My Vampire System - ตอนที่ 63
เว็บสนทนาออนไลน์เริ่มได้รับความสนใจจากผู้ใช้พลังที่เคยต่อสู้กับควินน์ พวกเขาได้แสดงความคิดเห็นมากมายด้านล่างของวิดีโอนี้
‘ใช่ ฉันก็ได้สู้กับเขา แล้วเขาก็ใช้เจ้าเส้นเเดงๆนั่นกับฉัน’
‘ฉันแพ้ในทันทีเลย’
‘ในเกมมีทักษะแบบนั้นจริงๆเหรอ?’
‘มันดูเหมือนใบมีดลม แต่ทำไมถึงเป็นเส้นพลังงานสีแดงกันล่ะ?’
แน่นอน ถึงแม้ว่าโพสต์นี้จะดึงดูดความสนใจได้ดี แต่ก็ไม่มากถึงขนาดนั้น เพราะมีเหตุการณ์คล้ายๆกันนี้ถูกโพสต์เป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว โดยปกติมันก็มาจากคนบางคนที่ยอมรับความพ่ายแพ้ไม่ได้ เลยคิดว่าอีกฝ่ายจะต้องเป็นแฮกเกอร์
ทว่าผู้คนมากมายที่ได้ดูวิดีโอเริ่มส่งคำร้องสอบถามไปที่ผู้สร้างเกม ว่าสิ่งที่พวกเขาได้เห็นในคลิปนั้นเป็นความจริงหรือไม่ แน่นอนว่ามีหนึ่งในแอดมินเข้ามาตรวจสอบวีดีโอดังกล่าวแล้ว ซึ่งเขาก็ไม่ใช่แอดมินปกติที่ไหน แต่เป็นนักเรียนคนหนึ่งในโรงเรียนที่ชื่อว่า โลแกน กรีน
ตัวตนของโลแกนนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะเขาเป็นลูกชายของผู้สร้างเกมนี้ และไม่เพียงแค่นั้น เขายังเป็นหนึ่งในคนที่เขียนโค้ดอีกด้วย เขามักจะเข้าไปอ่านเว็บบอร์ดของเกมอยู่เป็นประจำเพื่อหาจุดบกพร่อง และถ้าหากพบเขาก็จะทำการแก้ไขมันทันทีแม้ว่าจะเข้าเรียนอยู่ก็ตาม
ทันใดนั้น ในกลางดึกของวัน เขาสังเกตเห็นว่ามีโพสต์ที่ได้ความนิยมเอาเสียมากๆ ซึ่งเดิมทีเขาไม่ได้สนใจกับเรื่องแฮกเกอร์เลย แต่กลายเป็นว่าเขาถูกแท็กรายชื่อในฐานะแอดมินของเกมใต้โพสต์นั้นมากกว่าปกติ
หลังจากที่ได้ดูวีดีโอแล้ว เขาก็รู้สึกสนใจขึ้นมาทันที โลแกนสามารถบอกได้เลยว่าวีดีโอดังกล่าวนั้นเป็นของจริง เขาจึงค้นหาไอดีเกมของผู้ใช้งานทั้งสองคนและตัดสินใจดูข้อมูลการแข่งขันของพวกเขา
ต่อมาเมื่อค้นหาไอดีของพวกเขาพบ โลแกนก็ได้สังเกตเห็นว่าผู้เล่นที่ต้องสงสัยในวีดีโอคนนั้น ไม่ได้เลือกทักษะหรือความสามารถพิเศษเลยแต่อย่างใด
“ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้ เขาแฮกระบบจริงๆงั้นเหรอ?”
