My MCV and Doomsday - ตอนที่ 530
Chapter 530: สถานการณ์พลิกผัน
เมื่อได้ยินคําพูดของการ์ดหญิงแล้ว ถังคังหยุนสับสนในทันที แต่เขาก็หลุดออกจากสภาพสับสน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสุขแทน
“มันเหมือนกับว่ากัปตันเจียงที่เธอเอาแต่ชื่นชมอยู่ตลอดเวลานั้นถูกขับไล่ออกไปแล้วละ” ถังคังหยุนพูดกับเว่ยเฟยเฟยและพืช ในเวลาเดียวกัน เขาก็สงสัยว่าทําไมเจียงลู่ฉีถึงกล้าที่จะแสดงความต้องการมากมายขนาดนั้น ต่อหน้านายพลจากภูมิภาคฮัวเซีย เขาเชื่อว่า แม้ว่าเจียงลู่ฉีจะเข้าร่วมกับหน่วยจู่โจม ฮานหยวนคงจะตั้งเขาไว้ในรายชื่อแบล็คลิสต์แล้วเป็นแน่
“กัปตันเจียง…” พีชเริ่มเป็นกังวล
“ไม่ว่าฉันจะมีคุณสมบัติมากพอหรือไม่ มันก็ไม่ใช่ธุระอะไรของเธออยู่ดี” เจียงลู่ฉีส่ายหัวและ จ้องไปที่การ์ดหญิงอย่างเย็นชา
เจียงลู่ฉีมีเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวอยู่เคียงข้างกับเขาและพวกเขาสามารถที่จะดูดซึมแสงดําที่ไหลเวียนในเลือดของสัตว์ป่ากลายพันธุ์ได้ แต่ฮานหยวนและคนอื่นไม่ได้รู้วิธีที่จะฆ่าสัตว์ป่ากลายพันธุ์พวกนี้อย่างมีประสิทธิภาพ แบบที่เขารู้ ถ้าพวกเขาต้องการที่จะฆ่าพวกมัน พวกเขาจะต้องจ่ายมันด้วยราคาที่ใหญ่หลวง ด้วยเหตุนี้ เจียงลู่ฉีจึงคิดว่าข้อเสนอของเขามีเหตุผล และทั้งสองฝ่ายต่างได้รับประโยชน์กันทั้งหมด โชคร้ายที่ฮานหยวนและคนของเขาต่างดูถูกผู้รอดชีวิตมากเกินไป
“เขานี่ยังเด็กและไม่คิดหน้าไม่คิดหลังจริง เขาได้ยั่วยุนายพลฮานอีก ดังนั้นอนาคตของเขาจะต้องย่ำแย่อย่างแน่นอน นายพลฮานนั้นมาจากภูมิภาคฮัวเซีย และเขายังคงเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่ทรงอํานาจอีกด้วย ซึ่งสามารถที่จะนําทีมได้หลายทีม แม้ว่าเจียงลู่ฉีจะอาจหาญและหยิ่งยโสมากแค่ไหน เขาจะกล้าที่จะยั่วยุตัวตนที่ทรงพลังอย่างนั้นได้ยังไงกัน?”ถังคังหยุนพูดด้วยน้ําเสียงที่แปลกประหลาด
หลังจากนั้นเขาก็พูดต่อ “นายพลฮานสามารถที่จะไล่พวกเขาออกไป ด้วยแค่กระดิกนิ้วอีกด้วยนะ”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายละ?” เว่ยเฟยเฟยจ้องไปที่ถังคังหยุนอย่างโกรธเคือง
“โอ้ เธอคิดว่าฉันพูดผิดงั้นเหรอ?” ถังคังหยุนพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม
ในเวลาเดียวกัน รถถังก็ได้ขับมาถึงสํานักงานและชายคนหนึ่งก็กระโดดลงมา
“หื้ม? ชายคนนั้นมันหลัวฉีเชิงที่เป็นผู้บังคับบัญชากองพัน ภายใต้การนําของนายพล จางเทียนยู่นี่นา” ถังคังหยุนกระพริบตา เมื่อเขานึกได้ว่าคนที่มาใหม่คือใคร
