My MCV and Doomsday - ตอนที่ 556
Chapter 556: ฉันไม่รังเกียจหรอกนะ ที่จะรังแกนาย
เฉินติงกําหมัดของเขาแน่น เมื่อเขากําลังกลั้นความหงุดหงิดของเขาไว้ เพื่อที่จะไม่โจมตีออกไปจนในที่สุด เขาก็อดทนเอาไว้ได้ เมื่อเผชิญหน้ากับเจตนาสังหารอันมากมายที่พวยพุ่งออกมาจากด้านในรถทัวร์ จนทําให้เขาตระหนักถึงสถานการณ์ได้ และค่อยๆใจเย็นลง สัญชาตญาณได้บอกเขาไว้ว่า พวกเขายังไม่ได้เห็นศักยภาพทั้งหมดของรถทัวร์เลย รวมทั้งความแข็งแกร่งที่แท้จริงของทีมฉ่หยิง เมื่อเฉินติงไม่ได้มีข้อมูลของศัตรูของเขามากสักเท่าไหร่ เขาก็ไม่รู้ว่าเขาจะสู้ชนะได้หรือไม่
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เสียงของเจียงลู่ฉีก็ดังขึ้น “ฉันต้องการที่จะถามบางอย่างกับนาย”
เฉินติงถามอย่างตึงเครียด “นายต้องการถามอะไร?”
“เมืองชิงไห่อยู่ไหน?” เจียงลู่ฉีถาม
เฉินติงมึนงงไปชั่วขณะ เขาพึ่งจะรู้เหตุผลว่าทําไม ทีมฉ่หยิงถึงได้ปรากฏขึ้นมาแถวนี้ได้ตอนนี้นี่เอง “เอ๋? นายต้องการไปเมืองชิงไห่งั้นเหรอ?”
“ก่อนวันที่โลกจะล่มสลาย มันก็ไม่เคยมีเมืองที่ชื่อชิงไห่มาก่อนเลยด้วยซ้ํา แต่มันพึ่งจะปรากฏขึ้นมาหลังจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้น จนพวกเขาก็ได้สร้างเมืองขึ้นมาเพื่อปักหลักฐานถ้านายไม่เคยไป ที่นั่นมาก่อน นายก็คงจะหามันไม่พบได้ง่ายๆเลยละ” เฉินติงพูดอย่างช้าๆ
“โอ้? นายเคยไปมาก่อนแล้ว?” เจียงลู่ฉีถามอีกครั้งหนึ่ง
เฉินติงพยักหน้า “ใช่ อาวุธทั้งหมดที่ฉันซื้อมา รวมทั้งกระสุนด้วย มันมาจากเมืองชิงไห่นี่ละถ้านายมีเงิน นายก็สามารถที่จะซื้อทุกสิ่งทุกอย่างที่นายต้องการได้ที่นั่น ทั้งอาวุธ ทรัพยากรของเล่นและแม้แต่ทาสก็ตาม” เฉินติงพูดออกมา ในขณะที่สังเกตปฏิกิริยาของเจียงลู่ไปด้วย
ในความคิดของเฉินติงแล้ว เมื่อเจียงลู่ฉีเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติหนุ่มแบบนี้ เขาก็น่าจะสนใจเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้มาก แต่โชคร้ายที่ปฏิกิริยาของเจียงลู่ฉีมันทําให้เขาผิดหวังเขาไม่ได้ เห็นแม้แต่ร่องรอยของความตื่นเต้นบนใบหน้าของเจียงลู่นี่เลยสักนิด
“เมืองชิงไห่มันซับซ้อนมาก คนมาใหม่จะกลายเป็นเหยื่อที่ถูกล่าได้อย่างง่ายดาย นายอาจจะทําตัวโอหังได้ในตอนนี้ แต่ฉันอยากจะดูเสียจริงว่านายจะทําไงกับคนในเมืองชิงไห่นั่น เมื่อพวกเขาแข็งแกร่งกว่านายเสียอีก ไม่ต้องพูดถึงเลยว่านายยังถูกประกาศจับโดยคนพวกนั้นอีก….” เฉินติงคิด
ทันใดนั้น เจียงลู่ฉีก็พูดขึ้น “ตั้งแต่ที่นายคุ้นเคยกับเมืองชิงไห่แล้วละก็ พาพวกฉันไปที่นั่น”
“อะไรนะ? ให้ฉันนําทางนี่นะ?” เจียงลู่ฉีเริ่มทําให้เฉินติงปวดหัวขึ้นมา
“มันมากเกินไปแล้วนะ!” เฉินติงตะโกนออกมา เขา ที่เป็นผู้นําของค่ายนี้จะยอมกลาย เป็นไกด์นําทางให้ทีมฉ่หยิงแบบนี้ได้ยังไงกัน?
