My MCV and Doomsday - ตอนที่ 554
Chapter 554: หยุด!
เครื่องยนต์ของรถทัวร์ส่งเสียงคํารามดังก้องออกมา ซึ่งมันทําให้อาตงและคนอื่นต่างตกใจกันพวกเขาต่างรู้สึกเหมือนกับว่ารถไฟกําลังจะพุ่งเข้ามาชนใส่พวกเขาเลยทีเดียว
หลังจากการอัพเกรด MCV ได้ใช้ทั้งพลังงานแสงดําและน้ํามันผสมไปด้วยกัน พลังงานแสงดํามีพลังอํานาจสูงมาก มันสามารถที่จะเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตทั้งหมดให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของมันใครก็ตามก็สามารถที่จะจินตนาการได้เลยถึงอนุภาพของพลังงานของมัน โชคร้ายที่อาตงและคนอื่นจะรู้ได้ยังไง ว่ารถคันนี้จะมีพลังงานเช่นนี้กัน?
ในความคิดของเจียงลู่แล้ว คนเหล่านี้เหมือนกับกบที่อยู่ที่ก้นบ่อ ในวันนี้ เขาต้องการที่จะแสดงให้เห็นว่าโลกใบนี้มันกว้างใหญ่แค่ไหน
ทันใดนั้น รถทัวร์ก็ขับพุ่งไปอย่างบ้าคลั่งเหมือนกับสัตว์ป่าที่ดุร้าย ทุกคนต่างโจมตีใส่มันอย่างถาโถม แต่มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย พวกเขาไม่สามารถที่จะทําลายความเสียหายด้านนอกได้เลยด้วยซ้ํา เมื่อเห็นว่ารถทัวร์เข้ามาใกล้พวกเขามากขึ้น ทุกคนต่างรู้สึกหวาดหวั่นและกลัวจนตัวสั่นกันไปหมด
“หนีเร็ว!” ใครบางคนตะโกนขึ้นมา และพวกเขาต่างพุ่งตัวแยกไปทุกทิศทาง
ในเวลาเดียวกัน รถทัวร์ก็พุ่งชนเข้าใส่รถบรรทุกที่จอดอยู่ ชายผู้โชคร้ายที่กําลังวิ่งอยู่ ซึ่งอยู่ใกล้กับรถบรรทุกก็โดนรถบรรทุกเบียดชนจนตาย ในชั่วพริบตา รถบรรทุกก็บิดเบี้ยวไปหมดในชั่วพริบตารถบรรทุกที่บิดเบี้ยวก็ถูกชนกระเด็นปลิวไปไกล และส่งเสียงดังก้องออกมา
สําหรับผู้คนที่อยู่ด้านใน และชายที่โชคร้ายก็ต่างเสียชีวิตกันทั้งหมดร่างกายของพวกเขาแทบจะแบนกลายเป็นส่วนเดียวกันกับแผ่นเหล็กเลย คล้ายคลึงกับเนื้อบด ผลลัพธ์หลังจากการชนได้ส่งกระจายไปถึงรถบรรทุกคนอื่นที่อยู่รอบข้าง รวมทั้งผืนดินก็สั่นสะเทือนจนเหมือนกับแผ่นดินไหว
“เวรเอ้ย!” อาตงสาปแช่งออกมา เขาจ้องไปที่รถทัวร์อย่างหนักแน่น ในความคิดของเขาแล้วมันไม่ได้เป็นแค่รถทัวร์แล้ว แต่มันกลับกลายเป็นสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ยักษ์ ในขณะที่รถบรรทุกมันก็เหมือนเป็นแค่ของเล่นให้มันเล่นแค่นั้นเอง
