Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子] - บทที่ 245 การพบกันโดยบังเอิญ
บทที่ 245 การพบกันโดยบังเอิญ
ทั้งที่ร้านหม้อไฟคนแน่นมาก แต่ตัวร้านก็ยังให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจเป็นเพราะตอนนี้มันดึกเกินว่าที่ลูกค้าจะมาเพิ่ม
ไม่นาน หม้อไฟพร้อมจานก็ถูกเสิร์ฟ เซียวเฟิงใส่อาหารลงไปในหม้อไฟโดยตรงแม้มันจะยังไม่เดือด เขาโยนพวกมันทั้งหมดลงหม้อไฟ ซึ่งทำให้ซือเยี่ยจิ๋งกลอกตาอยู่ตลอดเวลา จากนั้นก็เปิดเครื่องดื่มให้เซียวเฟิง
เฮ้ย? นั่นมันดาวมหาวิทยาลัย ซือเยี่ยจิ๋งหรือเปล่าน่ะ?
ในร้านอาหารที่พลุกพล่าน จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงที่ชัดเจนดังมาจากคู่รักที่ควรมองหาที่นั่ง ดูจากการแต่งตัวแล้ว พวกเขาน่าจะเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเซี่ย เมื่อเห็นเซียวเฟิงและซือเยี่ยจิ๋งนั่งอยู่ด้วยกันแค่สองคน พวกเขาจึงเดินไปที่โต๊ะของพวกเซียวเฟิง
ซือเยี่ยจิ๋งเงยหน้าขึ้นและสังเกตเห็นทั้งสองคน เธอไม่พูดอะไรและกวนหม้อไฟต่อไปราวกับว่าอีกฝ่ายไม่มีตัวตน แม้จะไม่พอใจอยู่ก็ตาม
ฉันคิดว่าดาวมหาวิทยาลัยคงมีความปรารถนาน้อย ไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะมาเดตกับผู้ชายคนเดียว
ฝ่ายหญิงของคู่รักนั้นสวยแต่ดูหยิ่งมาก เธอกำลังเยาะเย้ยซือเยี่ยจิ๋งด้วยความอิจฉาริษยาราวกับว่ามีปัญหาบางอย่างระหว่างทั้งสองฝ่าย แต่ดูเหมือนทั้งคู่ไม่คิดจะจากไปและยังเยาะเย้ยต่อ
ต้องขอบคุณเสียงดังของร้าน ทำให้ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นรอบ ๆ โต๊ะนี้
ซือเยี่ยจิ๋ง รสนิยมเธอแย่นะ ในตอนแรกเธอไม่ให้โอกาสฉันเลย แต่ตอนนี้ เธอกำลังคบกับ… ไอ้ผู้ชายต๊อกต๋อยนี่เนี่ยนะ
ชายหนุ่มพูดดูถูกเหยียดหยาม ซึ่งเขาแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแบรนด์เนมตั้งแต่หัวจรดเท้า หลังจากเหลือบมองที่เซียวเฟิงซึ่งใส่แค่เสื้อผ้าราคาถูกเท่านั้น
เรา…ไม่ได้คบกัน
เสียงของซือเยี่ยจิ๋งลดต่ำลง อันที่จริง…เธอควรจะโต้กลับอย่างตรงไปตรงมา
หา ชายหนุ่มยิ้มเหมือนเป็นผู้ชนะ จากนั้นก็หันไปหาเซียวเฟิงและพูดว่า เพื่อน พวกเธอสองคนไม่คิดจะให้เรานั่งที่นี่หน่อยเหรอ?
ไปให้พ้น เซียวเฟิงตอบโดยไม่เงยหน้าขณะที่เขาคีบเนื้อชิ้นหนึ่งขึ้นมาเพื่อชิมว่ามันสุกแล้วหรือยัง
รอยยิ้มของชายหนุ่มค่อย ๆ หยุดนิ่ง และหญิงสาวก็เริ่มพูดด้วยหน้าตาเอาเรื่อง
คุณดาวมหาวิทยาลัย นี่แฟนเธอเหรอ? ทำไมดูกระจอกจังเลย เขาเป็นหนึ่งในนักศึกษามหาวิทยาลัยของเราหรือเปล่า?
