My MCV and Doomsday - ตอนที่ 558
Chapter 558: กองกำลัง
ในช่วงแรกของวันโลกาวินาศ เมืองใหญ่ๆทั้งหมดต่างถูกละทิ้งกันไป เนื่องจากจำนวนซอมบี้อันมหาศาล โชคร้ายที่กองกำลังทหารทั้งหมดไม่ได้ถูกส่งออกไปอพยพและเคลื่อนย้ายผู้รอดชีวิตไปยังพื้นที่ปลอดภัยที่ได้สร้างขึ้นก่อนวันที่โลกจะล่มสลายตัวอย่างที่ดีเลยก็คือ เมืองชิงไห่ มันถูกสร้างขึ้นมาโดยผู้รอดชีวิตบางกลุ่ม และกลุ่มกองกำลังที่ไม่สามารถจะไปรวมตัวกับกองกำลังอื่น
ในช่วงเวลานี้ ด้านในบาร์ ภายในเมืองชิงไห่ สาววัยเยาว์ที่แต่งตัวเปิดเผยเนื้อตัวกำลังวิ่งไปเสิร์ฟเบียร์ไปมาอยู่ แต่บรรยากาศในร้านบาร์ก็ไม่สามารถที่จะเทียบได้กันกับก่อนวันที่โลกจะล่มสลาย แนวทางหลักตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นบาร์ไหนก็ตาม จะให้สาวงามเสิร์ฟเหล้าแทน บางครั้งบางคราวพวกยามเฝ้าเมืองก็จะมานั่งคุยกับสาวเหล่านี้ พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
ในส่วนกลางของบาร์นั้นมีชายหนุ่มและหญิงสาวหลายต่อหลายคนอยู่ หนึ่งในพวกเขาเป็นชายที่แต่งตัวดูดีที่สวมแว่นตาสีทอง ตอนนี้ เขากำลังพูดเกี่ยวกับเหล้าอยู่ “อย่าดูถูกเมืองชิงไห่ของพวกเราเชียวนะ พวกเราได้รวมทรัพยากรจากหลายสิบเมืองที่อยู่ใกล้เคียง แต่ว่าเหล้าที่นี้เป็นเหล้าที่ดีที่สุด เพราะว่ามันยากมากที่จะเคลื่อนย้ายมันได้อย่างปลอดภัย การพบกับสัตว์ปากลายพันธุ์แค่ตัวหรือสองตัวบนถนนก็มากพอที่จะทำลายรังเหล้าแล้ว”
หญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างเขายิ้มออกมาและพูดขึ้น “ขอบคุณค่ะ ท่านฉิน มันเป็นเพราะท่าน พวกเราเลยสามารถที่จะดื่มเหล้าที่ดีเช่นนี้ได้ ธุรกิจเหล้าทั้งหมดได้ถูกควบคุมโดยครอบครัวของท่านมันเป็นเกียรติอย่างมากเลยที่ได้ดื่มในร้านเหล้าของท่าน เฉียนเฉียนมีความสุขมากเลยค่ะ”
หญิงสาวคนนี้มีชื่อว่าหลี่ฉิงฉิง และเธอกำลังมองไปที่ฉินฮงฟางอยู่อย่างกระตือรือร้น ในความคิดของเธอแล้ว ฉินฮงฟางเป็นชายที่ร่ำรวยมาก
ฉินฮงฟางแค่ยิ้มออกมา แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาไม่ได้สนในตัวของหลี่ฉิงฉิงเลย แต่สายตาของเขากลับมองไปทางหญิงสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของเขาแทน
“คุณเซียงซัวไฮ้ครับ ผมไม่รู้ว่าคุณพอใจกับการดูแลของผมไหม? คุณได้มาไกลมาก ดังนั้นมันเป็นเกียรติของผมจริงๆ ที่จะได้เลี้ยงเหล้าดีๆให้กับคุณเช่นนี้” ในความคิดของฉิงฮงฟางนั้นเซียงซัวไฮต่างหากละที่เป็นเป้าหมายของเขา
