My MCV and Doomsday - ตอนที่ 561
Chapter 561: หายนะ
เฉินติงกระโดดจากตึกไปยังอีกตึกหนึ่งอย่างรวดเร็วมาก เขาคิดว่า แม้ว่ารถของเจียงลู่ฉี จะใหญ่โตมโหฬารขนาดไหน มันก็ยังไม่สามารถที่จะทําลายตึกทั้งหมดลงไปได้ เฉินติงรู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย เมื่อตึกมันได้ทําตัวเป็นโล่ให้กับเขา
“ซิหยู่ หยุดเขาซะ!” เสียงของเจียงลู่ฉีดังก้องไปทั่วรถ เมื่อเป็นเจ้าของ MCV เสียงและความคิดของเขาก็สามารถที่จะส่งกระจายไปทั่วทั้งคันได้ ถ้าเขาต้องการ
“ค่ะ” หลันซิหยู่พยักหน้า
ดวงตาสีเทาของหลันซิหยู่เหมือนเจาะทะลุผ่านมิติออกไปได้ เมื่อสัมผัสจิตวิญญาณสามารถที่จะแพร่กระจายไปทั่วทุกซอยและทั่วทุกตึก เพียงเวลาไม่นาน เธอล็อกไปยังแสงดวงไฟจิตวิญญาณที่ส่องประกายและวิ่งไปมาอย่างรวดเร็ว
“ฉันหาเขาพบแล้วค่ะ” หลันซิหยู่พูด
ฉีหยิ่งก็เร่งความเร็วรถขึ้น และชนรถไปสองคนที่อยู่ด้านหน้าของ MCV เพื่อที่จะไล่ล่าตามเฉินติงต่อไป
เมื่อได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของ MCV ที่เข้ามาใกล้มากขึ้น เฉินติงก็ตกตะลึงมาก พวกเขามีผู้มีพลังเหนือธรรมชาติด้านพลังจิตจริงด้วย!” เฉินติงสัมผัสได้ว่าใครบางคนคอยจับตามองเขาอยู่ตลอดเวลามาก่อน แต่ในครั้งนี้ เขาก็มั่นใจแล้วว่ามันมีอยู่จริงๆ
แต่มันก็ไม่ได้แตกต่างไปอยู่ดี จากตอนเริ่มแรก เขาไม่ได้พยายามจะสะบัดเจียงลู่ฉีหลุด เฉินติงฉีกยิ้มออกมา เขาพุ่งเข้าไปยังพื้นที่มีผู้คนหนาแน่น
“ตั้งแต่ที่นายถามหาความตายแบบนี้แล้ว ถ้างั้นก็ไล่ตามฉันมาด้วยละ!”
“ความเร็วของเขาโคตรเร็วเลย และเขาก็เคลื่อนที่ผ่านตึกแต่ละตึก ฉันไม่รู้ว่าพวกเราจะไล่ตามจับเขาได้ทันไหม” พีชพูดอย่างกังวล
“ให้ฉันลองดูหน่อย” เจียงจ๊อิงพูดพร้อมออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม เธอไม่ได้สู้มานานมากแล้ว และมันเริ่มที่จะคันเนื้อคันตัว อยากจะสู้บ้างแล้ว
ในความคิดของเจียงลู่ฉีแล้ว ไม่สําคัญหรอกว่าน้องสาวของเขาจะทรงพลังมากแค่ไหน เธอยังคงเป็นเด็กสาวที่จําเป็นต้องได้รับการดูแลและปกป้องอยู่เสมอมา ด้วยเหตุนี้มันทําให้เจียงลู่นี้ มองไปทางน้องสาวของเขาอย่างงลังเลใจ ก่อนที่จะพบกับสายตาที่มุ่งมั่นและแน่วแน่ มันเหมือนว่าน้องสาวของเขาได้โตขึ้นมามากแล้ว
