My MCV and Doomsday - ตอนที่ 532
Chapter 532: หมายตารถมินิบัสของเจียงลู่ฉี่
ในวันที่สอง หลังจากการโจมตีของสัตว์ปากลายพันธุ์ เจียงลู่ฉี่ได้ขับรถมินิบัสของเขาออกไปจากด้านนอกประตูพื้นที่ปลอดภัย เมื่อพวกเขากําลังจะข้ามประตูออกไป ทหารทั้งสองคนได้หยุดรถพวกเขาอย่างไม่คาดคิด
“เฮ้ นาย หยุดรถมินิบัสซะ! นายไม่สามารถออกไปได้!” หนึ่งในทหารนายหนึ่งได้พูดออกมา
“นี่หมายความว่าอะไร? ทําไมคุณถึงไม่ให้พวกเราออกไปละ?” หลิงถามกลับอย่างเย็นชา
“คุณสามารถออกไปได้ แต่ทิ้งรถไว้ซะ” ทหารอีกคนหนึ่งตอบกลับอย่างเย็นชา
เจียงลู่ฉี่ลดหน้าต่างลงและถามอย่างโกรธเคือง “นายพูดว่าอะไรนะ?”
เมื่อเห็นท่าทางที่โกรธเคืองของเจียงลู่ฉี่ ทหารทั้งสองคนต่างกุมปืนไรเฟิลในมือไว้แน่น
“ พวกเราได้รับคําสั่งมาจากคนที่สูงกว่า ในช่วงคับขันเช่นนี้ ทุกคนจะต้องคอยช่วยเหลือพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิง คนจีนทั้งหมดจะต้องปฏิบัติตามคําสั่งนี้ คุณจะต้องส่งรถมินิบัสให้กับกองทัพ ซึ่งนั่นไม่ได้หมายความว่า มันแค่รถของคุณเพียงคนเดียว แต่รถของคนอื่นด้วย”
“ได้โปรดลงจากรถมินิบัสและส่งมันให้กับพวกเราเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ด้วยครับ”
เจียงลู่ฉี่เยาะเย้ย “ใครเป็นคนออกคําสั่ง?”
“มันไม่ใช่เรื่องของคุณครับ” ทหารตอบกลับอย่างจริงจัง
เจียงลู่ฉี่จ้องไปที่ทหารและพูดออกมา “ซิหยู่!”
เสียงของหญิงสาวก็ดังขึ้นมาจากรถมินิบัส “ค่ะ!”
ทหารทั้งสองคนต่างรู้สึกว่ามันมีบางอย่างผิดไป ดังนั้นพวกเขาจึงยกปืนขึ้นในทันที โช คร้ายที่มันสายเกินไป เมื่อสายตาของพวกเขากลับพร่าเบลอไปแล้ว
“ใครเป็นคนออกคําสั่งกับนายมา?” เจียงลู่ฉี่ถาม
“เลขาหวันเป็นคนพูดครับ เธอพูดว่ามันเป็นคําสั่งของนายพลฮานครับ” หนึ่งในทหาร ตอบกลับอย่างซื่อตรง
หลังจากที่เจียงลู่ฉี่เข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เขาก็สั่งออกมา “บอกพวกเขาให้เปิดประตูซะ”
“ครับ”
หลังจากนั้น ทหารก็สั่งให้ยามเปิดประตูออก ประตูของพื้นที่ปลอดภัยนั้นได้เสริมโครงเหล็กไว้หนามาก ดังนั้นมันจึงส่งเสียงครืดคราดออกมาในตอนเปิด ในขณะที่ประตูกําลังเปิดออกนั้น เจียงลู่ฉี่ก็เหยียบคันเร่งและพุ่งรถออกไป
“เกิด…เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย!?” หวันยหลิงที่กําลังนั่งอยู่บนรถoff-road ที่ไม่ห่างไปจากประตูกําลังรอดูการแสดงออกที่น่าเกลียดของเจียงลู่ฉี่อยู่ได้พูดออกมา
