My MCV and Doomsday - ตอนที่ 565
Chapter 565: เมืองชิงไห่
เมืองชิงไห่เป็นเมืองฐานทัพขนาดเล็ก มันถูกล้อมรอบไปด้วยกําแพงสูง ซึ่งมันทําให้ดูเหมือนกับเป็นดั่งโอเอซิสท่ามกลางป่าไม้ มันถูกล้อมรอบไปโดยพื้นที่ที่เต็มไปด้วยซอมบี้และสัตว์ปากลายพันธุ์ แต่ผู้รอดชีวิตทั้งหมดต่างรวมตัวกันในโอเอซิส และหลบซ่อนอยู่ด้านหลังกําแพงสูงเพื่อเอาชีวิตรอด
ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีฝูงซอมบี้ก็ตาม การใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มันก็เป็นเฉกเช่นเดิม สําหรับผู้รอดชีวิตธรรมดาทั่วไป มันทั้งเต็มไปด้วยความรุนแรง ความยากลําบาก และความดิ้นรนในการเอาชีวิตรอด พวกเขาไม่ได้รับรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่ด้านนอก หรือแม้แต่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นภายในตึกสูงสุดที่อยู่ใจกลางเมืองชิงไห่อยู่ทุกวัน ที่จริงแล้ว พวกเขาไม่ได้มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปใกล้กับตึกนั่นเลยด้วยซ้ํา ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของอํานาจเมืองชิงไห่
ด้านบนของชั้นตึกสูงนั้นมีชายที่ทรงพลังที่สุดในเมืองชิงไห่อยู่ ซึ่งเขาคือผู้บังคับบัญชาหลัวเจียเฟิง จากบนนั้น เขาสามารถมองลงไปทั่วทั้งเมืองได้ ผู้รอดชีวิตธรรมดาทั่วไปไม่ได้มีโอกาสที่จะพบกับเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
ในตอนนี้ มีรายงานสองใบถูกวางไว้ที่เบื้องหน้าของเขา
“ซงหลิงเฉินพาหน่วยพายุไปสู้กับทีมฉี่หยิ่ง ในเวลาเดียวกัน ทีมผู้รอดชีวิตหลายสิบทีมต่างเข้าร่วมกับเขาด้วย แต่กลับกลายเป็นว่าทีมฉ่หยิงได้จัดการพวกเขาทั้งหมดไป” นี่คือเนื้อหารายงานส่วนแรก แน่นอนว่าข่าวใหม่นี้ได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมือง จนทําให้ทุกคนต่างตกตะลึง
หลัวเจียเฟิงรู้สึกประหลาดใจ แต่สิ่งที่เขาแคร์มากจริงๆ คือส่วนที่สอง มันไม่มีอย่างอื่นบนโต๊ะของหลัวเจียเฟิง นอกจากรายงานสองใบ วิทยุและมือถือ วิทยุนั้นได้ถูกเปิดทิ้งไว้ และจะมีคําพูดออกมาบางครั้งบางคราว มีเพียงคนไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถแปลความหมายจากพวกมันได้ ในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาสามารถที่จะรู้เวลาที่มีการกระจายข่าวครั้งต่อไป เนื่องจากตัวเลขเหล่านี้
หลัวเจียเฟิงได้รับรายงานใบที่สองมาจากวิทยุ และเขากําลังจ้องมันอย่างจริงจัง “อาวุธ ได้ถูกค้นพบ” มันเป็นประโยคธรรมดาทั่วไป แต่มันทําให้หลัวเจียเฟิงหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง
ก่อนวันที่โลกจะล่มสลาย หลัวเจียเฟิงเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ระดับกลางธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ เขาจึงไม่ได้รับรู้เกี่ยวกับข่าวที่เหล่าพวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงต่างได้รับ เกี่ยวกับการระบาดของใวรัส การระบาดของไวรัสได้เปลี่ยนแปลงความคิดของเขาไปมาก และหลังจากที่เขาเริ่มจะเก่งกาจกว่าคนอื่นแล้ว โลกแห่งความจริงมันได้แตกต่างไปจากเดิม ในสายตาของเขา ถ้าเขาไม่ได้เข้าร่วมกับองค์กรลึกลับแล้วละก็ มันคงจะเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้เลย สําหรับเขาที่จะรับรู้ถึงบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งถูกเรียกว่า ‘อาวุธ’
หลัวเจียเฟิงจมอยู่ในความคิดอยู่สักพักหนึ่ง และหลังจากนั้นเขาก็ออกคําสั่ง เขาปิดวิทยุและขว้างเอกสารลงไปในถังขยะ แล้วเขานวดมือของเขา เปลวเพลิงถูกจุดขึ้นบนนิ้วมือ และมันได้ถูกขว้างลงไปในถังขยะ จนเผาทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไปด้านในทิ้งไป
เมื่อเวลาที่เปลวเพลิงดับลงและเอกสารทั้งหมดได้ถูกเผาไหม้ หญิงสาวที่แต่งตัวอย่างงดงามทั้งผมสั้นและงดงามเปิดประตู
“ผู้บังคับบัญชาหลัวคะ ฉันได้จัดการทุกสิ่งทุกอย่างตามคําสั่งของคุณแล้วค่ะ คุณสามารถที่จะจากไปตอนไหนก็ได้ที่คุณต้องการเลยค่ะ” เลขาพูดออกมา
“เข้าใจแล้ว” หลัวเจียเฟิงพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น
“แล้วทีมฉี่หยิงละคะ?” เลขาถามออกมาอย่างลังเลใจ
ถ้าเขาไม่ได้รับรายงานอย่างที่สองมา เขาคงจะไปสู้กับทีมจี้หยิงด้วยตัวของเขาเองแล้ว เขาต้องการที่จะไปหาแก่นแท้ของเจ้าหลุมดํา อย่างไรก็ตาม ในความคิดของเขาแล้ว ทีมฉี่หยิงมันไม่ได้สําคัญมากพอเท่ากับ ‘อาวุธ’
หลัวเจียเฟิงตอบกลับอย่างสบายๆ “ถ้าพวกเขาวิ่งหนีไป เพิ่มราคาค่าหัวของเขาซะ ถ้าพวกเขาพยายามที่จะหนี ส่งใครบางคนให้ไปตามหาพวกเขาซะ”
“ค่ะ!”
“นายรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับผู้บังคับบัญชาหลัว?” ตามทางที่ไปยังเมืองชิงไห่ เจียงลู่ฉีถาม เจ้าหน้าที่จากหน่วยพายุ
ชายคนนี้ถูกเรียกว่าหวู่กวง ถึงแม้ว่าหวู่กวงจะยังคงระมัดระวังกับเจียงลู่ฉี เขาไม่ได้เชื่อว่าเจียงลู่ฉีเป็นชายที่ชั่วร้าย ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ได้ปฏิเสธที่จะตอบ “ผมไม่รู้จักเขาเลยครับ ผมรู้เพียงว่า เขาไม่ได้เป็นผู้บังคับบัญชามาก่อนหน้านี้ อยู่ๆเขากลายเป็นหัวหน้าของทีมซะอย่างงั้น และเขาได้ก่อตั้งเมืองชิงไห่ไว้ เมื่อเทียบกับฐานทัพเมืองอื่นแล้ว เมื่อชิงไห่เป็นดั่งจุดแลกเปลี่ยนขนาดใหญ่ครับ” หวู่กวงพูด
หวู่กวงเป็นเจ้าหน้าที่ของกองทัพ ดังนั้นเขาจึงเห็นการก่อตั้งของเมืองชิงไห่และเน้นการพัฒนาตามมา หวู่กวงรู้ดีว่ามันได้ถูกส่งมาในเมืองชิงไห่อยู่ตลอด ทั้งอาวุธ คริสตัลวิวัฒนาการและทรัพยากรอย่างอื่นแล้ว พวกมันต่างถูกแลกเปลี่ยนกันกับสิ่งอื่น ปกติแล้ว หวู่กวงไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย เขาเพียงแค่ต้องการอยู่ในเมืองชิงไห่ เขารู้อย่างชัดเจนว่า ความสงสัยมันจะทําให้เขาตาย ยังไงก็ตาม หลังจากที่ถูกถามโดยเจียงลู่นี่แล้ว หวู่กวงก็มานั่งคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างระมัดระวัง เมืองชิงไห่เป็นเมืองของเจ้าถิ่น แต่ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถที่จะซื้อได้จากแห่งนั้น มันค่อนข้างดูทะแม่งๆ
“อยู่ๆเขาก็เลื่อนขั้นไปเป็นพวกตําแหน่งสูงได้อย่างฉับพลันนี่นะ! เหมือนกับฮานหยวนเลย” เจียงลู่ฉีคิด
เจียงลู่ฉีประเมินว่าเมืองชิงไห่เป็นหนึ่งในฐานทัพขององค์กรลึกลับ และหลัวเจียเฟิงมีหน้าที่ปกป้องมัน ไม่ต้องสงสัยเลยว่า หลัวเจียเฟิงเป็นชายที่สําคัญยิ่งกว่าฮานหยวนในองค์กรลึกลับ แน่นอนว่า ถ้าเจียงลู่ฉีไม่ได้สังหารฮานหยวนแล้ว ชายคนนี้คงจะกลายเป็นตัวตนที่ทรงอํานาจในอนาคต
“หลัวเจียเฟิงไม่ได้เป็นคนธรรมดาทั่วไป เขาทั้งแข็งแกร่ง หนักแน่น ตัดสินใจเด็ดขาดมากครับ” หวู่กวงพูด เขามองไปทางเจียงลู่ฉีและพูดต่อ “ถ้าคุณคิดว่าเขาอยู่ระดับเดียวกับซงหลิงเฉิน แล้วผมว่าคุณคิดผิดแล้วละ”
สุดท้ายแล้ว หลัวเจียเฟิงเป็นชายที่มีอํานาจสูงสุดในเมืองชิงไห่
“ถ้าฉันคิดว่าเขาอยู่ระดับเดียวกับซงหลิงเฉินแล้ว ฉันคงจะไม่สนใจเขาแบบนี้หรอก” เจียงลู่ฉี
“ครับ” หวู่กวงตอบ เขาไม่ต้องการที่จะข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยแม้แต่นิดเดียว เมื่อพวกเขาออกเดินทาง พวกเขาต่างเชื่อว่ามันคงจะเป็นภารกิจที่ง่ายดาย แต่ผลลัพธ์กลับแตกต่างออกไปแทนเสียอย่างงั้น
เขามองไปที่ด้านหน้าและพูดต่อ “เมืองชิงไห่อยู่ข้างหน้าพวกเราครับ”
เมื่อพวกเขาเข้าไปใกล้กับเมืองชิงไห่มากขึ้นเรื่อยๆ ภาพของเมืองได้ปรากฏขึ้นมาในสายตา หวู่กวงมองไปที่เจียงลู่ฉีอย่างซับซ้อน
เจียงลู่ฉี มีความมั่นใจการเผชิญหน้ากับเมืองทั้งเมืองจริงๆเหรอ?