ฉันแนะนำให้พวกเธอไปซะ… เดี๋ยวนี้เลย ซือเยี่ยจิ๋งเงยหน้าขึ้นและพูดหลังจากสังเกตเซียวเฟิง
นี่เธอขู่เราเหรอ ชายหนุ่มดูเหมือนจะไม่ขยับเขยื้อนและยิ้มอย่างดูถูก
แล้วถ้าเราไม่ไปล่ะ? ร้านนี้ไม่ใช่ของเธอซักหน่อย เธอมีสิทธิ์อะไรมาไล่เรา หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูถูกเหยียดหยามเหมือนกัน
ปัง!
จู่ ๆ ซือเยี่ยจิ๋งก็ทุบโต๊ะและลุกขึ้นยืนทันที เธอเป็นคนประเภทที่ไม่ยอมคนง่าย ๆ แม้มีความขัดแย้งเพียงเล็กน้อยเหมือนเซียวเฟิง ดังนั้น หญิงสาวจะไม่ยอมให้ใครมารังแกเธอแบบนี้แน่…
ทั้งคู่ต่างหวาดกลัวซือเยี่ยจิ๋ง สาวรูปร่างสูงและผอมเพรียว แต่ไม่นานพวกเขาก็ได้สติ
เธอคิดจะทำอะไร?! ชายหนุ่มก้าวมาข้างหน้าและตะคอกอย่างโกรธจัด แต่จริง ๆ แล้วกำลังซ่อนความขี้ขลาดอยู่ภายใน เป็นผู้ชายจะตกใจเพราะผู้หญิงได้อย่างไร?
ฉันจะพูดอีกเป็นครั้งสุดท้าย… ไปให้พ้น
ซือเยี่ยจิ๋งพูดด้วยสายตาเย็นชา เธอไม่พอใจที่ทั้งสองคนนี้มารบกวน และนอกจากนี้เซียวเฟิงก็รู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องนี้ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน
แม้ว่าซือเยี่ยจิ๋งจะรู้จักเซียวเฟิงเพียงเล็กน้อย แต่หญิงสาวก็รู้สึกได้ถึงจิตสังหารที่เย็นชาของเขาไม่ว่าจะในเกมหรือในความเป็นจริง ซึ่งเธอมั่นใจว่าชายหนุ่มที่มาด้วยกันจะต้องลงมืออย่างแน่นอน
เห็นได้ชัดว่าถ้าซือเยี่ยจิ๋งไม่ออกตัวและปล่อยให้เซียวเฟิงโกรธ ผลที่ตามมาก็ยากเกินกว่าที่คู่รักธรรมดาคู่นี้จะจินตนาการได้
ถ้าเราไม่ไปแล้วจะทำไม? ซือเยี่ยจิ๋ง… อย่าแสร้งทำตัวห่างเหินเพียงเพียงเพราะว่าเธอเป็นดาวมหาวิทยาลัยนะ ดูเธอตอนนี้สิ เธอเพิ่งจะมีผู้ชายมาคบเอง ดังนั้นอย่ามาสอนว่าฉันต้องทำตัวยังไง นั่นมันไม่ได้ผลกับฉัน!
หญิงสาวคนนั้นเดินมาข้างหน้าหนึ่งก้าวด้วย เกือบจะชี้นิ้วไปที่จมูกของซือเยี่ยจิ๋ง
ทะเลาะอะไรกันวะ? ถ้าจะตีกันก็ไปข้างนอก! คนเขาจะกินหม้อไฟโว้ย!
