นว่า พวกเราได้รับคําสั่งอย่างลับๆมาว่าให้ตามจับผู้ร้ายหลบหนี แต่ผมไม่มั่นใจสักเท่าไหร่ว่า…” หลังจากนั้น เขาก็สังเกตการแสดงออกของเซี่ยเฟิงปกติแล้ว เขาไม่ควรที่จะได้ยินหัวหน้าพูดคุยระหว่างกัน
เซี่ยเฟิงพูดออกมา “มันเป็นเรื่องจริง แต่มันก็ไม่ได้เป็นธุระอะไรของนายสักหน่อย นายถามทําไม? อย่าคิดตลกอะไรละ”
เมื่อได้ยินที่เขาพูด อาตงก็ฝืนยิ้มออกมา “ผมจะกล้าทําแบบนั้นได้ยังไง? ผมถามออกมา เพราะว่าผมพบกับกลุ่มๆหนึ่ง และรู้สึกว่าพวกเขาน่าจะเป็นผู้ร้ายหลบหนีนั่นอะครับ”
ทันทีที่เซี่ยเฟิงได้ยิน เขาก็จ้องไปที่อาตง “จริงใช่ไหม? นายมั่นใจนะ?”
“มันมีชื่อจี้หยิงอยู่บนทะเบียนรถของพวกเขาครับ” อาตงตอบ
“ยอดเยี่ยมมาก!” เซี่ยเฟิงตื่นเต้น ในขณะที่เซี่ยฉาฉาเริ่มกระวนกระวายใจ “อาตง เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว พี่ชายคะ พวกเขาเป็นคนที่ช่วยฉันไว้ค่ะ อาตงไม่สามารถที่จะปกป้องฉันได้ด้วยซ้ํา แล้วพวกเขาจะเป็นกลุ่มผู้ร้ายหลบหนีได้ยังไงกันคะ?”
“ฉาฉา เธอบอกชื่อกัปตันของเขาออกมาได้ไหม?” อาตงถามออกมาพร้อมกับรอยยิ้มอันชั่วร้าย
เซี่ยฉาฉาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เนื่องจากคําพูดต่อไปของเธอจะตัดสินชะตาชีวิตของเจียงลู่ฉี แต่เซี่ยเฟิงจ้องไปที่เธออย่างดุร้ายและสั่งออกมา “บอกฉันมาสิ!”
เซี่ยฉาฉาคุ้นชินกับใบหน้าแบบนั้นของเซี่ยเฟิง ทุกครั้งที่เขาจะฆ่าใครสักคน เขาก็จะทําหน้าแบบนั้น มันทําให้เซี่ยฉาฉารู้สึกหวาดหวั่นและหวาดกลัวมาก เธอจึงไม่กล้าที่จะโกหกเขา “เขามีชื่อว่าเจียงลู่ฉีค่ะ….”
“เจียงลู่ฉี? ใช่เลย เขานั่นแหละ!” เซี่ยเฟิงยิ้ม
“พี่เซี่ย พวกเขาอยู่ในค่ายของพวกเราครับ ถึงแม้ว่าผมจะจําพวกเขาได้ ผมก็พยายามทําตัวไม่ให้น่าสงสัย และพาพวกเขามาที่นี่ครับ” อาตงอธิบายออกมา
เซี่ยฉาฉาไม่ได้คาดคิดเลยว่าอาตงจะวางแผนการชั่วร้ายแบบนั้น
เซี่ยเฟิงหัวเราะออกมาเสียงดังก้อง “ข่าวเกี่ยวกับรางวัลในการนําจับผู้ร้ายได้ถูกส่งไปทั่วทุกหนแห่ง พวกเขาเป็นดั่งแกะตัวอ้วนเลยละ! ในตอนแรก พวกเราคงไม่มีโอกาสเลยสักนิดในการที่จะจับพวกเขาได้ แต่ใครจะไปคิดกันว่า พวกเขาจะมาเคาะประตูของพวกเราถึงบ้านแบบนี้กันละ?” เซี่ยเฟิงรู้สึกราวกับเงินได้หล่นลงมาจากสวรรค์ให้กับเขา
“ยอดเยี่ยมมาก นายทําได้ดีมาก!” เซี่ยเฟิงชื่นชมอาตง
อาตงยิ้มออกมา แต่เขาก็ควบคุมความรู้สึกของเขาไว้ “มันเป็นเกียรติของผมครับ ที่ได้ช่วยพี่เซี่ย” ในความคิดของอาตง เซี่ยเฟิงก็อาจจะให้เซี่ยฉาฉากับเขาก็ได้ ถ้าเขาวางแผนได้ดีมากพอ ตราบเท่าที่เขาและเซี่ยฉาฉากลายเป็นคู่รักกัน เซี่ยเฟิงก็จะกลายเป็นผู้สนับสนุนให้กับเขา เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว อาตงก็รู้สึกขอบคุณเจียงลู่ฉีมาก
“พี่ชาย
พี่วางแผนจะทําอะไรคะ?” เซี่ยฉาฉถามอย่างกังวลใจ
“ฉันจะฆ่าเขานะสิ!” เซี่ยเฟิงตอบกลับเสียงเบา
“ไม่นะ อย่าทํานะ” เซี่ยฉาฉาหวาดกลัวมากและพยายามที่จะโน้มน้าวเขา “ได้โปรดละ ให้ฉันลองชวนเขามาเข้าร่วมกับพวกเราดูก่อน ถ้าเขาเข้าร่วมกับพวกเรา พี่จะไม่ฆ่าเขาใช่ไหมคะ?”