ถ้ามันเป็นแบบนี้แล้ว ถ้าเจียงลู่ฉี่ไม่ลงจากรถมินิบัส นั่นหมายความว่าเขาไม่ยอมปฏิบัติทําตามกฏของกองทัพ ถ้ามันเกิดขึ้น เธอก็จะก้าวขึ้นไปกําจัดเขาและทีมของเขา สุดท้ายแล้ว หน่วยจู่โจมนั้นตกอยู่ภายใต้เงื้อมมือของฮานหยวนอย่างเต็มรูปแบบ
หลังจากที่พบกันก่อนหน้านี้ ผู้นําที่มีอํานาจทุกคนในพื้นที่ปลอดภัยต่างตกลงที่จะส่งหน่วยจู่โจมให้กับฮานหยวน เมื่อเขาต้องการที่จะต่อสู้ในแนวหน้ากับเจ้าหลุมดํา อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่รู้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของฮานหยวนนั้นคืออะไร
ในเวลาเดียวกัน หวันยหลิงรู้สึกสับสนว่าทําไมทหารทั้งสองคนถึงได้ช่วยเจียงลู่ฉี่ผ่านประตูทันใดนั้น เธอก็คิดถึงการตายอันลึกลับของจางเฮาจิง และผู้มีพลังเหนือธรรมชาติด้านพลังจิตที่อยู่ในห้องด้านข้าง ที่ไม่ได้สังเกตพบข้อผิดปกติ
‘เวรเอ้ย! มันจะต้องมีผู้มีพลังเหนือธรรมชาติด้านพลังจิตอยู่ในทีมเจียงลู่ฉี่นั่น! ฉันไม่ได้คาดไว้เลยว่าเธอสามารถควบคุมจิตใจคนอื่นได้ด้วย’ หวันยหลิงรีบหยิบวิทยุสื่อสารของเธอขึ้นมาในทันที่ “สถานการณ์ได้เปลี่ยนไป! นายจะต้องส่งทีมที่หนึ่งและสองออกไปเลย! นอกจากนี้ ปิดประตูให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ซะ!”
ตราบเท่าที่ทีมของเจียงลู่ฉี่ยังอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย หวันยหลิงยังคงมีวิธีการอีกมากมายในการจัดการกับพวกเขา พวกเธอไม่ได้ไปพยายามหาเจียงลู่ฉี่ในที่พักของเขา เมื่อพวกเธอไม่ต้องการทําให้นายพลจางกลายเป็นศัตรูของพวกเธอ แต่ถ้าพวกเธอสามารถหยุดเจียงลู่ฉี่ภายใต้เรื่องของการไม่ยอมทําตามคําสั่งแล้ว ไม่มีใครกล้าที่จะพูดอะไรขึ้นมาหรอก แม้แต่นายพลจางก็ไม่สามารถที่จะช่วยพวกเขาได้เหมือนกัน
‘เจียงลู่ฉี่ มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่นายจะหนีไปแบบนี้’ หวันยี่หญิงคิด
ในตอนนี้ ส่วนหนึ่งของประตูก็ได้เปิดออก ซึ่งมันก็มากพอที่จะทําให้รถได้ขับผ่านออกไป ในเวลาเดียวกันนั้นเอง หนึ่งในยามก็ได้หยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาและรับฟังคําสั่ง หลังจากนั้น เขาก็มองไปยังรถมินิบัสของเจียงลู่ฉี่ และรถมินิบัสของเจียงลู่ฉีก็เร่งความเร็วขึ้น เมื่อเจียงลู่ฉี่กดปุ่มลงไปในแผงควบคุม
‘เร่งความเร็ว!’