ชายร่างสูงใหญ่แปดคนที่อยู่โต๊ะถัดไป ทุกคนลุกขึ้นทีมาละคน หน้าแดงก่ำด้วยความหงุดหงิด และบ่นว่าที่โต๊ะของเซียวเฟิงมันเสียงดังเกินไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังรำคาญ นอกจากนี้เสียงตวาดอันดังก้องซึ่งแสดงให้เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังเมาด้วย
บริกรเห็นสภาพที่นี่ก็รีบวิ่งเข้ามา
ซือเยี่ยจิ๋งอยากจะโยนทั้งคู่ออกไปใจจะขาดแต่ก็รู้ดีว่าเธอทำไม่ได้เพราะรู้ว่าสถานการณ์เริ่มยุ่งยากขึ้น ดังนั้นจึงต้องมองไปที่เซียวเฟิง
แต่สิ่งที่ทำให้เธอสับสนก็คือชายหนุ่มยังคงกินต่อไปคนเดียว เรื่องนี้ดูเหมือนจะไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อเขาเลย
เฮ้ย? นั่นดาวมหาวิทยาลัย ซือเยี่ยจิ๋ง ใช่ป่ะ?
ชายร่างใหญ่ทั้งแปดคนเมาหนัก ทันใดนั้นก็สังเกตว่านั่นคือซือเยี่ยจิ๋ง ดาวมหาวิทยาลัยเซี่ย ทั้งหมดรู้ว่ามันเพิ่งเกิดอะไรขึ้นก็เมื่อหลังจากพวกเขามองคู่รักนั่น
เหว่ยเทียนหมิง เรื่องที่นายตามติดดาวมหาวิทยาลัยคนเขารู้กันอยู่ แต่นายช่วยเลิกใช้อุบายสกปรก ๆ ของนายหน่อยได้ไหม พวกเราจะได้กินหม้อไฟของเราอย่างมีความสุขน่ะ
หัวหน้าของกลุ่มชายร่างใหญ่เหล่านี้พูดกับชายหนุ่มของคู่รักด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยอดทน
ตู้เปียว นายไม่คิดว่าทีมบาสเกตบอลของนายจะจุ้นจ้านเกินไปเหรอ? เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับนาย?
ชายที่ชื่อเหว่ยเทียนหมิงพูดด้วยท่าทางน่าสยดสยอง เขาเคยสนใจตู้เปียว และเพื่อนร่วมทีมของเขานิดหน่อย แต่เนื่องจากพวกเขาเลิกเล่นบาสเก็ตบอลและไปก่อตั้งทีมในมิธ ซึ่งเป็นเกมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ทำให้ทั้งหมดมีชื่อเสียงมากกว่าตอนที่พวกเขายังอยู่ในทีมบาสเกตบอล
นายขัดจังหวะกินหม้อไฟของเพื่อนฉัน แต่นั่นไม่สำคัญหรอก… หลี่เทียน นายดึงฉันทำไม
คนที่ชื่อตู้เปียวพูดตะกุกตะกัก แต่เขาหันหลังกลับไปเมื่อรู้สึกว่ามีคนดึงเขา
ดูสิ นั่นพี่เซียวไม่ใช่เหรอ?
คนที่ดึงเขามาเป็นสมาชิกกลุ่มที่ร่างผอมเพรียวในแปดคนนี้ เห็นได้ชัดว่าเขามีสติเหลือเพียงครึ่งเดียว ตอนนี้เขากำลังดึงตู้เปียวในขณะที่ชี้ไปทางเซียวเฟิงซึ่งนั่งตรงข้ามกับซือเยี่ยจิ๋ง
อย่างไรก็ตามเซียวเฟิงยังคงทำตัวเป็นคนนอกโดยสิ้นเชิงและกินหม้อไฟอย่างเงียบ ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะความอยากรู้อยากเห็นของหลี่เทียนว่าใครกำลังกินหม้อไฟกับดาวมหาวิทยาลัย เซียวเฟิงอาจถูกทุกคนมองข้ามไปเลย
นายกำลังพูดเรื่องอะไร! พี่เซียวจะมา… โอ้ พระเจ้า!
