My MCV and Doomsday - ตอนที่ 503
Chapter 503: คำเตือนของเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว
หลังจากที่เจียงลู่ฉีและหลันซิหยู่เดินทางออกไป จางเฮาจิงก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก หญิงสาวคนนั้นก็ฟื้นสติด้วยเช่นกันและท่าทางตกตะลึงของเธอก็ถูกแทนที่ด้วยความหวาดกลัว “เกิดบ้าอะไรขึ้นกัน? ฉันตกอยู่ในสภาพประหลาดเข้าละ!”หญิงสาวคนนั้นตะโกนออกมา
เธอก็มีสติอยู่ตลอดเวลา แต่ร่างกายของเธอไม่อยู่ในการควบคุมของเธอ มันเป็นความรู้สึกที่น่าหงุดหงิด เธอไม่เคยคาดคิดเลยว่าสาวงามเช่นนั้นจะน่าหวาดกลัวขนดานี้ ทุกครั้งที่เธอคิดถึงดวงตาสีเทาของเธอ เธอก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมา
เจียงเซี่ยวฉู่ก็เหลือบตามองมาที่เธอก่อนที่จะเดินมารอบตัวเธอและเดินเข้าไปในห้องของพวกเธอ พร้อมกับพ่อแม่ของเธอ
“เฮ้ เธอ-“หญิงสาวคนนั้นกำลังจะตะโกนออกมา แต่จางเฮาจิงก็หยุดเธอไว้
“จางเฮาจิง ไม่ใช่ว่านายเห็นตาของเธองั้นเหรอ? ถ้าพวกเราปล่อยไว้แบบนั้น เธอก็จะหยุดกลัวพวกเราในอนาคตนะ! พวกเธอคิดว่าพวกเธอเป็นใครกัน? ทำไมพวกเธอถึงทำตัวโอหังเช่นนั้นกัน?”หญิงสาวคนนั้นตะโกนออกมา
ก่อนวันโลกาวินาศ หญิงสาวคนนี้ก็เป็นแค่นางแบบธรรมดาทั่วไปที่ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังมากสักเท่าไหร่ แล้วเธอก็แต่งงานกับจางเฮาจิง ถึงแม้ว่าไลฟ์สไตล์ของเธอจะไม่สามารถเทียบได้กับก่อนไวรัสจะระบาด เธอก็ยังคงพอใจ อย่างไรก็ตาม ท่าทางของหลันซิหยู่ก็ทำให้เธอรู้สึกแย่มาก ซึ่งมันเป็นครั้งแรกที่เธอโดนดูหมิ่นเช่นนี้ แม้แต่เจียงเซี่ยวฉู่ก็ยังกล้าที่จะทำท่าทางดูถูกเธอเช่นนี้ มันเห็นได้เด่นชัดว่าพวกเธอไม่ต้องการแบ่งปันสิ่งของให้กับพวกเธอ
“แล้วอนาคตละ? พวกเธอจะมารังแกพวกเราแทนหรือเปล่า?”หญิงสาวคนนี้บ่นออกมา
“โอ หุบปากซะที!”จางเฮาจิงตะโกนออกมา เขาก็รู้สึกหงุดหงิดกับสถานการณ์ที่มันพลิกกลับเป็นแบบนี้ด้วยเช่นกัน
เขาไม่เคยเห็นหลันซิหยู่ที่พื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิงมาก่อนและก็ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับชายที่มาพร้อมกับเธอด้วยเช่นกัน ถ้าพวกเธอเป็นสมาชิกที่ทรงพลังแล้วละก็เขาก็คงจะต้องเคยได้ยินเกี่ยวกับพวกเธอมาก่อน อย่างไรก็ตาม จางเฮาจิงก็ยังคงระมัดระวังตัวอย่างมาก สุดท้ายแล้ว ที่อยู่ของพวกเธอมันพิเศษอย่างมาก เมื่อมีแต่คนที่สำคัญมากพอเท่านั้นที่สามารถอาศัยอยู่ที่นั่นได้
“ฉันจะต้องไปค้นหาก่อนว่าพวกเขาคือใคร”จางเฮาจิงพูดออกมาพร้อมกับท่าทางที่ดูเศร้าสร้อยและน่ารังเกียจ ในอดีต เขาก็คอยตามจีบหลันซิหยู่อยู่เสมอๆ ดังนั้นเขาจึงประหลาดใจและมีความสุข หลังจากที่เห็นแต่เธอ แต่เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าเขาจะตกอยู่ในสภาพที่ยากลำบากเช่นนั้น
…
