My MCV and Doomsday - ตอนที่ 555
Chapter 555: สอนพวกมันให้รู้ตัว
เฉินเบียซูไม่ได้ตาบอด ความมั่นใจของเขา มาจากความจริงที่เขาพบว่ารถทัวร์มันพึ่งจะเลี้ยวทําให้ความเร็วของมันลดลงมาอย่างมาก และความแข็งแกร่งของเขาก็ทรงพลังมากด้วยเช่นกัน
ในพริบตาต่อมา เฉินเบียซูและรถทัวร์ชนเข้าใส่กัน มือของเฉินเปียซูเหมือนกับประตูสองประตูที่สร้างขึ้นมาจากเหล็ก เขาผลักมือออกไปชนกับรถทัวร์ ในการที่พยายามจะหยุดมันและเสียงระเบิดดังก้องก็ดังขึ้นตามมา หลังจากการปะทะกันอย่างรุนแรง เฉินเบียซูก็กระโดดถอยหลังไปห้าก้าว แต่ละก้าวของเขาทิ้งรอยเท้าไว้บนพื้น
เซียเฟิง หวังเหลาซาน และอาตงรวมทั้งลูกน้องของพวกเขาต่างยืนอึ้งกัน และไม่มีใครสักคนที่กล้าจะกระพริบตา
“พวกเขาจบแล้วละ!” พวกเขาต่างคิด
“เยี่ยม!” อาตงอดที่จะตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้นเสียมิได้ เขากระตือรือร้นอย่างมากที่จะเห็นจุดจบของเจียงลู่ฉี เขาเชื่อว่าความตายของเจียงลู่ฉีจะต้องน่าสงสารอย่างมาก
กล้ามเนื้อของเฉินเบียซูฉีกขาด และร่างกายของเขาก็เต็มไปด้วยความเจ็บอย่างมาก แม้แต่ปากของเขาก็ยังมีเลือดที่ไหลออกมา เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นและมองไปที่เจียงลู่ฉีที่อยู่ด้านหลังกระจกหน้ารถ รอยยิ้มของเขาก็กว้างขึ้น ฟันของเขาเต็มไปด้วยคราบเลือดและดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น
เซยฉาฉาตกตะลึงมากกับฉากที่เกิดขึ้น เธอก็หันหลังกลับไป โดยที่จะกลับไปยังห้องของเธอเนื่องจากว่าเธอไม่ต้องการที่จะดูสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไป
“ลงมาซะ! ถ้าแกฟังที่ฉันสั่ง ฉันจะไม่ทําให้แกเจ็บปวดมากก่อนตาย” เฉินเบียซูพูดอย่างเย็นชา
แต่ทันทีที่เฉินเปียซูข่มขู่เสร็จ เขาก็สังเกตเห็นว่าท่อเหล็กยื่นออกมาจากด้านหน้าของรถทัวร์และมันกําลังเล็งมาที่เขา
“นี่มันอะไรวะเนี่ย?” ก่อนที่เฉินเปียซูจะได้ทําอะไร สัมผัสแห่งความตายก็ถาโถมเข้าใส่เขา
“ไม่!”
ระเบิดดังก้องก็ดังขึ้นไปทั่วทั้งโรงงาน และหลังจากนั้น คลื่นลมทําลายล้างก็กวาดทุกอย่างที่ขวางหน้ามันออกไป ความเร็วของคลื่นอากาศมันเร็วยิ่งกว่าเสียงเสียอีก แล้วเฉินเปียซูจะหลบทันได้ยังไง?