สุดท้ายแล้ว เจียงลู่ฉีพยักหน้า “อืม ระวังตัวด้วย”
เจียงจ๊อิงยิ้มและตอบกลับ “สบายใจได้เลยค่ะ พี่ชาย”
ทันทีที่ประตูของ MCV เปิดขึ้น เจียงจ๊อิงกระโดดออกมาจากรถ ในเวลาเดียวกัน เธอขว้างดาบยาวที่เต็มไปด้วยกระแสไฟฟ้าในมือของเธออย่างรวดเร็ว มันปักลงไปบนกําแพงที่อยู่ไกลออกไป หลังจากนั้น เธอก็ใช้โซ่ที่ติดอยู่กับดาบยาวดึงเธอไป เธอก็ไปโผล่ขึ้นตรงที่ดาบยาวปักกําแพงอยู่ เธอก็ดึงดาบยาวและขว้างมันไปเหมือนกับก่อนหน้านี้ ในชั่วพริบตา เจียงจู้อิงได้ย่นระยะไปมาก โดยการใช้วิธีการนี้
“จู้อิงแข็งแกร่งขึ้นแล้ว” หลี่ยู่ซินพูดอย่างตื่นเต้น
จนในที่สุด เจียงจ๊อิงค้นพบหาทางทําให้ร่างกายและความสามารถของเธอสมดุลขึ้นมาจนได้ หลังจากการวิวัฒนาการครั้งที่สอง ยิ่งความสามารถทรงพลังมากแค่ใด มันยิ่งยากในการควบคุมมากเท่านั้น ความสามารถของเจียงจ๊อิงนั้นแข็งแกร่งมาก ดังนั้นมันจึงใช้เวลานานมากในการทําให้คุ้นเคยกับมัน แต่ว่าเมื่อเธอใช้มันได้อย่างสมบูรณ์ ความแข็งแกร่งก็จะพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
ทันใดนั้น เฉินติงได้ยินซ่าๆจากไฟฟ้าที่ขึ้นจากด้านหลัง มันเหมือนกับห่าพายุสายฟ้ากําลังรวมตัวอยู่ และกําลังเข้ามาใกล้กับเขาขึ้น รอยยิ้มบนใบหน้าของเฉินติงค่อยๆที่จะหายไป เมื่อเขารู้สึกได้ถึงลางร้ายบางอย่าง เขาหันกลับไปมองยังทางเสียงของสายฟ้า ในตอนแรก เฉินติงมองไม่เห็นอะไรสักอย่าง แต่เขาก็เห็นประกายของไฟฟ้าขึ้น ยิ่งเลวร้ายไปกว่านั้น เขายังเห็นเงาดําตอนที่สายฟ้ามันสว่างวาบขึ้นมาด้วย วินาทีต่อมา เขาก็เห็นประกายไฟสว่างวาบขึ้นมาอีกสองครั้งอย่างต่อเนื่อง แต่ละครั้งที่สายฟ้าสว่างวาบขึ้นเงาดําก็ยิ่งมองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น เมื่อมันเข้ามาใกล้กับเขา
ตาของเฉินติงก็เพ่งไปทางนั้น “ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับ 2 ค่อนข้างแข็งแกร่งเลยด้วย!”
