My MCV and Doomsday - ตอนที่ 517
Chapter 517: อันตราย
หวันหลานหงุดหงิดเจียงลู่ฉีอย่างมาก เธอนั้นเหมือนกับพวกอันธพาลที่พึ่งจะมีอำนาจและกำลังก่อความวุ่นวายกับมัน
ก่อนวันโลกาวินาศ เจียงลู่ฉีก็เคยพบกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่คล้ายเธอ – เธอเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เธอพึ่งจะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง และได้รับความรับผิดชอบและอำนาจมากยิ่งขึ้น แต่เธอก็มีลักษณะนิสัยย่ำแย่ เธอปฏิบัติกับคนอื่นอย่างเลวร้าย และสั่งการลูกน้องของเธอ ให้ไปทำงานจิปาถะไปเรื่อย
จากมุมมองของเจียงลู่ฉีแล้ว หวันหลานก็เป็นคนที่มีนิสัยแบบนั้น เมื่อเขาไม่ได้ทำให้เธอพอใจ หวันหลานก็สร้างอุปสรรคมาให้กับเขา เจียงลู่ฉีก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าเธอเอาความมั่นใจแบบนั้นมาจากไหน แต่เขาปฏิบัติกับเธออ่อนโยนมากเกินไป
หวังฉี่ชีกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง และพยายามจะโน้มน้าวกับเขา แต่หลังจากที่มองไปที่ดวงตาของเจียงลู่ฉีแล้ว หัวใจของเธอก็เต้นระรัว มันจึงทำให้เธอก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมาเลย ยังไงก็ตาม แผนกนี้ก็ยังเป็นของพื้นที่ปลอดภัย ถ้าใครก็ตามกล้าที่จะสร้างปัญหา กองทัพก็จะส่งกองกำลังมาจับตัวปัญหา ซึ่งมันก็ไม่คุ้มมากพอที่จะมีเรื่องกับคนแบบหวันหลาน
หวังฉี่ชีรู้สึกไม่สบายใจและก็เป็นกังวลกับเจียงลู่ฉีและทีมของเขา เธอก็ยื่นมือของเธอไปจับแขนเสื้อของเจียงลู่ฉี และก็มองเขาด้วยท่าทางอ้อนวอน “ได้โปรดเถอะค่ะ ให้ฉันลองหาทางอื่นดู ฉันจะช่วยคุณในการได้วัตถุดิบเหล่านั้นอย่างแน่นอนค่ะ แบบนี้ดีกว่าไหมคะ? คุณเจียงลู่ฉี?”
ก่อนที่เจียงลู่ฉีจะสามารถตอบอะไรได้ เสียงไซเรนแจ้งเตือนของพื้นที่ปลอดภัยก็ดังขึ้น วินาทีต่อมา ก็มีเสียงกรีดร้องดังออกมาจากด้านนอกประตู
“เกิดอะไรขึ้น?” หวังฉี่ชีตกตะลึงกับเสียงกรีดร้อง
‘คำเตือน! ตรวจพบการไหลเวียนพลังงานกลายพันธุ์’ เจียงลู่ฉีก็ได้รับการแจ้งเตือนจากเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว
เขาก็จับไปที่ไหล่ของหวังฉี่ชีและพูดออกมา “เธอรอที่นี่ก่อนเถอะ ฉันจะออกไปดูข้างนอกเอง ว่ามันเกิดอะไรขึ้น” หลังจากที่เขาพูดเสร็จ เจียงลู่ฉีก็วิ่งตรงไปทางประตู
“เจียงลู่ฉี!” หวังฉี่ชีก็ตะโกนอย่างกังวลใจ
เมื่อเจียงลู่ฉีหายไปจากสายตาของหวังฉี่ชี เธอก็ลังเลอยู่ชั่วครู่หนึ่ง แต่เธอก็ตัดสินใจที่จะรออยู่ที่เดิม
‘เมื่อวาน พวกเราได้ค้นพบเงาแปลกประหลาด …มันมาถึงพื้นที่ปลอดภัยแล้วงั้นเหรอ?’ หวังฉี่ชีคิดอย่างกังวลใจ
เจียงลู่ฉีก็กังวลเช่นเดียวกัน เมื่อเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับมัน ที่จะเคลื่อนที่ได้ไวขนาดนั้น ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเห็นเงาลึกลับนั่น มันก็ยังห่างจากพื้นที่ปลอดภัยอยู่ไกล ก่อนที่มันจะถึง พวกเขาก็คงมีเวลาสักพักหนึ่งในการเตรียมตัว แต่ถ้าเจ้าหลุมดำมาถึงเร็วกว่าที่คาดไว้แล้วละก็ ถ้างั้นทุกคนก็คงจะตกอยู่ในอันตราย!