ใครคือเซียงซัวไฮกัน? เธอคือนักแสดงสาวที่โด่งดังก่อนวันที่โลกจะล่มสลาย และเป็นหญิงสาวที่ได้รับความสามารถที่ทรงพลัง หลังจากไวรัสระบาด เธอมีหนน้าตาที่งดงามอย่างมากอยู่แล้วและยิ่งเธอกลายเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ มันยิ่งทำให้เธอดูงดงามและมีสเน่ห์มากขึ้นกว่าแต่ก่อน ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตามที่เธอไป เธอก็จะกลายจุดสนใจอยู่ทั่วทุกหนแห่ง
ถ้าฉินฮงฟางไม่ได้อยู่ด้วย พวกยามเฝ้าเมืองเกือบทั้งหมดก็จะพยายามมาชวนเธอคุยแล้วละ ถึงแม้ว่าฉินฮงฟางต้องต้องการที่จะตามจีบเธอ เขาก็ไม่ได้มีความกล้ามากพอ เขาทำได้เพียงชื่นชมในความงามของเธอได้แค่นั้น เมื่อหัวหน้าของเขาได้หมายตาเซียงซัวไฮเอาไว้แล้ว
เซียงซัวไฮ้ยิ้มอย่างอ่อนโยนและตอบกลับ “เหล้านี่ค่อนข้างดีเลยละค่ะ ขอบคุณมากเลยค่ะ ท่านฉิน”
“ฮ่าๆ คุณเซียง อย่าเรียกผมแบบนั้นเลยครับ ผมจะต้องตายแน่เลย ถ้าคุณพูดแบบนั้นอีกครั้งแล้วทำไมคุณเซียงถึงดื่มแค่นิดเดียวเองละครับ?” ฉินฮงฟางถาม
เซียงซัวไฮ้ดูกังวลเล็กน้อย “คุณฉิน เมื่อไหร่ฉันจะไปพบกับคนจากกองทัพได้กันคะ? ฉันกลัวว่าสหายของฉันจะไม่สามารถทนได้อีกนานสักเท่าไหร่เนี่ยสิ”
ฉินฮงฟางหัวเราะและตอบกลับ “ไม่ต้องกังวลไปหรอกครับ หัวหน้าซงหลิงเฉิงเฉินไม่ได้ลืมเกี่ยวกับเรื่องของคุณแน่นอนครับ”
ในเมืองชิงไห่ หลัวเจียเฟิงเป็นคนที่มีอำนาจเด็ดขาด และซงหลิงเฉินก็เป็นหนึ่งในลูกน้องที่เขาเชื่อถือ ไม่มีใครกล้าที่จะดูถูกพลังหรืออำนาจของซงเหลิงเฉินในเมืองชิงไห่เลย ในเวลาเดียวกันเขาก็เป็นชายที่ต้องการเซียงซัวไฮ้
เซียงซัวไฮถอนหายใจออกมา ในตอนแรก เธอคิดว่าเมืองชิงไห่เป็นฐานทัพของกองทัพดังนั้นเธอจึงมาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่เมื่อผ่านไปครึ่งเดือน เธอก็ค่อยๆพบว่าสถานการณ์มันแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง รากฐานของเมืองชิงไห่นั้นอาจจะเป็นของกองทัพในตอนเริ่มแรกแต่ในตอนนี้มันกลับกลายเป็นพลังอำนาจส่วนตัวแทนแล้ว เมืองแห่งนี้ได้ตัดขาดเส้นสายกับกองทัพไปแล้ว
หลังจากเจียงลู่ฉีได้ไปจากเมืองเจียงเบย เซียงซัวไฮก็คอยพัฒนาค่ายของเธอต่อ แต่ในช่วงวันเหล่านั้น โรคประหลาดได้ปรากฏขึ้นในค่าย ทำให้คนมากมายติดเชื้อ เซียงซัวไฮรู้สึกทำอะไรไม่ได้จริงๆ ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงขอความช่วยเหลือจากกองทัพ