ความสามารถพิเศษของเจียงจ๊อิงค่อนข้างแปลก แต่เฉินติง เมื่อเป็นเจ้าถิ่น มันทําให้เขาไม่ได้สูญเสียความใจเย็นของเขาลง แต่มันกลับเกิดความแน่วแน่ขึ้นมาแทน
“มันเหมือนกับว่าฉันจะไม่สามารถหนีไปได้สินะ มันกําลังจะตามฉันทันแล้ว” เฉินติงตัดสินใจที่จะโจมตีก่อน
เฉินติงหยุดลงและรวบรวมพลังทั้งหมดไว้ที่ปลายนิ้วมือของเขา หลังจากนั้น ร่างกายของเขาก็ระเบิดไปด้วยพลัง และผมของเขาตั้งขึ้น เขาเตรียมพร้อมที่จะสู้แล้ว
ในเวลาเดียวกัน เฉินติงต่อยไปยังอากาศ และไม่ต้องสงสัยเลย ถ้าเจียงจ๊อิงโดนหมัดเขาเข้าไป ร่างกายของเธอคงจะระเบิดออกอย่างแน่นอน แม้แต่ห้องที่เขาอยู่ยังแทบจะระเบิดด้วยหมัดของเขา เป้าหมายในครั้งนี้ของเขาคือคนที่อยู่ในสายฟ้านั่น เขายิ้มออกมา และจินตนาการถึงสภาพอันน่าอนาถที่กําลังจะรับหมัดของเขา
แต่มันไม่ใช่แค่เฉินติงเพียงคนเดียวที่ยิ้มออกมา เจียงรู้อิงยังคงยิ้มด้วยอีกคน “แล้วนายรู้จักไฟฟ้าแสนโวลต์ไหมละ?”
ในชั่วพริบตา เจียงอิงได้สร้างสนามไฟฟ้าที่ทรงพลังขึ้น และขยายมันขึ้นเป็นระยะหลายร้อยเมตร สิ่งมีชีวิตทั้งหมดภายในสนามไฟฟ้า รวมทั้งเฉินติงต่างรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่าง ในเวลาเดียวกัน เฉินติงก็เห็นประกายไฟสีน้ําเงินปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขา
หมัดของเขาจะเทียบกับไฟฟ้าได้ยังไง?
พูดได้เลยว่าทันทีที่เฉินติงเห็นประกายไฟสีน้ําเงิน กระแสไฟฟ้าทําลายล้างของเจียงจ๊อิงได้ทําให้ร่างกายของเขาพังพินาศ
เจียงจ๊อิงตื่นเต้นมาก เมื่อเธอได้แสดงศักยภาพของเธอให้กับเพื่อนร่วมทีมเห็นสักที โดยเฉพาะกับพี่ชายของเธอ
ในตอนนี้ ทั่วทั้งตึกมันแทบจะปกคลุมไปด้วยไฟฟ้า ในขณะที่ประกายไฟสามารถที่จะมองเห็นได้จากระยะไกล
ร่างกายที่เจ็บสะบักสะบอมของเฉินติงส่งกระเด็นออกไป เขาไม่สามารถที่จะสัมผัสได้แม้แต่เสื้อของเจียงจ๊อิงได้เลยด้วยซ้ํา ในขณะที่การปล่อยพลังของเธอออกไป เจียงจ๊อิงกระโดดถอยไปด้านข้าง
ร่างกายของเฉินติงไหม้ดํามาก เขารู้สึกถึงใบหน้าที่แสบไหม้ขึ้นบนหน้าของเขา มันบ่งบอกว่ามันเจ็บมาก ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยอาการเจ็บปวด ในขณะที่ผิวหนังของเขากระตุกไปมา เขาก้มลงไปมองยังมือของเขา แต่มันก็ปกคลุมไปด้วยชั้นกระแสไฟฟ้า