สิ่งแรกที่ถังคังหยุนทํา หลังจากที่มายังพื้นที่ปลอดภัย คือการค้นคว้าเกี่ยวกับบุคลากรที่สําคัญของกองทัพ เขารู้ว่าใครที่มีอํานาจและใครที่ไม่มีในอนาคต ความตายและชีวิตของคนนับหมื่นนับแสนคนในพื้นที่ปลอดภัย นั้นขึ้นอยู่กับพวกเขา มันเป็นพลังในมือของพวกเขาที่ป้องกันซอมบี้นับไม่ถ้วน และสัตว์ป่ากลายพันธุ์ จนทําให้พวกเขาสามารถสร้างกําแพงสูงรอบพื้นที่ปลอดภัยได้
ถังคังหยุนรู้ว่านายพลจางนั้นเริ่มแรกประจําอยู่ในเกาะเชนไฮ่ และหลังจากที่มันล่มสลายลง เขาได้ถูกส่งมายังพื้นที่ปลอดภัยเจียงหมิง ถึงแม้ว่าเขาจะสูญเสียลูกน้องไปเป็นจํานวนมาก รากฐานของนายพลฮานก็ยังคงอ่อนแอมากเกินไปอยู่ดี ในพื้นที่ปลอดภัยของเจียงหมิง คนที่มีอํานาจที่แท้จริงก็ยังคงเป็นผู้บังคับบัญชาหลัวและผู้บังคับบัญชาฮวง แม้แต่ฮานหยวนก็ยังเทียบกันกับพวกเขาไม่ได้
แน่นอนว่า เป้าหมายของถังคังหยุนก็ยังคงค่อนข้างชัดเจนดี สําหรับก้าวแรกของเขาแล้ว เขาจําเป็นที่จะต้องทําให้ฮานหยวนสนใจ หลังจากนั้น เขาค่อยขยับตําแหน่งขึ้นทีละก้าว ทีละก้าว จนกลายเป็นบุคคลที่สําคัญ
หลัวฉีเชิงทําท่าเคารพ “นายพลฮาน!”
“กัปตันเจียง ผมเป็นการ์ดของนายพลจางครับ ถึงแม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่พวกเราพบเจอกัน ผมได้ยินเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ มากมายเกี่ยวกับท่าน จากนายพลจาง ผมนับถือท่านอย่างมากครับ” หลัวฉีเชิงพูดออกมา
ถังคังหยุนมีนงงอีกครั้งหนึ่ง เขาไม่ได้คาดคิดไว้ว่าหลัวฉีเชิงจะแสดงความชื่นชมขนาดนั้นกับเจียงลู่นี่
เมื่อหลัวฉีเชิงปรากฏขึ้น บรรยากาศที่ตึงเครียดก็ผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย และพืชก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“โชคดีที่กัปตันเจียงที่คุ้นเคยกับนายพลอีกคนหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าเขาจะไม่ถูกไล่ออกไปจากที่นี่” พืชพูดออกมาในขณะที่จ้องไปที่ถังคังหยุนอย่างโกรธเคือง เธอนั้นกังวลเกี่ยวกับเจียงลู่ฉีมากจริงๆ
“ฮ่าๆๆ…” ถังคังหยุนพูดต่อ “โอ้ พืชน้อยเอ๋ย เธอคิดว่าคนที่มาใหม่มันจะทําให้สถาน การณ์เปลี่ยนไปอย่างงั้นเหรอ? เธอเข้าใจผิดแล้วละ นายพลจางนั้นยังอ่อนแอกว่านายพลฮานอยู่ดี สุดท้ายแล้ว นายพลฮานนั้นมาจากภูมิภาคฮัวเชียเลยนะ” ถังคังหยุน พูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม
“เอ๋?” พีชกังวลอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเธอไม่ได้รับรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้
“นายพลฮาน มันเหมือนกับว่าคุณต้องการที่จะดึงกัปตันเจียงให้เข้าร่วมงั้นหรอครับ?” หลัวฉีเชิงถามออกมา เมื่อมันเป็นความคิดแรกที่โผล่เข้ามาในหัวของเขา
“มันน่าเศร้าที่พวกเราไม่ได้มีความคิดตรงกันนะสิ” ฮานหยวนตอบกลับ หลังจากที่เหลือบตามองไปที่เจียงลู่ฉี