ตู้เปียวมองไปที่เซียวเฟิงด้วยความสงสัยและตะโกนออกมาดัง ๆ ทันที เขากลายเป็นใบ้ทันที โดยจ้องเซียวเฟิงด้วยความตื่นเต้น
พี่เซียว!
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวเฟิงซึ่งกำลังจะคีบเนื้อขึ้นมาด้วยตะเกียบก็เงยหน้าขึ้นและมองมาที่ทั้งสอง ชายหนุ่มยิ้มให้พวกเขาและตระหนักได้ว่าเป็นเถียซูและเจ๋าซือ
พวกนายทั้งคู่เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเซี่ยงั้นเหรอ?
เซียวเฟิงหัวเราะ เขารู้ว่าพี่น้องนิโคลัสเป็นนักศึกษาวิทยาลัย แต่ไม่เคยคิดเลยว่าทั้งสองจะเรียนที่มหาวิทยาลัยเซี่ย และเพิ่งจะได้พบกันโดยบังเอิญ
ว้าว พี่เซียว! ตัวจริงเสียงจริง! ฉันไม่อยากเชื่อเลย! ว้าว ว้าว ว้าว ฉันตื่นเต้นสุด ๆ เลย!
หลี่เทียนตื่นเต้นมากจนแทบจะกระโดดไปหาเซียวเฟิง ตู้เปียวร่วมกับชายร่างใหญ่อีกหกคนตกอยู่ในความสับสนในตอนแรก แต่ทันใดนั้นก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ พวกเขาตกใจเกินกว่าจะเชื่อและเบิกตากว้าง
อาจารย์…อาจารย์…
มีคนพยายามเรียกชายหนุ่ม แต่ตู้เปียวชิงปิดปากของเขาเพื่อป้องกันไม่ให้เขาทำเช่นนั้น
พี่เซียวกำลังกินหม้อไฟกับดาวมหาวิทยาลัย?
ตู้เปียวถามเซียวเฟิงหลังจากที่สัญญาณให้เพื่อนของเขาหยุดพูดแล้วมองไปที่คนทั้งสองพลางกวาดสายตาขึ้นลง
ใช่ มากินด้วยกันไหม? เซียวเฟิงพยักหน้าและยิ้ม ไม่คิดว่าเขาจะได้เจอกับพี่น้องนิโคลัส
ไม่ล่ะ ๆ เราอิ่มแล้ว กำลังจะกลับพอดี เราปล่อยให้ทั้งคู่อยู่กันตามลำพังดีกว่า ตู้เปียวโบกมือของเขา
เหว่ยเทียนหมิง นายกล้าดียังไงมารบกวนพี่เซียว! ดูเหมือนว่านายจะไม่มีโอกาสหนีไปง่าย ๆ แล้ว! เอาตัวเขาออกไป!
หลี่เทียนเขม่นใส่เหว่ยเทียนหมิง ซึ่งความตื่นเต้นในการได้พบเซียวเฟิงก็ถูกชายกร่างคนนี้รบกวน ก็เลยตัดสินใจที่จะลงโทษเขา
ใช่แล้ว เรามาสะสางปัญหากันข้างนอกดีกว่า อย่ารบกวนพี่เซียวไปมากกว่านี้เลย
ตู้เปียวหันกลับมาและหันมาพูดกับเหว่ยเทียนหมิงซึ่งขัดจังหวะหม้อไฟของพวกเขาและเซียวเฟิงด้วยสีหน้าเย็นชา ดังนั้นจึงไม่อาจปล่อยไปง่าย ๆ
ชายร่างใหญ่แปดคนเดินเข้ามารอบ ๆ เหว่ยเทียนหมิงซึ่งอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมาก ในตอนนี้กำลังคอหดด้วยความตื่นตระหนกอย่างมาก
อะไร… พวกนายจะทำอะไร?