เจียงลู่ฉีก็แค่ยิ้มและตอบกลับ “ถ้าพวกเราไม่แกร่งมากพอ นายก็จะกลายเป็นคนรังแกพวกเราแทนแล้วละ ดังนั้น ฉันก็ไม่รังเกียจหรอกนะ ในการรังแกนายแบบนี้”
“แก!” เฉินติงกราดเกรี้ยวมาก
ในอีกด้านหนึ่ง เจียงลู่ฉีก็ยังคงใจเย็นอย่างมาก เขาไม่เชื่อว่าเฉินติงจะใจดีมากพอที่จะมอบเส้นทางที่ปลอดภัยให้กับพวกเขา ในเวลาเดียวกัน เฉินติงอาจจะดูอ่อนน้อมและถ่อมตัวก็ตามทีแต่แม้ว่าจะปราศจากการช่วยเหลือของหลันซิหยู่ เจียงลู่ฉียังคงรู้สึกได้ว่าเขายังแอบไม่พอใจอยู่ด้านใน เมื่อพวกเขาไปจากที่นี่ เจียงลู่ฉีก็มั่นใจได้เลยว่าเฉินติงจะวางแผนกับพวกเขา ด้วยเหตุนี้ เจียงลู่ฉีจึงมีตัวเลือกให้เฉินติงเพียงแค่สองอย่างอย่างแรกคือความตาย และอีกอย่างก็คือเป็นคน นําทางให้กับพวกเขา ซึ่งเจียงลู่ฉีมีคําถามอยู่อีกมากมันจึงทําให้เขาไม่ค่อยอยากที่จะฆ่าเขาทิ้งไป ในตอนนี้
เฉิงติงและเจียงลู่ฉีก็สบตากันอีกสักพักหนึ่ง หลังจากนั้น เฉินติงก็ถามขึ้น “หลังจากที่ฉันพานายไปยังเมืองชิงไห่แล้ว นายจะปล่อยฉันไปใช่ไหม?”
“ถ้านายพาพวกเราไปที่นั่นได้ งั้น ฉันจะสัญญาว่าจะไม่ลงโทษนาย” เจียงลู่ฉีตอบ
เฉินติงครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา “โอเค ฉันจะพานายไปเอง พวกเราจะไปกันตอนไหน?” เฉินติงถาม
“ตอนนี้เลย” เจียงลู่ฉีตอบกลับ
“รีบขนาดนั้นเลย?” เฉินติงขมวดคิ้ว
เจียงลู่ฉีไม่ให้เวลาเขาเตรียมตัวเลยสักนิด และเฉินติงก็รู้สึกได้ว่ามีใครบางคนกําลังจ้องมาที่เขา เขาก็รู้ได้ทันทีเลยว่านั่นคือคําเตือน เฉินติงก่นด่าออกมาข้างใน แต่ก็รีบเรียกสมาชิกแปดคนให้เดินทางมาพร้อมกันกับเขา หลังจากนั้นพวกเขาก็เตรียมรถไว้สองคัน
“ฉันพร้อมแล้ว” เฉินติงพูด
“แล้วนายจะรออะไรอีกละ? ไปได้แล้ว” เจียงลู่ฉีตอบกลับ
เมื่อได้ยินมัน เฉินติงก็รู้สึกเหมือนกับโดนตบหน้า ตอนไหนกัน เมื่อคนที่ยิ่งใหญ่แบบเขาถึงโดนเหยียดหยามได้ขนาดนี้กัน? เขาคิดว่าเจียงลู่นี้ได้เหยียบย่ําลงมาบนศักดิ์ศรีของเขาอีกครั้งแล้วแม้แต่การแสดงออกของลูกน้องเขาก็แปลกออกไป เขาได้บอกกับพวกเขาว่าพวกเขาได้ตกลงกับที่มฉ่หยิ่งไว้ แต่มันเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าใครเป็นคนออกคําสั่ง
โชคร้ายที่เฉินติงไม่กล้าที่จะสู้กับทีมฉีหยิงเลยสักนิด ถ้าเขายังเป็นชายคนเดิม ในตอนที่เขาสร้างค่ายขึ้นมาแล้วละก็ เขาก็คงจะสู้กลับไปนานแล้ว อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ที่เขากลายเป็นเจ้าถิ่นเฉินติงก็เริ่มขี้เกียจและนิ่งเงียบมากขึ้น รวมทั้ง ความตายของเฉินเบียซูและคนอื่น มันก็ได้สอนความจริงอันโหดร้ายกับเขา ถ้าเขาตายไป มันจะไม่มีใครที่จะล้างแค้นให้เขาอีก ด้วยเหตุนี้เขาจึงพยายามอย่างดีที่สุดที่จะอดทนคําด่านี้ไว้และจะตอบแทนคืนเป็นสิบเท่าในอนาคต