เขาเป็นคนแรกที่ “ปะทะ” เข้ากับคลื่นอากาศแรงดันสูง คลื่นอากาศก็ปะทะเข้ากับหัวของเขาก่อน และมันทําให้หัวของเขาระเบิดออกมา จนไม่สามารถที่จะส่งเสียงอะไรออกมาเป็นครั้งสุดท้ายได้เลย ก่อนที่ร่างกายของเขาทั้งร่างจะกลายเป็นหมอกเลือดแทน
ในพริบตาต่อมา หมอกเลือดก็ได้จางหายไป เมื่อคลื่นอากาศอันรุนแรงกวาดล้างทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางทางมันออกไป รถบรรทุกถูกทําลาย ในขณะที่รถทุกคนและสิ่งกีดของทุกอย่างที่อยู่บนถนนต่างส่งกระเด็นออกไปไกล พลังของคลื่นอากาศมันร้ายแรงจนประตูเสริมเหล็กของโรงงานก็ระเบิดออก และปลิวกระเด็นออกไป! มันเป็นภาพที่น่าตื่นตาตกใจมาก!
สิ่งอํานวยความสะดวกที่อยู่ด้านหลังประตูไม่ถูกทําลายไป หรือไม่ก็ตกอยู่ในสภาพวุ่นวายอย่างมาก พื้นที่หลายสิบเมตรอยู่ด้านหน้ารถทัวร์ดูเหมือนจะถูกทําลายไปโดยพายุไต้ฝุ่นเมื่อเห็นภาพที่เกิดขึ้น อาตงและคนอื่นต่างรู้สึกว่าหัวของเขาแทบจะระเบิดออก จากเรื่องที่เกิดขึ้นอาตงยังจําคําพูดสุดท้ายของเฉินเบียซูได้อยู่เลย แต่ในตอนนี้ เขากลับกลายเป็นคนที่หายไปจากผืนโลกตลอดกาล และเปลี่ยนกลายเป็นฝุ่นเลือดไปแล้ว
เซียเฟิงและหวังเหลาซานต่างตกตะลึงและหวาดหวั่นกับเรื่องที่เกิดขึ้น รถทัวร์ไม่เพียงแต่ฆ่าเฉินเบียซู แต่มันยังระเบิดประตูของโรงงานไปด้วย ในส่วนของเซียฉาฉา เธอทําได้เพียงแค่เอามือปิดปากด้วยความตกตะลึงแค่นั้น
“นี่มัน..”
ในขณะที่ทุกคนกําลังพยายามทําความเข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ เสียงคํารามนั้นดังมาจากเครื่องยนต์ของรถทัวร์และหลังจากนั้น รถทัวร์ก็พุ่งตรงไปทางโรงงาน
“สถานะของ MCV ไม่ได้รับผลกระทบอะไร” เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวส่งข้อความให้กับเจียง
“ใช้ฟังก์ชั่นหัวรบปะทะ” เจียงลู่ฉีสั่ง
ความเสียหายที่เกิดขึ้นในโรงงานมันทําให้กําแพงนั้นพังลง เสียงระเบิดดังกึกก้องจากด้านใน
เจียงลู่อี้นั่งอยู่ในห้อง MGV พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา เมื่อการป้องกันของ MCVพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด หลังจากการอัพเกรด สําหรับการชนกันธรรมดาทั่วไป พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะสร้างความเสียหายกับ MCV ได้เลย ตามประโยคที่พูดกันว่า “เมื่อน้ําทะเลสูงขึ้น เรีอก็ลอยขึ้นตามไปด้วย”
แม้ว่าเจียงลู่ฉีจะไม่ได้ใช้ฟังก์ชั่นอย่างอื่น โหมดปะทะรุนแรงได้สร้างปัญหาขึ้นอย่างมากมายไม่ต้องพูดถึงการใช้หัวรบปะทะพร้อมกับฟังก์ชั่นเร่งความเร็วเลย รถ MCV ในตอนนี้มันทําให้เจียงลู่ฉีรู้สึกเหมือนกับว่าเขากําลังนั่งอยู่บนรถสงครามอยู่
