Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子] - บทที่ 125 หานเฟิง นักพ่นคำหยาบ
“ไอ้พวกนักธุรกิจหน้าเลือดตายห่าไปซะ! ตูต้องการเงินกับความยุติธรรม!”
หานเฟิงเงยหน้าตะโกนอยู่อย่างนั้นจนเฉียนโตวโตวกับคนอื่นต้องยกมือขึ้นกุมหน้าผากตัวเอง
“พี่เซียว หมอนี่มันปากหมามากเลย” เจ๋าซือพูดขึ้น
“ใช่แล้วพี่เซียว เจ้าหมอนี่มันปากดีเกินไปแล้ว”
เซียวเฟิงนั่งอยู่บนม้าและไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาจ้องมองหานเฟิงที่ดูมีอายุประมาณยี่สิบต้นๆ แต่เต็มไปด้วยความฉลาดและเล่ห์เหลี่ยมพอตัว
“เฮ้ย เอ็งเป็นหัวหน้าพวกมันหรอวะ?” หานเฟิงมองหน้าเซียวเฟิงแล้วมองม้าของเขาอย่างหื่นกระหาย
ชายหนุ่มรู้ว่าม้าของเขาไม่สามารถถูกปกปิดได้เพราะความสวยงามของมัน และรูปร่างที่องอาจ
หานเฟิงมองตั้งแต่หัวจรวดเท้าและพบแหวนรวดเร็วอยู่ในมือของเซียวเฟิง
“นั่นแหวนตูใช่ไหม? ใส่ทำเบื๊อกอะไรวะ? ไอ้พวกนักธุรกิจส้นตีนเอ๊ย! เอาเงินคืนมานะ ไม่งั้นจะโพสต์ประจานในฟอรั่มแม่งเลย!” หานเฟิงก่นด่าอย่างไม่แยแส
“นายเป็นเกรียนอินเตอร์เน็ตชื่อดังคนนั้นสินะ” เซียวเฟิงยิ้มออกมาก่อนจะชักโทเทมพร้อมให้เสี่ยวเสวียพุ่งออกไปข้างหน้า
“จะฆ่าตูเพื่อปกปิดความจริงเหรอ? ฝันไปเถอะ!” หานเฟิงตะโกนด้วยความตื่นเต้นและยิงธนูออกมาก่อนจะวิ่งหนีไป
“พี่เซียวระวังด้วย หมอนี่มันมีคลาสลับเป็นเรนเจอร์ และมีสกิลที่น่ากลัวมาก”
เฉียนโตวโตวรีบเตือนด้วยดวงตาที่เปล่งแสงสีทอง
เซียวเฟิงเอียงหัวหลบลูกธนูอย่างง่ายดายและม้าของเขาก็ไม่ได้หายไปหลังเข้าสู่สถานะต่อสู้
“สัตว์ขี่ขั้นสูงนี่หว่า!” หานเฟิงอุทานลั่น เขาจ้องมองม้าตัวนี้ด้วยความอยากได้ยิ่งกว่าเดิม
เขาไม่มีเวลาสังเกตมากนักเพราะอีกฝ่ายก็ตามเขามาอย่างไม่ลดละ อีกทั้งความลับของเขาก็ยังถูกเปิดเผยอีกต่างหาก
“ซีซี!” หานเฟิงกลับมายิงธนูออกไปใส่เซียวเฟิงสองดอก
ศรทั้งคู่พุ่งเข้าไปใส่เป้าหมายอย่างรวดเร็วเหมือนกับสกิลยิงธนูทั่วไป
เซียวเฟิงเอียงหัวหลบมันอย่างไม่ร้อนรน ทว่า หานเฟิงกลับยิ้มออกมาราวกับว่าแผนของเขาสำเร็จแล้ว
ชายหนุ่มหันกลับไปก็พบว่าศรทั้งสองดอกกำลังพุ่งวกกลับเข้ามาหาเขาติดตามมาเหมือนกับจรวดล็อกเป้าหมาย
เซียวเฟิงหยิบโทเทมของเขาขึ้นมาฟาดมันจนแตกกระจายไปทั้งคู่
“บล็อก!”
