My Vampire System - ตอนที่ 76
เนื่องจากพละกำลังของควินน์และเลือดส่วนใหญ่ของเขาถูกใช้ไปในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ ร่างกายของเขาจึงไม่สามารถรักษาตัวเองได้โดยอัตโนมัติ และตอนนี้เขาหิวเกินกว่าที่จะฟื้นฟูตัวเองได้และมีความต้องการเลือดสูงมาก
เมื่อควินน์จ้องมองระบบของเขา มีตัวเลขจำนวนหนึ่งที่ติดตาและในวนเวียนอยู่ในหัวของเขาตลอดเวลา นั่นคือหมายเลข 13
‘HP 13 แต้มกับอีกสิบสามชั่วโมงก่อนที่จะเหลือ 0 ซึ่งจะเป็นแบบนั้นก็ต่อเมื่อฉันไม่ได้ใช้สกิลอะไรเลย หรือในระหว่างทางก็ต้องไม่ได้รับบาดเจ็บ’
เขากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก โดยสิ่งที่ควรทำจริงๆคือรอความช่วยเหลือ บางทีทางโรงเรียนเตรียมทหารอาจจะส่งคนมาตามหาอยู่ หรือเขาควรจะเดินรอบๆให้ทั่วเพื่อพยายามหาประตูมิติ แต่ถ้าเขาทำแบบนั้นก็มีโอกาสสูงที่สัตว์อสูรตัวอื่นๆจะโจมตีเขาได้ในระหว่างทาง
“ฉันไม่มีทางเลือกแล้ว ฉันต้องหาประตูมิติให้เจอ” ควินน์พูดขึ้น
มันคงเป็นทางเลือกเดียว เพราะในความเป็นจริง เขาก็ได้แต่คิดว่าทางโรงเรียนจะส่งคนมาตามหาเขา กรณีเช่นนี้จะเกิดขี้นก็ต่อเมื่อควินนมีครอบครัวที่มีพลังอำนาจคอยสนับสนุนเขา หรือเขาอาจะเป็นผู้ใชัพลังเลเวลสูง แค่ควินน์ไม่ใช่คนเหล่านั้นเลยสักนิด
เขาเป็นเด็กกำพร้าที่ไม่มีครอบครัวคอยดูแลและทางโรงเรียนเตรียมทหารยังเชื่อว่าเขาเป็นผู้ใช้พลังเลเวลหนึ่ง ซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่มีความสามารถพิเศษอะไร ทำไมคนของกองทัพต้องยอมเสี่ยงชีวิตมาช่วยคนอย่างเขา? มันไม่สมเหตุสมผลสำหรับเขา เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากอดทนและต่อสู้ด้วยตัวเอง
ก่อนที่จะออกไปจากคลังเก็บอุปกรณ์ เขาคิดแล้วคิดอีกว่าประตูมิติควรจะตั้งอยู่ที่ไหน ทั้งหมดที่เขารู้คือเครื่องวาร์ปเหล่านั้นจะต้องติดตั้งไว้ที่สถานที่ๆปลอดภัย ที่ไหนสักแห่งที่สัตว์อสูรมากมายไม่สามารถย่างกายเข้าถึงมัน
ที่อยู่อาศัยนี้เป็นสถานที่ๆกว้างใหญ่ แม้ว่าจะมีตึกรามบ้านช่องมากมาย แต่ก็ไม่ได้ใหญ่โตเหมือนกับเมืองซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนเตรียมทหาร ทว่าก็ยังเป็นสิ่งปลูกสร้างที่กว้างใหญ่จริงๆ โดยการเดินทางจากบริเวณนี้ไปอีกด้านหนึ่ง เขาต้องใช้เวลาอย่างต่ำสองชั่วโมงและเดินทางไปด้วยความเร็วที่พอประมาณ