หลังจากการชนกัน รถทัวร์ก็ไม่ได้หยุดรถ แต่มันกลับพุ่งไปด้านหน้าต่อ มันบดขยี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้ามันบนเส้นทางของมัน แม้แต่กระสุนก็ไม่สามารถที่จะหยุดรถทัวร์คันนี้ได้ไม่ต้องพูดถึงคนเลย เพียงเวลาไม่นาน คนที่ยิงปืนใส่รถทัวร์ก็สูญเสียความมั่นใจและหยุดยิงมันไร้ประโยชน์มากที่จะยิงต่อไป พวกเขาต่างมีเพียงความหวังเดียว คือการมีขาเพิ่มอีกสักสองข้างเพื่อที่จะวิ่งหนีให้เร็วขึ้น
ในตอนนี้ หวังเหลาซานก็ฟื้นความแข็งแกร่งของเขามาได้ส่วนหนึ่ง แต่เขาก็ยังอยู่ในสภาพที่น่าอนาถอยู่ดี เมื่อกระสุนฝังอยู่ในกล้ามเนื้อ แผลของเขามันไม่ได้ร้ายแรง แต่เมื่อเห็นรถทัวร์กําลังพุ่งมาอย่างงี้ หวังเหลาซานก็ตื่นตระหนกอย่างมาก ในตอนแรก เขาคิดว่าทีมจี้หยิงเป็นเหมือนกับปลาที่อยู่บนเขียง แต่ไม่เคยคาดคิดเลยว่า เจียงลู่ฉีจะกล้าทําตัวเหย่อหยิ่งแบบนี้ในถิ่นของเขา
“เหลาซาน ร่วมมือกันหยุดรถทัวร์นั่นกันเถอะ!” เซียเฟิงตะโกนออกมา
“เยี่ยม!” หวังเหลาซานตะโกนกลับไป และกระโดดขึ้นมาพร้อมกับขวานของเขาในมือ
เซียเฟิงและหวังเหลาซานต่างเป็นดั่งกับหมาป่าที่ดุร้ายสองตัว เมื่อพวกเขากําลังพุ่งเข้าใส่รถทัวร์เพื่อให้มันหยุดลง
ร่างของเซียเพิ่งเริ่มขยายขนาดขึ้น และกล้ามเนื้อของเขาก็ขยายจนเสื้อผ้าของเขาปริแตกในเวลาเดียวกัน ผิวหนังของเขาก็แข็งจนกันกระสุนได้ในขณะที่เล็บที่แหลมคมก็ปรากฏขึ้นที่ฝ่ามือและฝ่าเท้าของเขา ถ้าเขาต่อยออกไป เขาก็สามารถที่จะทุบรถให้ฟังได้เลย
หวังเหลาซานเริ่มที่จะควงขวานเพื่อที่จะเพิ่มแรงเหวี่ยง ซึ่งเขาจะใช้มันในการทําลายรถให้ฟังเขาเชื่อว่าขวานของเขาสามารถที่จะผ่ารถเมล์เป็นสองส่วนได้
“แค่พวกเขาสองคนก็พอแล้วละ พวกมันอาจจะได้ตายอย่างสบายๆกว่านี้ แต่ในตอนนี้ พวกเราจะทําให้พวกมันเจ็บปวดอย่างสาสม…” เฉินเบียซุกระซิบออกมา ในขณะที่เล่นกําไรมือของเขาไปด้วย
เซียฉาฉาหวาดกลัวมาก เมื่อเธอได้ยินมัน แต่เมื่อเธอเห็นรถทัวร์ชนรถบรรทุกกระเด็นออกไปเซียฉาฉาก็ยังรู้สึกมีความหวังได้อยู่ แต่คําพูดของเฉินเบียซูมันทําลายความหวังในหัวใจของเธอลงมันเหมือนกับว่าเฉินเบียซูได้ดูถูกรถทัวร์ ว่าความแข็งแกร่งของมันไม่สามารถที่จะเทียบเท่ากับความแข็งแกร่งของพวกเขาได้เลย
“ตั้งแต่ที่แกหนีได้ไวมากแบบนี้ ฉันก็จะฉีกกระชากล้อรถของแกให้มันพังไปซะ!” เซียเฟิงเร่งความเร็วขึ้นและพุ่งเข้าใส่รถทัวร์จากด้านข้าง หลังจากนั้น เขาก็ยึดมือออก และแทงลงไปที่ล้อด้วยกรงเล็บของเขา แต่เขาก็ประหลาดใจมาก ที่ล้อรถมันไม่มีรอยขีดข่วนเลยแม้แต่นิดเดียวและเป็นเขาเองอีกด้วย ที่ได้รับบาดเจ็บ หลังจากที่พยายามแทงมันเซียเฟิงรู้สึกเหมือนกับว่ากรงเล็บของเขาแทบจะหักลง!
