My MCV and Doomsday - ตอนที่ 518
Chapter 518: วัตถุดิบ
“พวกเราร้องขอความช่วยเหลือจากพวกเขามาแล้ว เอ่อ คุณชื่ออะไรนะครับ?” เจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้นำถามออกมา
“เจียงลู่ฉี จากทีมฉี่หยิง” เจียงลู่ฉีตอบ
ในตอนนี้ ในห้องโถงเต็มไปด้วยคนธรรมดาทั่วไปที่ไม่มีอาวุธ พวกเขาจึงไม่มีทางที่จะสู้กลับได้เลยแม้แต่นิดเดียว
“ทุกคน อยู่ห่างจากหน้าต่างไว้ซะ พวกเราควรรอที่นี่สักพักหนึ่ง มันไม่น่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ โชคไม่ดีที่พวกเรามีคนเจ็บมากเกินไป” เจ้าหน้าที่พูดออกมา
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาพูดเสร็จ เสียงก็ดังมาจากด้านล่าง ในขณะเดียวกันตึกทั้งตึกก็เริ่มที่จะสั่นสะเทือนไปมา ผู้รอดชีวิตหลายคนที่รวมตัวกันต่างกรีดร้องออกมาอย่างตื่นตระหนก
“เกิดอะไรขึ้น?” เจียงลู่ฉีถาม ในขณะที่จ้องลงไปบนพื้น “ทำไมตึกมันสั่น?”
ผู้รอดชีวิตหลายสิบคนก็วิ่งหนีออกไป เมื่อพื้นคอนกรีตที่เป็นหินอ่อน อยู่ๆก็นูนตัวขึ้นและก็เกิดรอยปริแตกขึ้น
ทันทีที่เกิดรอยปริแตก เจียงลู่ฉีก็ยิงออกไปหลายสิบนัดผ่านรอยแตกนั่น ทุกคนก็เริ่มตื่นตระหนก และพวกเขาต่างจ้องไปที่รอยแตกอย่างหวาดหวั่น ด้านในรอยแตกสีดำ ดิน เศษปูนซีเมนต์และแท่งเหล็กที่แตกหักก็ถูกพบเห็น หลังจากที่เสียงปืนดังอย่างต่อเนื่อง รอยแตกก็หยุดขยายตัว แต่คนหลายต่อหลายคนก็เห็นดวงตาสีแดงเลือดโผล่ออกมาท่ามกลางหลุมดำ ก่อนที่มันจะหายไป มันมีสัตว์ประหลาดกลายพันธุ์ที่โจมตีมาจากใต้พื้นดิน!
สัตว์ป่ากลายพันธุ์จำนวนมากก็สามารถที่จะขุดทะลุผ่านใต้ดินได้ ถึงแม้ว่าคนที่ก่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิงจะตั้งฐานไว้ลึก ในตอนที่สร้างกำแพงเมือง สัตว์ป่ากลายพันธุ์ก็ยังหาทางโจมตีจากใต้ดินได้ ในเวลาเดียวกัน ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่อยู่บนกำแพงเมืองก็กำลังวุ่นวายกับการต่อสู้กับนกกลายพันธุ์ และมัวแต่จดจ่อไปกับพวกมัน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถป้องกันพื้นที่ ที่เป็นจุดอ่อนได้
ยิ่งแย่ไปกว่านั้น สัตว์ป่ากลายพันธุ์ก็สามารถที่จะตามเสียงที่เคลื่อนไหวไปรอบๆพื้นผิวได้ นี่ก็ยังเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกมันถึงสามารถที่จะโจมตีไปยังบริเวณที่มีฝูงชนหนาแน่นโดยตรงได้ เจียงลู่ฉีก็ประเมินว่าสัตว์ป่าจำนวนมากก็จะปรากฏขึ้นในบริเวณอื่นด้วยเช่นกัน
“พวกเราจะทำยังไงต่อดี?”
ผู้รอดชีวิตจำนวนมากต่างตื่นตระหนก พวกเขาพึ่งจะหลบหนีจากเงื้อมมือของนกกลายพันธุ์มาได้แท้ๆ แต่ในตอนนี้พวกเขาก็ยังจะต้องจัดการกับสัตว์ป่ากลายพันธุ์ที่อยู่ใต้ดินอีก พวกเขาไม่มีที่ไหนที่จะไปได้แล้ว!