“บล็อก!”
ความเสียหายทั้งสองถูกปัดตกไปอย่างไม่ใยดี
หานเฟิงที่เห็นว่าอีกฝ่ายปัดป้องการโจมตีของเขาได้ ชัดเจนเลยว่าจะต้องเป็นผู้เล่นชั้นสูงแน่ๆ เขารีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วกว่าเดิม
“เสี่ยวเสวียตามเขาไปที” เซียวเฟิงพูดเบาๆแล้วควงโทเทมในมือ
เสี่ยวเสวียพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและเข้าใกล้หานเฟิงได้อย่างคาดไม่ถึง ทั้ง ๆ นี่ยังไม่ใช่ความเร็วสูงสุดของมันด้วยซ้ำ ความสามารถของสัตว์ขี่ขั้นสูงช่างน่ากลัว
“ซีซี!” หานเฟิงยิงศรออกไปสามดอกให้ขึ้นไปบนฟ้าแล้ววกกลับลงมาใส่เซียวเฟิง
ชายหนุ่มยกโทเทมปัดป้องมันโดยไม่หันไปมอง สร้างความหล่อเท่ยิ่งขึ้นไปอีก
“สุดยอดเลยพี่เซียว! ตามเขาไปเร็วเข้า!”
เพื่อนของเขาที่ตามมาต่างก็ตะโกนเชียร์ด้วยความปลาบปลื้ม
หานเฟิงตอนนี้กำลังตื่นตระหนกขั้นสุด ความมั่นใจที่ว่าตัวเองวิ่งเร็วที่สุดนั้นถูกทำลายลงในชั่วพริบตาที่เห็นม้าตัวนี้ เขาทำได้แค่โจมตีมั่วๆเพื่อขัดขวางการไล่ตามจากเซียวเฟิง
แต่เซียวเฟิงก็หลบหรือป้องกันได้โดยไร้ความเสียหาย อันที่จริงต่อให้รับการโจมตีเข้าไปเต็มก็ยังไม่เสียพลังชีวิตเลยด้วยซ้ำ
เซียวเฟิงเองก็รู้ดีว่าระยะเวลาของโทเทมนั้นสั้นมาก เขาอยากจะได้โล่มาช่วยป้องกันศรเหล่านี้แต่ดูเหมือนว่าอาชีพนักบวชจะไม่สามารถใช้โล่ได้หากเลื่อนขั้นเป็นผู้ประกอบพิธีกรรม
“อย่ามาขวาง!” หานเฟิงวิ่งหน้าตั้งแต่ก็โดนเสี่ยวเสวียตามหลังและเหยียบเข้าให้
ยูนิคอร์นร้องอย่างไม่พอใจแล้วมองหน้าอีกฝ่ายอย่างเย้ยหยัน
“เดี๋ยวก่อน! เอ็งมันผู้เล่นอันดับแรกสุดนี่นา! มาสเตอร์ฮีลเลอร์!” หานเฟิงชี้นิ้วพลางตะโกน
เซียวเฟิงยกโทเทมขึ้นหมายจะทุบซ้ำ
“เดี๋ยว! เรามาตกลงกันได้นะ! อย่าเพิ่งฆ่าฉัน!” หานเฟิงตะโกนอีก
“หยุดทำไมล่ะ หัวเราะอีกเซ่!” พี่น้องนิโคลัสกับอาโอเชินที่วิ่งตามมาดูก็พบกับอีกฝ่ายในสภาพนี้
“ไม่แฟร์เลย! พวกเอ็งมันรวมหัวกันแกล้งตูนี่หว่า! แถมยังเป็นคนที่เก่งที่สุดในเกมอีก!” หานเฟิงพยายามหนีแต่เสี่ยวเสวียก็เอากีบเท้ากดเขาไว้