เจียงลู่ฉีกังวลอย่างมาก เมื่อเขายังไม่ได้อัพเกรดรถมินิบัสเลยด้วยซ้ำ รถมินิบัสในตอนนี้จะสามารถทนทานต่อหลุมดำไหวหรือไม่กันนะ?
เมื่อเจียงลู่ฉีวิ่งออกมาจากตึก เขาก็เห็นคนจำนวนมากที่อยู่ด้านนอกต่างกรีดร้องอย่างเสียขวัญ ในขณะที่กำลังวิ่งตรงมาทางตึกของแผนกโลจิสติกส์ ก่อนหน้านี้คนเหล่านี้ต่างยกสินค้าอยู่ด้านนอก และตอนนี้พวกเขาทั้งหมดต่างพยายามที่จะหลบหนี
เจียงลู่ฉีก็มองไปรอบๆ และก็ได้ยินเสียงร้องด้านบนหัวของเขา เมื่อคนธรรมดาทั่วไปที่กำลังวิ่งหนีเอาชีวิตรอดได้ยินเสียง พวกเขาก็กรีดร้องออกมาอย่างตื่นตระหนก และก็ก้มหัวของพวกเขาลงต่ำ เจียงลู่ฉีก็ได้รับผลกระทบจากเสียงประหลาดนี้ด้วยเช่นกัน แต่ไม่เหมือนคนธรรมดาทั่วไป พวกเขาอ่อนแอกว่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติทั่วไป ดังนั้นผลกระทบจากเสียงกรีดร้องจึงหนักกว่ามาก ด้วยเหตุนี้นี่เอง พวกเขาจึงล้มลงบนพื้นและทำเพียงแต่กุมหัวของพวกเขาเอาไว้ และกลิ้งอยู่กับพื้น
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เงาสีดำขนาดใหญ่ก็ปกคลุมท้องฟ้าด้านบนจตุรัส และพวกมันก็พุ่งต่ำลงไป
“อ๊า! ช่วยด้วย” คนที่กำลังวิ่งหนีอยู่ก็เร่งความเร็วขึ้น ในขณะที่คนที่อยู่บนพื้นก็พยายามในการลุกขึ้น ทีละคน ทีละคน และร้องขอความช่วยเหลืออย่างสิ้นหวัง
เงาดำเหล่านั้นก็คือนกกลายพันธุ์ขนาดใหญ่ เมื่อมันจับคนที่โชคร้ายได้ พวกเขาก็จะถูกบดขยี้กลางอากาศ และหลังจากนั้นก็ถูกกลืนกินเข้าท้องของพวกมันไป
“พวกมันเป็นนกที่โจมตีพวกเรา ตอนที่พวกเราอยู่ใกล้กับเฮลิคอปเตอร์!” เจียงลู่ฉีก็อุทานออกมา มันเหมือนกับว่านกเหล่านั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของหลุมดำ
ทุกครั้งที่นกกลายพันธุ์พุ่งลงมา พวกมันก็ส่งเสียงร้องดัง พวกมันก็รวดเร็วอย่างมาก แม้แต่สายตาของผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ ก็ยังไม่สามารถมองตามได้ทัน ไม่ต้องพูดถึงคนธรรมดาทั่วไปเลย ทุกคนที่อยู่ด้านใต้นกกลายพันธุ์ ก็เหมือนกับแกะที่รอโดนเชือด โดยไม่มีโอกาสต่อต้านเลยแม้แต่น้อย
ทันใดนั้น ด้านนอกประตูของตึกก็มีเสียงปืนดังขึ้น ในเวลาเดียวกัน นกกลายพันธุ์ที่กำลังจะคว้าคนธรรมดาทั่วไปสองคนก็สูญเสียการทรงตัวและกระแทกเข้ากับพื้น เลือดมันก็สาดกระจายไปทั่วทุกแห่งหน!
