My MCV and Doomsday - ตอนที่ 533
Chapter 533: ความหวัง
หลังจากที่เจียงลู่ฉีจากพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิง หน่วยจู่โจมรวมทั้งกองกําลังหลายต่อกองกําลังได้ออกเดินทางไป ผู้คนมากมายที่ยืนอยู่บนกําแพงต่างมองออกไปไกล เงาดําใหญ่ยักษ์ที่ปกคลุมตึกสูงใหญ่ในเมืองของเจียงหนิง ต่างค่อยๆเข้ามาใกล้อย่างมั่นคง เมื่อมันมาถึง มันก็จะกลืนกินพื้นที่ปลอดภัยไปทั่วทั้งหมด และทําลายมันในชั่วพริบตา
ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างภาวนากันอย่างเงียบๆ ว่าให้หน่วยจู่โจมสามารถกําจัดเจ้าหลุมดําได้อย่างไหลลื่น ในช่วงเวลาเช่นนี้ พวกเขาไม่ได้รับข่าวดีอะไรเลย พวกเขากลับได้ยินมาว่า ไม่มีทีมสอดแนมทีมไหนที่ถูกส่งออกไปสืบค้นหาเบาะแส ได้กลับมา ผู้คนมากมายต่างรู้สึกภาคภูมิใจในขณะที่มองขบวนรถที่ขับออกไป ซึ่งเปรียบเสมือนกับมังกรและหวังว่าพวกเขาจะทําสําเร็จ
“ฉันหวังว่านายพลฮานจะสามารถกวาดล้างเจ้าหลุมดํานั่นได้ หรืออย่างน้อยก็หาทาง กําจัดมันไม่อย่างนั้นแล้ว สิ่งที่รอคอยพวกเขาคงจะมีแต่การต่อสู้ที่ยากลําบาก” หนึ่งในคนที่ทรงอํานาจในพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิงพูดออกมา
“พวกเราทําได้เพียงแค่รอเท่านั้นแหละ! ถ้าพวกเขากําจัดเจ้าหลุมดํานั้นได้ มันจะเป็นผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของพวกเรา แต่แม้ว่าพวกเขาจะฆ่ามันไม่ได้ ไม่ต้องกลัวไป พวกเรายังมีคนอีกมาก! พวกเราสามารถที่จะถล่มมันได้!” ผู้บังคับบัญชาหลัวพูด เขาเต็มไปด้วยความโอหัง
“บางที่นายพลฮานอาจจะรู้บางอย่างเกี่ยวกับเจ้าหลุมดํา ที่พวกเราไม่รู้ก็ได้” นายพลจางพูด เขาก็ยืนอยู่บนกําแพงด้วยเช่นกัน กําลังยืนมองขบวนรถยาวที่มีรถ off-road และรถถังต่อสู้ที่ขับไป
นั่นคือเหตุผลที่ว่าทําไมพวกเขาถึงตกลงให้ฮานหยวนกลายเป็นคนที่นําหน่วยจู่โจม ไม่เพียงแต่พวกเขาจะเชื่อเขา แต่มันเป็นเพราะว่าท่าทีบางอย่างของเขา ที่แสดงให้เห็นว่าเขาอาจจะรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับเจ้าหลุมดํานั่น ตั้งแต่ที่เขาเป็นคนริเริ่มที่จะแก้ไขปัญหา พวกเราก็ทําได้เพียงตอบรับคําขอของพวกเขา
“นอกจากภูมิภาคฮัวเซียแล้ว ภูมิภาคที่ก่อตั้งขึ้นมาใหม่อีกหลายแห่งก็ต่างพัฒนาได้เป็นอย่างดี” นายพลจางเปลี่ยนประเด็น ตั้งแต่ที่ก่อสร้างภูมิภาคฮัวเซีย นายพลหลายคนก็ถูกส่งออกไปยังพื้นที่ปลอดภัยแห่งอื่น ผ่านการเคลื่อนย้ายทางอากาศ เพื่อที่จะคอยช่วยสนับสนุนการพัฒนาของภูมิภาคแห่งใหม่ หลังจากนั้น ภูมิภาคเหล่านั้นก็จะคอยเดินตามทางของภูมิภาคฮัวเซีย พวกเขาได้พัฒนากันอย่างรวดเร็ว จนมันเหมือนกับว่าพวกเขาจะสร้างรัฐบาลได้ในอีกไม่ช้า ในการควบคุมภูมิภาคทั่วทุกแห่ง นอกจากนี้แล้ว จํานวนของคนธรรมดาและผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่เข้าร่วม กับภูมิภาคก็เพิ่มขึ้นอย่างคงที่ นอกจากจํานวนที่เพิ่มขึ้นแล้ว ความเร็วในการพัฒนาของภูมิภาคมากกว่าพวกที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพโดยตรง เหมือนอย่างพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิง
ถึงแม้ว่าพื้นที่ปลอดภัยบางแห่ง อย่างเซียหยวนและเซียงหมิงจะมีผู้มีพลังเหนือธรรมชาติอย่าง หลี่หยินฉิง และผู้บังคับบัญชาหลัวตามลําดับ มันไม่ได้หมายความว่าพวกเขาสามารถจัดการกับซอมบี้กลายพันธุ์ระดับ 2 และสัตว์ป่าอย่างมีประสิทธิภาพแบบผู้มีพลังเหนือธรรมชาติของภูมิภาคฮั่วเซีย พูดกันว่า สมาชิกบางคนของภูมิภาคที่สร้างขึ้นมาใหม่ได้ก้าวข้ามผ่านข้อจํากัดของระดับ 2 จากการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่จากภูมิภาคฮัวเซีย นอกจากเหล่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติเหล่านี้แล้ว การพัฒนาของเทคโนโลยีกําลังพัฒนาขึ้นเช่นกัน ตัวอย่างก็คือ รถบรรทุกช็อคเวฟของไป๋เจียหยาน ในความเป็นจริงแล้ว มันไม่มีใครที่รับรู้ชัดเจนเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันของภูมิภาคฮั่วเซีย
“ใช่ ถ้าพวกเราก้าวข้ามภัยพิบัตินี้ไปได้ พื้นที่ปลอดภัยของเจียงหนิงก็จะกลายเป็นภูมิภาคขนาดใหญ่ด้วยเช่นกัน การพัฒนาของมันจะก้าวขึ้นไปอย่างก้าวกระโดด และพวกเราก็จะฟื้นคืนฝั่งใช้ได้ทั้งหมด” ผู้บังคับบัญชาฮวงพูด
ถึงแม้ว่าศัตรูจะอยู่ห่างจากประตูบ้านของพวกเขาไปเพียงก้าวเดียว เขายังคงดูหล่อเหลาและมีความมั่นใจอยู่เต็มเปี่ยมอยู่ดี
นายพลจางเหลือบตามองไปที่เขาและรู้สึกว่าเขาได้แข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกนี้ก็อยู่ได้เพียงแค่ชั่วครู่ นายพลจางก็ไม่รู้ว่า สิ่งที่เขารู้สึกมันเป็นจริงหรือเปล่า เมื่อเขาไม่ใช่ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมาอย่างโชกโชนของเขาก็ช่วยบอกว่ามันมีบางสิ่งของผู้บังคับบัญชาฮวงแปลกไป
นายพลจางมองเหม่อและถอนหายใจออกมา “เมื่อพูดเกี่ยวกับเทคโนโลยีในการปรับแต่งแล้ว ถ้างั้นรถมินิบัสของเจียงลู่ฉีมันคือสิ่งที่สุดยอดที่สุดแล้วละ”
เขาได้รับรู้มาแล้วว่าเจียงลู่ได้ปฏิเสธคําเชิญของนายพลฮานและการช่วย เหลือของผู้บังคับบัญชาหลัว รวมทั้งเขาออกไปจากพื้นที่ปลอดภัยด้วย นายพลจางเป็นคนที่มีความคิดเปิดกว้าง เหตุผลที่เขาพยายามยื่นกิ่งก้านไปให้กับเจียงลู่ฉี เป็นเพราะว่าเขาชื่นชมเขาในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง และให้คุณค่ากับความสามารถในการปรับแต่งรถของเขา
มันน่าเศร้าที่คนอย่างฮานหยวนนั้นมัวแต่สนใจเพียงแค่ ผลลัพธ์ที่เสร็จแล้ว อย่างรถมินิบัสและไม่ใช่ความสามารถที่โดดเด่นของเขา ไม่สําคัญว่ามันจะทรงพลังแค่ไหน มันก็ยังเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ สําหรับใครก็ตามที่จะสู้กับฝูงซอมบี้ด้วยตัวของพวกเขาเอง พวกเขาต่างใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ในการเผชิญหน้ากับสัตว์ปากลายพันธุ์และซอมบี้ที่มีจํานวนมากมาย