“พูดบ้าอะไรของหมอนี่เนี่ย?” พี่น้องนิโคลัสกับเด็กหนุ่มหันมามองหน้ากันและรุมกระทืบหานเฟิงอย่างมันส์มือ
“พวกเอ็งรุมกันนี่หว่า! ให้ตูเรียกเพื่อนมาด้วยไหมล่ะ? จะได้เท่าเทียมกัน” หานเฟิงร้องขอ
“ก็เอาสิ พี่เซียวแปปเดี๋ยวก็ฆ่าพวกแกได้หมดแล้ว” อาโอเชินหลบหลังเซียวเฟิงพลางตะโกนเชียร์
เซียวเฟิงที่นั่งอยู่บนหลังม้าก็เห็นด้วยกับข้อตกลงนี้
“งั้นรอแปปนึง เพื่อนตูจะฆ่าพวกเอ็งให้หมดเลย!” หานเฟิงลุกขึ้นมาแล้วหยิบม้วนวาร์ปขึ้นมาใช้
“ไปเลย! ไปตามพวกแกมาสิฉันจะเหยียบให้จมดินเลย!” เจ๋าซือตะโกนและหานเฟิงก็หายตัวไป
ทุกคนต่างก็ยืนรออย่างไร้จุดหมาย เวลาก็ไหลผ่านไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งผ่านไปหนึ่งชั่วโมง หานเฟิงก็ยังไม่กลับมา
“ฉันว่าเขาไม่กลับมาแล้วล่ะ” อาโอเชินพูดขึ้นแล้วมองเซียวเฟิง
“หน้าไม่อายที่สุด ทำแบบนี้แล้วก็มาหนีเนี่ย!”
“ตามหามันแล้วฆ่าทิ้งกันดีกว่า!” พี่น้องนิโคลัสเสนอไอเดียนี้ขึ้นมา หลังจากที่โดนอีกฝ่ายหลอก
เซียวเฟิงกลอกตาแล้วพูดขึ้น “ไปกันเถอะ”
…
เซียวเฟิงออกจากเกมส์ในช่วงเช้าเพื่อเตรียมอาหารเช้าให้กับเสี่ยวหลิงก่อนที่จะกลับเข้าเกมอีกครั้ง
หานเฟิงได้หายไปแล้ว และไม่กล้ามาก่อเรื่องที่ตำหนักขุมทรัพย์อีก เซียวเฟิงช่วยงานเฉียนโตวโตวหลายเรื่อง
เขาบอกบิชอปไคเซอร์ไปว่าเฉียนโตวโตวอยากจะเป็นสาวกของวิหารแห่งแสง ไคเซอร์จึงต้องจำใจทำตามเพราะไม่อาจขัดคำสั่งของอาร์คบิชอปได้
ภารกิจทั้งหมดของเธอถูกทำให้สำเร็จภายในช่วงเช้าและได้รับตำแหน่งในทันที
แต่เซียวเฟิงรู้ว่าไคเซอร์จะต้องให้ภารกิจกับเขาเพิ่มอีก และไม่นานนักเขาก็ได้รับข้อมูลใหม่เข้ามา
“เร็วๆนี่ทหารของจักรวรรดิพบกองทหารในป่าโลหิต แต่ไม่ใช่ทหารของฝั่งเรา ดูเหมือนจะเป็นพวกกองทัพมืด ทางวิหารแห่งแสงจึงต้องการคนไปช่วยเก็บข้อมูลของพวกมันมา ณ ที่นี้”
“คุณต้องการรับภารกิจเนื้อเรื่อง : ผู้ถือสารแห่งความมืด หรือไม่?”
ไคเซอร์มอบภารกิจนี้ให้เซียวเฟิงหลังจากช่วยเธอได้รับตำแหน่งไปแล้ว ชายหนุ่มจึงจำเป็นต้องรับภารกิจนี้อย่างช่วยไม่ได้