โลแกนจึงเริ่มเจาะลึกลงไปในแต่ละการแข่งขันและตรวจสอบทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาทำการตรวจเช็คข้อมูลของเกม รวมไปถึงบันทึกทั้งหมดที่อยู่ในระหว่างการแข่งขัน แต่เขาก็ไม่พบว่าจะมีส่วนไหนของเกมที่มีจุดบกพร่อง
โลแกนรู้สึกโล่งใจมากจริงๆ ที่เกมประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้มันไม่ใช่เพราะการจำลองทักษะพิเศษต่างๆอย่างแม่นยำเท่านั้น แต่เป็นเพราะเกมนี้ยังไม่เคยถูกแฮกเลยมากกว่า
หลังจากที่ได้พบข้อมูลดังกล่าว โลแกนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากคิดว่ามันอาจจะเป็นทักษะพิเศษของเขา ถึงแม้พลังของ ‘ผู้มีทักษะโดยกำเนิด’จะไม่สามารถคัดลอกลงไปในเกมได้ แต่นี่ก็เป็นเพียงคำตอบเดียวที่เขาคิดออกในตอนนี้
ทว่าคำถามหนึ่งที่ยังคงอยู่ นั่นคือใครกันที่อยู่เบื้องหลังผู้ใช้งาน ID Blood evolver? เนื่องจากนโยบายของบริษัทจะไม่มีการเก็บบันทึกข้อมูลส่วนตัวของผู้เล่นคนไหน เพราะข้อมูลมักจะถูกแทรกแซง ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเข้าถึงมันได้ แต่สำหรับโลแกนเขาไม่หยุดอยู่เพียงแค่นี้แน่นอน
****
วันต่อมา คาบเรียนวิชาต่อสู้ยังคงดำเนินไปตามปกติ ซึ่งเมื่อวานนี้เรย์ร่าก็ได้ไปลงทะเบียนทีมกับเดล แม้ว่าเขาจะดูแปลกใจที่มีใครอยู่ในรายชื่อบ้าง
กลุ่มนี้กลายเป็นที่พูดถึงของนักเรียนทั้งชั้น เนื่องจากพวกเขาเป็นกลุ่มเดียวที่มีระดับพลังที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงภายในทีม และเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในโรงเรียนนี้มาก่อน
ในคาบเรียนวิชาต่อสู้ ทั้งกลุ่มในรับคำสั่งให้ฝึกฝนกันต่อไปอย่างอิสระ และถ้าหากพวกเขาต้องการประลองกับคู่หูของตัวเอง ก็สามารถขออนุญาตอย่างสุภาพได้ โดยอาจารย์ลีโอจะเดินไปรอบๆและให้คำแนะนำต่างๆเท่าที่เขาให้ได้เช่นกัน
พอถึงเวลาบ่าย หลังเลิกเรียนควินน์จะรีบมุ่งหน้าไปที่ศูนย์ VR แคปซูล เพื่อทำกิจวัตรประจำวันของเขา ควินน์ยังคงเผชิญหน้ากับคนที่มีเลเวลต่ำๆ และใช้เวลาสามสิบนาทีให้หลังในการฝึกฝนอย่างจริงจัง
[ 275/800 Exp ]
แต่เมื่อควินน์ทำการต่อสู้ในเกมกับผู้เล่นอื่นๆมากเท่าไหร่ การโพสต์ลักษณะเดิมๆในเว็บบอร์ดของเกมก็ยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้นเท่านั้น และเรื่องทั้งหมดนี้ควินน์ไม่รู้เลยด้วยซ้ำ เขาไม่รู้จริงๆว่ามีเว็บบอร์ดสนทนาสำหรับเกมออนไลน์อยู่ เพราะที่ผ่านมาทั้งชีวิต ควินน์ไม่เคยเล่นเกมนี้เลย
เขาสามารถเข้าถึงทีวีและอินเตอร์เน็ต แต่ไม่ค่อยรู้เรื่องเกมมากนัก ต้องขอบคุณวอร์เด็น ที่แสดงให้เขาได้เห็นทุกอย่าง ให้เขารู้ว่าควรทำอะไรเป็นบ้าง
ผ่านไปอีกวัน และควินน์ก็ทำทุกอย่างซ้ำๆเช่นเดิม
[ 440/800 Exp ]
ไม่ใช่แค่ควินน์จะได้รับ Exp อย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่เขายังรู้สึกว่าตัวเองสามารถใช้สกิลต่างๆได้มากยิ่งขึ้น เขารู้ว่าจังหวะไหนเป็นจังหวะที่เหมาะสมในการใช้สกิลก้าวพริบตา และยังเรียนรู้วิธีการผสมผสานการใช้งานสกิลทั้งสองไปพร้อมๆกัน ดังนั้น เขาจะสามารถหายตัวไปและปรากฏกายขึ้นอีกครั้งในขณะที่ใช้สกิลอัดกระแทก
เหลือเวลาอีกสองวัน และควินน์รู้สึกว่าเขาพร้อมแล้ว
****
ภายในอาคารของชั้นปีที่สอง กลุ่มของนักเรียนชั้นปีที่หนึ่งได้ถูกเรียกให้เข้าไปพบในออฟฟิศของนายพลดุ๊ก ซึ่งที่ยืนอยู่ด้านหน้านั้นคือเอิร์ล เด็กผู้ชายคนเดียวกันที่มักจะพาปีเตอร์ไปไหนมาไหนด้วย และเป็นคนที่หักนิ้วทั้งหมดของปีเตอร์