นอกจากนี้แล้ว นายพลจางยังคิดเกี่ยวกับต้นกําเนิดของพลังงานใหม่ ที่ปรากฏตัวขึ้นหลังวันที่โลกล่มสลาย ซึ่งมันเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเบื้องหลังของรถมินิบัสเจียงลูฉี เขาก็ได้เรียนรู้มันมาจากทางวิทยุ พวกมันต่างเรียกว่า พลังงานใหม่ของโลกาวินาศ คริสตัลวิวัฒนาการก็เป็นตัวอย่างที่ดีของพลังงานเหล่านี้ แต่การผสมมันเข้ากับเทคโนโลยีมันยังคงแค่พึ่งเริ่มขึ้นเท่านั้น
“เอาเถอะ แม้ว่าฉันจะตั้งค่าเขาไว้สูงก็ตาม เมื่อวานนี้ ฉันก็ยุ่งมากเกินไปที่จะไปเชิญเขาเป็นการส่วนตัว โชคร้ายที่ฉันไม่ได้เชิญเขามารู้จักกับผู้บังคับบัญชาหลัวก่อนหน้านี้” นายพลจางคิดเขาอาจจะรู้สึกเสียใจในตอนนี้ แต่เขาก็วางแผนไว้แล้วว่าจะเชิญเจียงลู่ฉีอกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เขากลับมา
“นายพลจาง คุณไม่ต้องรู้สึกเสียใจไปหรอก หลังจากที่พวกเราก่อตั้งภูมิภาคแล้ว พวกเราจะรวบรวมทรัพยากรทุกอย่างไว้ที่นี่ เจียงลู่ฉีก็เป็นคนเพียงแค่คนเดียว” ผู้บังคับบัญชาฮวงพูดออกมา หลังจากสังเกตเห็นความเศร้าสร้อยของนายพลจาง
นายพลจางถอนหายใจอีกรอบหนึ่ง ในตอนที่พบกัน มันเป็นผู้บังคับบัญชาฮวงที่สนับสนุนและชื่นชมฮานหยวนมากที่สุด หลังจากนั้นนายพลจางก็รู้สึกลางๆว่าผู้บังคับบัญชาฮวงและฮานหยวนค่อนข้างสนิทกัน แต่นายพลจางคิดว่ามันไม่ใช่เวลาที่จะมาสืบหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อสิ่งเดียวที่เขาแคร์คือการจัดการกับเจ้าหลุมดํา ถ้ามันไม่ถูกทําลายไป พื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิงก็จะไม่มีอยู่อีกต่อไป มันไร้ความหมายในการคิดเกี่ยวกับอนาคต เมื่อบางสิ่งบางอย่างกําลังคุกคามพวกเขาอยู่
สําหรับเจียงลู่ฉีแล้ว แม้ว่าเขากําลังมุ่งหน้าไปในใจกลางของเจียงหนิง นายพลจางก็คิดว่าเขากําลังออกไปล่าสัตว์ปากลายพันธุ์แค่นั้น เขามัวแต่ให้ความสนใจกับขบวนรถที่มุ่งหน้าไปหาเจ้าหลุมดํา ซึ่งมันเป็นความหวังสุดท้ายของพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิง
หลังจากวันโลกาวินาศ เมื่อใจกลางเมืองเจียงหนิงที่ครึกครื้นกลายเป็นเศษซากปรักหักพังทั่วทั้งถนนต่างเงียบสงัดและมีเพียงกําแพงดําของตึก รวมทั้งรถที่เขรอะไปด้วยฝุ่น ที่ถูกทิ้งไว้ในบริเวณเหล่านี้ แต่ซอมบี้ก็พุ่งตัวออกมาจากมุมมืด และแสงแดงก็ส่องประกายออกมาในความมืด ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ต้องห้าม ถ้าใครก็ตามไม่ระมัดระวั พวกเขาสามารถที่จะถูกกิน ได้ในทุกเมื่อ
แต่มันไม่ใช่กรณีเดียวกันกับรถมินิบัสของเจียงลู่ฉี ซึ่งขับไปอย่างสบายๆ ซอมบี้บางตัวที่มีเจตนาที่จะโจมตีใส่มัน พวกมันไม่ถูกชนกระเด็นออกไป ไม่งั้นก็ถูกบดขยี้ไป สําหรับกลุ่มซอมบี้บางกลุ่มแล้ว เมื่อพวกมันยื่นมือของมันออกไปจับรถมินิบัส รถมินิบัสก็เร่งความเร็วขึ้นและทิ้งพวกมันไว้เบื้องหลัง