ตู้เปียวและเพื่อน ๆ ของเขาพัฒนาได้ดีในมิธ แล้วก็ได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยมากมาย นั่นหมายความว่าพวกเขาไม่เพียงแต่จะมีพรรคพวกเท่านั้น แต่ยังมีความนิยมอีกด้วย ดังนั้นเหว่ยเทียนหมิงที่หวาดกลัวจึงไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้
เมื่อก่อนตอนที่เขายังคงดูถูกทีมบาสเกตบอลที่ก่อตั้งโดยตู้เปียวเพราะครอบครัวที่ร่ำรวยของเขา ทว่าตั้งแต่มิธกลายเป็นที่รู้จักอย่างมากในมหาวิทยาลัยเซี่ย ตู้เปียวและเพื่อนของเขา แม้จะเลิกเล่นบาสเกตบอล แต่ก็ได้อำนาจเพิ่มขึ้นจากเกม อีกทั้งยังมีสมาชิกที่ร่ำรวยในหมู่พวกเขาไม่น้อย
ส่วนใหญ่ทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีความขัดแย้งอะไรกัน ดังนั้นพวกเขาจึงค่อนข้างต่างคนต่างอยู่อย่างสงบ แต่ตอนนี้… ดูเหมือนจะไม่จบง่าย ๆ เพราะเมื่อดูจากท่าทางของตู้เปียวแล้ว เหว่ยเทียนหมิงก็ตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก
ถ้าพวกเขาจะมีเรื่องกัน เขาจะชนะการรุมกระทืบจากชายร่างใหญ่แปดคนได้อย่างไร?
สิ่งที่เหว่ยเทียนหมิงรู้สึกสับสนที่สุดคือชายที่สวมเสื้อผ้าราคาถูกซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามกับซือเยี่ยจิ๋งรู้จักพวกตู้เปียว และได้รับความเคารพจากพวกเขามากเสียจนทั้งสองจะประกาศสงครามกับเขาอย่างเปิดเผย
กว่าบริกรจะมาถึงและถามว่าเกิดอะไรขึ้น คนกลุ่มนี้ก็ออกไปแล้ว หลังจากเห็นเช่นนั้น บริกรที่สับสนในตอนแรกก็ขอโทษเซียวเฟิงและซือเยี่ยจิ๋งทันที
เซียวเฟิงแสดงความเฉยเมยต่อเรื่องนี้และกินหม้อไฟต่อไป ในขณะที่ซือเยี่ยจิ๋งมองเขาด้วยสายตาแปลก ๆ และนั่งลงด้วยความสับสน
ฉันไม่คิดเลยว่านายจะรู้จักคนในมหาวิทยาลัยเซี่ยด้วย
ถ้าไม่กินเดี๋ยวไม่มีอะไรเหลือนะ
ไอ้เวร! เหลืออะไรไว้บ้างสิ! ส่งเนื้อชิ้นนั้นมา!
…
แม้ว่าจะมีเรื่องไม่พึงประสงค์ในระหว่างการกินหม้อไฟ แต่เซียวเฟิงก็เพลิดเพลินกับมื้อนี้เป็นอย่างมาก เนื้อที่ใครบางคนเลี้ยงนั้นยอดเยี่ยมเสมอ
มันดึกมากแล้วตอนที่ทั้งสองออกจากร้านหม้อไฟ ลูกค้าคนอื่น ๆ ต่างก็ออกไปเกือบหมดแล้ว เพราะทั้งสองคิดว่าพี่น้องนิโคลัสจะกลับมาในภายหลัง ดังนั้นจึงอ้อยอิ่งอยู่นานขึ้นเล็กน้อย แต่ใครจะคิดว่าพวกเขาจะไม่กลับมาอีกเลย?