My Vampire System - ตอนที่ 10
ควินน์จ้องเขม็งไปที่ข้อความแจ้งเตือนเป็นเวลานานและอ่านมันซ้ำหลายๆรอบ
“เป็นไปไม่ได้ ฉันได้รับ Exp จากหนังสือแฟนตาซีเล่มนี้งั้นเหรอ?”
ควินน์ได้ทดสอบดูทันที หลังจากที่อ่านหนังสือเกียวกับทักษะต่างๆนาๆ ไม่มีเลยซักเล่ม ที่ให้ Exp กับเขา แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างหนังสือเล่มนี้กลับทำได้ ควินน์จึงรีบหยิบหนังสือนิยายแฟนตาซีอีกเรื่องออกมา เกี่ยวกับมังกรและมีชื่อว่า ‘กลับมาเกิดใหม่เป็นมนุษย์?’
เขาทำเช่นเดียวกันกับก่อนหน้านี้โดยอ่านเพียงคร่าวๆ แต่แน่ใจว่าอ่านจับใจความสำคัญ จากนั้นเมื่อเขาปิดหนังสือเล่มนี้ลงก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ แน่นอนมันเป็นอย่างที่คาดไว้
จากนั้นควินน์ต้องการทดสอบอีกครั้งเขาหยิบหนังสืออีกเล่มที่เกี่ยวกับแวมไพร์และทำเช่นเดียวกัน เมื่อเขาปิดหนังสือแม้ว่าจะทำสิ่งที่ผ่านมาเหมือนกัน แต่ระบบก็ไร้การตอบสนองใดๆ
ท้ายที่สุด ควินน์ได้ตั้งทฤษฏีหลังจากอ่านหนังสือทั้งหมดไป เขาได้รับความรู้เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับทักษะและระบบรางวัลที่มอบให้กับเขา บางทีระบบอาจจะส่งข้อความให้ในภายหลัง
เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหนังสือที่เกี่ยวกับแวมไพร์จะมีความเกี่ยวข้องกับระบบของเขา เขาไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ
เมื่อควินน์ตรวจสอบทุกอย่างในห้องสมุดเสร็จ เขาสังเกตว่าวอร์เด็นได้หายตัวไปและไม่ได้อยู่ในห้องสมุดแล้ว
“หือ หมอนั่นคงจะเบื่อแล้วไปที่ไหนซักแห่ง?”
ควินน์ได้มองออกไปนอกหน้าต่างและเห็นว่าพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน เขาอยู่ในห้องสมุดมาเป็นเวลา 6 ชั่วโมงแล้วและเวลาก็ผ่านได้ไปอย่างรวดเร็ว เมื่อควินน์กำลังจะออกจากห้องสมุด เขาก็ได้รับข้อความอื่นจากระบบ
[ภารกิจรายวันเสร็จสิ้นแล้ว]
[หลีกเลี่ยงการถูกแสงอาทิตย์โดยตรงเป็นเวลา 8 ชั่วโมง ]
[ได้รับรางวัล 5 Exp]
[20/100 Exp]
ในที่สุดควินน์ก็ทำภารกิจรายวันครั้งที่สองได้สำเร็จ การเดินทางมายังโรงเรียนก็ใช้ระยะเวลาไปแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง รวมกับเวลาที่อยู่หอพักและห้องสมุด ทำให้ควินน์ทำภารกิจนี้สำเร็จได้อย่างง่ายดาย
ทุกครั้งที่ควินน์ได้รับข้อความแจ้งเตือน เขาจะรู้สึกพึงพอใจกับตัวเลขที่เข้าใกล้ 100 เขาแทบรอไม่ไหวที่จะได้เห็นอะไรเกิดขึ้นเมื่อถึงเป้าหมายแล้ว
เขาคาดเดาว่าเลเวลนั้นจะสูงขึ้น หลังจากนั้นระบบได้ระบุว่าเขาไม่สามารถใช้คุณสมบัติของร้านค้าได้ตราบใดที่เลเวลยังน้อยกว่า 10
สิ่งเดียวที่ควินน์ต้องการในตอนนี้ คือวิธีที่อัพเลเวลอย่างรวดเร็ว เพียงแค่ 2 ภารกิจต่อวัน ยังต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าควินน์จะเลื่อนขั้นขึ้นเลเวล 2
ตอนนี้แม้ว่าเขาจะไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากใช้ชีวิตปกติไปวันๆ ระหว่างที่เขาออกจากห้องสมุด เขาได้ตัดสินใจที่จะมุ่งหน้าไปยังสนามต่อสู้ ได้มีทฤษฎีบางอย่างที่เขาต้องการจะทดสอบดู
แต่ในขณะที่เขากำลังเดินผ่านโถงทางเดินของโรงเรียน เขาได้เห็นเด็กคนหนึ่งถูกผลักใส่กำแพงโดยนักเรียนอีกคน ดูเหมือนเด็กผู้ชายที่ถูกผลักใส่กำแพงคนนั้นจะถูกทำร้ายหลายทีแล้วสังเกตได้จากร่องรอยที่หน้าของเขา