ล้อพวกนี้มันคืออะไรกันวะเนี่ย? ทําไมมันแข็งขนาดนี้?” ในอดีต เซียเฟิงได้ทุบล้อรถที่วิ่งอยู่ไปนับไม่ถ้วนแต่ในครั้งนี้เขาก็ไม่สามารถที่จะทําลายล้อรถได้แม้แต่ล้อเดียวเลย
ทันใดนั้น เซียเฟิงก็รู้สึกปวดหัว รวมทั้งรู้สึกได้ถึงลางร้าย เขาแทบจะกระโดดไปด้านข้างโดยใช้สัญชาตญาณ แต่เขาก็ยังรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่พุ่งพล่านออกมาจากไหล่ของเขารวมทั้งเลือดที่ไหลออกมามากมายจากมัน เซียเฟิงก็เงยหน้าขึ้น และเขาก็เห็นดวงตาที่เย็นชากําลังจ้องลงมายังเขา ดวงตาคู่นั้นเป็นของสาววัยสิบเจ็ดปี ซึ่งกําลังโผล่หัวออกมาจากหน้าต่างหญิงสาวคนนี้กําลังมองมาที่เขา พร้อมกับมีดในมือของเธอ
“เธอเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับ 2 งั้นเหรอ?” เซียเฟิงถามออกมา เขาได้เรียนรู้มาจากอาตงว่าหญิงสาวผมสั้นในทีมเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับ 2
“เธอเลือกเวลาออกมาได้ยอดเยี่ยมจริง! งั้น ฉันจะฆ่าเธอก่อนเป็นคนแรก!” เซียเฟิงคํารามออกมา
ร่องรอยของเจตนาสังหารก็โผล่ขึ้นมาในดวงตาของหลิง หลังจากนั้น เธอก็กระโดดออกมาจากหน้าต่างและโจมตีเข้าใส่เซียเฟิง
ในอีกด้านหนึ่ง หวังเหลาซานก็มาถึง “ไอ้พวกเวรเอ้ย! ฉันจะฆ่าแกทิ้งซะ!” พร้อมกับขวานที่ควงไปมาในมือของหวังเหลาซาน เขาก็กําลังจะขว้างขวานของเขาออกไป เขาเชื่อว่า แม้แต่เกราะของรถที่แข็งเหมือนกับเกราะเต่า ขวานของเขาก็ยังสามารถผ่ามันทิ้งได้
นอกจากนี้แล้ว ดูเหมือนผู้มีพลังเหนือธรรมชาติกําลังต่อสู้กับเซียเฟิงอยู่ ดังนั้นจึงไม่มีใครเข้ามาหยุดเขา แต่นอกเหนือจากที่เขาคาดไว้ กระแสไฟฟ้าพลังทําลายล้างพวยพุ่งออกมาจากรถทัวร์และปกคลุมไปทั่วหวังเหลาซาน แม้ว่าหวังเหลาซานจะเร็วมากก็ตาม แต่มันก็ไม่มีทางที่จะเหนือไปกว่าความเร็วของสายฟ้า นอกจากนี้แล้ว มันไม่ใช่แค่สายฟ้าดอกเดียว ในชั่วพริบตาสายฟ้านับไม่ถ้วนก็ผ่าลงไปที่หวังเหลาซาน แม้ว่าเขาจะทนได้ครั้งหนึ่งแต่มันก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยที่จะทนการโจมตีที่ระรัวเช่นนี้
ผมของหวังเหลาซานลุกไหม้ ควันก็พวยพุ่งออกมาจากตัวของเขา แขนของเขาก็สั่นจนแทบเขาไม่สามารถถือขวานไว้ได้อีกเลย หลังจากนั้น ขวานของเขาก็หล่นลงบนพื้นคอนกรีตจนทําให้เกิดหลุมใหญ่ขึ้น และมันน่าหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก เมื่อเขาได้ยินเสียงหัวเราะของเด็กสาวซึ่งเธอดู เหมือนจะมีความสุขมาก!
หวังเหลาซานตัวแข็งที่ออยู่บนพื้นดิน ส่วนหนึ่งของร่างกายเขาไหม้เกรียม เขาก็บ่นออกมาในหัวฉันโดนโจมตีได้ไงกัน? มันมีผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับ 2 อีกคนบนรถนั่นงั้นเหรอ?”
ตามรายงานที่พวกเขาได้รับมา พวกเขาก็รู้เพียงว่าคู่ต่อสู้ของเขาทรงพลังมาก และมีรถมินิบัสที่ทรงพลัง อย่างไรก็ตาม ความจริงมันก็ดังยิ่งเสียกว่าคําพูด
หวังเหลาซานรู้สึกว่าความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้พวกเขา แต่ทั้งสองครั้งที่เขาพยายามจะโจมตีหวังเหลาซานก็โดนโจมตีสวนกลับมาอย่างรุนแรง จนทําให้ผลลัพธ์ที่เขาหวังไว้มันกลับตรงข้ามไปแทน!