ด้านในรถมินิบัส เพลงดังก่อนวันโลกาวินาศก็ดังขึ้น นอกจากจางไฮและซุนคุนที่นั่งอยู่ในห้องคนขับแล้ว หญิงสาวที่เหลือต่างนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น หลี่ยู่ชินกําลังมองแผนที่ ในขณะที่หลันซิหยู่กําลังอ่านหนังสืออยู่
“มันมีกลุ่มซอมบี้อยู่ด้านหน้าพวกเรา ประมาณห้าหรือหกตัวค่ะ” หลันซิหยู่พูด
“งั้นเปลี่ยนทางเอาละกัน เลี้ยวขวา” หลี่ยซินพูดออกมาในทันที
หลันซิหยู่สามารถที่จะสัมผัสและสแกนในพื้นที่ใกล้ๆ และทําอย่าง อื่นไปพร้อมกันด้วยพลังจิตในปัจจุบัน ดวงตาสีเทาของเธอส่องประกายราวกับดวงดาวที่ส่องประกายในยามค่ำคืน แม้แต่หนังสือในมือของเธอก็ยังเปลี่ยนหน้าด้วยพลังของเธอ
เจียงลู่ฉีรู้สึกได้ลางๆว่าความสามารถของหลันซิหยู่เลื่อนมาสู่ขั้นใหม่แล้ว แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าเมื่อไหร่ที่เธอจะก้าวข้ามมันได้ การวิวัฒนาการของพลังจิตเป็นเรื่องที่ท้าทายมากสําหรับผู้มี พลังจิต พลังจิตไม่เหมือนกับพวกพลังที่ขึ้นอยู่กับร่างกาย ที่ซึ่งสามารถใช้พลังผ่านหมัด ขา หรือส่วนอื่น พวกผู้มีพลังจิตจําเป็นต้องใช้สมาธิอย่างมากในการควบคุม รวมพลัง และสร้างพลังของพวกเธอขึ้นมา มีเพียงแค่หลันซิหยู่ที่อยู่อย่างเงียบงัน ขยันขันแข็ง ที่เหมาะสมในการใช้พลังของเธอแบบนี้
“พวกเราจะเข้าไปใกล้กับเจ้าหลุมดําในอีกครึ่งวัน” หลิงพูดออกมา หลังจากที่ลงมาจากห้องยิงปืน เธอเหมือนกับนักฆ่าชั้นยอด ที่แฝงตัวเข้าไปกับความมืด ดวงตาของเธอนั้นเต็มไปด้วยความเย็นเยียบ และร่างกายที่สวยงามของเธอก็เหมือนกับมีดที่แหลมคม ถ้ามันไม่ใช่เพราะใบหน้าที่ดูเด็กของเธอแล้ว ผู้คนก็คงจะคิดว่าเธอเกิดมาเพื่อเป็นนักฆ่าโดยแน่แท้
“เจ้าหลุมดํา ” เจียงจู้อิงกําลังนองอยู่บนเตียงอย่างขี้เกียจ แต่ประกายไฟกําลังเปร่งประกายในดวงตาของเธอ ในขณะที่กระแสไฟฟ้ากําลังวิ่งเล่นไปบนฝ่ามือของเธอเหมือนกับแมวที่เชื่อฟัง ถึงแม้ว่าเจียงจู้อิงจะดูเหมือนกับเด็กสาว ร่างกายของเธอก็ยังมีกระแสไฟฟ้าที่รุนแรง และพลังทําลายล้างที่น่าหวั่นเกรง
“ใช่” เจียงลู่ฉีรู้สึกได้ลางๆว่าเจ้าหลุมดํามันสัมผัสได้ถึงตัวตนของเขา และรู้ว่าเขากําลังเข้าไปหามัน
คําถามก็คือ เจ้าหลุมดํานั่นคืออะไร ทําไมอยู่ๆมันถึงได้ปรากฏตัวขึ้น แล้วทําไมเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวถึงได้เชื่อมต่อกับมัน และส่งคําเตือนมามากมายให้กับเจียงลู่ฉีในช่วงหลายวันนี้ แต่เขาก็ยังไม่มีเวลาหาคําตอบ
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้อะไรเลย เจียงลู่ฉีก็ยังมั่นใจอยู่สองอย่าง เจ้าหลุมดําเป็นปัญหากับเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว อย่างที่สองคือ เขาจําเป็นที่จะต้องดูดซึมเจ้าแสงดําที่เจ้าหลุมดําสร้างมันขึ้นมา!