ในขณะที่เขาเดินผ่านบริเวณเมือง เขาตัดสินใจที่จะย่างเท้าทุกฝีก้าวอย่างระมัดระวัง แม้ว่าเขาจะเจอสัตว์อสูรระดับทั่วๆไปก็ตาม แต่มันจะก่อให้เกิดปัญหาในทุกๆเรื่องสำหรับเขาก็ได้ ในตอนที่เขาเดินผ่านในเมืองไป เขาจึงใช้เวลาในการเดินช้ามากๆ
นานๆทีเขาจะเจออาคารที่มีสัตว์อสูรมากกว่าหนึ่งตัวอยู่ภายใน แม้ว่าการมองเห็นของควินน์จะมีประโยชน์อย่างเหลือเชื่อในสถานการณ์แบบนี้ สัตว์อสูรพวกนั้นต่างก็มองเห็นในความมืดได้ดีเช่นกัน เพราะพวกมันอาศัยอยู่ที่นี่ แต่ดูเหมือนว่าตัวเขาเองจะมองเห็นได้ดีกว่าพวกมันเสียอีก
เมื่อเขาเข้าไปในอาคารและตึกต่างๆ ในกรณีที่เขามองเห็นพวกมันอยู่ในความมืดข้างหน้าซึ่งอยู่ไกลออกไป เขาก็จะรีบเคลื่อนที่ด้วยความว่องไวและหลบซ่อนอยู่ในเงามืด หรือ หลบอยู่หลังกำแพง เพื่อเฝ้ารอให้สัตว์อสูรพวกนั้นจากไป แล้วจังหวะที่เขาพร้อม เขาก็จะรีบออกจากบริเวณนั้นทันที
ไม่มีทิศทางเดินที่เขาจะไปจึงทำได้แค่เดินไปรอบๆบริเวณ โดยที่ควินน์ใช้เวลาสำรวจที่อยู่อาศัยที่นี่ไปร่วมๆสองชั่วโมงแล้ว
[ HP : 11/50 ]
ความหิวในท้องเริ่มกวนใจเขาและเขารู้สึกอึดอัดมากขึ้นเมื่อโฟกัสไปยังค่าพลังชีวิตที่ลดลงไปเรื่อยๆ
จนในที่สุด ควินน์ก็ได้เห็นอาคารหลังหนึ่งที่มีสภาพภายนอกค่อนข้างดูดี เป็นอาคารที่มีรูปทรงคล้ายโดมขนาดใหญ่ ชื่อเรียกอีกอย่างคือ ศูนย์ฝึกซ้อม ซึ่งเป็นสถานที่ๆนักเดินทางเอาไว้ใช้ทดสอบทักษะพิเศษต่างๆ หรือฝึกฝนอุปกรณ์และอาวุธทั้งหมดของพวกเขา
ภายนอกของโดมถูกสร้างด้วยวัสดุชนิดพิเศษ เพื่อใช้ในกรณีที่มีการต่อสู้กันเล็กน้อยและการรุกรานจากอะไรบางอย่างที่อยู่ข้างนอกโดยไม่รู้ที่มาที่ไป มันสามารถต้านทานการโจมตีต่างๆจากสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุดรวมไปถึงพวกผู้ใช้พลังระดับสูงได้
“ไม่ต้องสังสัยเลยว่าทำไมมันอยู่ในสภาพดี” ควินน์พูดขณะมองไปที่อาคาร
นี่คงเป็นสถานที่เดียวที่ควินน์นึกออกว่าประตูมิติจะถูกเก็บไว้ที่ไหนสักแห่งได้อย่างปลอดภัย เพราะสถานที่นี้มีขนาดกว้างใหญ่และภายนอกนั้นก็ยังไม่ถูกทำลายเลย
เมื่อควินน์เข้าใกล้อาคารที่มีลักษณะคล้ายโดมมากขึ้น เขาสังเกตเห็นว่ามีเครื่องจักรกลหลายเครื่องที่ประจำการอยู่ด้านนอกถูกทำลาย โดยที่แกนกลางของเครื่องจักรเหล่านั้นถูกแยกออกเป็นสองส่วน
เครื่องจักรกล เป็นอุปกรณ์ที่ทรงพลังที่ใช้ในสงคราม แต่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับพวกมัน เครื่องจักรเหล่านี้จำเป็นต้องใช้งานร่วมกับคริสตัลที่มีพลังมหาศาล โดยเฉพาะของสัตว์อสูรที่มีระดับสูงขึ้นไป
มันเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ เพราะผู้มีพลังอำนาจล้นเหลือมักจะใช้พลังพิเศษที่ตัวเองมีอยู่เท่านั้น ในขณะที่ผู้ใช้พลังเลเวลต่ำไม่มีสิทธิ์แตะต้องพวกมันได้เลย เครื่องจักรกลส่วนใหญ่จึงถูกใช้งานโดยทางกองทัพทหาร หรือบริษัทเอกชนต่างๆที่ว่าจ้างนักเดินทางเลเวลน้อยเพื่อใช้งานเครื่องจักรเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม มันถือว่าเป็นดาบสองคมสำหรับพวกนักเดินทางเลเวลน้อย โดยปกติแล้ว เครื่องจักรเหล่านี้จะมาพร้อมกับเอกสารสัญญา หากจักรกลที่ครอบครองถูกทำลาย ผู้ใช้งานจะถูกสั่งให้จ่ายค่าเสียหายให้กับพวกเขา ซึ่งแน่นอน ว่าช่วงเวลาชีวิตทั้งหมดของผู้ใช้พลังเลเวลต่ำ ไม่มีทางที่จะชดใช้อะไรก็ตามที่มีค่ามากกว่าเครื่องจักรเหล่านี้ได้ ซึ่งนั่นจะทำให้เขาตกเป็นทาสของบริษัทไปตลอดกาล
ความเปลี่ยนแปลงอีกหนึ่งอย่างที่เกิดขึ้นหลังจากทำสงครามกับเผ่าพันธุ์ดัลกิ ในช่วงสงครามนั้นมนุษย์ได้มารวมตัวกันเพื่อร่วมแรงร่วมใจต่อกรกับศัตรู แต่เมื่อมีการลงนามสนธิสัญญาระหว่างเผ่าพันธุ์ ความโลภของพวกมนุษย์ก็ได้ปรากฏขึ้น
ถ้าเผ่าพันธุ์ดัลกิรู้ว่าโลกแบ่งแยกชนชั้นกันแค่ไหน ควินน์มั่นใจว่าโลกจะสูญเสียไปทุกอย่างเหมือนที่เป็นอยู่ตอนนี้
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขาจำเป็นต้องแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเพื่อปกป้องตัวเองให้ได้
ขณะที่เขามาถึงทางเข้าของศูนย์ฝึกซ้อม เขาได้เห็นว่ามีหนูจอมตะปบสองตัวอยู่หน้าอาคาร ก่อนที่จะเข้าไปข้างใน เขาตัดสินใจเดินไปรอบๆโดมขนาดใหญ่อย่างระมัดระวังเพื่อเช็คดูว่ามีทางเข้าทางอื่นอีกหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีทางเข้าอื่นใดนอกเหนือจากที่เห็น
เขาเดินกลับไปยังทางเข้าทางเดียวและซ่อนอยู่หลังเครื่องจักรกลที่ถูกทำลายตัวหนึ่ง ซึ่งห่างจากทางเข้าประมาณ 30 เมตร แม้ว่าเขาจะเดินไปรอบๆจนทั่วสัก 30 นาทีได้แล้ว พวกหนูจอมตะปบก็ยังอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหนเลย
เขาจึงตัดสินใจที่จะเฝ้ารอไปอีกสักพัก โดยหวังว่าเจ้าหนูพวกนั้นจะขยับเขยื้อน
[ HP : 10/50 ]
แต่เมื่อเขาเห็นข้อความที่ค่า HP นั้นลดลงอีกครั้ง เขาก็รู้สึกย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิม ดูเหมือนว่าเจ้าพวกหนูจะไม่ได้จากไปในเร็วๆนี้แน่และควินน์จำเป็นต้องมีแผนอะไรสักอย่าง