“คุณเซียงครับ ผมกังวลเกี่ยวกับเรื่องบางอย่างอยู่ คุณเคยพูดว่ามีใครบางคนได้ช่วยคุณฆ่าสัตว์ประหลาดน้ำทิ้งไป และได้ช่วยเหลือทุกคนในค่ายของคุณไว้ ผมจำได้ว่าคุณพูดเกี่ยวกับหญิงสาวในทีมของเขา ที่มีความสามารถในการรักษาใช่ไหมครับ?” ฉินฮงฟางถามขึ้น
เซียงซัวไฮ่พยักหน้าและตอบกลับ “ใช่ค่ะ ตั้งแต่ที่พวกเขาจากไป พวกเราก็สูญเสียการติดต่อกันไปเลย ฉันได้ลองตามหาพวกเขาแล้ว แต่ฉันก็หาไม่เจอ”
“ผมได้ถามเกี่ยวกับหัวหน้าซงเกี่ยวกับโรคนี้แล้ว และเขาบอกว่า แม้แต่ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่มีพลังในการรักษาก็ยังไม่สามารถที่จะจัดการกับมันได้ มันน่าเศร้าที่ติดต่อกับพวกเขาไม่ได้ ถ้าทีมนั้นเข้าร่วมกับเมืองชิงไห่ มันคงจะเป็นเรื่องที่ดีมากเลยละ เพราะพวกเขาจะช่วยหัวหน้าซงไว้ได้มากเลย” ฉิงฮงฟางพูด
ซงหลิงเฉินเป็นชายหนุ่มที่มีหน้าตาที่หล่อเหลา เขาได้เมินเฉยต่อทุกคนที่อยู่ในบาร์ และเดินตรงไปทางเซียงซัวไฮ้
“เซียงซัวไฮ เป็นยังไงบ้าง?” ซงหลิงเฉินถาม
เซียงซัวไฮพยักหน้าให้กับเขาและตอบกลับ “ผู้บังคับบัญชาซง”
ซงหลิงเฉินขมวดคิ้วและพูดต่อ “เธอแค่เรียกชื่อฉันเฉยๆก็พอแล้ว”
“ไม่เป็นไรค่ะ เมื่อไหร่กันที่ฉันจะได้รับคำตอบ? ฉันกลัวว่าสมาชิกของฉันจะเหลือเวลาไม่มากแล้ว” เซียงซัวไฮ่พูด เธอไม่ได้ถ่อมตัวหรือเย่อหยิ่งต่อหน้าซงหลิงเฉินเลยสักนิด เธอเป็นผู้หญิงที่ฉลาดและรู้ดีเกี่ยวกับความคิดอันชั่วร้ายของซงหลิงเฉิน
“ฉันได้มอบจูบแรกไปให้เจียงลู่ฉีแล้ว มันไม่มีพื้นที่ให้คนอื่นในหัวใจของฉันหรอก” เซียงซัวไฮคิด
ในโลกใบนี้ จูบแรกมันไม่ได้สำคัญเลยด้วยซ้ำ แต่สำหรับเซียงซัวไฮ้แล้ว จูบแรกนั้นมีความหมายมากกับเธอ มันได้ถูกฝังรากลึกไว้ในจิตวิญญาณของเธอ เซียงซัวไฮไม่ได้ต้องการลืมถึงความรู้สึกของเธอไป เมื่อเธอเชื่อว่าพวกเธอคงจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วในอนาคต ทุกครั้งที่เธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ความอบอุ่นมากมายก็ถาโถมเข้ามาในหัวใจของเธอ
“ฉันมาบอกเธอว่าฉันจะต้องออกไปข้างนอกก่อน เนื่องจากว่าฉันจะต้องไปจัดการกับเรื่องเร่งด่วน มันจะใช้เวลาประมาณสี่วันเลยละ” ซงหลิงเฉินพูด
ฉินฮงฟางถามอย่างประหลาดใจ “หัวหน้าซง มันคือเรื่องอะไรกันครับ ทำไมคุณต้องไปด้วยตัวเองเลยละครับ?”