เครื่องยนต์ของรถมินิบัสส่งเสียงคํารามออกมาก่อนที่จะพุ่งตัวออกไปเหมือนดั่งกับลูกศร
“ปิดประตูซะ! ปิดประตู!” ทหารนายนั้นตะโกนออกมา แต่มันก็สายเกินไป
ก่อนที่ยามจะมีโอกาสได้ยกปืนขึ้น รถมินิบัสก็ได้ขับผ่านประตูออกไปแล้ว ในเวลานั้นเอง ประตูก็เริ่มปิดตัวลง ในขณะที่รถมินิบัสได้ขับออกไปไกลแล้ว แต่ก่อนที่ประตูจะปิดลง เจียงลู่ฉี่ได้ใช้โดเมนสมองของเขา เพื่อเสริมสร้างวิสัยทัศน์ของเขา และหันกลับไปมองมัน หลังจากนั้นเขาก็เห็นใบหน้าหวันยี่หลาน ที่ทําหน้าน่ารังเกียจด้านหลังหน้าต่างรถ หลังจากที่เขาเห็นหน้าเธอ เจียงลู่ฉี่รู้สึกว่าทุกเรื่องนั้นได้เชื่อมโยงกัน หลังจากนั้น เขาก็หันกลับไปและมองไปทางเมืองเจียงหนึ่งที่อยู่ห่างไกลออกไป
‘หวันยี่หลิง! ฮานหยวน! ฉันจะทําให้มั่นใจว่าฉันจะคืนเรื่องนี้กลับไปยังสาสมเลย!’ เจียงลู่ฉี่คิด
ในตอนแรก พวกเขาไม่ได้มีข้อขัดแย้งระหว่างกัน พวกเขาแค่ไม่ได้มีมุมมองแบบเดียวกัน ถึงแม้ว่าเจียงลู่ฉี่จะไม่ได้ใส่ใจอะไร ทั้งสองคนยังคงไม่ยอมและยังคงสนใจรถมินิบัสของเขาอยู่ เขาไม่สามารถที่จะให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ หรือปล่อยให้พวกเขาทําตามที่พวกเขาต้องการ
ในตอนนี้ หวันยหลิงรู้สึกผิดหวัง หลังจากผ่านไปสักพัก เธอก็ใจเย็นลง ‘มันก็แค่ผล กระทบเล็กน้อยแค่นั้นแหละ ตั้งแต่ที่เขาออกไปด้านนอกนั้น ฉันสามารถที่สั่งให้ทีมออกไปจับกุมเขาได้ เขาไม่มีทางที่จะได้กลับเข้ามาในพื้นที่ปลอดภัยอีกแล้ว เมื่อเขาไม่ฟังคําสั่งตรงของนายพลฮานฉันมั่นใจได้เลยว่าพวกเราจะได้พบกันอีกครั้ง” หวันยี่หลิงคิด
เพียงเวลาไม่นาน หน่วยจู่โจมก็ได้ถูกส่งออกไปด้านนอกเพื่อทําภารกิจบางอย่างแล้ว ดังนั้นหวันยี่หลิงจึงได้วางแผนใหม่ขึ้นมา ทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นไปได้ ในความคิดของหวันยหลิงแล้ว ทีมผู้รอดชีวิตธรรมดาทั่วไปก็คงจะอยู่ห่างกลับเจ้าหลุมดําให้ไกลที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจที่จะวางแผนตามเงื่อนไขนี้ แต่โชคร้าย ที่เธอจะรู้ได้ยังไงว่าเจียงลู่ฉี่ต้องการที่จะโจมตีใส่เจ้าหลุมดํากันตรงๆ?