อาตงสามารถทําได้เพียงแค่มองไปยังรทัวร์ที่แทบจะทําลายโรงงานไปครึ่งหนึ่งแล้ว โรงงานได้เสริมด้วยแผ่นโลหะและแม้แต่สัตว์ปากลายพันธุ์ก็ไม่สามารถที่จะสร้างความเสียหายกับมันได้อ ย่างไรก็ตาม ต่อหน้ารถทัวร์แล้ว โรงงานก็เหมือนกับถูกสร้างขึ้นมาโดยแผ่นกระดาษถ้ามันเป็นอ ย่างงี้แล้ว รถทัวร์คงจะทําให้โรงงานพังไปจนหมดอย่างแน่นอน
อาตงอดที่จะรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เขาทําไปเสียมิได้ เขาต้องการที่จะควักลูกตาของเขาออกมาถ้าเขาไม่ได้ตระหนักถึงชื่อจี้หยิงที่แขวนอยู่บนป้ายทะเบียนรถ พวกเขาคงจะไม่ทําให้ตัวตนที่ทรงพลังเช่นนี้โกรธแค้น
ในตอนนี้ รถทัวร์ที่อยู่ด้านนอกกําลังสร้างความเสียหายอยู่ด้านหน้ากําแพงโรงงานอยู่ด้วยเช่นกัน ในเวลาเดียวกัน ชายคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนเศษซากปรักหักพักของโรงงานพร้อมกับพุ่ง ออกไปด้านนอกด้วยความเร็วสูง เมื่อเห็นมัน เจียงลู่ฉีสั่งหยิงให้หยุดการทําลายไปก่อนหลังจากนั้นเขาก็เข้าไปในห้องสงคราม
“และฉันก็มัวแต่คิดว่านายจะไม่ยอมออกมาซะอีก” เจียงลู่ฉีพูดอย่างเยือกเย็น
เจียงลู่นี้ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเซียเฟิง หวังเหลาซานหรือเฉินเบียซูเลยแม้แต่น้อยตามสัมผัสของหลันซิหยู่แล้ว ชายที่แข็งแกร่งที่สุดในค่ายนี้คือคนที่มาใหม่ซึ่งเจียงลู่ฉีต้องการที่จะสู้กับเขา
ชายที่มาใหม่ดูหน้าตาธรรมดาทั่วไป แต่การหายใจของเขาดูพิเศษออกไปทุกครั้งที่เขาหายใจเข้าเจียงลู่ฉีก็รู้สึกได้ว่าชายคนนี้เป็นดั่งเสือร้ายเมื่อชายคนนี้หยุด เขาก็ดูนิ่งสงบอย่างมากแต่เมื่อใครก็ตามมองให้ชัดๆแล้วก็จะบอกได้เลยว่าเขากําลังให้ความสนใจอย่างมากกับรถทัวร์เหมือนกับว่าเป็นดั่งเหยื่อของเขา ทันทีที่เขามีโอกาส เขาก็จะโจมตีอย่างแน่นอนซึ่งชายคนนี้เป็นหัวหน้าที่แท้จริงของค่ายนี้
“พี่เฉิน!” เซียเฟิงและหวังเหลาซานตะโกนออกมา
เฉินติงเหลือบตามองไปที่พวกเขาและก่นด่าออกมา “หุบปาก!”
หลังจากนั้นเขาก็มองไปที่เจียงลู่ฉีและพูดขึ้น “สหาย นายได้ฆ่าเฉินเปียซูและทําค่าย ของฉันพังไปครึ่งหนึ่งแล้วนะ มันน่าจะทําให้นายคลายความโกรธไปได้บ้างแล้วละ คิดถึงฉันหน่อยละกันทําไมพวกเราไม่หยุดความวุ่นวายนี้กันก่อนดีละ?”
เมื่อเฉินติงมองไปยังรถทัวร์ ร่องรอยของความอิจฉาก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา ก่อนที่รถทัวร์จะระเบิดคลื่นอากาศทําลายล้างสังหารเฉินเบียซูไป เฉินติงก็มีความคิดแบบเดียวกันกับคนอื่น ในความคิดของเขาแล้ว ทีมฉ่หยิงจะต้องถึงจุดจบเป็นแน่แท้ แต่โชคร้ายที่เขาคิดผิด
“โอ้?” เจียงลู่ฉียิ้ม มันเห็นได้เด่นชัดเลยว่าเฉินติงรู้ทุกอย่าง แต่เขาพึ่งจะปรากฏตัวออกมาตอนที่สถานการณ์มันดูย่ําแย่ แล้วแบบนี้เจียงลู่ฉีจะเชื่อในสิ่งที่เขาพูดได้อย่างไรกัน?
