My MCV and Doomsday - ตอนที่ 492
Chapter 492: คนแคระ
เฮอจุนฮงก็จดจำวัตถุดิบบนรายชื่อและหลังจากนั้นก็ส่งมันให้กับพี่สาวเฉียน “ส่งลูกน้องของเธอไปตามหาวัตถุดิบให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ลืมเรื่องอื่นไปเลยและโฟกัสกับการที่จะทำคำขอของกัปตันเจียงให้เสร็จ”
ไม่ต้องสงสัยเลยที่พี่สาวเฉียนนั้นจะรู้ถึงความสำคัญของภารกิจในมือของเธอ ดังนั้นเธอจึงรับรายชื่ออย่างรวดเร็วแต่เธอก็ยังคงสั่นไปด้วยความหวาดกลัว
“เอาละ นั่นคือทั้งหมดละ”เจียงลู่ฉียืนขึ้น
“ฉันจะแจ้งสมาชิกของฉันเพื่อตามหาที่อยู่ให้คุณพักครับ”เฮอจุนฮงพูด
ในเวลานี้ เจียงลู่ฉีก็เดินออกไปนอกห้อง “ไม่จำเป็น”
แต่หลังจากนั้นเขาก็หยุดเดินและพูดออกมา “ฉันเปลี่ยนความคิดแล้ว จัดห้องพักให้พวกเราหลายๆห้องให้หน่อย”เจียงลู่ฉีต้องการห้องเหล่านั้นให้กับเว่ยเฟยเฟยและทีมของเธอ เขาสังเกตเห็นการกระทำของเธอก่อนหน้านี้และก็พึงพอใจกับการกระทำของเธอ
“ไม่มีปัญหาค่ะ”พี่สาวเฉียนตอบกลับมาพร้อมกับรอยยิ้ม
เว่ยเฟยเฟยและพีชก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิมที่พวกเธออยู่ หลังจากฟังบทสนทนาแล้ว พวกเธอก็เดินตามพวกเขาออกไปอย่างรวดเร็ว
หลินเจียก็มองไปยังศพที่นอนอยู่บนพื้นดินและรู้สึกสับสนเล็กน้อย มีเพียงแค่ตอนนี้ที่เธอตระหนักได้ว่าทีมที่เธอพามานั้นน่าหวาดกลัวขนาดไหน อย่างไรก็ตามเธอก็ยังรู้สึกมีความสุขที่เห็นหยานเลาหลิวตาย เธอเข้าใจแล้วด้วยว่าพี่สาวเฉียนและเฮอจุนฮงก็ไม่ได้แตกต่างไปจากคนธรรมดาเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่ทรงพลัง ถึงแม้ว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอเลยก็ตาม หลินเจียก็ยังคงมีความสุข
“เฮ้ เธอ…”พี่สาวเฉียนก็เรียกหลินเจีย “ไปช่วยกัปตันเจียงหาห้องซะ จัดห้องที่ดีที่สุดไว้ ถ้ามีคนถามเธอแล้วละก็เธอสามารถบอกพวกเขาได้เลยว่าเธอทำตามคำสั่งของฉัน…ไม่สิ….คำสั่งของพี่ชายฮง”
“ค่ะ ท่านหญิง”หลินเจียตอบและพยักหน้า
หลังจากหลินเจียออกไปจากห้อง มีเพียงแค่เฮอจุนฮง พี่สาวเฉียนและเสือเว่ยที่อยู่ในห้อง คนอื่นนั้นต่างไปทำแผลของพวกเขาที่ได้รับมาจากกระแสไฟฟ้าทำลายล้างของเจียงจู้อิง พวกเขาบางคนก็นอนตายอยู่และเหมือนกับมัมมี่ที่เกรียมไหม้
ขาของพี่สาวเฉียนก็อ่อนลงและเธอก็ล้มลงไปบนโซฟา เฮอจุนฮงก็มีท่าทางที่มืดมน แม้ว่าเจียงลู่ฉีและคนอื่นจะออกจากห้องไปแล้ว เฮอจุนฮงก็ยังคงรู้สึกได้ลางๆว่าพวกเขากำลังตรวจสอบการกระทำของเขาอยู่ทุกก้าว
“โอ้ ใช่ พี่ชายฮง ฟานยี่ตงกำลังจะกลับมาพรุ่งนี้เช้าค่ะ”พี่สาวเฉียนก็นึกขึ้นมาได้และพูดกับเฮอจุนฮงอย่างลังเลใจ
“จริงเหรอ?”เฮอจุนฮงขมวดคิ้วและหลังจากนั้นเขาก็พูดเพิ่ม “ดีเลย พวกเราจะขอพวกเขาให้ช่วยหาโลหะเหล่านั้นด้วย”
“แต่ว่าฟานยี่ตงไม่ได้ญาติดีกับเรานะคะ!”พี่สาวเฉียนพูดออกมาอย่างกังวลใจ ในความเป็นจริงแล้วเฮอจุนฮงควบคุมสถานที่แลกเปลี่ยนเพียงแค่หนึ่งในสาม ในขณะที่สองในสามนั้นถูกควบคุมโดยอีกสองทีมที่เหลือ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็เป็นของฟานยี่ตง
ฟานยี่ตงเป็นคนที่ทรงพลังและชาญฉลาด ดังนั้นเขาจึงพาทีมอื่นมาอยู่ข้างเขาแล้ว พวกเขาต้องการที่จะกดดันเฮอจุนฮงอย่างช้าๆและแย่งอำนาจของเฮอจุนฮงไป
“แล้วไงละ? คนที่ต้องการทรัพยากรพวกนั้นมันไม่ใช่ฉันสักหน่อย เขาจะปฏิเสธคำขอได้ยังไงกัน?”เฮอจุนฮงพูดออกมาอย่างเย็นชา “ฉันจะไปพูดคุยกับพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ในเช้าวันพรุ่งนี้”
….
“ซิหยู่ เธอให้ความสนใจกับเฮอจุนฮงไว้ อย่าให้เขาได้ตุกติกอะไรละ”เมื่อพวกเขาเดินออกไปจากห้อง เจียงลู่ฉีก็พูดกับหลันซิหยู่และเธอก็พยักหน้า
เพียงเวลาไม่นานที่พวกเขามาถึงรถมินิบัส เจียงลู่ฉีก็ได้กลิ่นบาบีคิวลอยออกมา
‘ฟิ้ววว!’
เงาสีขาวก็ผลุบออกมาจากกระเป๋าของเจียงลู่ฉีแลหัลงจากนั้นก็วิ่งเข้าไปในห้องครัวด้วยความเร็วแสง อย่างไรก็ตามหลิงก็จับมันได้กลางทัน
“อย่าเข้าไปในห้องครัว”หลิงพูดและเธอก็มองเจียงลู่ฉีไปพร้อมๆกัน “พี่มีกลิ่นเลือดนะ”
เจียงลู่ฉียิ้มและพูดออกมา “มันมีบางสิ่งเกิดขึ้น โชคดีที่พวกเราไม่ต้องตามหาวัตถุดิบพวกนั้นแล้ว พวกเราเจออันธพาลแถวนี้และให้พวกเขาหาให้พวกเราแทนแล้วละ”
เจียงลู่ฉีก็หันไปมองศาสตราจารย์ซู “ศาสตราจารย์ครับ พวกเราเปลี่ยนแผนของพวกเราสักเล็กน้อยนะครับ ผมกลัวว่าพวกเราจะต้องเลื่อนเวลาที่ไปพื้นที่ของกองทัพก่อนแล้ว พวกเราจะต้องอยู่ที่นี่อีกหลายวันเลยละครับ”
ถ้าซูกวงฉีและซูตงต้องการที่จะไปพื้นที่ทางกองทัพในทันที เขาก็คงจะขับรถมินิบัสไปตรงๆ ถึงแม้ว่าสมาชิกของทีมฉี่หยิงที่อยู่กับเว่ยเฟยเฟยและคนอื่นจะสามารถต้านทานต่อเฮอจุนฮงได้อย่างง่ายดายแล้ว เจียงลู่ฉีก็ยังคงกังวลและไม่ต้องการที่จะเสี่ยง ด้วยเหตุนี้นี่เองเขาจึงตัดสินใจที่จะพูดคุยเรื่องนี้กับศาสตราจารย์ทั้งสองก่อน
“ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับพวกเราหรอก ตราบเท่าที่เธอไม่ได้คิดว่าพวกเราเป็นภาระแล้ว พวกเราก็ไม่เป็นไร”ซูตงพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม ซูกวงฉีก็พยักหน้าด้วยเช่นกัน เขาก็นั่งอ่านหนังสือและทำการค้นคว้าในรถมินิบัสอยู่ทุกวัน เขาก็ทำการเรียนรู้เกี่ยวหลัวหลัวเป็นครั้งคราวอีกด้วย
วันต่อมา เจียงลู่ฉีก็ตื่นขึ้นและชายผอมก็รอคอยเขาอยู่ด้านนอกอย่างเคารพ “พี่เจียงครับ ผมชื่อยู่น้อย พี่ฮงสั่งผมให้มาเชิญพี่เจียงไปครับ”เขาดูเหมือนกับผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่โดดเด่น แต่เขาก็นับถือเจียงลู่ฉีอย่างมาก
ยู่น้อยรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องวีไอพีเมื่อวานนี้แล้วและเขาก็จินตนาการว่าเจียงลู่ฉีจะต้องเป็นนักฆ่าที่ใจแข็งและจะสังหารทุกคนอย่างเลือดเย็น แต่เขาก็ประหลาดใจที่พบกับชายหนุ่มที่มีอารมณ์ที่พิเศษออกไป อย่างไรก็ตามยู่น้อยก็รู้ดีว่าเขาไม่สามารถที่จะยั่วยุชายหนุ่มตรงหน้าของเขาได้
“เชิญฉันไป? เขาหาวัตถุดิบบางอย่างพบแล้วงั้นเหรอ?”เจียงลู่ฉีประหลาดใจ ถ้าเขาเดาถูกต้องแล้วละก็มันก็น่ามหัศจรรย์เป็นอย่างมาก
“พี่เจียง ได้โปรดละครับ”ยู่น้อยพูด
เจียงลู่ฉีพยักหน้า
ในเวลานี้เขาก็ขับรถมินิบัสไป ถึงแม้ว่ามันจะมีกฏของเมืองเฮยจิงที่ห้ามคนขับรถเข้าไปด้านในแต่กฏเหล่านั้นก็ไม่ได้ใช้กับเจียงลู่ฉี
สถานที่นัดพบนั้นไม่ใช่สถานที่แลกเปลี่ยนแต่มันเป็นร้านอาหารแทน มันเป็นเรื่องธรรมชาติที่ร้านอาหารนั้นจะเป็นตึกที่ถูกละทิ้งเหมือนกับสถานที่แห่งอื่นมากมายหลังจากวันโลกาวินาศ แต่หลังจากเมืองเฮยจิงถูกก่อตั้งขึ้นมา มันก็ถูกปรับปรุงและเปิดใหม่ มีความแตกต่างเพียงแห่งเดียวก็คือใครก็ตามที่ผ่านประตูเข้ามาเพื่อสั่งอาหารและเครื่องดื่มต่างเป็นแขกที่สำคัญ ผู้รอดชีวิตธรรมดาทั่วไปไม่สามารถที่จะเข้าไปด้านในได้
ด้านหน้าทางเข้าร้านอาหารก็คือเฮอจุนฮง พี่สาวเฉียนและชายอีกหลายคน หนึ่งในพวกเขาเป็นชายตัวเตี้ยที่มีดวงตาคู่เล็ก ขาทั้งสองข้างของเขาทั้งเล็กและหนาเหมือนกับหัวไชเท้า ในแวบแรก คนก็จะคิดว่าเขาเป็นคนแคระ แต่ถ้าใครก็ตามคิดว่าตัวตนของเขาน่าตลกเหมือนกับรูปร่างแล้วละก็ถ้างั้นก็จะเป็นการเข้าใจผิดครั้งใหญ่เลย เขาก็คือฟานยี่ตงที่ปีนขึ้นมาจนถึงตำแหน่งนี้ด้วยพลังของเขาเอง
“เฮ้ พี่ฮง นี่คือแขกที่พี่พูดถึงงั้นเหรอ?”ฟานยี่ตงพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม
“ฟานยี่ตง อย่าเล่นตุกติกกับธุรกิจวันนี้ละ”เฮอจุนฮงพูดขัดเขาอย่างเย็นชา
“โอ้ ฉันสงสัยมากเลยจริงๆ ฉันไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำให้พี่ใหย่ของพวกเราถึงก้มหัวร้องขอเมตตาแบบนี้”ฟานยี่ตงพูด
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา เฮอจุนฮงก็รู้สึกหงุดหงิด การช่วยเจียงลู่ฉีหาวัตถุดิบเป็นเรื่องชี้เป็นชี้ตายของเขา! ด้วยเหตุนี้นี่เองเฮยจุนฮงจึงทำได้เพียงกักเก็บอารมณ์ของเขาไว้
เมื่อสังเกตเห็นปฏิกิริยาของเฮอจุนฮงแล้วฟานยี่ตงก็รู้สึกว่ามันตลกมาก
“ฟานยี่ตง นายมีวัตถุดิบที่ฉันต้องการจริงๆใช่ไหม?”เฮอจุนฮงถามมา ที่จริงแล้วฟานยี่ตงเป็นคนเลวทรามอย่างมากและเฮอจุนฮงก็ได้รับความสูญเสียเป็นอย่างมากจากเขา เขากังวลว่าฟานยี่ตงจะลอบโจมตีด้านหลังเขา เขาจึงได้ถามเกี่ยวกับวัตถุดิบกับเขา แต่เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าฟานยี่ตงจะมีพวกมัน ด้วยเหตุนี้นี่เองเฮอจุนฮงจึงส่งลูกน้องของเขาให้ไปเชิญเจียงลู่ฉีมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ในตอนนี้ เขากังวลว่าการตัดสินใจของเขานั้นถูกหรือไม่กันแน่ เมื่อเขาถูกฟานยี่ตงหลอกแล้วละก็ เจียงลู่ฉีก็จะรู้สึกหงุดหงิดกับเขาอย่างแน่นอน
“โอ้ พี่ฮงพูดถึงอะไรกันอยู่? ฉัน ฟานยี่ตงไม่เคยหลอกใคร”ฟานยี่ตงพูดและหลังจากนั้นเขาก็เปิดเผยบางสิ่งบางอย่างในมือของเขา มันเป็นคริสตัลสีแดงที่กำลังเต้นอยู่
“นิวเคลียสเลือดกลายพันธุ์! มันเป็นระดับ 2 จริงๆ!”เฮอจุนฮงตื่นเต้นเมื่อเขามองเห็นมัน
ในเวลานั้นเองเสียงเครื่องยนต์ก็ดังขึ้นและหลังจากนั้นรถมินิบัสก็ปรากฏขึ้นอีกฝั่งหนึ่งของถนน