ทุกคนต่างกังวลว่าจะมีรอยแตกปรากฏขึ้นใต้พื้นของพวกเขามากกว่านี้ และมันก็จะทำให้สัตว์ป่ากลายพันธุ์ลากพวกเขาลงไปใต้ดิน พวกเขาก็ไม่มีที่ให้หลบหนีแล้ว ด้วยเหตุนี้นี่เอง ผู้รอดชีวิตจำนวนมากต่างไม่ปีนบนเก้าอี้ ก็โต๊ะ แล้วก็ยืนตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
หลังจากผ่านไปสักพักหนึ่ง พวกเขาก็ได้ยินเสียงประหลาดดังมาจากใต้ดิน
ถึงแม้ว่าเจียงลู่ฉีจะไม่อนุญาตให้สัตว์ประหลาดกลายพันธุ์หน้าไหนโผล่ขึ้นบนผิวดิน ผู้รอดชีวิตส่วนใหญ่ก็ยังคงหวาดกลัวอยู่ดี
“สัตว์ประหลาดพวกนั้นกำลังทำอะไรอยู่กันแน่?” หัวหน้าเจต้าหน้าที่ก็ถามออกมาอย่างกังวลใจ
ในเวลาเดียวกัน หลันซิหยู่ก็ส่งข้อความมาในหัวของเจียงลู่ฉี ‘มันมีสัตว์ป่ากลายพันธุ์นับสิบตัวกำลังทำลายโครงสร้างใต้ดิน และกำลังพยายามทำลายโครงสร้างตึกอยู่ค่ะ’
ไม่ต้องสงสัยเลย สติปัญญาของสัตว์ป่ากลายพันธุ์มันเพิ่มสูงขึ้น! หลังจากค้นพบว่าเจียงลู่ฉีก่อปัญหาให้กับพวกมัน พวกมันก็เปลี่ยนวิธีการโจมตี โดยไปทำลายโครงสร้างตึกแทนกลืนผู้รอดชีวิตตรงๆ ด้วยวิธีแบบนี้ ผู้รอดชีวิตที่อยู่ด้านในก็ไม่สามารถที่จะหนีออกมาด้านนอกได้ และมันก็จะทำให้พวกเขาตกกลายเป็นเหยื่อของนกกลายพันธุ์ หรือพวกมันก็รอให้ตึกมันถล่มลงมาก่อน และฆ่าพวกเขาทิ้งซะ
ความสิ้นหวังก็ถาโถมเข้าใส่ผู้รอดชีวิต และใครบางคนก็ร้องไห้ออกมา
“พื้นที่อยู่อาศัยถูกโจมตีอย่างหนักหน่วง และสัตว์ป่ากลายพันธุ์และซอมบี้จำนวนมากก็อยู่ด้านนอกกำแพง พวกเขาไม่สามารถที่จะสนับสนุนพวกเราได้ในเวลานี้ พวกเขาแจ้งพวกเรามาว่า ให้ชะลอสัตว์ประหลาดและรอคอยจนกว่าพวกเขาจะส่งทีมช่วยเหลือเข้าไปช่วยได้ครับ” ทหารที่รับผิดชอบเครื่องมือสื่อสารแจ้งออกมา
มันมีคนนับแสนคนอยู่ในบริเวณที่พักอาศัย ไม่ว่ากำแพงจะสามารถป้องกันได้หรือไม่ มันก็ก็สามารถที่จะตัดสินถึงอนาคตของพื้นที่ปลอดภัยได้เลย เทียบกับตึกที่มีคนเพียงแค่ร้อยคน มันก็มีค่าน้อยกว่าการป้องกันกำแพงหรือพื้นที่พักอาศัยอยู่ดี
‘ชะลอ? พวกเราจะสามารถชะลอพวกมันได้ไงกัน? ถ้าพวกเราพุ่งออกไปนอกตึก พวกเราก็จะได้รับการสูญเสียอย่างหนักหน่วง…. แต่สัตว์ประหลาดกลายพันธุ์ก็ยังอยู่ใตดินอีก และพวกเราก็ไม่สามารถที่จะโจมตีพวกมันได้ด้วยเหมือนกัน’ หัวหน้าเจ้าหน้าที่นั้นสิ้นหวังมากขึ้น หลังจากที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
“มันมีวิธีเดียวเท่านั้น พวกเราต้องออกไปด้านนอกและฝ่าวงล้อมไปให้ได้ มันดีกว่าการที่จะรอ…”
ในเวลาเดียวกัน เสียงผู้หญิงก็ดังขึ้นมา “ออกไปด้านนอก? มันอันตรายมากเกินไป!”