“ไม่มีอะไรพิเศษหรอก พวกเราได้ข้อมูลใหม่เกี่ยวกับพวกหลบหนีนะ” ซงหลิงเฉินพูด
“พวกหลบหนี? คุณหมายถึงทีมนั้นหรอครับ? พวกเขาถูกพบที่ไหนกัน?” ฉินฮงฟางถาม
“ในโลกที่อ้างว้างเช่นนี้ มันค่อนข้างยากเลยสำหรับพวกเราที่จะหาพวกเขาจนเจอ ถ้าพวกเขาตัดสินใจที่จะซ่อนตัว แต่กลับกลายเป็นว่าพวกเขาเลือกที่จะไม่ซ่อนแทนเนี่ยสิ” ซงหลิงเฉินตอบกลับ
“หัวหน้าซงคะ ฉันว่าคุณสามารถทำภารกิจนี้สำเร็จได้อย่างง่ายดายแน่เลย ฉันคิดว่าทีมนี้น่าสงสารจังเลยค่ะ ถ้าฉันจำไม่ผิด พวกเขาถูกเรียกว่าทีมจี้หยิงใช่ไหมคะ?” หลี่ฉิงฉิงถามออกมาพร้อมกับรอยยิ้มบนหน้าของเธอ
เซียงซัวไฮ้ไม่ได้สนใจในบทนสนทนานี้เลย แต่เมื่อเธอได้ยินชื่อทีมฉ่หยิง มันก็ทำให้เธอตกใจมาก “เธอพูดว่าอะไรนะ? ทีมนี่หยิง? ใครคือหัวหน้าของพวกเขา?”
“นามสกุลของเขาชื่อเจียงหรืออะไรเนี่ยละ พวกเขาเป็นที่ต้องการของผู้คน โดยมีค่าหัวอยู่ แต่ฉันคิดว่ามันไม่จำเป็นเลยที่จะต้องจำชื่อของคนที่จะต้องตายในอีกไม่ช้าเช่นนี้” ซงหลิงเฉินพูดเบาๆ
“ทำไมคุณถึงไปตามจับพวกเขากันละคะ? คุณจะทำ” เซียงซัวไฮรีบถาม
“แน่นอนเลยว่าจะฆ่าเขาทิ้ง รอฉันที่นี่ก่อนสักพักนึงนะ ฉันจะไปตามจับพวกเขาและรีบกลับมาในไม่ช้า” ซงหลิงเฉินพูดก่อนที่จะเดินจากไป
เซียงซัวไฮยืนแข็งที่อเหมือนกับรูปปั้น เมื่อเธอได้ยินที่เขาพูด
“เซียงซัวไฮ เธอเป็นอะไร? ทำไมเธอดูหน้าซีดจัง” หลี่ฉิงฉิงถาม
เซียงซัวไฮ้ไม่ได้มีพละกำลังมากพอที่จะตอบคำถามของหลี่ฉิงฉิง สิ่งที่เธอคิดอยู่ก็มีแต่คำพูดของซงหลิงเฉินในหัวของเธอเท่านั้น
เธอไม่เคยมีความคิดเลยว่า ทีมเจียงลู่ฉีจะถูกตามจับเช่นนี้ มันเหมือนว่าทุกคนในทีมเจียงลู่ฉีจะต้องตาย
ฉินฮงฟางยิ้ม “คุณเซียงกังวลเกี่ยวกับผู้บังคับบัญชาซงงั้นเหรอครับ? คุณวางใจได้เลยว่าเขาจะปลอดภัย เมื่อข่าวนี้ถูกแพร่กระจายออกไป ทีมนับไม่ถ้วนก็จะเข้าร่วมกับทีมนี้ ในสายตาของพวกเขาแล้ว ทีมนี้ก็เหมือนกับเป็นเนื้อก้อนใหญ่ เหยื่อที่มีคุณค่ามากพอที่จะสู้ด้วย มันเป็นการไล่ล่าที่น่าดูเลยละครับ” สิ่งที่ฉินฮงฟางพูดมันไม่ได้เว่อเกินจริงเลยแม้แต่นิดเดียว
เซียงซัวไฮรู้สึกว่าหัวใจของเธอเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง หลังจากการจากไปของซงหลิงเฉิน ยามส่วนใหญ่ก็เดินตามเขาไปจนหมด ไม่เหลือสักคน
เซียงซัวไฮยังคงยืนสับสนอยู่ เมื่อรู้ว่าทีมจี้หยิงตกอยู่ในอันตราย เธอจะยืนอยู่เฉยๆได้ยังไงกัน? เซียงซัวไฮได้พาทีมของเธอมาจากค่าย แม้ว่าบางคนจะตายไปบนถนนก็ตามที แต่มันก็ยังเหลือคนอีกนับยี่สิบคน