“มันเริ่มขึ้นแล้ว”ควินน์คิด
เขาพยายามเหลือบมองนาฬิกาข้อมือของเจ้าเด็กที่รังแกคนอื่น และเห็นว่าตัวเลขที่ปรากฏอยู่คือพลังเลเวล 1.2 ควินน์รู้สึกประหลาดใจมากกับเรื่องนี้เพราะคนที่รังแกนั้นค่อนข้างอ่อนแอซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยาก
คนกลุ่มเดียวที่สามารถรังแกได้จะต้องมีเลเวลเช่นเดียวกับควินน์และปีเตอร์ ทันใดนั้นควินน์ก็ตะหนักได้ว่าใครกันที่อยู่ข้างกำแพง เขาคือปีเตอร์จริงๆ ที่ควินน์จำเขาไม่ได้ในตอนแรกนั่นเพราะอีกฝ่ายกำลังหันหน้าไปทางอื่นอยู่
ควินน์กำลังถกเถียงกับตัวเองว่าจะเข้าไปพัวพันในครั้งนี้หรือไม่ เขาเกลียดพวกที่รังแกคนอื่นมากกว่าอะไร พวกมันทำลายชีวิตในโรงเรียนเก่าของเขา และดูเหมือนว่าในไม่ช้าเขาก็จะเป็นตกเป็นเป้าหมายเช่นกัน
แน่นอน ควินน์ต้องการทดสอบว่าปัจจุบันเขาแข็งแกร่งแค่ไหนและเขาได้พบหนูทดลองที่สมบูรณ์แบบแล้ว เด็กนักเรียนที่อยู่ตรงหน้าเขามีเลเวลพลังเพียง 1.2 เท่านั้น ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงที่เขาจะชนะ
นักเรียนนั่นยกกำปั้นขึ้นมาอีกเพื่อจะชกไปที่ปีเตอร์อีกครั้ง
“แกคิดว่าแกชนฉันแบบนั้นแล้วจะพูดแค่ขอโทษงั้นเหรอ!”เขาตะโกนขณะที่เขาเหวี่ยงหมัด
ขณะนั้นควินน์ได้เดินผ่าน เขาแกล้งทำเป็นล้มลงและชนเข้ากับนักเรียนเพื่อทำให้เขาเสียการทรงตัวและชกพลาด
“ควินน์?”ปีเตอร์พูดพลางเงยหน้าขึ้น
“นี่เรื่องบ้าอะไรวะ?!”นักเรียนคนนั้นพูดขณะเงยมองคนที่ชนเขาล้มลงมา
จากนั้นนักเรียนนั่นก็มองมาที่นาฬิกาของควินน์ทันที ก่อนที่เขาจะมีความมั่นใจอย่างมาก
“อะไรกันวะเป็นแค่ไอ้ขยะเลเวล 1 แกคิดจะทำอะไรของแก?”
“ฉันกำลังรอว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนที่ใครซักคนแบบแกจะโผล่มา ดูเหมือนฉันจะพนันพลาด ฉันคิดว่าอย่างน้อยมันคงใช้เวลาซักสองสามวัน”
“แล้วแกจะทำอะไรได้?”
ปีเตอร์เริ่มรู้สึกกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับควินน์ เข้ารู้ว่าควินน์ไม่มีพิเศษใดๆ จากการสังเกตในสนามทดสอบที่ผ่านมา ในขณะที่นักเรียนที่กำลังเผชิญหน้านั้นมีทักษะพิเศษ ปีเตอร์คิดว่าพวกเขาทั้งคู่มีโอกาสที่จะต่อสู้กัน แต่สุดท้ายนั้นปีเตอร์ก็หวาดกลัวเกินไป
เขาได้รับบาดเจ็บมาทั้งชีวิตและเขาไม่ต้องการที่จะเจ็บปวดอีก นี่เป็นวิธีการของโลกในปัจจุบัน ผู้อยู่สูงสุดที่มีพลังอำนาจจะทำการรังแกคนที่อ่อนแอ ในทางกลับกัน คนที่อ่อนแออยู่แล้วก็จะรังแกคนที่อ่อนแอกว่า
มันคงเป็นครั้งแรกที่นักเรียนคนนี้ได้เจอคนที่อ่อนแอยิ่งกว่าเขาและความเจ็บปวดที่เขาได้รับจากสิ่งที่ผ่านมา เขาต้องการให้คนอื่นรู้ซึ้งถึงมันเช่นกัน ด้วยวิธีนี้เขาจะได้ไม่รู้สึกว่าตัวเองนั้นอยู่ต่ำสุดของห่วงโซ่อาหาร
จากนั้น ควินน์ได้สังเกตว่านักเรียนตรงหน้าใช้มือทั้งสองข้างกุมไว้ด้านหลังราวกับเขากำลังเตรียมการอะไรบางอย่าง และสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนี้ได้ยืนยันความคิดของเขา
[ตรวจพบการใช้ทักษะ]
[เริ่มเข้าสู่โหมดต่อสู้]
[ได้รับภารกิจใหม่]
[การต่อสู้ครั้งแรก พลังเลเวล 1.2]
[ชนะการต่อสู้ให้ได้เพื่อรับ 50 Exp]
ทันใดนั้น รอยยิ้มกว้างก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของควินน์ เพราะนี่ คือวิธีที่เขาจะได้อัพเลเวลเร็วขึ้น