ในอีกด้านหนึ่ง เซียเฟิงก็ยังตกอยู่ในจุดที่ยากลําบาก หลิงนั้นเร็วกว่าเขา และเธอก็หายตัวไปเหมือนกับเป็นเงา ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เธอโจมตี บาดแผลใหม่ก็จะปรากฏขึ้นบนร่างกายของเขาแต่เขายังไม่สามารถที่จะแตะตัวเธอได้เลยด้วยซ้ําไป
“มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง?” เซียเฟิงได้ใช้ทรัพยากรจํานวนมาก จนกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าใจว่าทําไมหลิงถึงทรงพลังกว่าเขา เขาจะไปรู้ได้ยังไงว่าทีมี่หยิ่งไม่ได้ขาดทรัพยากรและMCV ด้วยเช่นกัน เมื่อ MCV สามารถที่จะผลิตคริสตัลวิวัฒนาการที่ดีกว่าของกองทัพได้
หลิงและเจียงจ๊อิงได้พัฒนาความแข็งแกร่งของพวกเธอขึ้นมามากแล้ว ดังนั้นมันจึงค่อนข้างง่ายมากสําหรับพวกเธอในการต่อสู้กับเซียเฟิงและหวังเหลาซาน
รอยยิ้มของเฉินเบียซูก็ได้หายไป หลังจากที่เห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น อาตงก็รู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เป็นดั่งภาพลวงตา และคิดว่าตาของเขาคงจะผิดเพี้ยนไป ว่าทําไมศัตรูถึงได้จัดการกับเซียเฟิงและหวังเหลาซานได้อย่างง่ายดายเช่นนี้
“ดูเหมือนว่ามีแค่เฉินเปียซูคนเดียวเท่านั้นแหละที่สามารถหยุดพวกเขาได้ อาตงคิด เขาก็หันกลับไปมองเฉินเบียซูและใจเย็นลง
ถึงแม้ว่าเซียเฟิงและหวังเหลาซานจะแข็งแกร่งมากก็ตาม พวกเขาก็ยังเทียบกับเฉินเบียซูไม่ได้แต่ในครั้งนี้ อาตงก็ไม่มั่นใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป ที่จริงแล้ว เขาคิดว่าเขาพาแกะตัวอ้วนกลับมาแต่มันกลับกลายเป็นว่า เขาพามังกรที่ดุร้ายกลับมาแทนเสียอย่างงั้น เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วอาตงก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาเย็นยะเยียบขึ้นมา
“ฉันจะสู้” เฉินเปียซูพูดขึ้นมา หลังจากนั้น เขาก็ใส่กําไรข้อมือและก้าวออกมาด้านหน้าท่วงท่าและลมหายใจของเขาก็เปลี่ยนไป
คนที่ยืนอยู่ด้านหลังเขา ไม่ว่าจะเป็นอาตง เซียฉาฉา และคนอื่นต่างไม่สามารถควบคุมการเต้นของหัวใจได้เลย ในสายตาของพวกเขาแล้ว เฉินเบียซูเปรียบดั่งเป็นสัตว์ประหลาดกลายพันธุ์ในร่างมนุษย์ ทุกก้าวที่เขาย่างเดิน ก็จะเหลือรอยเท้าจางๆไว้บนพื้นดิน!
“โฮกกกก!” เฉินเบียซูเงยหน้าและตะโกนออกมา เสียงของเขาดังจนทําให้ใครบางคนเจ็บหูได้เลยเขารีบพุ่งไปที่เบื้องหน้าของรถทัวร์ และเขาก็ยื่นมือออกไป เพื่อที่จะหยุดรถทัวร์!
เท้าของเฉินเบียซูหยั่งรากลึกบนพื้นคอนกรีต และกล้ามเนื้อของเขาก็ปรเสื้อสูทของเขาออก
มกับความมั่นใจมากมาย ในความคิดของเขาแล้ว ทันทีที่เขาหยุดรถทัวร์นั่นได้ เขาก็จะฉีกกระชากโรงรถออก และลากเจียงลู่ฉีและเพื่อนร่วมทีมของเขาออกมา ซึ่งเขาต้องการที่จะฉีกกระชากพวกมันให้เป็นชิ้นๆ เฉินเปียซูดูกลายเป็นชายอีกคนหนึ่งไปเลยทั้งเหี้ยมโหดและเลวทราม
“บอสเปียซูจะต้องทําได้แน่! ฉันดูเขาฉีกกระชากคนอีกคน เหมือนกับเต้าหูมาแล้ว! เขาไม่เคยที่จะปล่อยเป้าหมายของเขารอดไปจากมือของเขาเลยสักครั้ง” อาตงพูดออกมาอย่างตื่นเต้น
ในสายตาของอาตง เฉินเปียซูเป็นดั่งผู้ที่มีทรงพลังที่สุดท่ามกลางหัวหน้าทั้งสามคน แต่ในทางกลับกันเซียฉาฉากลับกังวลจนมือของเธอเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ
รถทัวร์กําลังจะชนกับเฉินเบียซูแล้ว แล้วเขาก็กรีดร้องออกมา “หยุดนะ!”