“อ๊ากกก!” เฉินติงร้องออกมาอย่างยากลําบาก เขาจ้องไปที่เจียงจ๊อิงยิ้มอย่างสุขใจ เธอพึงพอใจกับการโจมตีด้วยกระแสไฟฟ้าที่มีพลังมากมายอยู่ในนั้นมาก
เมื่อเห็นเจียงจ๊อิงเดินมาเขาทีละก้าว ทีละก้าว เฉินติงก็ลุกขึ้นจากพื้น ด้วยความแข็งแกร่งทั้งหมดของเขาและรีบพุ่งออกไปด้านนอก
“อ๊า? ทําไมเขาถึงยังวิ่งหนีได้อยู่อีก?” เจียงจ๊อิงรู้สึกประหลาดใจ
กระแสไฟฟ้าที่เธอพึ่งจะปล่อยออกไปมันรุนแรงยิ่งกว่าไฟฟ้าแรงสูงเสียอีก เจียงจ๋งอิงคิดว่าพลังป้องกันของเฉินติงค่อนข้างดีเยี่ยมเลย ในขณะที่พลังการต่อสู้ของเขาค่อนข้างจะธรรมดาทั่วไป ที่จริงแล้ว เฉินติงค่อนข้างที่จะแข็งแกร่งมาก แต่เขาไม่ได้มีโอกาสที่จะแสดงออกมาให้เห็น เมื่อคู่ต่อสู้ของเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเจียงจ๊อิง
“ฉันจะต้องวิ่ง! ตราบเท่าที่ฉันยังวิ่งไปถึงที่นั่นได้ ฉันก็จะถูกช่วยไว้ พวกแกทั้งหมดจะเป็นคนที่ตายกันเองทั้งหมด
ก่อนที่เฉินติงจะได้คิดจบ ร่างกายแข็งที่อและหยุดลง มันเหมือนกับว่ามีใครบางคนกําลังร่ายเวทมนต์ใส่เขาอยู่ ในเวลาเดียวกัน หน้าผากของเขาปกคลุมไปด้วยเหงื่อ กล้ามเนื้อของเขาตึงด้วยตัวของมันเอง และหัวใจของเขาเต้นระรัว เขาหันหัวกลับไปช้าๆและมองออกไป รถ MCV ของเจียงลู่ฉีกําลังจอดอยู่บนถนน
จากรูยิงปืนที่อยู่ด้านบนรถ ปากกระบอกปืนสีดําก็ยื่นออกมาจากด้านในนั้น มันกําลังเล็งมายังหัวของเขาอยู่ เฉินติงรู้ดี ถ้าเขาพลาดหรือขยับแม้แต่นิ้ว เจียงลู่ฉีก็จะลั่นไกปืนในทันที
ในเวลาเดียวกัน เจียงจ๊อิงมาถึงข้างเฉินติงได้ ด้วยเหตุนี้ ชายคนนี้ก็ยอมแพ้ที่จะวิ่งหนี เจียงจ๊อิงหงุดหงิดและบ่นออกมา “ทําไมนายถึงวิ่งหนีกัน? แม้ว่านายจะหาทางหลบหนีไปจากฉันได้ พี่ชายฉันก็จะฆ่านายทิ้งไปอยู่ที่นั่นแหละ”
ทันใดนั้น เฉินติงได้ยินเสียงของเจียงลู่ฉีขึ้นมาในหัว “นายวิ่งหนีไปทางนี้เพื่อล่อฉันมาที่นี่ ใช่ไหมละ?”
เฉินติงที่ตกอยู่ในความสิ้นหวังเงยหน้าขึ้นมาและมองเห็นรถติดเกราะและรถถังจํานวนมากอยู่อีกฟากฝั่งหนึ่งของถนน มันทําให้เฉินติงยิ้มอย่างชั่วร้ายออกมา
สิ่งที่เจียงลู่ฉีพูดมันถูกต้อง!
“พวกเขาคือทหารของชิงไห่ กองกําลังทหารทั้งกอง!”