เจียงลู่ฉีก็หันกลับไปมองเธอและส่ายหัวในทันที มันก็เป็นเรื่องปกติที่ผู้หญิงคนนั้นก็คือหวันหลาน
ก่อนหน้านี้ หวันหลานก็จมอยู่ในห้วงแห่งความสุข เมื่อเธอปฏิเสธคำขอจากเจียงลู่ฉี อย่างไรก็ตาม ความสุขของเธอก็อยู่ได้ไม่นานสักเท่าไหร่ เมื่อสัตว์กลายพันธุ์ปรากฏตัวขึ้น
เมื่อสัตว์กลายพันธุ์โจมตีชั้นบนของตึก เธอก็รีบหลบหนีออกมาอย่างเร่งรีบ เธอก็ยังคงเห็นเจียงลู่ฉีโจมตีนกกลายพันธุ์พวกนั้นด้วยเช่นกัน และช่วยเหลือผู้รอดชีวิตไว้ หลังจากนั้น เธอก็มุดหัวของเธออยู่ตรงมุมห้องและไม่กล้าที่จะเผยหน้าของเธอออกมา ในตอนนี้ เจียงลู่ฉีก็เป็นดั่งแสงแห่งความหวังของผู้รอดชีวิต ดังนั้นเธอจึงไม่ต้องการที่จะเปิดเผยตัวและก่อปัญหา
อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอได้ยินว่ามันจะไม่มีทีมช่วยเหลือเข้ามาช่วยพวกเธอ หวันหลานก็ไม่สามารถที่จะซ่อนตัวและรอต่อไปได้ พวกเธอสามารถที่จะรอความตายได้เพียงอย่างเดียว เมื่อทีมช่วยเหลือไม่สะดวกที่จะมาช่วย ในเวลาเดียวกัน การออกไปด้านนอกก็อันตรายด้วยเช่นกัน เธอจึงไม่ตกลงกับความคิดนี้
“มันมีทางเดียวครับ” หัวหน้าเจ้าหน้าที่พยายามที่จะอธิบาย
“มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน? พวกเราเป็นมนุษย์ที่มีความคิดหาวิธีทางอื่น อย่างน้อย ทีมนายก็อยู่ที่นี่…และก็ทีมของกัปตันเจียง…” หวันหลานพูดออกมา เธอไม่ต้องการที่จะตายอยู่ที่นี่
เมื่อเจียงลู่ฉีได้ยินหวันหลานพูดถึงทีมของเขา เขาก็รู้สึกว่ามันไร้สาระมาก
ในเวลาเดียวกัน หวันหลานก็มองไปที่เจียงลู่ฉีและพูดออกมา “กัปตันเจียงคะ มันมีคนธรรมดามากมายอยู่ที่นี่ คุณไม่ต้องการที่จะเห็นพวกเขาถูกฆ่าใช่ไหมคะ? ในสายตาของพวกเขาแล้ว คุณเป็นดั่งฮีโร่ คุณเป็นความหวังเพียงอย่างเดียวของพวกเรา! ให้ฉันเป็นดั่งตัวแทนของทุกคน ฉันขอแสดงความขอบคุณต่อคุณและทีมของคุณ ขอบคุณมากจริงๆค่ะ” หวันหลานพูดออกมาอย่างจริงใจ
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเธอแล้ว เจียงลู่ฉีก็รู้สึกขยะแขยงอย่างมาก มันเหมือนกับว่าเขาได้กินแมลงวันไปยังไงยังงั้น
“โอ้ ฉันประหลาดใจกับท่าทีของเธอที่เปลี่ยนไปมากจริงๆ” เจียงลู่ฉีพูดออกมาอย่างเฉยเมย
หวันหลานก็มึนงงในทันที เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้น หลังจากนั้น เธอก็ยิ้มและพูดออกมา “กัปตันเจียงคะ ฉันแค่ทำตามกฏเท่านั้น พวกเราจะต้องตรวจสอบวัตถุดิบก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะให้พวกมันออกไปจากคลังได้ มันเป็นความรับผิดชอบของฉันค่ะ ได้โปรดเข้าใจมันด้วยนะคะ กัปตันเจียง”
ถึงแม้ว่าเธอจะเกลียดเจียงลู่ฉี เธอก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ในตอนนี้ หวันหลานก็พูดเพิ่มเติม “กัปตันเจียงคะ ฉันก็มีวัตถุดิบที่คุณต้องการทั้งหมดอยู่ด้วยค่ะ ฉันวางแผนที่จะแจ้งหวังฉี่ชีให้ไปแจ้งคุณในอีกสองวันให้หลัง และให้คุณมาเอาพวกมัน มันเป็นกระบวนการที่พวกเราไม่สามารถที่จะทำให้มันเร็วกว่านี้ได้ค่ะ”
เมื่อเธอสังเกตเห็นเจียงลู่ฉีมองมาที่เธอพร้อมกับรอยยิ้มแปลกๆ หวันหลานก็กัดปากและพูดออกมา “เอาเถอะค่ะ ตั้งแต่สถานการณ์มันเปลี่ยนไป ฉันก็สามารถที่จะให้วัตถุดิบทั้งหมดกับคุณก่อนได้ค่ะ ถึงแม้ว่ามันจะทำให้ฉันถูกลงโทษอยู่ดี ฉันต้องการที่จะให้คุณได้รับพวกมันไปอยู่ดี สุดท้ายแล้ว กัปตันเจียง คุณก็ได้ช่วยพวกเราไว้ทั้งหมด”
หลังจากนั้น เธอก็มองไปที่ผู้รอดชีวิตบางคนและตะโกนออกมา “นาย นาย นาย และนาย ไปคลังสินค้าที่สามและเอาวัตถุดิบที่กัปตันเจียงต้องการทั้งหมดออกมา!”
หวันหลานรู้สึกหดหู่อย่างมาก เมื่อเธอวางแผนที่จะไม่ให้วัตถุดิบเหล่านั้นกับเจียงลู่ฉี แต่ในตอนนี้เธอไม่มีทางเลือกอื่น เพื่อมีชีวิตรอด เธอต้องก้มหัวของเธอและทำทุกอย่างที่จำเป็นในการเอาตัวรอด