“ไปกันเถอะ” หวันยี่หลิงพูดอย่างลังเลใจ เธอรู้สึกเสียดายที่ปล่อยให้เจียงลู่ฉีหนีไปได้
“น่ารังเกียจชะมัด! พวกเขากล้าดียังไงที่หมายตารถมินิบัสของพี่ชายฉันเนี่ย!?” เจียงจู้อิงพูดออกมาอย่างโกรธเคือง
“อย่าเก็บมันไปใส่ใจเลย โชคดีที่จางไฮและซุนคุนต่างนั่งอยู่ในห้องคนขับ พวกเขากําลังจะไปล่าเจ้าหลุมดํา และรถoff-roadก็ไม่เหมาะสมในการไปยังสถานที่อันตรายที่พวกเขากําลังจะไป
“เมื่อไหร่กัน ที่กองทัพมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้?” จางไฮ่พูดออกมาอย่างผิดหวัง ในตอนแรกเขาไม่พอใจกับทางกองทัพ แต่เมื่อพวกคนระดับสูงลืมค่าของคนธรรมดาเช่นเขาไปเช่นนี้ แต่เมื่อเวลายิ่งผ่านไปมากเท่าไหร่ ยิ่งพวกเขาร่วมมือกับทหารมากเท่าไหร่ เขาก็เริ่มที่จะเปลี่ยนความคิดไป เขาเริ่มต้นที่จะนับถือพวกทหารแล้ว แต่หลังจากเหตุการณ์นี้ มันทําให้หัวใจของเขาสั่นคลอนอีกครั้งหนึ่ง
“มันไม่ใช่ทั้งกองทัพหรอก ถ้าฉันเดาไม่ผิดแล้ว ฮานหยวนและหวันยี่หลิงคงวางแผนอยู่ด้านหลังพวกเขาหน่ะ ถ้าทุกคนเป็นคนวางแผนแล้ว พวกเราคงจะไม่สามารถหนีออกมาได้ง่ายๆเช่นนั้นหรอก” หลี่ยู่ชิ้นคิด แต่แม้จะเป็นแบบนั้น เธอก็ยังคงกังวลอยู่ดี เมื่อฮานหยวนเป็นนายพลใหญ่ในขณะที่สถานะทีมของเธอนั้นต่ํากว่า
“ไม่ต้องกังวลไปหรอก ฮานหยวนอาจจะมีหน้าที่รับผิดชอบในหน่วยจู่โจม แต่พวกเขาไม่ได้สร้างปัญหาอะไรกับเราหรอก ฉันมั่นใจว่าพวกเขาจะออกมาในไม่ช้า ถ้าพวกเราพบกับพวกเขา แล้วฉันจะไปถามหาข้ออธิบายเอง” เจียงลู่ฉี่พูดออกมาอย่างเย็นชา
ฮานหยวนอาจจะไม่ได้เป็นสมาชิกเป็นทางกองทัพ เมื่อเขาได้รับรางวัลเป็นนายพลใหญ่ จากการเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่โดดเด่น แต่เจียงลู่ฉี่ก็สงสัยว่าทําไมเขาถึงถูกส่งมายังพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิง และเขาริเริ่มที่จะออกล่าเจ้าหลุมดํา
เขาไม่มีความหวาดกลัวแบบนั้นจริงๆหรือ? หรือว่ามันจะเป็นเรื่องที่จําเป็นจริงๆในการเสียสละคนจํานวนมากในการทําลายเจ้าหลุมดํา? ถ้าพวกเขาไม่ได้พบกับฮานหยวนหรือมีประสบการณ์แล้ว เจียงลู่ฉี่อาจจะเชื่อว่าเป้าหมายของเขานั้นเป็นเรื่องบริสุทธิ์ใจจริงๆ แต่เจียงลู่ฉี่เห็นถึงเจตนาที่แท้จริง ดังนั้นเขาไม่มีทางเชื่อสิ่งที่ฮานหยวนพูดอีกแล้ว
‘ไม่สําคัญว่าเขาเป็นใคร หรือเจตนาของเขาคืออะไร ฉันจะทําลายแผนของเขาทิ้งไปซะ! นั่นคือสิ่งที่แกจะได้รับ จากการหมายตารถมินิบัสของฉัน!’ เจียงลู่ฉี่คิด
เมื่อพวกเขาเข้าไปใกล้กับเมืองเจียงหมิงมากขึ้น เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวสามารถสัมผัสได้ถึงลางร้ายจากเจ้าหลุมดํา เมื่อมันยิ่งแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ในเวลาเดียวกัน เจียงลู่ฉี่ก็ได้รับการแจ้งเตือนจากเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวอย่างไม่หยุดหย่อน
เจียงลู่ฉี่ไม่เพียงแต่จะไม่อยู่ห่างไกลกับภัยคุกคาม แต่เขากลับเข้าไปใกล้เจ้าหลุมดําอย่างต่อเนื่องอีกด้วย การดูดซึมแสงดําที่ได้ดูดซึมมาแล้วถึง 459% ในขณะที่กระบวนการอัพเกรดรถมินิบัสมาถึง 369% ทั้งรถมินิบัสและเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวต่างกําลังเปลี่ยนแปลงในสถานที่ที่อันตรายที่สุด!