หลังจากนั้น หลัวฉีเชิงยิ้มและถามออกมา “กัปตันเจียง ผมต้องการที่จะเชิญให้คุณไปพบกับผู้บังคับบัญชาหลัวครับ คุณต้องการที่จะไปพบกับเขาไหมครับ? ผู้บังคับบัญชาหลัวต้องการที่จะร่วมมือกับคุณครับ เขายังได้ยินเรื่องราวต่างๆมากมายเกี่ยวกับคุณและรถมินิบัสของคุณ จากนายพลจางครับ”
การ์ดหญิงขมวดคิ้ว เธอประหลาดใจที่หลัวฉีเชิงนั้นมาเป็นตัวแทนของนายพลหลัว เธอพึ่งจะดูถูกเจียงลู่นี้ไป แต่มีใครบางคนพึ่งจะมาความร่วมมือกับเขา นอกจากนี้แล้ว ใครบางคนก็ยังไม่ใช่นายพลจาง แต่เป็นผู้บังคับบัญชาหลัวอีกด้วย
ถังคังหยุนตกตะลึงและเกือบที่จะตบหน้าของเขาเอง ทําไมเขาถึงได้พูดพล่อยๆไปก่อนหน้านี้กัน? ในขณะที่เขากําลังก่นด่าตัวเองอยู่นั้น เว่ยเฟยเฟยและพืชต่างพึงพอใจอย่างมาก
“ว้าว! กัปตันเจียงทรงพลังจริงด้วย การช่วยผู้บังคับบัญชาหลัวนั้นค่อนข้างที่จะดีกว่าการเข้าร่วมกับหน่วยจู่โจมนะ” พึชพูดออกมาอย่างมีความสุข
ถังคังหยุนรู้สึกเศร้าใจ เมื่อสิ่งที่พืชพูดมันเป็นเรื่องจริง ในตอนเริ่มแรก เขาเชื่อว่าเจียงลู่ฉีจะถูกไล่ออกไปจากพื้นที่ปลอดภัย แต่เขาคิดผิด ในตอนนี้ ทั้งสองสาวต่างบินออกไปจากเงื้อมมือของเขา เขาเกลียดตัวเองที่เขาไม่รู้จะหยุดมันยังไงดี เมื่อเจียงลู่ฉีตกลงที่จะร่วมมือกับผู้บังคับบัญชาหลัวแล้ว ฝ่ายนั้นทั้งฝ่ายก็จะสนับสนุนกับเขา แล้วถังคังหยุนจะแข่งขันกับเจียงลู่ฉีหลังจากนั้นได้ยังไงกัน?
“ขอบคุณสําหรับคําเชิญนะครับ แต่ได้โปรดช่วยผมบอกผู้บังคับบัญชาหลัวว่าผมไม่มีความปรารถนาที่จะร่วมมือกับกองทัพ” เจียงลู่ฉีพูดอย่างใจเย็น
ท่าทางของฮานหยวนทําให้เจียงลู่นี่ตระหนักได้ว่าเขาไม่จําเป็นที่จะต้องใช้การร่วมมือกับใครเพื่อทําให้เป้าหมายของเขาสําเร็จ ในเวลาเดียวกัน เขาก็จะมีข้อขัดแย้งกับทางกองทัพ เรื่องของผลประโยชน์ เมื่อเผชิญหน้ากับเจ้าหลุมดํา พวกเขาจําเป็นที่จะต้องใช้มันในการค้นคว้าวิจัย แต่เขากลับจําเป็นต้องดูดซึมพลังงานด้านในมัน
หลัวฉีเชิงสับสน “นี่มัน…”
‘เขาปฏิเสธมัน?’ การ์ดหญิงก็ประหลาดใจเช่นกัน แม้แต่ฮานหยวนที่ยังทําตัวเฉยเมยอยู่ตลอดก็มีท่าที่ประหลาดใจด้วย สําหรับถังคังหยุนแล้ว เขามีความสุขมาก ‘ยอดเยี่ยม เป็นแบบนี้นี่มันดีไปเลย!’
“เขาโง่เง่าเกินไปแล้ว! เขาจะต้องรู้สึกว่าการร่วมมือกับผู้บังคับบัญชาหลัว หลังจากการปฏิเสธไปนี่มันแย่มาก ถ้าเขาตกลง เขาจะเสียหน้า อย่างไรก็ตาม การเสียหน้าครั้งหนึ่งมันก็คุ้มค่ามากพอในสถานการณ์แบบนี้” ถังคังหยุนส่ายหัว ก่อนที่เขาจะพูดต่อ เจียงลู่ฉีก็พูดออกมา
“ทีมของผมและผมก็เพียงพอที่จะจัดการกับปัญหาด้านนอก และป้องกันตัวของพวกเราเองแล้วละครับ” เจียงลู่นี้พูด