อาตงชักสีหน้าออกมา ในความคิดของเขาแล้ว เซี่ยฉาฉาเป็นสาวที่ใสซื่อมากเกินไป และยังไม่เข้าใจถึงกฏอันโหดร้ายของโลกที่ล่มสลายนี้เลยด้วยซ้ําไป
เซี่ยเฟิงไม่ได้ตอบ แต่เขาก็เหลือบไปมองที่เธอ สายตาที่เย็นชาของเขาทําให้ร่างกายของเซี่ยฉาฉาสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว และเธอก็หยุดพูด
“พวกเขาอยู่ไหน?”
“ผมได้ชวนพวกเขาเข้ามาแล้วครับ แต่พวกเขาปฏิเสธที่จะลงจากรถทัวร์ของพวกเขา พวกเขาได้ส่งผมให้มาเชิญคุณไปพบกับพวกเขาครับ” อาตงพูด
เซี่ยเฟิงยิ้มและพูด “ตั้งแต่ที่พวกเขาต้องการให้พวกเราไปพบ งั้นพวกเราก็ทําได้แค่ทําตามขั้นละ 39
“ไปเรียกหวังเหลาซานและเฉินเบียซูออกมาสิ” เซี่ยเฟิงสั่ง จนทําให้อาตงมึนงงกับคําพูดของเขา
หวังเหลาซานและเฉินเบียซูเป็นหัวหน้าอีกสองคนของค่ายนี้ ท่ามกลางพวกเขา เฉินเบียซูนับเป็นชายที่ทรงพลังที่สุดอันดับสองในค่าย ในความคิดของอาตงแล้ว แค่เซี่ยเฟิงก็มากพอแล้ว ในการสู้กับเจียงลู่ฉี เขาอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าทําไมพวกเขาต้องใช้ค้อนไปทุบแมลงวันตัวกระจ้อยแบบนั้นด้วย
เซี่ยเฟิงเคาะไปบนที่วางแขน “ตามรายงานที่พวกเราได้มา ทีมจี้หยิงทรงพลังมาก พวกเราจําเป็นต้องฆ่าพวกเขาทิ้งอย่างรวดเร็ว ไม่งั้นมันอาจจะเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้นก็ได้” เมื่อสิงโตล่ากระต่าย มันก็จะโจมตีด้วยพละกําลังที่แข็งแกร่งที่สุด
เซี่ยฉาฉาตกอยู่ในความสิ้นหวัง เฉินเบียซูมันเป็นฆาตกรโรคจิต ซึ่งรู้จักกันดีในการทรมาณเหยี่อของเขา ถึงแม้ว่าเซี่ยฉาฉาจะไม่รู้ว่าเจียงลู่ฉีมีพละกําลังมากเท่าใด เธอก็รู้สึกว่าเขาไม่น่าจะแข็งแกร่งเท่ากับพี่ของเธอ
ในความคิดของเซี่ยฉาฉาแล้ว ทีมจี้หยิงคงจะได้รับความสูญเสียอย่างมาก ในโลกที่ล่มสลาย เช่นนี้ ปาฏิหารย์มันแทบไม่มีเกิดขึ้นบนโลกใบนี้หรอก