“เจียงลู่ฉีมันหยิ่งมากเกินไปแล้ว!” เฉินติงคิด
หลังจากนั้น เฉินติงก็ตะโกนและขึ้นไปบนรถของเขา “รีบขึ้นมาได้แล้ว!”
“เขาคงจะหงุดหงิดน่าดูเลย” เจียงอิงพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม ยิ่งศัตรูของเธอเศร้ามากเท่าไหร่ เธอก็จะมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น
หลี่ยู่ซินกังวลใจ “ถ้าเขาซื่อตรงมันคงจะดีนะ แต่ถ้าไม่ มันก็คงจะ…”
“ไม่ต้องกังวลหรอก ฉันจะให้ความสนใจกับทุกการกระทําของเขา” หลันซิหยู่พูด
ทันใดนั้น หญิงสาวคนหนึ่งก็รีบวิ่งมาทางเฉินติงและคนอื่น
“เซียฉาฉา?” เฉินติงขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ
เซียฉาฉาดูน่าสงสารอย่างมาก เธอน่าซีดขาวและร่างกายของเธอก็สั่นกระตุกไปมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้มันทําให้หัวใจของเธอแทบจะระเบิดออกมา เธอคอยกังวลเกี่ยวกับชะตากรรมของเจียงลู่ฉีอยู่ตลอด แต่ผลลัพธ์กลับเหนือจินตนาการของเธอไป แม้แต่พี่ชายบุญธรรมของเธอก็ยังถูกฆ่า…
ถึงแม้ว่าเซียเฟิงจะเป็นพี่ชายบุญธรรมของเธอ เธอก็ยังคงกลัวเขาอยู่ดี เซียเฟิงให้ที่พักและให้ชีวิตที่สุขสบายกับเธอในโลกที่ล่มสลายนี้ อิทธิพลของเขานั้นป้องกันใครก็ตามที่มีเจตนาร้ายกับเธอ คอยช่วยเหลือเธอเก็บความบริสุทธิ์เอาไว้ได้ นี่จึงเป็นเหตุผลหลักที่ว่าทําไมอาตงถึงไล่ตามจีบเธอ แทนที่จะใช้กําลัง
ในเวลาเดียวกัน เซียฉาฉาก็รู้ดีว่าเซียเฟิงปฏิบัติกับเธอเหมือนกับน้องสาว เพราะว่าเธอเหมือนกับน้องสาวที่ตายไปแล้วของเขา เธอเป็นเพียงแค่ตัวแทน ตั้งแต่ที่เซียเฟิงหักคอซอมบี้น้องสาวของเขาด้วยมือตัวเอง เขาก็สามารถที่จะฆ่าเซียฉาฉาทิ้งได้ทุกเมื่อ แต่เธอก็ยังรู้สึกเศร้า เมื่อเห็นเขาตายแม้ว่าเธอจะไม่ได้โทษเจียงลู่ฉีเลยแม้แต่น้อย
“เธอทําอะไร? ทําไมเธอถึงต้องการที่จะตามพวกเราไป?” เฉินติงถามอย่างโกรธเคือง แม้ว่าเซียเฟิงจะพึ่งตายไปก็ตามที ท่าทางของเขาต่อเซียฉาฉาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
“พี่เฉิน ฉันต้องการเดินทางไปกับพี่ด้วยค่ะ” เซียฉาฉาอ้อนวอน
“เธอต้องการที่จะมากับพวกเรางั้นเหรอ? ไม่ละ เธอจะเป็นภาระมากเกินไป” เฉินติงโบกมือและปฏิเสธ
ร่างกายของเซียฉาฉาสั่นไปมา และเธอก็กัดปากด้วยความหวาดกลัว ถึงแม้ว่าเธอจะซื่อตรงเซียฉาฉาก็ไม่ได้เป็นคนโง่ เมื่อเซียเฟิงได้ตายไปแล้ว คนที่คอยปกป้องเธอจากพวกอีกาที่ต้องการจะกลืนกินเธอไป นอกจากนี้แล้ว เธอก็ยังต้องการที่จะไปกับเจียงลู่ฉีอีกด้วย
พร้อมกันนั้นเอง เสียงของเจียงลู่ฉีก็ดังขึ้นจากรถทัวร์ “พาเธอไปกับนายด้วย!”
