Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子] - บทที่ 23 ภารกิจลับในเขตหวงห้าม
บทที่ 23 ภารกิจลับในเขตหวงห้าม
นี่ล้อเล่นปะเนี่ย? อย่าบอกนะว่าไม่รู้อัตราแลกเปลี่ยน?
เซียวเฟิงเริ่มที่จะโมโหแล้ว เพราะเขาคิดว่าเยี่ยจิ๋งล้อเล่น จะเป็นอะไรไหมถ้าจะขอติดหนี้ไว้ก่อน? เดือนนี้ฉันไม่ค่อยมีเงิน เยี่ยจิ๋งถามเสียงอ่อนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
คิดจะทำอะไร? แต่เซียวเฟิงก็ยังไม่เชื่อคำขอของเธอ
โอเคๆ ดูท่าจะไม่เชื่อสินะ งั้นรอแป๊บหนึ่ง หลังจากพูดจบ เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาใครบางคน
นี่ ขอยืมสัก 10,000 หยวนสิ… ใช่ ซื้อมีดที่คุยกันไว้น่ะ… เดี๋ยวให้ดูก็ได้ว่าดีจริงไหม… หลังจากนั้นเธอก็เดินมาหาเซียวเฟิงอย่างหยิ่งผยองแล้วจ่ายเงินอีก 8,000 หยวนอย่างไม่ลังเล
โทรหาใครน่ะ? เซียวเฟิงที่รับเงินไปเกิดสงสัยขึ้นมา
อ๋อ ลูกพี่ลูกน้องน่ะ เคยเจอกันแล้วด้วยนะ โรสไง
หัวหน้าของมิดซัมเมอร์เป็นลูกพี่ลูกน้องเธอ? ไม่แปลกใจเท่าไหร่แฮะ… เขาพยักหน้ารับ
งั้นฉันกลับก่อนแล้วกัน เจอกันในเกม รีบๆ เพิ่มเลเวลให้ไวเถอะ ถ้านายสามารถเปลี่ยนคลาสได้เร็ว นายจะหาเงินกับของได้ไวขึ้นนะ
เยี่ยจิ๋งกลับไปแล้ว เซียวเฟิงตรวจดูทั้งนอกห้องและในห้องจนแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ จากนั้นจึงกลับมานั่งข้างๆ เซียวหลิง เขายื่นมือไปลูบหัวของน้องสาวแผ่วเบา แล้วพูดขึ้นเสียงเบา
เซียวหลิง ไปนอนได้แล้วนะ
เซียวหลิงยังคงกอดหมอนแล้วดูทีวีต่อไป ร่างเล็กสั่นเล็กน้อยเมื่อได้ยินว่าพี่ชายพูดอะไร เธอปล่อยหมอนที่กอดไว้แล้วทิ้งตัวเองลงบนอ้อมแขนของพี่ชาย และจับเสื้อของเขาเอาไว้ ส่วนชายหนุ่มก็ยังคงลูบหัวของเธอราวกับกำลังลูบหัวลูกแมวตัวน้อยๆ ต่อไปเงียบๆ
พี่คะ… พี่จะไม่ทิ้งหนูไปใช่ไหม? …
เสียงของน้องสาวนั้นอ่อนแรงแต่แฝงไปด้วยความไม่สบายใจออกมาอย่างชัดเจน ซึ่งสำหรับเขาแล้วมันเป็นคำถามที่ไร้สาระมากๆ
ไม่ ไม่มีวัน ไม่มีวันหรอก… เสียงของเซียวเฟิงนั้นแผ่วเบา เขามองไปยังท้องฟ้ายามค่ำคืน
พ่อ… แม่… อย่านะ… อย่าทิ้งหนูไว้คนเดียว… เซียวหลิงยังกระสับกระส่ายอยู่แบบนั้นเป็นเวลานาน และยังเกาะเซียวเฟิงอยู่จนร่างเล็กๆ นั้นเริ่มผ่อนคลาย เสียงค่อยๆ เงียบลง จากนั้นลมหายใจของเธอก็ช้าลงและเปลี่ยนเป็นสม่ำเสมอ
ความเยือกเย็นเลือนหายไปจากใบหน้าของเซียวเฟิง ทดแทนด้วยความรู้สึกโกรธตัวเองเป็นอย่างมาก คนอย่างเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะไปโทษใครได้ ชายหนุ่มหายใจเข้าลึกๆ แล้วค่อยๆ อุ้มเซียวหลิงไปนอนที่เตียง ก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องของเขาอย่างเงียบๆ
เขาเปิดคอมพิวเตอร์ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับที่พักอาศัยใหม่ จนเจอบ้านสองชั้นที่มีสนามหญ้าอย่างรวดเร็ว แต่ราคาของมันทำให้เขาอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก ชายหนุ่มปิดคอมพิวเตอร์ของเขาลง จากนั้นจึงรีบสวมหมวกเข้าไปในมิธต่อทันที
ยินดีต้อนรับสู่มิธ! คุณจะสามารถสลักตำนานของคุณในโลกใบนี้ได้!