“ฉันมั่นใจว่าวันพรุ่งนี้ห้องนั้นจะว่างสำหรับแก และฉันก็มั่นใจว่าแกจะทำตามที่ฉันสั่ง ฉันอยากให้แกกำจัดพวกมันซะ” ดุ๊กกล่าว
“ครับท่าน พวกเราสัญญา”
“ดี” ดุ๊กตอบ ขณะที่เขาวางคริสตัลสองสามเม็ด รวมไปถึงหนังสือสกิล “แกควรจะก้าวขึ้นไปอยู่เลเวลสี่ด้วยสกิลนั้นได้แล้ว พยายามทำงานต่อไปแล้วฉันจะให้แกมากยิ่งกว่านี้”
****
วันถัดมา หลังจากหมดคาบเรียนวิชาการต่อสู้แล้ว ปีเตอร์ได้ส่งข้อความให้วอร์เด็นและควินน์มาที่ศูนย์ฝึกซ้อมทางตะวันออก ซึ่งปกติห้องนี้จะจำกัดนักเรียนเข้าออก เนื่องจากมันถูกใช้เป็นห้องสำหรับจัดเก็บประตูมิติ
แต่หลังจากอ่านเนื้อหาในข้อความ ทั้งควินน์และวอร์เด็นก็รีบวิ่งไปโดยทันที
มันเป็นข้อความเรียบง่าย บอกว่าปีเตอร์ต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขา
ในขณะที่กำลังมุ่งหน้าไปยังห้องนั้น วอร์เด็นและควินน์ก็เผอิญเจอกันพอดี
“นายได้รับข้อความจากปีเตอร์ใช่ไหม?” ควินน์ถาม
“ใช่ เลยเป็นสาเหตุที่ฉันมาที่นี่ เพราะฉันรู้ข่าวมาว่าเพื่อนของหมอนั่นมันเป็นคนไม่ดี” วอร์เด็นพูด “ควินน์ นายอยู่ข้างหลังฉันไว้นะ เรื่องนี้ฉันจัดการเอง”
“ไม่มีทาง หมอนั่นก็เป็นเพื่อนของฉันเหมือนกัน ฉันจะเตะตูดไอ้พวกนั้น ถ้านั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่ฉันทำได้”
วอร์เด็นเห็นว่าเขาไม่สามารถโน้มน้าวควินน์ได้ ดังนั้นทั้งสองคนจึงมาด้วยกัน จนกระทั่งในที่สุดก็มาถึงที่ศูนย์ฝึกซ้อม
ทั้งห้องมีขนาดกว้างใหญ่และมีวัตถุโลหะขนาดใหญ่มากมายที่มีลักษณะเป็นรูปตั้งไข่ โดยกึ่งกลาง ในแต่ละวัตถุนั้นมีวงกลมบางอย่างกำลังเรืองแสงอยู่และส่องประกายออกมาด้วยสีที่แตกต่างกัน สิ่งของเหล่านี้คือประตูมิติต่างๆ ที่จะส่งพวกเขาไปอยู่อีกโลกหนึ่ง
มีประตูมิติอยู่เก้าบาน ประตูละสามสีและเป็นเวลาชั่วครู่ที่พวกเขาไม่สามารถละสายตาจากมันได้
เมื่อพวกเขาเข้ามาในห้องนี้ ทั้งคู่ได้เห็นว่าปีเตอร์นอนอยู่ที่พื้นและบาดเจ็บสาหัส เขาแน่นิ่งอยู่ตรงนั้นหน้าเครื่องเทเลพอร์ตเครื่องหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนเขาจะขยับตัวไปไหนไม่ได้เลย
ควินน์และวอร์เด็นหันไปมองรอบๆห้อง แต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีใคร ทั้งคู่จึงรีบไปดูอาการเขาอย่างใกล้ชิด ปีเตอร์มีรอยฟกช้ำทั่วทั้งตัว และมีรอยถลอกอย่างรุนแรง รวมไปถึงรอยขีดข่วนเต็มไปหมด
“เกิดอะไรขึ้นกับนาย ไอ้พวกชั้นปีเดียวกันนั่นใช่ไหม!?” วอร์เด็นตะโกนถาม
“ใช่ พวกเขาทำกับฉันแย่มาก และพวกเขาออกไปได้สักพักแล้ว ฉันไม่คิดว่าพวกนั้นจะกลับมาอีก”
“เข้าใจแล้ว เราจะพยุงนายขึ้นนะ” วอร์เด็นพูดขณะที่เขายกแขนของปีเตอร์มาพาดเหนือไหล่ของเขา
ขณะที่ทั้งสองคนพยุงร่างของปีเตอร์ขึ้นมา ควินน์ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ เมื่อเขาจ้องมองไปที่ปีเตอร์ใกล้ๆ เขาก็สังเกตเห็นได้ แม้ว่าเสื้อผ้าของเขาจะขาดรุ่งริ่งจนหมด แต่เขาก็ไม่ได้ดูย่ำแย่เสียเท่าไหร่ เขาไม่ควรจะเดินได้ด้วยซ้ำ แม้แต่รอยฟกช้ำก็ดูไม่เป็นธรรมชาติราวกับถูกวาดเฉยๆ
[ ตรวจสอบ ]
[ ปีเตอร์ ชัค ]
[ HP :8/8 ]
“วอร์เด็น ปล่อยเขาไป! มันเป็นกับดัก!” ควินน์ตะโกน
ทว่าก่อนที่วอร์เด็นจะรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น ปีเตอร์ก็ถูกปล่อยพร้อ มกับผลักควินน์ทันทีอย่างสุดกำลัง แรงผลักนั้นไม่มากพอที่จะทำร้ายควินน์ แต่มันก็ไม่จำเป็นเพราะนั่นไม่ใช่เป้าหมายจริงๆของปีเตอร์
การผลักแค่เพียงเล็กน้อย ส่งผลให้ควินน์เสียหลักและหลุดหายเข้าไปในประตูมิติ
“นายทำบ้าอะไรลงไป!” วอร์เด็นตะโกน
ซึ่งสีของประตูมิตินั้นก็คือสีแดง