“คุณเชียงครับ คุณจะไปไหนกัน?” ฉินฮงเฟิงถาม แต่ก็ไม่มีคำตอบกลับ
เธอกำลังรีบวิ่งกลับไปยังที่พักของเธอย่างรวดเร็ว เมื่อเธอมาถึงบ้าน เธอก็ลังเลอยู่สักพักหนึ่งเธอสามารถที่จะทำทุกอย่างเพื่อช่วยเจียงลู่ฉีได้ แต่สมาชิกของเธอไม่จำเป็นเลยที่จะต้องช่วย
เพียงเวลาไม่นานที่เธอเข้าไปในที่พัก หนึ่งในลูกน้องของเธอก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ “พี่เซียง เป็นอะไรหรือเปล่า? มีใครรังแกพึ่งั้นเหรอ?”
“ไม่” เซียงซัวไฮยังคงลังเลอยู่ แต่เธอก็พยายามทำตัวให้แข็งแกร่งขึ้นและรีบเล่าทุกสิ่งทุกอย่างให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ทุกนาทีมันสำคัญมากและยิ่งเธอออกช้าไปมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกกังวลมากขึ้นเท่านั้น “ฉันจะไปช่วยเขา นายไม่จำเป็นต้องเสี่ยงไปด้วยหรอก”
“กัปตันเจียง?”
“ถ้าไม่ใช่เพราะกัปตันเจียงและทีมของเขา สัตว์ประหลาดน้ำคงจะฆ่าพวกเราทิ้งไปหมดแล้วล่ะ แล้วทำไมพวกเราจะไม่ไปช่วยพวกเขาบ้างละ!”
“พวกเราจะไปด้วยกัน!”
“แม้ว่าพวกเราจะช่วยอะไรไม่ได้ พวกเราก็จะคอยสนับสนุนเขาอยู่ดี มันก็ยังดีกว่าไม่ไปเลย..”
เซียงซัวไฮตื้นตันกับจุดยืนของสมาชิกเธอมาก “พวกนาย…” เธอตระหนักได้ว่าเจียงลู่ฉีไม่ได้เป็นแค่ฮีโร่ในความคิดของเธอเพียงฝ่ายเดียว แต่ยังคงอยู่ในจิตใจของเพื่อนพ้องเธอด้วย
“นี่แหละ ผู้ชายที่ฉัน” หัวใจของเซียงซัวไฮ่เต็มไปด้วยความพึงพอใจและความสุข ความกังวลทั้งหมดของเธอก็ได้หายไป “ขอบคุณพวกนายทั้งหมดจริงๆ พวกเราจะออกเดินทางเลย! ซงหลิงเฉินได้ออกเดินทางไปพร้อมกับทีมเขาแล้ว ถ้าพวกเราพลาดพวกเขาไป สถานการณ์มันจะแย่ยิ่งกว่านี้”
ในตอนนี้ มีทีมทีมหนึ่งรวมตัวกันทางประตูทางทิศเหนือของเมืองชิงไห่ มีรถหลายต่อหลายคันรวมทั้งรถถังและรถของกองทัพ ทหารทั้งหมดต่างถือปืนกลและปืนสไนเปอร์ไรเฟิล
คนที่ผ่านทางหลายต่อหลายคนต่างสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น แม้ว่ามันจะเป็นการล่าครั้งใหญ่กองทัพของเมืองชิงไห่ก็แทบจะไม่เคยใช้อาวุธและอุปกรณ์มากเท่านี้มาก่อนเลย
“ผู้นำคือซงหลิงเฉินละ”
“ฉันได้ยินมาว่าซงหลิงเฉินเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับ 2 มานานแล้ว และเป็นชายที่แข็งแกร่งด้วย”
“นายรู้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”
“ฉันได้ยินมาว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับทีมหลบหนีงั้นเหรอ? ฉันเคยได้ยินพวกเขามาก่อน แต่ทำไมพวกเขาจะต้องส่งคนไปมากขนาดนี้เพื่อที่จะไปล่าพวกเขาลงละ?”