ทิวทัศน์เปลี่ยนไปทันที เขามาอยู่บนที่ราบที่เขาออกจากเกมในทีแรก ถึงในโลกแห่งความจริงจะเป็นตอนกลางคืน แต่ในเกมนี้ท้องฟ้ายังเป็นสีฟ้า มีคนจำนวนมากที่กำลังเก็บเลเวลอยู่ สังคมในมิธนั้นอุดมสมบูรณ์มากจนบางคนเลือกจะหายไปจากโลกแห่งความเป็นจริงเลย แม้ว่าผู้เล่นจะไม่ได้เคลื่อนไหวแต่ร่างกายก็ยังไม่มีปัญหา ทำให้ยิ่งมีคนจำนวนมากมาเข้าร่วมเกมนี้มากขึ้นเรื่อยๆ จำนวนผู้เล่นที่เพิ่มขึ้นนั้นมากจนน่าตกใจ
ที่นี่อยู่ใกล้หมู่บ้านมาก เซียวเฟิงคิดอยู่ตั้งนานก่อนที่จะเลือกเดินไปที่จุดกำเนิดของหมู่บ้าน หมู่บ้านนี้ค่อนข้างสงบ แน่นอนว่าที่จุดกำเนิดของหมู่บ้านก็ต้องไม่มีคนเป็นธรรมดา แต่เซียวเฟิงกลับเห็นคน 3 คนมาถึงก่อนตนซะอีก ซึ่งทั้ง 3 ก็เป็น NPC คือ นักบวชเฒ่า เสี่ยวหม่า และพ่อของเขา
พ่อหนุ่ม เจ้ามาจนได้! เสี่ยวหม่าฟื้นแล้ว! นักล่าหม่าพูดอย่างตื่นเต้นในตอนที่เห็นเซียวเฟิง
ขอบคุณมากที่ช่วยข้า ท่านนักบวช ท่าทีของเสี่ยวหม่าดูอ่อนแรง แต่เขาก็ยิ้มให้เซียวเฟิงด้วยความยินดี
ท่านนักบวช ขอบคุณที่ช่วยเหลือเสี่ยวหม่า ท่านกล้าหาญและใจกว้างยิ่งนัก ขอให้พระเจ้าคุ้มครองท่าน นักบวชเฒ่าน่าจะให้การยอมรับเขาแล้ว และคำพูดที่พูดให้นั้นดูให้ความเคารพมากกว่าเดิม
คุณได้รับพรศักดิ์สิทธิ์ ค่าประสบการณ์จากการสังหารมอนสเตอร์จะเพิ่มขึ้น 10% เป็นเวลา 1 ชั่วโมง
เซียวเฟิงแปลกใจเล็กน้อย แล้วนักล่าหม่าก็กล่าวขอบคุณนักบวชเฒ่าอย่างสุดซึ้ง
เขาค่อนข้างดื้อน่ะ ชอบเมินคำเตือนแล้วเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงบ่อยๆ รอบนี้เข้าไปที่เขตหวงห้าม ถ้าไม่ได้ท่านช่วยเอาไว้เขาคงไม่ได้กลับออกมาในสภาพเดิมแน่ๆ
ด้วยความยินดี อารามหลวงส่งให้ข้ามาอยู่ที่นี่ และการเผยแผ่คำสอนของพระเจ้าคืองานของข้า
ไม่ใช่ว่านักล่าควรมีจิตวิญญาณของนักผจญภัยเหรอ? ที่นั่นน่ะอันตรายที่สุดในเขตนี้แล้ว เสี่ยวหม่าท้วงขึ้นมา
เป็นเรื่องดีที่เจ้ามีจิตใจที่กล้าหาญ แต่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถต่อกรได้เจ้าก็ควรที่จะป้องกันตัวเองได้ เจ้าถึงจะเป็นนักล่าที่เก่งกว่านี้ นักบวชเฒ่าหัวเราะออกมาอย่างมีเมตตา ก่อนจะหันหน้ามาหาเซียวเฟิงด้วยท่าทางที่จริงจัง
เจ้านักบวชฝึกหัดใจบุญเอ๋ย เจ้าได้เข้ามาที่โบสถก่อนที่จะได้ประมือกับสิ่งที่ไล่ล่าเสี่ยวหม่าสินะ?