รถถังเกือบสามสิบคันและรถติดเกราะอีกมากกว่าห้าสิบคันได้มาหาเจียงลู่ฉี นอกจากนี้ พวกเขายังมีรถ off-road และปืนอีกจํานวนมาก บนรถผู้บังคับบัญชาก็มีธงสีดําโบกสะบัดพริ้วไหวไปมาอยู่
“หน่วยพายุเกราะ! ซงหลิงเฉินอยู่ที่นี่แล้ว!” เฉินติงคิดอย่างตื่นเต้น เมื่อเขาได้ทําตามเป้าหมายได้แล้ว
ซงหลิงเฉินเปิดเพดานรถออกและลุกขึ้นยืน สมาชิกทุกนายของหน่วยพายุเกราะ รวมทั้งเขาต่างสงสัยเกี่ยวกับรถประหลาดนั่น ซึ่งมันเป็นรถที่พวกเขากําลังล้อมรอบอยู่ พื้นผิวเหล็กที่เรียบนอนอยู่ด้านนอกของตัวรถ เทคโนโลยีในการสร้างรถระดับสูง รวมทั้งรูปร่างที่ใหญ่โตแบบนั้น ถ้ามันไม่ได้มีล้อขนาดยักษ์อยู่ใต้นั่น พวกเขาคิดว่ามันเป็นปราสาทสงครามแทนเสียแล้ว
“ไม่สงสัยเลยว่าทําไมหน่วยผู้รอดชีวิตถึงล้มเหลว เมื่อพวกเขาโจมตีใส่พวกนาย” ซงหลิงเฉินพัด
– ความล้มเหลวของทีมเหล่านั้นไม่ได้สร้างผลกระทบอะไรเลยกับแผนของซงหลิงเฉิน มันเป็นเรื่องที่ง่ายดายมากสําหรับเขาในการบดขยี้ ถ้าเขาต้องการทํามัน ในสายตาของเขาแล้ว ทีมเหล่านั้นสามารถที่จะถูกสับเปลี่ยนได้ พวกเขาต่างมาตามหารางวัลมากมายนั่น ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจหรอกว่าพวกเขาจะตายกันไปทั้งหมดหรือเปล่า อย่างไรก็ตาม ซงหลิงตระหนักได้ว่าเขาได้ดูถูกพลัง ของทีมฉีหยิ่งเกินไป
เซียงซัวไฮมองไปยังรถ MCV อย่างประหลาดใจด้วยเช่นกัน เธอนั้นอยากที่จะเห็นหน้าเจียงลู่ฉีมานานแล้ว
“มันเป็นนายจริงๆด้วย…” เซียงซัวไฮ่พูดอย่างอ่อนโยน
ในโลกที่เลวร้ายเช่นนี้ ความรู้สึกของการได้พบกับคนรักอีกครั้งหนึ่งมันจะล้ําค่ามาก
“นายยังจําฉันได้ไหม?” เซียงซัวไอ่คิด ไม่ต้องพูดเลยว่าเธอพึงพอใจด้วยเช่นกัน ที่รู้ว่าเจียงลู่ฉีปลอดภัยดี
“สไนเปอร์นั่นน่าจะเป็นเจียงลู่ฉีใช้ไหม?” ในเวลาเดียวกัน ซึ่งหลิงเฉินมองไปยังสไนเปอร์ไรเฟิลที่ยืดออกมาจาก MCV “ยอดเยี่ยม! นายทรงพลังจริงด้วย ทีมผู้รอดชีวิตพวกนั้นช่วยนายว อร์มร่างกายแล้วนะ ฉันนี่แหละคือคู่ต่อสู้ของนายเอง นายพร้อมยัง?” ซงหลิงเฉินพูด
หลายต่อหลายทีมเลือกที่จะยอมแพ้ลง หลังจากที่ถูกล้อมรอบโดยกองกําลังที่แข็งแกร่งเช่น
ซงหลิงเฉินได้ยินมาว่ารถมินิบัสของเจียงลู่ฉีทรงพลังมากเท่าใด และผู้บังคับบัญชาหลัวต่างต้องการที่จะได้รับมัน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เห็นรถมินิบัสมาก่อน เขาคิดว่ารถที่ประหลาดนั่นที่อยู่ด้านหน้าเขาทรงพลังกว่านั้นอีก
เจียงลู่ฉีมองไปทางผู้คนที่ล้อมรอบเขาอย่างเย็นชา เขาจ้องไปทางซงหลิงเฉินและถามอย่างเย็นชา “นายคือใครกันละ? ใครให้สิทธิ์นายมาพูดไร้สาระต่อหน้าฉันแบบนี้?”