หลันซิหยู่และเจียงลู่ฉีก็ยืนอยู่ด้านหน้าบ้านเป็นเวลาสักพักหนึ่ง “พี่เจียง ไปกันเถอะ”หลันซิหยู่ต้องการทำให้มั่นใจว่าจางเฮาจิงและภรรยาของเขาจะไม่แย่งของที่เธอให้กับเจียงเซี่ยวฉู่ไป
“ใครคือจางเฮาจิงกัน?”เจียงลู่ฉีถามออกมา เขาก็สังเกตเห็นว่าหลันซิหยู่ไม่ชอบเขา
“เขาเป็นพวกเจ้าชู้ในสังคมของพวกเราค่ะ”หลันซิหยู่อธิบายออกมา
เขาเป็นหนึ่งในคนที่ไล่ตามจีบเธอ แต่หลันซิหยู่ก็ไม่เคยแสดงความสนใจกับเขาเลยแม้แต่นิดเดียว จางเฮาจิงเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องอื้อฉาว เขาเป็นคนที่ไม่มีอะไรดีเลย นอกจากการพึ่งพากลุ่มเจียง
“ครอบครัวของลุงเจียงถูกจัดอยู่กับกลุ่มของคนชั้นยอดและถูกเคลื่อนย้ายไปก่อน พวกเขาก็ยังคงใจกว้างที่พาจางเฮาจิงไปด้วย สุดท้ายแล้วจางเฮาจิงก็ยังเป็นลูกชายของลุงเจียงเซี่ยงฉู่”หลันซิหยู่พูด
ในช่วงวันแรกๆของวันโลกาวินาศ พวกเขาต่างดูแลจางเฮาจิง แต่หลังจากที่จางเฮาจิงได้รับความสามารถพิเศษของเขาแล้ว เขาก็โหดร้ายเหมือนกับหมาป่า ในความเป็นจริง ความสามารถพิเศษของจางเฮาจิงก็อ่อนแอเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะปกป้องครอบครัวของเจียงเซี่ยวฉู่ได้เลย เขากลับข่มขู่พวกเธอแทน หลันซิหยู่ก็ตระหนักได้ หลังจากที่สังเกตการณ์และใช้ความสามารถทางจิตของเธอ
“ไปแจ้งศาสตราจารย์ซูเกี่ยวกับสถานการณ์ของพวกเธอละกัน”เจียงลู่ฉีแนะนำ
พ่อของเจียงเซี่ยวฉู่ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ถึงแม้ว่าเครือข่ายอินเตอร์เน็ตจะยังไม่สามารถใช้งานได้ การฟื้นฟูมันก็อาจจะเป็นหนึ่งในเป้าหมายของกองทัพ ถ้ากองทัพสามารถจัดสรรบ้านอีกหลังให้กับพวกเขาแล้วละก็มันก็คงจะให้ชีวิตใหม่กับครอบครัวเจียงเซี่ยวฉู่เลย
“ค่ะ”หลันซิหยู่พยักหน้า นอกจากน้องสาวของเธอแล้ว เจียงเซี่ยวฉู่ก็นับเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอและก็เป็นคนที่ใกล้ชิดที่สุดของเธอนอกจากครอบครัว มันจึงเป็นเรื่องปกติที่หลันซิหยู่รู้สึกมีความสุขกับความจริงที่เธอสามารถช่วยเพื่อนของเธอได้
…
ในตอนกลางคืน เจียงลู่ฉีและคนอื่นก็มีช่วงเวลาที่ดีในการหลับนอน
มันเงียบและก็ไม่ได้มีคนมากเกินไป ในตอนแรก เขาก็สามารถได้ยินเสียงของลมหายใจที่บางเบาและคงที่ของหลันซิหยู่และคนอื่น เจียงลู่ฉีก็หลับช้ากว่าคนอื่นโดยไม่รู้ตัว
อย่างไรก็ตาม ในตอนเช้า เขาก็ตกตะลึงกับฝันของเขา เขาก็สามารถที่จะรู้สึกได้เลยว่าหัวใจของเขาเต้นระรัวอย่างมาก
‘เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว!’เจียงลู่ฉีเรียกมันออกมา และหลังจากนั้นข้อมูลทุกประเภทก็ปรากฏขึ้นบนแผงควบคุม ที่จริงแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดูปกติดี แต่เจียงลู่ฉีก็สามารถที่จะจำได้ถึงการเตือนของเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวในฝันของเขา
เจียงลู่ฉีมึนงง เนื่องจากเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวไม่เคยส่งข้อความเตือนมาก่อน มันเป็นการแจ้งเตือนที่เกี่ยวข้องกับความอันตรายถึงชีวิต มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
‘เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว อันตรายประเภทไหนที่นายตรวจมันพบ’เจียงลู่ฉีถาม
‘ไม่รู้จัก’เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวส่งข้อความกลับมา
‘อย่างน้อยนายก็ควรที่จะระบุว่ามันเป็นอันตรายประเภทไหนนะ? มันเป็นซอมบี้กลายพันธุ์? สัตว์ป่ากลายพันธุ์ แม่สัตว์ป่า? หรือพืชกลายพันธุ์กัน?”เจียงลู่ฉีถาม ถ้ามันเป็นรังแมลงขนาดใหญ่จะทำยังไงกัน?
‘ไม่ มันเป็นต้นกำเนิดของอันตรายที่คุกคามถึงตัวตนของเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว’
เจียงลู่ฉีก็ประหลาดใจ หลังจากที่ได้รับข้อมูลนี้ ทำไมกัน? มันเป็นไปไม่ได้! เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวคืออะไรกัน? มันเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อเข้ากับความคิดของเขา ถ้าเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวตกอยู่ในอันตราย มันก็หมายความว่าเขาก็ตกอยู่ในอันตรายด้วยเช่นกัน!
‘ต้นกำเนิดของอันตรายคือะไรกัน!? มันอยู่ที่ไหน?’เจียงลู่ฉีรีบถามออกมา
‘ข้อมูลไม่เพียงพอ มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ชั่วคราวที่จะระบุตำแหน่งของแหล่งที่มา จำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลที่แม่นยำมากกว่านี้’เสียงอันเยือกเย็นของเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวก็ดังขึ้นในความคิดของเขา
‘ปัง!’
เจียงลู่ฉีก็ทุบหมัดของเขาลงไปบนเตียง หลังจากการนอนหลับยามค่ำคืนที่ดี ใครจะไปจินตนาการว่าเขาจะตื่นขึ้นมาด้วยข่าวที่น่าตกใจเช่นนี้กัน?
ในตอนแรก เจียงลู่ฉีก็ตื่นตัวและกังวลใจ แต่เขาก็ค่อยๆใจเย็นลง ตั้งแต่เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวไม่สามาถที่จะระบุตำแหน่งที่มาของแหล่งกำเนิดของอันตรายได้ พวกเขาก็คงอาจจะอยู่ห่างไกลออกไปและด้วยเหตุนี้นี่เองพวกเขาก็จะปลอดภัยชั่วคราว
‘ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร พวกเราทุกคนก็วิวัฒนาการมาค่อนข้างมากแล้ว เพื่อนร่วมทีมของฉันก็ทรงพลังกว่าแต่ก่อนด้วยเช่นกัน’เจียงลู่ฉีพูดกับตัวเอง
เจียงลู่ฉีก็ค่อยๆมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ความสามารถของเขาที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการพัฒนาของ MCV ก็สามารถที่จะทำให้พวกเขามั่นใจได้ว่าพวกเขาจะปลอดภัย
‘แทนที่จะกังวล ฉันควรที่จะโฟกัสกับการอัพเกรดรถมินิบัสให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้จะดีกว่า’เจียงลู่ฉีคิด ถ้ารถมินิบัสสามารถที่จะอัพเกรดเป็นเลเวล 2 ได้แล้ว เขาก็จะไม่จำเป็นต้องกังวลกับเรื่องใด
เจียงลู่ฉีก็กระโดดลงจากเตียงอย่างรวดเร็วและเริ่มที่จะแต่งตัว ในเวลาเดียวกัน เสียงของหยิงก็ดังขึ้นมาจากด้านนอก “พี่เจียง พี่ตื่นหรือยัง?”
เพียงเวลาไม่นานที่เสียงของหยิงหายไป เธอก็เปิดประตูและเดินเข้ามา ร่างกายและหน้าต่างของหยิงนั้นเกือบจะสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่ที่เจียงลู่ฉีได้ปรับแต่งเธอด้วยตัวของเธอเอง โชคร้ายที่เธอมี
สีหน้าที่นิ่งเฉยและไม่มีอารมณ์ความรู้สึก แม้แต่ตอนที่เธอเห็นเจียงลู่ฉีที่ยังไม่สวมกางเกง เธอก็ยังคงใจเย็นอยู่
“พี่เจียง เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวก็ตรวจพบถึงภัยคุกคาม พี่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ไหม?”หยิงถามออกมา เมื่อได้รับการสนับสนุนจากรถ MCV เธอก็รับรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
เจียงลู่ฉีพยักหน้า เขาก็สวมกางเกงของเขาและเหลือบตาไปมองที่หยิงอย่างเขินอาย “เธอช่วย…ออกไปก่อนได้ไหม?”
“โอเคค่ะ”หยิงตอบกลับอย่างสุภาพและเดินออกไป แต่เธอก็ยังคงจดจ้องมาที่เจียงลู่ฉีอย่างเฉยเมย
เมื่อเจียงลู่ฉีถูกจ้องแบบนั้น เขาก็รู้สึกเศร้าสลดเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงพูดเพิ่มเติม “ค่อยว่ากัน ฉันจะจัดการเกี่ยวกับเรื่องของเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวทีหลัง ได้โปรด ปิดประตูก่อนเถอะ”
“โอ ก่อนที่เธอจะไป เธอรู้ไหมว่าเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวเคยพบเจอกับสถานการณ์แบบนี้มาก่อนไหม?”เจียงลู่ฉีถาม ที่จริงแล้วเขาก็รู้เกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวน้อยเกินไป
“ฉันไม่รู้ค่ะ”หยิงส่ายหัว
“เอาเถอะ มีอย่างอื่นอีกไหม?”เจียงลู่ฉีถามเหมือนกับว่าหยิงยังไม่ได้ออกไป เพราะว่าเธอมีบางสิ่งบางอย่างที่ต้องการจะบอกกับเขา
“มันมีใครบางคนกำลังมองหาคุณด้านนอกค่ะ”หยิงตอบ
เจียงลู่ฉีขมวดคิ้ว หยิงก็ไม่รู้จักใครอื่น นอกจากเพื่อนร่วมทีมของพวกเขาและเธอก็ไม่ได้สนใจคนอื่น ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดใจ เมื่อพูดคุยกันกับเธอ
“ใครกัน?”
“คนบางคนที่สวมชุดยูนิฟอร์มทหาร”หยิงตอบกลับ
หลังจากสวมเสื้อเสร็จแล้ว เจียงลู่ฉีก็เปิดประตู แต่เขาก็ตกตะลึง “จางเฮาจิง?”เขาก็เห็นคนหลายคนที่สวมชุดยูนิฟอร์มทหารด้านหน้าประตูของเขาและหนึ่งในพวกเขาก็คือจางเฮาจิง ในเวลาเดียวกัน ผู้นำก็มองมาที่เจียงลู่ฉีอย่างโกรธเคือง
“นายมาสร้างปัญหาที่นี่งั้นเหรอ?”เจียงลู่ฉีจ้องไปที่จางเฮาจิงและถามออกมา เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าจางเฮาจิงจะมาหาพวกเขาเร็วขนาดนี้ เจียงจู้อิงและคนอื่นก็ตื่นขึ้นมากันทั้งหมด โดยคนกลุ่มนั้น ดังนั้นพวกเธอจึงเดินออกมานอกประตูด้วยเช่นกัน
เจ้าหน้าที่ที่อยู่ข้างจางเฮาจิงก็พูดออกมาอย่างฉับพลัน “มันไม่ต้องสงสัยเลยว่านายบ้าไปแล้ว การที่คุยกับพวกเราด้วยท่าทางแบบนั้น ด้านในพื้นที่ปลอดภัยก็หมายความว่านายนั่นแหละเป็นคนสร้างปัญหา!”
จำนวนของทหารก็มีมากกว่าคนของเจียงลู่ฉี แต่เขากลับเป็นคนที่ตั้งคำถามกับพวกเขา พวกเขาก็รู้สึกไม่พึงพอใจกับท่าทางแบบนั้น
“พี่ชายกวน มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดครับ”จางเฮาจิงรีบอธิบายออกมาอย่างเร่งรีบ และหลังจากนั้นเขาก็มองไปที่เจียงลู่ฉีและพูดออกมา “กัปตันเจียง ใช่ไหมครัฐ? คุณเข้าใจผิดเกี่ยวกับความตั้งใจของการมาเยี่ยมของผม ผมอยู่ภายใต้คำสั่งของกัปตันกวนครับ ถึงแม้ว่าเขาจะมีอายุ 20 ปี เขาก็เป็นพันเอก-“
“พวกเราได้รับแจ้งมาจากคนที่มีตำแหน่งสูงว่านายต้องการที่จะตามหาเฮลิคอปเตอร์ พวกเราก็ต้องการที่จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเฮลิคอปเตอร์ด้วยเช่นกัน ดังนั้นพวกเราจึงถูกสั่งให้ไปพร้อมกับคุณ”กัปตันกวนพูดขัดเขาและพูดออกมาอย่างเย็นชา
หลังจากได้รับคำสั่ง จางเฮาจิงก็แจ้งข้อมูลของเจียงลู่ฉีให้กับกัปตันกวน ในความคิดของกัปตันกวนแล้ว เจียงลู่ฉีก็เป็นชายหนุ่มที่ทรงพลังพร้อมกับอารมณ์ที่ย่ำแย่ แต่เขาก็ยังพบว่ามันเข้าใจได้ เมื่อเขาก็เป็นเหมือนกัน มันจึงทำให้กัปตันกวนเริ่มที่จะรู้สึกแย่ๆกับเจียงลู่ฉี ยิ่งแย่ไปกว่านั้น ท่าทางของเจียงลู่ฉีต่อจางเฮาจิงก็ตรงกับคำอธิบาย
เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ กัปตันกวนก็ดูหงุดหงิดมาก
“ร่วมกัน? ได้ พวกเราสามารถที่จะไปด้วยกันได้ แต่ฉันไม่สนใจที่จะร่วมมือกับนาย”เจียงลู่ฉีพูด
ถึงแม้ว่าเจียงลู่ฉีจะคิดว่ากัปตันกวนนั้นเป็นคนที่โอหังอย่างมาก เขาก็ยังตกลง เนื่องจากคำสัญญาของนายพลจาง
กัปตันกวนขมวดคิ้ว เมื่อเขาได้ยินมัน เจียงลู่ฉีปฏิเสธที่จะร่วมมือกับเขาได้ยังไงกัน?
“เยี่ยม! อย่ามาหาพวกเราละกัน ถ้าพวกนายตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากหน่ะ!”กัปตันกวนพูดออกมาอย่างเย็นชา “พวกเราจะเริ่มเดินทางในอีกหนึ่งชั่วโมงต่อจากนี้”
กัปตันกวนไม่จำเป็นต้องร่วมมือกับทีมอื่น เมื่อความแข็งแกร่งของทีมเขาก็เพียงพอแล้ว ถ้าคนระดับสูงไม่ได้สั่งทีมกัปตันกวนให้ทีมเสือดำนำทางทีมเจียงลู่ฉีไป ทีมของเขาจะตอบรับการนำทีมธรรมดาไปได้ยังไงกัน? โชคดีที่เจียงลู่ฉีปฏิเสธการช่วยเหลือของพวกเขา กัปตันกวนก็พึงพอใจกับผลลัพธ์ของมัน
“กัปตันกวน ภารกิจนี้น่าจะเป็นเรื่องง่ายดายสำหรับทีมเสือดำใช่ไหมครับ?”จางเฮาจิงยิ้มและเดินไปหากัปตันกวน ทีมเสือดำก็เป็นทีมชั้นยอดพร้อมกับอนาคตที่สว่างไสว ดังนั้นจางเฮาจิงจึงพยายามอย่างดีที่สุดที่จะทำให้เขาชื่นชอบ
“ภารกิจกู้คืนข้อมูลเป็นภารกิจที่ธรรมดาทั่วไป แต่พวกเรายังต้องทำภารกิจลาดตระเวนบริเวณนั้นอีกด้วย เจ้าหน้าที่ระดับสูงต้องการให้พวกเรากู้คืนพื้นที่บริเวณนั้นด้วย”กัปตันกวนพูด
กับความจริงที่ว่าอีกสองทีมก็ได้ถูกส่งไปตรวจสอบพื้นที่นั้นแล้ว หลังจากการทำภารกิจกู้คืนสำเร็จ กัปตันกวนก็จะพาทีมของเขาไปพบกับอีกสองทีม นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงไม่ได้แคร์เกี่ยวกับเจียงลู่ฉีเลย
“อีกไม่นาน พวกเราก็จะพบกับเฮลิคอปเตอร์ มันเป็นโอกาสที่ดีที่พวกเราจะกู้คืนพื้นที่นั้นก่อนกำหนด ด้วยวิธีนี้ก็จะทำให้พวกเราก็จะทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยม”จางเฮาจิงพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม
จางเฮาจิงก็เข้าร่วมในภารกิจนี้ด้วยเช่นกัน ถ้าการกระทำของพวกเขาเป็นผลดี เขาก็จะได้รับผลประโยชน์และสถานะทางสังคมของเขาก็จะเพิ่มมากขึ้น จางเฮาจิงไม่มีความสนใจที่จะต่อสู้ในแนวหน้า เขาแค่ต้องการที่จะเป็นเพื่อนกับบุคคลที่ทรงอำนาจและใช้ความสัมพันธ์ของพวกเขาพัฒนาอาชีพการงานของเขา ความใฝ่ฝันของเขาก็คือการทำงานในสำนักงานในอนาคต ด้วยเหตุนี้นี่เองเขาจึงริเริ่มที่จะเข้าร่วมภารกิจ ไม่ต้องพูดอีกว่า ภารกิจนี้มันเป็นภารกิจที่ง่ายดาย ในเวลาเดียวกัน เจียงลู่ฉีก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เขาตัดสินใจที่จะเข้าร่วม…
‘หลันซิหยู่เป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติด้านพลังจิตที่ทรงพลัง…ถ้าฉันโน้มน้าวเธอว่าฉันดีกว่าเขาแล้วละก็มันก็จะเยี่ยมไปเลย!’จางเฮาจิงคิด และหลังจากนั้นเขาก็หันกลับไปมองดูตึกที่เขาอาศัยอยู่
หลังจากที่เจียงลู่ฉีและหลันซิหยู่เดินทางจากไปเมื่อวาน มันก็ไม่ได้ใช้เวลานานเท่าไหร่ที่เขาตระหนักได้ว่าหลันซิหยู่นั้นทรงพลังมากขนาดไหน ไม่เพียงแต่เธอเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ แต่เธอยังเป็นประเภทที่หาได้ยากมากและความสามารถพิเศษของเธอก็ยังแข็งแกร่งเป็นอย่างมากอีกด้วย