“หยุด? ได้สิ แต่เจ้าโล้นที่มีรอยสักนั่น เจ้าเตี้ยที่ถือขวาน รวมทั้งอาตงจะต้องตายก่อนนะ”เจียงลู่ฉีพูดอย่างเฉยชา
เมื่อได้ยินความต้องการของเขา พวกเขาทั้งสามคนต่างประหลาดใจ โดยเฉพาะอาตง เขาหวังว่าเจียงลู่ฉีจะลืมเกี่ยวกับเขาไป แต่ความจริงมันโหดร้ายเหลือเกิน อาตงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจากหัวหน้า
เฉินติงตะโกนออกมา “สหาย นายไม่ได้รับความเสียหายอะไรเลยนะ พวกเราได้เสียคนไปหลายคนแล้ว สมาชิกล้ําค่าและครึ่งหนึ่งของโรงงานได้พังลง ถ้านายคิดว่าฉันจะปล่อยให้นายฆ่าพวกเขาทิ้ง ถ้างั้นนายก็คงจะโอหังมากเกินไปแล้วละ”
“โอหัง?” เจียงลู่ฉีเยาะเย้ย หลังจากนั้น สไนเปอร์ในมือของเขาก็ปรากฏขึ้น และเล็งไปที่ทั้งสามคนอย่างว่องไว
เฉินติงมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “แก อย่านะ!”
โชคร้ายที่เจียงลู่นี้ได้ลั่นไกปืนไปแล้ว! เป้าหมายแรกของสไนเปอร์ก็คืออาตง เขาหวาดกลัวแทบตายและกําลังจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่เจียงลู่ฉีก็ได้ลั่นไกปืนไปแล้ว
หลังจากเสียงปืนดังขึ้น อาตงก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาเย็นยะเยือก และโลกทั้งใบก็กําลังพลิกคว่ํา “อ๊า!” อาตงร้องเสียงแหลมออกมา เนื่องจากความบาดเจ็บที่ถาโถมเข้ามาในร่างกายของเขา
“โอ้ยยย ขาฉัน…ขาฉัน…” เจียงลู่ฉียิ่งไปที่ขาทั้งสองข้างของเขา มันทําให้อาตงตกอยู่ในความสิ้นหวัง เขาต้องการที่จะฆ่าตัวตาย แทนที่จะตายด้วยการเสียเลือดมากแบบนี้ด้วยซ้ําไป
แต่เจียงลู่ฉีไม่ได้ต้องการฆ่าอาตงตรงๆ เมื่อเขาต้องการให้ความเจ็บปวดนั้นตราตรึงเขาไปแทบจะในทันที ทั้งเซียเฟิงและหวังเหลาซานต่างพุ่งตัวแยกกันไปคนละทาง
“หนีเร็ว!” เมื่อพวกเขากับสไนเปอร์ไรเฟิลก่อนหน้านี้ มันทําให้พวกเขารู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขาพบกับเคียวของยมฑูต
ในเวลาเดียวกัน ใครบางคนก็ปรากฏขึ้นข้างเซียเฟิงอย่างเงียบงัน “อย่าลืมฉันไปสิ ฉันเป็นคู่ต่อสู้ของนายเลยนะ” เสียงของหลิงดังขึ้นข้างหูของเซียเฟิง
หลิงเป็นดั่งนักฆ่าที่ไร้เสียง และไม่สามารถตรวจพบตัวตนของเธอได้เลย แสงสว่างส่องแวบขึ้นมา ก่อนที่จะตัดผ่านอากาศไป ซึ่งมันตัดผ่านดวงตาของเซียเพิ่งไป