ใช้ครับ ทำไมงั้นเหรอ? เซียวเฟิงถามกลับ
ข้าประทับใจกับฝีมือของเจ้านะนักบวชฝึกหัด แต่กับเขตหวงห้ามนั้น…
พวกเจ้าเรียกที่นี่ว่าหมู่บ้านผู้เริ่มต้น แต่เราเรียกมันว่าดินแดนที่ถูกทอดทิ้ง อยู่ห่างไกลจากดินแดนแห่งพระเจ้าที่สงบสุข และเป็นดั่งสวรรค์ ทำให้เหล่าผู้คนจากดินแดนอื่นที่ถูกพิพากษาจึงมาพากันมาอยู่ในที่นี่ นักบวชเฒ่าเริ่มเล่าเรื่องบางอย่างให้เขารับรู้ ดินแดนแห่งพระเจ้าในที่นี้คือแผนที่หลักของมิธ ในข้อมูลบอกว่าไม่ได้เล็กไปกว่าโลกจริงเลย และยังมีพื้นที่อีกเป็นจำนวนมาก
…แท้จริงแล้วเขตหวงห้ามคือดินแดนที่ถูกทอดทิ้ง มันเลยกลายเป็นพื้นที่สำหรับผู้เล่นใหม่เพราะทั้งเงียบและสงบ แต่ก็เป็นคำสาปให้กับผู้ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแห่งพระเจ้า การที่จะเข้าไปในสถานที่นั้นเจ้าจะถูกลดพลังลง มีเฉพาะผู้ที่เลเวลต่ำกว่า 10 เท่านั้นที่จะเข้าไปในดินแดนต้องสาปได้
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมดินแดนที่ถูกทอดทิ้งนี้ถึงได้สงบขนาดนี้สินะครับ ?
ใช่แล้ว เพราะวันหนึ่งก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้
สงครามภายในของวิหารแห่งนั้น ในตอนที่ตามหาผู้ทรยศ ผู้ทรยศผู้นั้นถูกตามล่าจนใกล้อับจนหนทาง และเขาก็ได้พบกับทางเข้ามายังดินแดนแห่งนี้ด้วยความบังเอิญ
ด้วยการปกป้องจากเงื่อนไข หน่วยตามล่าจึงไม่สามารถติดตามไปยังดินแดนที่ถูกทอดทิ้งได้ ถึงแม้จะมี 2 นักรบผู้ยิ่งใหญ่ที่ยอมสละพลังของตนเองเพื่อที่จะทำภารกิจให้สำเร็จ พวกเขาก็ต้องพ่ายแพ้เพราะอีกฝ่ายเตรียมตัวมาดี พวกเขาจึงได้ยอมที่จะสละตนเองกักขังผู้ทรยศคนนั้นเอาไว้แล้วส่งนักบวชมาทำหน้าที่ยังดินแดนนี้
เซียวเฟิงฉุกคิดขึ้นได้ว่าคนพูดนั้นบอกว่าตัวเขามาประจำการอยู่ที่นี่ ดังนั้นอีกฝ่ายคงเป็นผู้รับผิดชอบภารกิจนี้ !
ถึงแม้ผู้ทรยศจะถูกกักขังไปแล้ว แต่พลังของเขากลับเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีอำนาจเหนือดินแดนที่ถูกทอดทิ้ง ความชั่วร้ายจึงปกคลุมไปทั่วดินแดนและเข้าครอบงำทุกสิ่งที่สัมผัสมัน
เลยกลายเป็นเขตหวงห้ามสินะ ?