เจียงลู่ฉีไม่เคยอ่อนโยนกับศัตรูของเขาเลยสักครั้ง ในตอนแรก เขาคิดว่าทหารเหล่านั้นเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพ แต่ธงของพวกเขาต่างแตกต่างกันออกไป เขาได้เผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ค ล้ายคลึงกันแบบนี้มาหลายต่อหลายครั้งแล้ว เจ้าหน้าที่และทหารบางคนได้ตัดขาดกับกองทัพ และพวกเขาต่างได้สร้างกองกําลังของตัวเองขึ้นมาและกลายเป็นราชาของดินแดน เป็นเจ้าของพลังอํานาจที่ตัดสินความเป็นความตายของผู้อื่นได้ด้วยตัวของเขาเอง
“มันกลับกลายเป็นว่าองค์กรลึกลับนั่นได้หนุนหลังพวกเจ้าของอาณาเขตสินะ” เจียงลู่ฉีคิด
เมื่อได้ยินคําถามของเจียงลู่ฉี ซงหลิงเฉินขมวดคิ้ว ในขณะที่ลูกน้องของเขาต่างตกตะลึงกันหมด
“เขากล้าที่จะทําตัวเย่อหยิ่งแบบนี้ได้ยังไง หลังจากที่ถูกล้อมรอบแบบนั้น?”
“ฉันซงหลิงเฉินจากเมืองชิงไห่ ผู้บังคับบัญชาหลัวเจียเฟิงเป็นเจ้านายของฉันเอง” ซึ่งหลิงเฉิน พูด เขาไม่ได้สนใจคําพูดของเจียงลู่ฉีเลยแม้แต่นิดเดียว ในความคิดของเขาแล้วนั้น เจียงลู่ฉีเป็นชายที่โชคร้ายและใกล้จะตายลง เมื่อเป็นหนึ่งในตัวตนที่ทรงอิทธิพลของเมืองชิงไห่ ซงหลิงเฉินก็มีความภาคภูมิใจและความคิดของเขาเอง
“โอ้ นายมันก็แค่พวกขี้ข้าที่คอยรับฟังคําสั่งของเขาสินะ” เจียงลู่ฉีพูดอย่างเฉยเมย
ในตอนแรก เจียงลู่ฉีตกอยู่ในความประทับใจที่ว่าซงหลิงเฉินเป็นสมาชิกขององค์กรลึกลับ แต่มันกลับกลายเป็นว่าหลัวเจียเฟิงไม่ได้ให้ความสนใจกับทีมฉีหยิ่งมากเท่าไหร่ เขาจึงส่งลูกน้องมาทําเรื่องเลทรามแทน เขายังไม่ได้แจ้งเกี่ยวกับเรื่องเจ้าหลุมดํานั่นด้วยซ้ําไป
“ฉันจะแสดงให้นายเห็นและองค์กรนั่นรับรู้ถึงผลลัพธ์จากการมายั่วยุฉัน!” เจียงลู่ฉีพูดอย่างเย็นชา
ตั้งแต่องค์กรลึกลับได้ตั้งค่าหัวของเขาไว้ เจียงลู่ฉีจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ให้มันผ่านไป เจียงลู่ฉีเป็นผู้ชายที่รู้จักตอบแทนและจะไม่ลืมความขัดแย้งนี้ไว้
“นายยังไม่ได้เริ่มเรียนบทเรียนเลยด้วยซ้ํา งั้นให้ฉันฆ่าอีกสักคนก่อนละกัน นายค่อยเป็นคนต่อไป” เจียงลู่นี่พูดต่อ