“อ๊ากกก!” เซียเฟิงกรีดร้องออกมาอย่างโหยหวน จากความเจ็บปวดที่ดวงตาของเขา ใบหน้าของเขาปกคลุมไปด้วยเลือด เขาพยายามอย่างมากในการเปิดตาข้างที่เจ็บและต่อสู้กลับแต่เขาก็ เห็นได้เพียงแต่เด็กสาวที่อยู่ด้านหน้าเขาลางๆ
หลิงจ้องไปที่เขาอย่างเย็นชา หลังจากนั้นเธอก็ยกมือขึ้นและพูดออกมา “ลงนรกไปซะ” หลัง จากนั้น เธอก็ตัดคอของเซียเฟิงด้วยมีด เลือดก็ไหลออกมาเป็นสายน้ํา และเขาก็ล้มลงไปกับพื้น พร้อมกับตัวสั่นกระตุกอยู่ด้านหน้าหลิง
เจียงลู่ฉีก็เล็งไปที่หวังเหลาซานด้วยเช่นกัน เขาได้ใช้โดเมนสมองของเขามานานแล้วดังนั้นการกระทําทุกอย่างของหวังเหลาซานนั้นตกอยู่ในภาพสโลว์โมชั่น หวังเหลาซานก็วิ่งอย่างสุดชีวิตและเมินเฉยต่อบาดแผลทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนร่างของเขา แม้ว่าจะเป็นแบบนั้นก็ตามเขาก็ยังรู้สึกถึงเคียวของยมทูตที่พาดไปบนคอของเขาอยู่ดี
“เหี้.. เ..เอ้ย!” หวังเหลาซานด่าออกมา เขาวิ่งไปทางรถบรรทุกให้เร็วที่สุดเท่าที่เขาทําได้ถ้าเขาใช้มันเป็นที่กําบัง เขาก็จะปลอดภัยได้ชั่วคราว
ในเวลาเดียวกัน เสียงปืนก็ดังขึ้น และความปรารถนาของหวังเหลาซานก็ได้ถูกเติมเต็มเขาได้เข้าไปด้านในรถบรรทุกแล้ว แต่สิ่งที่ช่วยส่งเขาเข้าไปด้านใน มันมาจากแรงกระสุนปืนของเจียงลู่นี่มันยิงทะลุหลังของเขาและทําลายอวัยวะภายใน ก่อนที่ลมหายใจสุดท้ายของเขาจะจบลง หวังเหลาซานก็เปิดตาของเขาออกกว้าง และเต็มไปด้วยความเสียใจ
หลังจากที่ยิงออกไป เจียงลู่ฉีก็รู้สึกว่าดวงตาและสมองของเขารู้สึกเหนื่อยล้า พูดตามจริงแล้วการเล็งเป้าหมายที่เคลื่อนที่เร็วจะต้องใช้สมองช่วยอย่างมาก เจียงลู่ฉีตระหนักได้ว่าเขาก็ต้องพัฒนาพลังของเขาให้เร็วกว่านี้ด้วยเช่นกัน หรือไม่อย่างนั้นแล้วเขาก็จะได้รับผลกระทบไปแต่แน่นอนว่า พลังของเขาในตอนนี้มันพอในการสู้กับคนด้านหน้าของพวกเขา
เฉินติงยังคงยืนอยู่ที่เดิมพร้อมกับการแสดงออกที่น่ารังเกียจ เขาต้องการที่จะขยับตัว แต่ก็กลัวว่ารถทัวร์จะพุ่งมาสู้กับเขา ไม่สําคัญว่าเขาจะพูดอะไรออกมา เจียงลู่ฉีก็จะทําตามสิ่งที่เขาต้องการทํามัน
เจียงลู่ฉีก็มองไปที่เฉินติงอย่างเยือกเย็น ถ้าเฉินติงต้องการที่จะตายแล้วละก็ เขาก็ยินดีที่จะฆ่าคนเพิ่มอีกสักคน