นักบวชเฒ่าพูดอย่างเชื่องช้าพร้อมๆ กับครอบครัวนักล่าที่ช็อกจนอ้าปากค้าง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาไม่รู้เรื่องพวกนี้เลย
ตัวข้ารับหน้าที่ปกป้องที่คุมขัง และจัดการทุกคนที่คิดจะปลดปล่อยผู้ทรยศ ผู้คนในหมู่บ้านไม่เคยเข้าไปในดินแดนแห่งนั้นก็จริง แต่แน่นอนว่าข้าก็มีความลำบากใจเช่นกัน
นักบวชหันมาหาเสี่ยวหม่าแล้วพูดว่า โดยเฉพาะเธอที่เพิ่งกลับมาจากแดนต้องห้าม
นี่เกิดจากพวกผู้เล่น… ไม่สิ จากนักผจญภัย? มันกะทันหันเกินไปหน่อยนะ เซียวเฟิงคิดอยู่นานก่อนจะพูดออกมา พวกผู้เล่นน่าจะไม่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ขนาดนั้น
ใช่ การทำงานของพวกนักผจญภัยนั้นควบคุมได้ยาก แถมพวกเขาก็มีกันอยู่เยอะมากด้วย นักบวชเฒ่าพยักหน้าให้เขา แล้วข้าต้องคอยตรวจสอบการทำงานของเวทย์คุมขังด้วย จริงๆ แล้วข้าจำเป็นต้องไปเอง แต่ข้ายังต้องทำหน้าที่ในการตกแต่งรูปเคารพใหม่นี่สิ
นักบวชฝึกหัดเอ๋ย ข้าคาดหวังในตัวเจ้าอยู่นะ เจ้าจะทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้แทนได้ไหม?
คุณได้รับภารกิจลับในการตรวจสอบพลังเวทย์ของที่กักขัง
คำแนะนำ ภารกิจนี้มีความยากสูงมาก แนะนำให้ทำภารกิจนี้ในช่วงเลเวล 10 ขึ้นไป
เป็นภารกิจลับจริงๆ ด้วย! เซียวเฟิงดีใจจนตัวแทบลอย เขารับภารกิจมาโดยไม่ได้คิดถึงเรื่องความยากเลย
ยอมรับ
เจ้านักบวชฝึกหัดเอ๋ย ข้าปลาบปลื้มในความกล้าหาญของเจ้าอย่างใจจริง แต่มันคงเป็นการเดินทางที่ยากลำบาก เจ้าจะไม่ได้พบแค่มอนสเตอร์เท่านั้น นี่คือแหวนที่จะใช้ผ่านเข้าไปยังที่กักขัง ข้าจะมอบมันให้เจ้า หวังว่ามันจะพอช่วยเจ้าได้
นักบวชเฒ่ากล่าวพร้อมกับมอบแหวนในมือให้กับเขา
ภารกิจลับต้องให้รางวัลที่สูงมากแน่ๆ!
เซียวเฟิงรับแหวนมาอย่างตื่นเต้น และยิ่งตื่นเต้นขึ้นไปอีกเมื่อเห็นคุณสมบัติของมัน
แหวนแห่งศรัทธา
คุณภาพ: เงิน
ประเภทของสวมใส่: แหวน
เลเวล: 5
ข้อจำกัดของสวมใส่: นักบวช / พาลาดิน
คุณสมบัติ:
พลังชีวิตเพิ่ม 50
มานาเพิ่ม 50
สกิล:
[เสียสละ] เมื่อเปิดใช้งาน จะสูญเสียพลังชีวิตครึ่งหนึ่งแล้วนำไปเพิ่มให้กับเป้าหมายในจำนวนที่เท่ากัน คูลดาวน์ 30 วินาที
[ปลดปล่อย] ทำงานอัตโนมัติ ใช้ผ่านทางกำแพงเวทมนตร์ตามที่ระบุไว้ แต่จะผ่านได้เฉพาะผู้สวมใส่เท่านั้น
เครื่องประดับระดับสีเงิน! มันเพิ่มพลังชีวิต และมานาขึ้นมา 50 หน่วย! และยังมีสกิลอีก 2 แบบด้วย! ถึงแม้ว่าเซียวเฟิงจะไม่ค่อยเข้าใจสกิลมากนัก แต่แค่คุณสมบัติพื้นฐานของมันก็ดีมากพอแล้ว! เขาใส่มันในทันที ทำให้พลังชีวิตของชายหนุ่มเพิ่มมาถึง 215 หน่วย และค่ามานาอยู่ที่ 225!
หลังจากบอกลานักบวชเฒ่า ชายหนุ่มก็มุ่งหน้าไปทางป่าโดยไม่ลังเลถ้าเขาเข้าใจไม่ผิด ทางเข้าของมันน่าจะอยู่ทางที่เขาเจอกับเสี่ยวหม่า แต่หลังจากที่กำลังจะออกจากหมู่บ้าน เซียวเฟิงก็โดนขวางโดยกลุ่มผู้เล่นที่รอเขามานานแล้ว
หยุดเดี๋ยวนี้! แกคิดว่าหลังจากหาเรื่องดูมส์เดย์ลีกไปแล้วชีวิตแกจะสงบสุขเหรอ!?