ชายหนุ่มสองคนนั้นก็ตกตะลึงอย่างมาก เมื่อพวกเขาพึ่งจะรอดตายมาได้ พวกเขาก็จ้องไปที่สัตว์ประหลาดด้วยดวงตาที่เปิดกว้าง และเห็นหลุมอันนองเลือดปรากฏขึ้นบนปีกของสัตว์ประหลาด ขนาดของสัตว์ประหลาดบินได้ก็คล้ายคลึงกับรถบรรทุกธรรมดาทั่วไป
ถึงแม้ว่าทุกคนจะตื่นตระหนก พวกเขาก็ประหลาดใจอย่างมากด้วยเช่นกัน พวกเขาก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าใครเป็นคนยิง
“วิ่ง!” เจียงลู่ฉีตะโกนออกมา
เมื่อเจียงลู่ฉีได้ยินเสียงของเขา และเห็นเจียงลู่ฉี พวกเขาก็รู้ทันทีว่าเขาคือคนที่ช่วยพวกเขาไว้
เจียงลู่ฉีก็ใช้งานโดเมนสมองของเขาแล้ว เขาก็จ้องไปบนท้องฟ้าโดยไม่มีความกลัวเลยแม้แต่น้อย ในสายตาของเขาแล้ว นกกลายพันธุ์มันช้าอย่างมาก ตราบเท่าที่เขามีพลังงานมากพอที่จะใช้งานโดเมนได้ เขาก็สามารถที่จะมองเห็นพวกมันทัน ในตาของเขาแล้ว ความเร็วอันน่าตื่นตระหนกของมันก็ไม่ได้พิเศษพิโสอะไรเลย
เขาก็ยิงปืนออกไปอีกครั้งหนึ่ง และนกกลายพันธุ์ก็ล้มกระแทกลงไปบนพื้นอีกครั้งหนึ่ง! ครั้งนี้ ฝูงชนก็รีบลุกขึ้นจากพื้นและวิ่งตรงไปทางตึกอย่างสุดชีวิต พวกเขาก็ไม่สนใจแล้วว่าสัตว์ประหลาดมันกำลังบินอยู่บนหัวของพวกเขาหรือไม่
จากรถมินิบัสของเจียงลู่ฉี ซึ่งจอดอยู่ตรงจตุรัส ปากกระบอกปืนสีดำก็งอกออกมา หลังจากนั้น มันก็เริ่มต้นยิงนกกลายพันธุ์ที่กำลังล่าเหยื่ออยู่ด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าปืนใหญ่สุญญากาศจะต้องใช้เวลาในการชาร์จพลังงานให้เต็ม มันก็ยังสามารถที่จะใช้ยิงนกกลายพันธุ์ให้มันเปลี่ยนทิศทางออกไป ให้มันกระแทกกับพื้นแทน
เมื่อเจียงลู่ฉีเริ่มต้นยิงปืนต่อ เขาก็ตกตะลึงแทบตาย เนื่องจากว่าเขาเห็นจุดสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังบินอยู่บนพื้นที่ปลอดภัย เงาสีดำก็โฉบลงด้านล่างอย่างต่อเนื่อง
เสียงปืนและเสียงกรีดร้องก็ดังสนั่นไปทั่วพื้นที่ปลอดภัย แผนกโลจิสติกส์ก็เป็นอีกแผนกหนึ่งที่โดนพวกมันจู่โจม
หลังจากเจียงลู่ฉีฆ่านกกลายพันธุ์ไปอีกสามตัว พวกมันก็ดูเหมือนจะเรียนรู้ พวกมันก็เริ่มเปลี่ยนวิธีการโจมตี แทนที่จะโจมตีผู้รอดชีวิต พวกมันก็เริ่มต้นโจมตีตึกของแผนกโลจิสติกส์แทน และพวกมันก็พุ่งเข้าใส่หน้าต่างของตึกอย่างดุร้าย
หน้าต่างบานหนึ่งก็ถูกบดขยี้ทันทีโดยเหล่าสัตว์ประหลาดเหล่านั้น และเศษกระจกจำนวนมากก็กระเด็นไปทั่วทุกทิศทาง ผู้รอดชีวิตบางคนที่พึ่งจะวิ่งมาด้านหน้าตึกก็ถูกเศษตึกหล่นทับและได้รับบาดเจ็บ พวกเขาก็กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แล้วเลือดก็ไหลออกมาอย่างกับแม่น้ำ
“ไปลากพวกเขาเข้าไปข้างในเร็ว!” เจียงลู่ฉีก็สั่งการคนที่อยู่ข้างเขา
มันมีทหารเพียงแค่หกคนเท่านั้นที่อยู่ที่นี่ และพวกเขาก็ต่างยิงปืนอยู่ข้างเจียงลู่ฉีอยู่ตลอดเวลา หลังจากได้รับคำสั่งของเจียงลู่ฉี พวกเขาก็รีบวิ่งออกไปแบกคนเจ็บเข้ามาด้านใน เมื่อคนเจ็บทั้งหมดถูกเคลื่อนย้ายมาด้านในตึก รถมินิบัสก็พุ่งตรงมาทางประตูของตึก หลังจากนั้น ตัวรถก็บังประตูไว้ ด้านบนของรถมินิบัสนั้นใหญ่และทนทาน ซึ่งมันก็สร้างที่พักกำบังให้กับพวกเขา ด้วยเหตุนี้ นกกลายพันธุ์ก็ไม่สามารถที่จะโจมตีผู้รอดชีวิตได้อีกต่อไป
นกกลายพันธุ์ก็บินอยู่บนอากาศอย่างโกรธแค้นและกรีดร้องเสียงแหลมออกมา ผู้รอดชีวิตก็สามารถที่จะได้ยินเสียงกรีดร้องของมัน ซึ่งมันก็สร้างความหวาดกลัวให้กับพวกเขา
“รอด”
“ฉันยังรอด!”
คนส่วนมากที่รวมตัวกันอยู่ที่นี่ต่างไม่เชื่อว่าพวกเขายังมีชีวิตรอด
“พี่ชาย ขอบคุณมากจริงๆ ขอบคุณมากครับ!” ทหารคนหนึ่งก็แสดงความเคารพต่อเจียงลู่ฉี
การปรากฏตัวของสัตว์ประหลาดเหล่านั้นมันฉับพลันเกินไป นอกจากเจียงลู่ฉีแล้ว พวกเขาทุกคนต่างตกตะลึง นอกจากนี้แล้ว มันเห็นได้อย่างเด่นชัดเลยว่า การยิงปืนที่แม่นยำของเจียงลู่ฉีนั้นโดดเด่นมาก เจียงลู่ฉีก็ได้ช่วยพวกเขาไว้ทุกคน ทหารคนนี้ก็คือผู้นำที่มีหน้าที่รับผิดชอบป้องกันพื้นที่บริเวณนี้ สมาชิกทั้งหมดของเขาก็ต่างต่อสู้และคอยดูสถานการณ์ภายนอก
นกกลายพันธุ์ก็โจมตีชั้นบนของตึกอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นคนจำนวนมากจึงกรีดร้องและวิ่งลงมาข้างล่าง ชั้นล่างก็เต็มไปด้วยผู้คน พวกเขาแทบทุกคนต่างมองเจียงลู่ฉีอย่างนับถือ เมื่อเจียงลู่ฉีกำลังคุยกับกัปตันทีมอยู่ ก็ไม่มีใครกล้าที่จะยุ่งกับเขา
หวังฉี่ชีก็อยู่ตรงนั้นด้วยเหมือนกัน ถึงแม้ว่าเธอจะรออยู่ที่เดิม เธอก็เห็นนกกลายพันธุ์โจมตีอย่างดุร้าย โชคยังดีที่เจียงลู่ฉีอยู่ที่นั่นและคอยยิงพวกมันบางตัวลงไป เธออาจจะยืนอยู่ห่างจาก ‘สนามรบ’ ก็ตามที แต่เธอก็ยังคงรู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นระรัว เธอก็ยังคงกังวลอยู่ดี และยังไม่รู้สึกโล่งใจเลยด้วยซ้ำ ทุกครั้งที่เธอเห็นเงาดำที่พุ่งไปมา เธอก็รู้สึกว่ายังมองเห็นพวกมันไม่ชัด ไม่เพียงแต่เจียงลู่ฉีจะมองเห็นมัน แต่เขายังยิงพวกมันลงมาได้อีกด้วย เธอก็ประหลาดใจมาก!
“นายไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก พวกเรายังถูกล้อมไปด้วยสัตว์ประหลาดเหล่านั้น นายคิดว่าเมื่อไหร่ทีมช่วยเหลือจะมาถึง?” เจียงลู่ฉีก็โบกมือของเขาและถามออกมา