“พวกคนน่าสงสารเอ้ย…”
คนมากมายต่างส่ายหัว พวกเขาต่างคิดว่าชะตากรรมของทีมฉ่หยิ่งนั้นถูกขีดเส้นไว้แล้ว แม้แต่ฝูงซอมบี้ที่ถูกนำโดยซอมบี้กลายพันธุ์ระดับ 2 ก็จะตายภายใต้การโจมตีด้วยอาวุธเหล่านั้น ไม่ต้องพูดถึงทีมผู้รอดชีวิตเลย
ซงหลิงเฉินเมินผู้รอดชีวิตทั้งหมดที่มองมาที่พวกเขา เขาขึ้นไปบนรถติดเกราะและตะโกนออกมาด้วยเสียงเย็นยะเยียบ และทำให้เสียงที่พูดคุยกันเงียบลง “ออกเดินทางได้เ”
ทุกคนต่างตกตะลึงกับกองกำลังรถและเสียงดังระทำที่ดังมาจากเครื่องยนต์ของพวกเขา
ในเวลาเดียวกัน รถหลายต่อหลายคันก็ปรากฏขึ้นในระยะที่ห่างไกลออกไป “ผู้บังคับบัญชาซง รอก่อนค่ะ” เสียงของเซียงซัวไฮดังขึ้นที่หูของซงหลิงเฉิน
“เซียงซัวไฮ้ เธอมาทำอะไรที่นี่?” ซงหลิงเฉินรู้สึกประหลาดใจ
เซียงซัวไฮได้ปฏิบัติกับเขาอย่างเย็นชามาก แต่เขาก็ไม่สนใจ มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร สำหรับผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบเช่นเธอจะทำตัวเย่อหยิ่ง แต่เขาก็เชื่อว่าเขาจะครอบครองเธอได้ในไม่ช้า
เมื่อเขาเห็นท่าทางที่ดูกังวลของเซียงซัวไฮ้ ซงหลิงเฉินก็รู้สึกตื้นตันใจ เธอกังวลเกี่ยวกับฉันงั้นเหรอ? แต่ถ้าเธอต้องการจะมากับฉัน ทำไมเธอถึงพาทีมของเธอมาด้วยกันละ?” เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างระมัดระวัง ซงหลิงเฉินมองไปทางเซียงซัวไฮ่อย่างสงสัย
เซียงซัวไฮ่ทำให้ใจเย็นลงและตอบกลับ “ฉันต้องการที่จะร่วมภารกิจนี้ด้วยเช่นกันค่ะ ให้ฉันเข้าร่วมด้วยไหมคะ? ถ้ามันไม่สะดวกแล้วละก็ ฉันไปคนเดียวก็ได้ค่ะ”
ซงหลิงเฉินมึนงงและลังเลอยู่ชั่วครู่หนึ่ง เมื่อมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับกองทัพ เขาไม่สามารถที่จะตัดสินใจมั่วชั่วได้ หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง เขาตัดสินใจและพูดขึ้น ตั้งแต่ที่เธอต้องการจะไป ได้สิ เธอเข้าร่วมกับพวกเราได้”
เหตุผลที่แท้จริงของซงหลิงเฉินที่ตกลงกับคำขอของเธอ เพราะว่าเขาเชื่อว่ามันเป็นโอกาสที่ดีในการจีบเซียงซัวไฮ้ ท่ามกลางทีมทั้งหมดที่ต้องการล่าเจียงลู่ฉี ทีมของซงหลิงเฉินนั้นเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุด