My MCV and Doomsday - ตอนที่ 491
Chapter 491: ฉันคือกฏ!
เหตุการณ์ที่ไม่น่ายินดีเช่นนี้มันเกิดขึ้นในฐานทัพของเฮอ ดังนั้นเขาจะไม่เต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยวได้ยังไงกัน?
ทุกคนที่อยู่ที่นี่สามารถคาดเดาได้ว่าในห้องวีไอพีมันเกิดอะไรขึ้น
ในตอนนี้ เสือเว่ยนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและเขาก็มีใบหน้าที่ซีดขาว เขามองไปที่เจียงลู่ฉีอย่างใจเย็นและพูดออกมา “เฮ้ เพื่อน นายควรที่จะปล่อยฉันไปได้แล้วนะ นายน่าจะไม่รู้ว่าพี่สาวเฉียนคือใคร ที่จริงแล้วเธอเป็นหญิงสาวของพี่ชายฮง”
“ฉันพึ่งจะมาถึงเจียงหนิงวันนี้ ดังนั้นฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสองคนที่นายพูดถึง อีกอย่าง ฉันก็ไม่ได้สนใจพวกเขาเลยแม้แต่น้อย”เจียงลู่ฉีพูด
ในเวลาเดียวกัน ประตูก็เปิดออกและกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งก็เดินเข้าไป
“มันกลับกลายเป็นว่านายไม่รู้จักฉันและนายก็ไม่สนใจฉันด้วยเช่นกัน หื้อ!?”ชายหนุ่มผิวสีดำพูดออกมาและหลังจากนั้นเขาก็นั่งลงไปบนโซฟาตรงข้ามเจียงลู่ฉี มันเหมือนกับว่าเขาไม่ได้สังเกตเห็นเสือเว่ยที่จมกองเลือดอยู่เลย
ลูกน้องของเขาก็รีบลุกขึ้นยืนล้อมรอบเขา ในเวลาเดียวกันหญิงสาวที่สวมชุดเดรสยาวสีขาวก็นั่งลงข้างกับชายหนุ่มผิวสีดำ หลังจากกวาดตามองไปรอบฝูงชน เธอก็จ้องเจียงลู่ฉีไปอย่างสงสัย ที่จริงแล้วเธอเคยคิดมาว่ามันน่าจะเป็นชายที่ดุร้ายเสียมากกว่า
“ฉันได้ยินมาว่านายต้องการที่จะมาคุยกับฉันงั้นเหรอ? ฉันชื่อพี่สาวเฉียน นายต้องการที่จะพูดอะไร?”พี่สาวเฉียนถามออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม
“ใช่ ฉันถูกเชิญมาโดยหนึ่งในลูกน้องของเธอเพื่อทำธุรกิจกับเธอ ตั้งแต่ที่พวกเราต้องการที่จะทำธุรกิจร่วมกัน ทั้งสองฝ่ายก็ควรที่จะจริงใจต่อกัน เธอไม่เห็นด้วยงั้นเหรอ?”เจียงลู่ฉีพูดออกมาอย่างใจเย็น ห้องทั้งห้องก็เต็มไปด้วยสมาชิกของเฮอจุนฮง แต่เจียงลู่ฉีก็มีสมาชิกเพียงแค่ไม่กี่คนกับเขา
หลินเจียไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ดังนั้นเธอจึงค่อนข้างที่จะกระวนกระวายใจ แม้แต่พีชก็เป็นกังวลด้วยเช่นกันและเธอก็แอบยืดมือของเธอออกไปดึงเสื้อของเว่ยเฟยเฟยอย่างลับๆ อย่างไรก็ตาม พวกเธอต่างเห็นเจียงลู่ฉีรวมทั้งหญิงสาวที่ตามมาต่างใจเย็นอย่างไม่น่าเชื่อ มันเหมือนกับว่าพวกเขาไม่ได้เป็นคนที่ตกอยู่ในอันตราย
“ทำธุรกิจร่วมกัน? นายทำร้ายและฆ่าลูกน้องของฉัน! นี่คือวิธีที่นายทำธุรกิจงั้นเหรอ?”พี่สาวเฉียนพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม
“ถ้าใครบางคนต้องการที่จะตายแล้วและก็ แน่นอนว่าพวกเขาจะตาย เธอไม่ควรที่จะโทษคนอื่นสิ”เจียงลู่ฉีตอบกลับ
พี่สาวเฉียนมึนงง เมื่อเธอได้ยินที่เขาพูด แต่เฮอจุนฮงยิ้มและพูดออกมาเย็นชา “เด็กน้อย นายกล้าที่จะแหกกฏฉันได้ยังไงกัน? นายนะกำลังมองหาความตายอยู่! ในสถานที่แห่งนี้ ไม่ว่าอะไรที่ฉันและลูกน้องฉันพูดนั้นก็คือกฏ! จำไว้ ใครก็ตามที่ปรับตัวเข้ากับเวลาได้คือคนฉลาด”
“กฏ? นายคิดว่านายเป็นใคร? นายกล้าดียังไงถึงพูดเกี่ยวกับเรื่องกฏกัน?”เจียงลู่ฉีเยาะเย้ย
เฮอจุนฮงสามารถที่จะบอกได้เลยว่าที่เจียงลู่ฉีกล้าทำตัวแบบนี้เป็นเพราะว่าเขาพึ่งพาบางอย่าง แต่เขาเป็นคนที่มั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเอง การกระทำของเจียงลู่ฉีเป็นการตบหน้าเขา เขาจะต้องทำอะไรสักอย่างหรือไม่อย่างงั้นแล้วละก็เขาก็จะไม่สามารถรักษาตำแหน่งและอาศัยในสถานที่แห่งนี้ต่อไปได้
“เพื่อน ตั้งแต่ที่นายอยู่ที่นี่แล้วละก็ อย่าฝันเลยว่าจะได้ออกจากประตูนั้นอีกเลย!”เฮอจุนฮงตะโกนออกมา “ไปฆ่าเขาซะ!”
ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติหลายคนที่อยู่ด้านหลังเฮอจุนฮงก็จ้องไปที่เจียงลู่ฉีพร้อมกับเจตนาร้ายและพวกเขาสองคนก็เปลี่ยนร่างจนเป็นร่างที่ทรงพลัง พวกเขาต่างเป็นลูกน้องที่เฮอจุนฮงเชื่อถือมากที่สุด ไม่มีใครรู้เลยว่าพวกเขานั้นเลือดเปื้อนมือมากขนาดไหน
เฮอจุนฮงก็ให้พวกเขาสองคนจัดการกับเจียงลู่ฉีพร้อมๆกันซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าเขานั้นระมัดระวังตัวอย่างมาก
เมื่อร่างกายของพวกเขาเริ่มขยายใหญ่ขึ้น หนึ่งในพวกเขาก็เปลี่ยนกลายเป็นหมีสีน้ำตาลและผมของเขาก็ถูกแทนที่ด้วยเข็มโลหะ แม้กระทั่งกระดูกของเขาก็ยังส่งเสียงออก ความสูงของอีกคนหนึ่งก็เพิ่มขึ้นจนเกือบถึงสามร้อยเมตร เขานั้นเหมือนกับคนยักษ์และหลังจากนั้นฝ่ามือขนาดใหญ่ของเขาก็ฟาดลงไปใส่เจียงลู่ฉี เขาต้องการที่จะฟาดเจียงลู่ฉีจนจมกองพื้นดิน หมีสีน้ำตาลก็พุ่งเข้าใส่เจียงลู่ฉีด้วยเช่นกัน แขนของเขาก็หนายิ่งกว่าขาของคนธรรมดาเสียอีก เขาเก่งกาจในการจับ ทุบและบดขยี้ศัตรูจนตาย แม้แต่ตาของศัตรูก็ถูกบดขยี้จนเละเทะ
เฮอจุนฮงยังคงนั่งอยู่บนโซฟาและรอดูสถานการณ์ที่น่าสนุกนี้
เว่ยเฟยเฟยก็ประหลาดใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เธอก็เริ่มที่จะเล็งไปยังพวกเขา
พีชก็ตะโกนออกมาอย่างเสียมิได้ “กัปตันเจียงคะ ระวังตัวด้วย”โชคร้ายที่พวกเธอไม่สามารถช่วยเจียงลู่ฉีได้เลย เมื่อผู้มีพลังเหนือธรรมชาติหลายคนพุ่งเข้าใส่พวกเธอในเวลาเดียวกัน
แม้ว่าพวกเธอจะเป็นผู้หญิง เฮอจุนฮงก็ไม่เคยอ่อนโยนกับพวกเธอ ไม่สำคัญว่าพวกเธอจะทำอะไรในอนาคต เขาก็จะต้องสั่งสอนให้พวกเธอทำตัวดีๆก่อนเป็นอันดับแรก พี่สาวเฉียนก็เพียงแค่ยิ้มและนั่งอยู่ข้างกายเฮอจุนฮง ที่จริงแล้วเธอก็ค่อนข้างคุ้นเคยกับภาพที่เกิดขึ้น
ถึงแม้ว่าสถานการณ์จะดูย่ำแย่ เจียงลู่ฉีก็ยิ้มกว้างออกมา
‘บึ้ม!’
ประกายสายฟ้าก็สว่างวาบขึ้นด้านหน้าของทุกคนและมันก็เปลี่ยนวิสัยทัศน์ของพวกเขาจนพร่ามัว
เว่ยเฟยเฟยที่เตรียมจะยิงปืนก็มึนงงด้วยเช่นกัน สำหรับคนที่พุ่งเข้าหาพวกเธอ พวกเขาต่างถูกล้อมรอบโดยตาข่ายกระแสไฟฟ้าและเพียงเวลาไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ดูโอ้ที่ทรงพลังทั้งสองคนต่างไม่ได้คาดคิดด้วยเช่นกันและพวกเขาก็ต่างรู้สึกได้ถึงกระแสไฟฟ้าที่ทรงพลังกำลังทำลายร่างกายของพวกเขาอยู่
ในชั่ววินาทีต่อมา ดาบที่ถูกสร้างขึ้นโดยกระแสไฟฟ้าที่หนาแน่นก็ตัดหัวของพวกเขาทิ้งลง เมื่อดาบนั้นจางหายไป เลือดก็สายกระจายออกมาเหมือนกับน้ำพุที่พวยพุ่งจากผืนดิน!
ใบหน้าของเฮอจุนฮงก็เปลี่ยนไปในทันทีและเขาก็รู้สึกว่าตัวของเขานั้นแข็งทื่อ เขาก็ไม่สามารถที่จะยิงปืนได้ในทันที
“อ๊า!”พี่สาวเฉียนก็ร้องออกมาและในเวลาเดียวกันเธอก็ถูกผลักไปโดยเฮอจุนฮง เฮอจุนฮงก็คำรามออกมาและกล้ามเนื้อของเขาก็ขยายใหญ่ขึ้น แต่มันก็สายเกินไปแล้ว เขาโดนกระแสไฟฟ้าโจมตีเข้าแล้ว
“อย่าขยับ!”เจียงจู้อิงตะโกน
เฮอจุนฮงสังเกตว่ามันเป็นหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างเจียงลู่ฉีที่เป็นคนปลดปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมา กระแสไฟฟ้านั้นสว่างวาบบนฝ่ามือของเธอ ในขณะที่ดาบยาวนั้นปรากฏขึ้นในมือของเธอพร้อมกับงูกระแสไฟฟ้าที่คลานไปรอบๆดาบ กระแสไฟฟ้าขนาดเล็กก็วนไปมาระหว่างนิ้วมือของเธอเหมือนกับปลาที่ว่ายเล่นอย่างสนุกสนาน
“ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับ..ระดับ 2!?”เฮอจุนฮงพูดออกมาอย่างตกใจ หญิงสาวคนนี้กลับกลายเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับ 2 งั้นเหรอ?
“นายรู้จักผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับ 2 ด้วยงั้นเหรอ? เยี่ยม!”เจียงจู้อิงยิ้มออกมา
เฮอจุนฮงทั้งประหลาดใจและตื่นตระหนกในเวลาเดียวกัน ถึงแม้ว่าเขาจะเข้าใกล้ระดับ 2 แล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังไม่ใช่ นอกจากนี้แล้วเจียงลู่ฉีและหญิงสาวที่นั่งอยู่เงียบงันข้างเขายังไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้เลยแม้แต่น้อย เขาไม่มีความคิดแล้วว่าคนกลุ่มนี้เป็นคนธรรมดาอีกแล้ว
สาวงามที่น่าตกตะลึงเหล่าที่ติดตามเจียงลู่ฉีไม่มีใครที่เป็นคนธรรมดาหรืออ่อนแอเลยแม้แต่คนเดียว ใครก็ตามก็สามารถบอกได้เลยว่าพวกเธอต่างเป็นกุหลาบที่เต็มไปด้วยหนาม
โชคร้ายสำหรับเฮอจุนฮงที่เขาตระหนักได้สายเกินไป ลูกน้องของเขาต่างเจ็บหนักหรือไม่ก็ตายกันหมดแล้ว มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถสู้ต่อไปได้หรือพูดให้ชัดเจนกว่าก็คือดิ้นรนต่อสู้ไป เขาไม่เคยมีความคิดเลยว่าสถานการณ์จะพลิกกลับด้านขนาดนี้
พี่สาวเฉียนก็สลบไป แต่เพียงเวลาไม่นานเธอก็ตื่นขึ้น อย่างไรก็ตามหลังจากมองไปยังความโกลาหลที่เกิดขึ้นรอบตัวเธอ เธอก็เกือบจะสลบไปอีกครั้งหนึ่ง เธอมองไปที่เฮอจุนฮงอย่างกระวนกระวายใจ ตั้งแต่ที่เธอพบกับเฮอจุนฮงมาเธอก็ไม่เคยมองคนอื่นในสายตาอีกเลย…
“กัปตันเจียง มันเป็นการเข้าใจผิดกันครั้งใหญ่ครับ”เฮอจุนฮงพยายามที่จะอธิบายพร้อมกับเสียงที่สั่นกลัว โชคดีที่ร่างกายของเขาแข็งแกร่งพอหรือไม่อย่างงั้นแล้วละก็กระแสทำลายล้างนั้นก็คงฆ่าเขาตายไปแล้ว แม้แต่ในตอนนี้ร่างกายของเขาก็ปกคลุมไปด้วยรอยตัดและรอยไหม้ เมื่อเผชิญหน้ากับภัยร้ายที่ทรงพลังเช่นนี้ เฮอจุนฮงก็ก้มหัวของเขาลงในทันที
“โอ้? นายเข้าใจแล้วสินะว่าใครเป็นคนสร้างกฏหน่ะ?”เจียงลู่ฉียิ้มและมองไปที่หยานเลาหลิวบนพื้นดิน เมื่อเจียงจู้อิงโจมตีออกไป เธอก็ตั้งใจโจมตีไม่ให้โดนหยานเลาหลิวที่หวาดกลัว
เฮอจุนฮงก็หันหัวกลับไปมองหยานเลาหลิว เขาก็เดินนำไปและเดินไปหาหยานเลาหลิว หยานเลาหลิวก็ตื่นตระหนกอย่างมาก ถึงแม้ว่าเฮอจุนฮงจะดูอับอายอย่างมากในตอนนี้ สุดท้ายแล้วเขาก็ยังคงทรงพลังอยู่ดี เมื่อหยานเลาหลิวเห็นเฮอจุนฮงเดินมาหาเขา เขาก็บอกได้เลยว่าชีวิตของเขากำลังจะถึงจุดจบแล้ว ความหวาดกลัวมากมายก็ถาโถมเข้าใส่เขา
“พี่ฮง! ผมภักดีกับพี่สาวเฉียนมาอย่างยาวนานแล้วนะครับ! คุณไม่สามารถที่จะขายผมเพื่อตัวของคุณเองได้! ถ้าคุณทำมันแล้วละก็มันก็จะไม่มีใครติดตามคุณต่อไป”เสียงของหยานเลาหลิวก็จางหายไป เฮอจุนฮงก็จับคอของเขาและบิดคอของเขา ดวงตาของหยานเลาหลิวก็เปลี่ยนเป็นไร้ชีวิตและปากของเขาก็เปิดกว้าง หลังจากจัดการกับเขาแล้ว เฮอจุนฮงก็โยนศพของเขาทิ้งลงบนพื้นดิน
เฮอจุนฮงก็เดินกลับไปด้านหน้าเจียงลู่ฉีและพูดอีกครั้งหนึ่ง “คุณพอใจกับผลลัพธ์หรือยังครับพี่เจียง?”เจียงลู่ฉีก็ยังคงเงียบอยู่และมองไปทางเขา
เฮอจุนฮงก็พูดต่อ “กัปตันเจียงทรงพลังจริงๆครับ อย่างไรก็ตาม คุณจะต้องไม่คุ้นเคยกับเจียงหนิงอย่างแน่นอน ให้ผมช่วยคุณดีกว่าครับ ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการฆ่าผมทิ้ง ผมไม่มีข้อข้องใจกับคุณเลยครับ กัปตันเจียง คุณได้ฆ่าสมาชิกของผมไปหลายสิบคนแล้ว ผมสงสัยว่ากัปตันเจียงจะพิจารณาความคิดเห็นของผมนะครับ”สุดท้ายแล้วเขาก็เป็นหัวหน้าของสถานที่แลกเปลี่ยนแห่งนี้ เขาไม่ได้หวาดกลัวเจียงลู่ฉี เขารู้ดีว่ามันมีทางเดียวสำหรับเขาที่จะมีชีวิตรอดก็คือการแสดงค่าของเขาให้กับอีกฝ่าย
“ฮ่าๆ ฉันจะให้รายชื่อวัตถุดิบของฉันไป ถ้านายสามารถหาวัตถุดิบทั้งหมดที่อยู่ในรายชื่อของฉันได้แล้วละก็ฉันจะไว้ชีวิตของนาย”เจียงลู่ฉีพูด
เฮอจุนฮงหันไปมองพี่สาวเฉียน “ไปเอาปากกามา”
พี่สาวเฉียนตกตะลึง แต่เธอก็ปฏิบัติอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามขาของเธอก็ยังคงสั่นอยู่เนื่องจากความหวาดกลัว ดังนั้นมันจึงแตกต่างเพียงแค่เล็กน้อยกับการเดินกับการวิ่งไปยังประตู เพียงเวลาไม่นานหลังจากนั้นเธอก็ส่งกระดาษไปด้านหน้าเจียงลู่ฉีอย่างสงสัย เธอไม่กล้าที่จะมองเจียงลู่ฉีอีกต่อไป เธอเป็นแค่มดที่อ่อนแอและเล็กจ้อยต่อหน้าเจียงลู่ฉี
เจียงลู่ฉีก็มองไปที่วัตถุดิบที่ต้องการบนแผงควบคุมเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวและเขียนพวกมันลงไปทั้งหมดและหลังจากนั้นก็ทุบปากกาลงไปและโยนกระดาษไปบนโต๊ะกาแฟอีกโต๊ะหนึ่ง
พี่สาวเฉียนก็รีบหยิบมันขึ้นมาอย่างระมัดระวัง แต่เฮอจุนฮงก็แย่งมันไปจากมือของเธอ เขาก็เหลือบมองไปที่มันและพูด “ผมจะสั่งสมาชิกของผมให้ค้นหาโลหะหายากจากโรงงานหลายแห่งครับ อย่างไรก็ตาม สำหรับนิวเคลียสเลือดระดับ 2 แล้ว….มันค่อนข้างที่จะยุ่งยากพอควรเลยครับ มันอาจจะใช้เวลาไปสักพักหนึ่ง”
เจียงลู่ฉีฟังเขา แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เฮอจุนฮงก็หยุดพูด เขาก็รับรู้ว่าถ้าโลหะหายากบนรายชื่อนั้นหายไปสักอย่างแล้วละก็เจียงลู่ฉีจะไม่ไว้ชีวิตของเขา สำหรับการที่จะวิ่งหนีไปงั้นเหรอ? มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว!