My MCV and Doomsday - ตอนที่ 512
Chapter 512: ลอบเข้าไปด้านใน
“มันน่าหงุดหงิดจริงๆ”หลันซิหยู่ขมวดคิ้ว
เจียงลู่ฉีแทบจะไม่เคยเห็นหลันซิหยู่โกรธมาก่อน ในครั้งนี้ ดูเหมือนว่าหลันซิหยู่จะไม่พอใจกับจางเฮาจิงเป็นอย่างมาก ที่ซึ่งเป็นคนเตะเจียงเซี่ยวฉู่และพ่อแม่ของเธอออกจากบ้าน รวมทั้งขโมยอาหารของพวกเธอ หลันซิหยู่ผ่านการต่อสู้ที่ยากลำบากและเสี่ยงชีวิตเพื่อที่จะได้ของเหล่านั้นมา อย่างไรก็ตาม ของเหล่านั้นก็ถูกแย่งไปด้วยคนที่น่ารังเกียจนั่น! เมื่อไหร่ก็ตามที่หลันซิหยู่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอก็รู้สึกป่วยและรังเกียจ
“มันน่าเศร้าที่พวกเราไม่สามารถเข้าไปในโรงพยาบาลได้” หลันซิหยู่พูดด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย
เธอรู้ว่าจางเฮาจิงกล้าที่จะทำตัวแบบนั้นได้ เพราะว่าเขารู้ดีว่า เขาจะปลอดภัยในโรงพยาบาล แน่นอนว่าทีมฉี่หยิงก็ไม่สามารถที่จะวิ่งเข้าไปในโรงพยาบาลตรงๆได้
เจียงลู่ฉีจำเป็นที่จะต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยเพื่อที่จะเก็บรวบรวมวัตถุดิบที่จำเป็น ปกติแล้ว พวกเขาจำเป็นที่จะต้องไปหานายพลจางเพื่อที่จะให้เขาช่วยพวกเขา
“ลืมมันไปเถอะ…” หลันซิหยู่ถอนหายใจ
เจียงลู่ฉีก็ตบไหล่เธอและพูด “ตราบเท่าที่พวกเราไม่ถูกค้นพบ พวกเราก็สามารถที่จะทำมันได้ใช่ไหมละ?”
“อ๊า?” หลันซิหยู่มึนงง แต่เจียงลู่ฉีก็ยิ้มออกมา
ที่จริงแล้ว มีเพียงจางเฮาจิงเท่านั้นที่คิดว่าพวกเขาไม่สามารถที่จะเข้าไปในโรงพยาบาลได้ เจียงลู่ฉีนั้นก็มีวิธีมากมายหลายวิธีที่จะเข้าไปด้านใน ถ้าเขาต้องการที่จะเข้าไป
ตกดึก…
ตึกบางตึกในพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิงก็ยังเปิดไฟอยู่ แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ต่างถูกหลบซ่อนไว้ในความมืด
โรงพยาบาลเจียงหนิงก็เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่พึ่งก่อตั้งในพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิง ด้วยเหตุนี้นี่เอง ตึกและสิ่งอำนวยความสะดวกยังคงเป็นของใหม่ทั้งหมด ตรงประตู มันก็มีทหารที่ยืนเฝ้ายามอยู่ ในขณะที่มีกลุ่มทหารคอยเดินลาดตระเวนไปมา ต่อจากโรงพยาบาลก็เป็นค่ายทหาร ถ้าใครก็ตามมองไปที่ค่ายจากที่ไกลๆ พวกเขากจะสามารถสัมผัสได้ถึงความตึงเครียดได้
ในตรอกซอกซอยที่มืดมิดที่อยู่ข้างโรงพยาบาลก็มีรถมินิบัสของเจียงลู่ฉีจอดอยู่ มันไม่มีไฟที่ส่องสว่างอยู่เลย ซึ่งมันทำให้รถมินิบัสนั้นหลบซ่อนได้อย่างแนบเนียน พวกมันก็แทบจะไม่สามารถถูกมองเห็นได้เลยจากด้านนอก
ฉากกั้นระหว่างห้องคนขับและห้องโดยสารก็แทบจะมืดสนิท หยิงก็นั่งอยู่ที่นั่งคนขับอย่างเงียบงัน เธอนั้นก็มองผ่านกระจกหน้ารถออกไปด้วยดวงตาที่ใสสว่างของเธอ ความคิดของเธอก็จมอยู่กับกล้องของรถที่กำลังบันทึกวิดิโอจากด้านนอก เธอก็กำลังเฝ้าดูพื้นที่รอบๆพวกเธอ
เจียงลู่ฉี เจียงจู้อิง หลันซิหยู่ หลี่ยู่ซินและหลิงก็กำลังนั่งอยู่บนโซฟา ทันใดนั้นเอง เจียงลู่ฉีก็มองออกไปนอกหน้าต่างและหลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้น “มันถึงเวลาแล้ว ซิหยู่ เธอเริ่มได้เลย”
“โอเคค่ะ” หลันซิหยู่พยักหน้า และหลังจากนั้นสายตาของเธอก็จ้องไปที่รถมินิบัสของเจียงลู่ฉี ดวงตาสีเทาของหลันซิหยู่ก็เปลี่ยนไปเป็นเหมือนกับทางช้างเผือก ซึ่งสามารถที่จะทำให้คนอื่นนั้นลุ่มหลงไปได้ง่ายๆ วิสัยทัศน์จิตวิญญาณของเธอก็ขยายไปยังโรงพยาบาล พวกมันก็มองผ่านทหารที่เฝ้ายามอยู่และก็รีบแพร่กระจายเข้าไปหาโรงพยาบาล มันเหมือนกับลูกศรที่มองไม่เห็น มันก็ถูกยิงตรงไปยังประตูของโรงพยาบาล
“ฉันสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณของอีกคนหนึ่งค่ะ” หลันซิหยู่ก็พูดออกมา
“อย่าฝืนตัวเองละ” เจียงลู่ฉีพูดออกมา
ในวิสัยทัศน์จิตวิญญาณของหลันซิหยู่ พลังงานที่มองไม่เห็นก็สแกนไปทั่วทั้งโรงพยาบาล พลังงานนี้ก็พุ่งผ่านคนไข้และหมอทุกคน แต่ก็ไม่มีใครในพวกเขาที่สามารถสัมผัสถึงมันได้
หลันซิหยู่ก็หยุดชั่วขณะและพูดออกมา “มันไม่สำคัญหรอกค่ะ”
วิสัยทัศน์จิตวิญญาณของหลันซิหยู่ก็เหมือนกับแมวที่พริ้วไหว พุ่งผ่านเข้าไปท่ามกลางพลังงานที่เทียบไม่ได้ ในโรงพยาบาล ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติด้านพลังจิตที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการป้องกันโรงพยาบาล ก็สแกนไปรอบๆอย่างละเอียด แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะสัมผัสได้ถึงตัวตนของหลันซิหยู่ จิตวิญญาณของหลันซิหยู่นั้นหนาแน่นสูงมาก ซึ่งหดตัวเหมือนกับลำแสงและพุ่งผ่านช่องว่างเล็กๆไป
ถึงแม้ว่าหลันซิหยู่จะดูอ่อนแอมากก็ตามที เธอก็มีพลังจิตที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ในช่วงที่เธอพูดคุยกันอยู่นั้นเอง หลันซิหยู่ก็จดจ่อไปที่ตำแหน่งของผู้มีพลังเหนือธรรมชาติด้านพลังจิตคนนั้น ซึ่งเขาก็อยู่ในห้องพยาบาล และหลันซิหยู่ก็ตรวจพบกลุ่มแสงจิตวิญญาณที่เปล่งประกายออกมา
“พี่เจียงคะ ฉันพบจางเฮาจิงแล้วค่ะ” หลันซิหยู่พูดออกมาอย่างเย็นชา
“ไปกันเถอะ” เจียงลู่ฉีก็ยืนขึ้นในทันที
เมื่อประตูเปิดออก เจียงลู่ฉี เจียงจู้อิง และหลิงก็รีบเดินออกมาจากรถมินิบัส หลังจากนั้นพวกเขาก็กระโดดขึ้นไปบนกำแพงที่อยู่ด้านหน้าพวกเขา
ในชั่วพริบตา ทิวทัศน์ใหม่ก็ปรากฏขึ้นในความคิดของพวกเขาผ่านการแบ่งปันวิสัยทัศน์ของหลันซิหยู่ ทิวทัศน์นี้ก็มาจากห้องของจางเฮาจิง แต่พื้นหลังก็เป็นฉากสีเทา พวกเขาก็สามารถที่จะมองเห็นแสงไฟที่ส่องประกายออกมามากมาย และรู้ว่าระยะห่างระหว่างพวกเขามันไกลแค่ไหน
“หื้อ? แสงสีน้ำเงินคืออะไร?” เจียงจู้อิงถามออกมา มันมีแสงสีน้ำเงินเพียงแค่สามจุด เมื่อไหร่ก็ตามที่เจียงจู้อิงขยับตัว หนึ่งในแสงสีน้ำเงินก็เคลื่อนไหวไปพร้อมๆกัน
“ฉันใช้มันในการที่จะระบุว่าเป็นจู้อิง ฉันก็สามารถที่จะเปลี่ยนรูปร่างของเธอได้อีกด้วย” หลันซิหยู่อธิบาย เมื่อเธอพูดออกมา แสงสีน้ำเงินสามแสงก็เปลี่ยนเป็นแสงรูปหัวใจสามดวง
“ว้าว ฉันชอบมันจริง” เจียงจู้อิงพูดออกมาอย่างตื่นเต้น
พูดตรงๆแล้ว การแบ่งปันวิสัยทัศน์จิตวิญญาณก็มาจากพลังงานจิตใจที่หลันซิหยู่ใช้มันในความคิดของพวกเธอ มันเป็นเหตุผลที่เธอสามารถที่จะเปลี่ยนรูปร่างของมันได้ เธอก็จำเป็นที่จะต้องใช้พลังงานเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น เมื่อพวกเธอไม่จำเป็นที่จะต้องล่าสัตว์ป่ากลายพันธุ์หรือซอมบี้ หลันซิหยู่ก็สามารถที่จะใช้มันเล่นสนุกได้
“พี่ชาย พี่กลายเป็นหัวใจที่เต้นได้แล้วนะ” เจียงจู้อิงพูด
“เงียบไปเถอะ” เจียงลู่ฉีตอบกลับ
พวกเขาก็ใช้จุดบอดและมุมอับเพื่อที่หลบทีมเฝ้ายาม หลังจากผ่านไปสักพัก พวกเขาก็เข้าไปในตึกโรงพยาบาลผ่านหน้าต่างได้
“ฉันจะใช้พลังล้อมรอบผู้มีพลังเหนือธรรมชาติและทำให้เขาตกอยู่ในภาพลวงตา พี่ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับพวกเขาหรอก มุ่งตรงไปได้เลยค่ะ” หลันซิหยู่พูด
“ภาพลวงตา? เธอต้องการที่จะใส่พลังจิตของเธอลงไปในตัวเขางั้นเหรอ?” เจียงลู่ฉีถามออกมาอย่างประหลาดใจ ในเมื่อหลันซิหยู่ไม่เคยที่จะทดลองทำอะไรแบบนั้นมาก่อน
“ฉันอยากที่จะลองดูสักครั้งหนึ่ง ตราบเท่าที่ฉันควบคุมพลังงาฃนของฉันอย่างแม่นยำแล้วละก็ มันก็จะโอเคดี”
ในขณะที่นั่งอยู่บนโซฟาบนรถ หลันซิหยู่ก็หายใจเข้าลึกๆ และเมื่อเธอกระพริบตา ทุกคนก็กำลังพัฒนา หลันซิหยู่ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องการที่จะประสบความสำเร็จด้วยความแข็งแกร่งของเธอเอง
“เชื่อฉันเถอะ” หลันซิหยู่พูด
“เยี่ยม” เจียงลู่ฉีก็ไม่มีลังเลใจ “ไปกันเถอะ”
มันก็ไม่ได้มีคนมากเท่าไหร่ที่ยืนอยู่บนทางเดินตอนกลางคืน ห้องพยาบาลในโรงพยาบาลก็ไม่ได้มีคนมากมายสักเท่าไหร่ ทหารที่ได้รับบาดเจ็บก็อาศัยอยู่ในห้องพยาบาล บนชั้นห้าของแผนกผู้ป่วยนอก พยาบาลสองคนก็กำลังนั่งอยู่ตรงสถานีพยาบาล ทันใดนั้นหนึ่งในพยาบาลก็รู้สึกเหมือนกับมีเงามาปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของเธอ เธอก็เงยหน้าขึ้นไปและมองไปรอบๆ แต่มันก็ไม่มีอะไรอยู่บทางเดิน
“หื้อ?” พยาบาลก็กระพริบตาและก้มหัวทำงานต่อ
ในห้องพยาบาลบนชั้นห้า จางเฮาจิงก็กำลังนอนอยู่บนเตียงและผู้หญิงของเขาก็นั่งอยู่ข้างเตียง ผู้หญิงคนนั้นก็หยิบกล่องอาหารที่ดูหรูหราออกมา
“เธอเตะพวกเขาออกไปแล้วเหรอ?” จางเฮาจิงถามออกมา
“ไม่ต้องกังวลไปหรอก ฉันปล่อยพวกเขาออกไปและก็โยนเสื้อผ้าเน่าๆไปให้พวกเขา พวกเขาก็ยังต้องการที่จะเข้ามาด้านในและจะมาเอาสัมภาระของพวกเขากลับมา แต่ฉันไม่อนุญาติให้พวกเขาเข้ามา ไม่ใช่ว่านายบอกฉันว่านายไม่ต้องการที่จะพบกับพวกเขาอีกแล้วงั้นเหรอ?” ผู้หญิงคนนั้นพูดและยิ้มออกมา
“ใช่ เธอพูดถูกแล้ว ไม่สำคัญว่าพวกเขาเป็นใคร ตราบเท่าที่พวกเขาเป็นคนรู้จักกับเจียงลู่ฉี ฉันก็ไม่ต้องการที่จะยุ่งกับพวกเขา” จางเฮาจิงพูดออกมาอย่างเย็นชา
“ฉันเสียขาไปก็เพราะเขา!” จางเฮาจิงก็มองไปที่ผ้าห่มอย่างเศร้าสร้อย เขาก็อดที่จะร้องออกมาไม่ได้ หลังจากนั้นเขาก็ทุบหมัดลงไปบนเตียงจนทำให้เตียงสั่นไปมา
ผู้หญิงคนนั้นตกตะลึง หลังจากนั้นจางเฮาจิงก็กลับมา เขาก็เต็มไปด้วยผ้าพันแผล แต่ขาของเขาที่หายไปก็ไม่สามารถที่จะรักษากลับมาได้
“แต่เขาก็จะไม่ได้ดีไปกว่ากัน! ในตอนแรกฉันแค่ต้องการที่จะให้หลันซิหยู่ทิ้งเขาไปและมาหาฉันแค่นั้นเอง… มันเป็นความผิดของเขาทั้งหมดเลยด้วยซ้ำไป!” จางเฮาจิงก็คำรามออกมา
“รถมินิบัสของเจียงลู่ฉีทรงพลังขนาดนั้นเลยเหรอ? เขาสนใจเกี่ยวกับรถมินิบัสนั่นจริงๆเหรอ? แล้วนายพลจางละ?” หญิงสาวคนนั้นถามออกมาอย่างกังวลใจ ปกติแล้ว เธอก็หวังว่าหลันซิหยู่และเจียงลู่ฉีจะตกอยู่ในปัญหา แต่เธอก็กังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่จะตามมาที่เธอขโมยของเจียงเซี่ยวฉู่ไป
“ใช่ รถมินิบัสของเขาทรงพลังมาก ดังนั้นชายคนนั้นจึงสนใจมัน สำหรับนายพลจางแล้ว เขามีหน้าที่รับผิดชอบในการปกป้องพื้นที่ปลอดภัยและผลประโยชน์ ดังนั้นเขาจะต้องดูภาพรวมของสถานการณ์แล้วค่อยตัดสินใจ แม้ว่าเขาจะต้องการปกป้องเจียงลู่ฉีก็ตามที เขาก็ไม่สามารถที่จะทำมันได้หรอก ไม่ต้องพูดเลยว่ามันจะมีผู้บังคับบัญชาและกรรมการกองทัพอีกกี่คนที่จะแย้งกับเขา!” จางเฮาจิงพูดออกมาอย่างเย็นชา
“นอกจากนี้แล้ว ถ้าพวกเขาไม่สนใจเจียงลู่จริงๆ ทำไมพวกเขาถึงส่งคนไปปกป้องฉันอีกละ?” จางเฮาจิงพูดเพิ่มเติม
ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติด้านพลังจิตก็เป็นผู้ป่วยด้วยเช่นกัน แต่เขาก็ถูกเคลื่อนย้ายมาใกล้กับห้องจางเฮาจิงโดยเฉพาะ เขามีหน้าที่ป้องกันโรงพยาบาลทั้งโรงพยาบาล โดยใช้พลังจิตของเขา
ในความจริงแล้ว จางเฮาจิงก็ยังคงกลัวเจียงลู่ฉีแป็นอย่างมาก เมื่อเขาตัดสินใจที่จะทรยศเจียงลู่ฉี เขาก็แจ้งเงื่อนไขที่เขาควรที่จะได้รับการปกป้อง ด้วยเหตุนี้ เขาจึงถูกส่งมายังโรงพยาบาลเจียงหนิง ซึ่งถูกปกป้องอยู่ตลอดเวลา มันมีคนสองคนที่อยู่ในห้องของเขา ที่คอยปกป้องเขาอยู่ตลอดเวลา ที่จริงแล้วชายคนนั้นก็รู้สึกว่ามันแปลกประหลาด ที่จางเฮาจิงรู้สึกหวาดกลัวเจียงลู่ฉีมากขนาดนี้
หลังจากที่ได้รับการปกป้อง จางเฮาจิงก็ใจเย็นลง เขาก็ไม่เชื่อว่าเจียงลู่ฉีจะสามารถฆ่าเขาในสภาพแวดล้อมแบบนี้ได้
จางเฮาจิงก็มองไปที่กล่องอาหารที่หญิงสาวนำออกมา และถามออกมา “เนื้อกลายพันธุ์ตุ๋นและผักงั้นเหรอ?”
“มันอร่อยมากจริงๆ ถ้าพวกเราปล่อยให้เจียงเซี่ยวฉู่เก็บของอร่อยพวกนี้ไว้ มันก็เสียของมาก ฉันตื่นเต้นมากเลยที่จะเอาของเหล่านี้มาที่นี้ ในเมื่อฉันไม่มีโอกาสที่จะได้ลิ้มลองมัน” หญิงสาวคนนั้นพูดออกมาและก็เปิดกล่องอาหาร
ทันใดนั้น กลิ่นที่หอมอร่อยก็อบอวนไปทั่วห้อง จางเฮาจิงก็ยิ้มออกมา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร มันเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดที่มีคนเคาะประตูขึ้นมา