เซียฉาฉาสับสนไปชั่วครู่หนึ่ง และหลังจากนั้นเธอก็มองไปยังรถทัวร์ อย่างไรก็ตาม มันก็ทํา ให้เธอผิดหวังมาก เมื่อเจียงลู่ฉียังคงอยู่ด้านในรถทัวร์ และมันทําให้เธอมองไม่เห็นเขา
เฉินติงเหลือบตามองไปที่รถทัวร์อย่างหงุดหงิด แล้วเขาก็พูดกับเซียฉาฉา “ขึ้นมาบนรถบัส!”
“ค่ะ! ขอบคุณมากเลย!” เซียฉาฉาพยักหน้าและรีบขึ้นไปนั่งตรงที่นั่งผู้โดยสารของรถคันที่สอง
ตั้งแต่ที่เฉินติงอนุญาตให้เซียฉาฉาไปกับพวกเขาแล้ว มันก็หมายความว่าคนอื่นจะต้องเคารพเธอ ถึงแม้ว่าเซียฉาฉาต้องการที่จะทําตัวใกล้ชิดกับเจียงลู่ฉี เธอก็ยังคงพอใจกับผลลัพธ์แบบนี้
“นี่เป็นครั้งที่สองแล้วนะ ที่เขาช่วยฉันไว้ อย่าหวังไปมากกว่านี้เลย…” เซียฉาฉากระซิบกับตัวเอง ในขณะที่กํามือของเธอแน่น ยามที่เธอพูดกับตัวเอง เธอก็ยังคงสับสนอยู่มาก เมื่อเธอไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดี เธอเป็นแค่หญิงสาวธรรมดาทั่วไป ที่ไม่ใช่ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติอีกด้วย
“พี่ชาย พี่ไปแย่งหัวใจของสาวบริสุทธิ์มาอีกแล้วนะ แม้แต่ฉันยังคงประทับใจกับการกระทําของพี่เลย ฉันคิดว่าพี่จะให้เธอขึ้นบนรถทัวร์ของแล้วซะอีก” เจียงอิงพูด
เจียงลู่ฉีดบไปที่หัวของเธอเบาๆ
“เธอเป็นสมาชิกของค่ายนี้ แล้วพี่เจียงจะปล่อยให้คนแปลกหน้าขึ้นมาบนรถทัวร์ได้ไง?” หลิงถามอย่างตึงเครียด
“พี่หลิง ฉันว่าพี่ควรผ่อนคลายบ้างนะ ถ้าพี่จริงจังอยู่ตลอดเวลา แล้วพี่จะหาเพื่อนใหม่ได้ไง?” เจียงจ๊อิงพร้อมกับส่ายหัวไปด้วย ในความคิดของเธอแล้ว หลิงเป็นผู้หญิงที่ดีมาก แต่ก็จริงจังมากเกินไป
“เลิกแกล้งเธอได้แล้ว พวกเราไปได้แล้ว” เจียงลู่ฉีพูดขัดเจียงจ๊อิง เขาคิดว่านิสัยของน้องสาวของเขาจะต้องปรับปรุงสักหน่อยแล้ว