มันทําให้หลังจากนั้นซงหลิงเฉินจึงสังเกตเห็นเฉินติงที่นอนกองอยู่บนพื้นพร้อมกับใบหน้าที่บิดเบี้ยว ถ้าเขาไม่ได้มองไปที่เฉินติงให้ดีๆแล้ว เขาคงจะจําไม่ได้ เฉินติงเป็นชายที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเจียงลู่ฉี ดังนั้นซงหลิงเฉินจึงไม่สามารถที่จะปล่อยเขาตายต่อหน้าได้
“ปล่อยเฉินติงไป..” ซงหลิงเฉินตะโกน แต่เสียงปืนก็ดังกลบเสียงของเขาไป
หัวของเฉินติงระเบิดออกเหมือนกับแตงโม เหลือทิ้งไว้แต่เพียงศพไร้หัวนอนกองพื้นอยู่ เจียงลู่นี้ได้สังหารเฉินติงไปโดยไม่สนใจคําพูดของซงหลิงเฉินเลยแม้แต่นิด
“ช่างมันเถอะ มันไม่สาคัญหรอก” ซงหลิงเฉินพูด
“เมื่อฉันพูดว่านายเป็นคนต่อไป นายก็จะไปพบกับเขาในไม่ช้านี่แหละ” เจียงลู่ฉีพูด
ซงหลิงเฉินโบกมือ หลังจากนั้นปากกระบอกปืนใหญ่ก็เล็งไปยัง MCV ในชั่วพริบตา ถ้าปืนใหญ่ทั้งหมดต่างยิ่งออกมาพร้อมกัน แม้แต่ตึกก็ยังระเบิดเป็นชิ้นๆได้
เจียงลู่ฉีรู้สึกว่าเลือดของเขากําลังไหลเวียนอย่างรวดเร็ว หลังจากการอัพเกรด MCV แล้ว นี่เป็นการต่อสู้ที่ยากลําบากในครั้งแรก มันค่อนข้างยากสําหรับคนอื่นในการสร้างความเสียหายกับ MCV ของเขา แต่พวกเจ้าของอาณาเขตแบบพวกเขา พร้อมกับอาวุธสมัยใหม่นั่นได้สร้างภัยคุกคามให้กับ MCV
เจียงลู่นี้ไม่ต้องการที่จะสู้กับกองทัพ แต่เขาจําเป็นที่จะต้องหาที่ป้องกันตัวของเขา นอกจากนี้แล้ว มันยังคงมีคลื่นใต้น้ําอยู่ในกองทัพ เครือข่ายขององค์กรลับได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งกองทัพจากด้านใน พวกเขาเป็นภัยคุกคามกับกองทัพ รวมทั้งเจียงลู่ฉีด้วย
เจียงลู่ฉีรอคอยที่จะบดขยี้พวกเขาให้สิ้นซาก
“ยิง!” ซงหลิงเฉินออกคําสั่ง
เสียงปืนก็ดังขึ้นและห่าระเบิดลอยมาทาง MCV ของเจียงลู่ฉี
เสียงที่ดังขึ้นได้ดึงดูดซอมบี้ของเมืองและสัตว์ปากลายพันธุ์ สัตว์ปากลายพันธุ์และซอมบี้ต่างได้รับสติปัญญามา ดังนั้นพวกมันจึงมีความจําและจดจําการเคลื่อนไหวแบบนี้ได้ เมื่อพวกมันโจมตีเมือง พวกมันต่างได้ยินเสียงแบบนี้มาก่อน แต่ทําไมพวกมันถึงได้ยินขึ้นอีกครั้งละ? ในชั่วพริบตา ตาแดงเลือดนับไม่ถ้วนต่างจับจ้องไปยังทิศทางเดียว!
“ฉีหยิ่ง!” เจียงลู่ฉีตะโกน
ฉีหยิ่งจับพวงมาลัยด้วยมือทั้งสองและเหยียบคันเร่ง ในเวลาเดียวกัน เจียงลู่ฉีตะโกนออกมาอีกครั้ง “จ๊อิง!”
ประตูของ MCV เปิดขึ้นในทันทีและในชั่วพริบตา ประกายไฟฟ้ากระโดดจากตึกเข้าไปในประตูที่เปิดออกของรถทัวร์