Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子] - บทที่ 287 คำสั่งเสีย
บทที่ 287 คำสั่งเสีย
บทที่ 287 คำสั่งเสีย
ภายในห้องนั่งเล่นประจำคฤหาสน์ หลิวเฉียงเหว่ยมองไปยังเศษกระจกของบานหน้าต่างที่แตกออกต่อหน้าเธอด้วยความประหลาดใจ
ในเมื่อหน้าต่างทุกบ้านในคฤหาสน์หลังนี้เป็นแบบฝรั่งเศส และกระจกเองก็เป็นกระจกนิรภัย ดังนั้นคุณภาพของกระจกจะต้องดีมาก แล้วยิ่งกระจกนิรภัยที่ถูกผลิตขึ้นในฮัวเซียเองก็เรื่องชื่อเรื่องความทนทานขนาดส่งออกต่างประเทศได้เลยด้วยซ้ำ…
ทว่ากระจกคุณภาพสูงที่หนากว่าห้าเซนติเมตรกลับแตกร้าวเป็นใยแมงมุมได้ขนาดไหน ไหนจะรูโหว่ขนาดหนึ่งเมตรที่อยู่กลางบานกระจกอีก อย่างกับว่ามันแตกจากตรงจุดกึ่งกลางเสียอย่างนั้นแหละ!
ถึงแม้ว่าหญิงสาวจะตกใจขนาดไหนก็ตาม แต่นี่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เธอจะสามารถรับมือได้แล้ว ต้องเป็นแรงกระทำขนาดไหนถึงทำสิ่งนี้ได้! กรณีเดียวที่จะทำให้กระจกนิรภัยเกิดความเสียหายได้ขนาดนี้ ต้องเป็นการยิงจากรถถังเท่านั้น และจากหลักฐานที่ปรากฏอยู่มันก็ต้องเป็นเช่นนั้นเท่านั้นด้วย!
อย่างไรก็ตาม เพราะหญิงสาวดันรู้ว่ารูกลางหน้าต่างนี่เกิดจากฝีมือเซียวเฟิง ถึงมันจะเร็วมากแต่ก็เห็นว่าเขาพุ่งออกไปด้วยแรงกับไทรันโนซอรัสที่กำลังออกล่าเหยื่อ!
ปัง!
ตอนนั้นเอง ประตูคฤหาสน์ก็ถูกเปิดและปิดขึ้นมาอีกครั้ง หลิวเฉียงเหว่ยรีบหันมองไปยังร่างเลือนรางที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอ หญิงสาวถอนหายใจหลังจากพบว่าผู้ที่เดินเข้ามานั้นคือเซียวเฟิง เธอล้มเลิกความคิดที่จะกดโทรเบอร์ฉุกเฉินไปในทันที
พรุ่งนี้เธอลองหาคนมาเปลี่ยนกระจกหน้าต่างกับพื้นข้างนอกหน่อยนะ
เซียวเฟิงมองไปยังหลิวเฉียงเหว่ยที่ยืนอยู่บริเวณกระจกที่แตกก่อนจะเอ่ยบอก
นาย…เกิดอะไรขึ้นน่ะ?
ใบหน้าสวยลังเลแต่ยังไงก็ยังอดไม่ได้ที่จะถาม หญิงสาวรู้ดีว่าการที่จู่ ๆ เซียวเฟิงรีบวิ่งออกไปเช่นนั้นมันต้องไม่ใช่เรื่องไร้เหตุผลแน่ ๆ ข้างนอกนั่นต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น…
ถ้าอยากรู้ก็เรียกโตวโตวกับลูกพี่ลูกน้องของเธอลงมาด้วย เขาขมวดคิ้วและครุ่นคิด ครู่หนึ่งก็ตัดสินใจบอกเธอไปเช่นนั้น
ฮัวเซียนั้นถือเป็นเขตหวงห้ามของเดอะเฮล เซียวเฟิงคิดว่าเขาจะสามารถเอาตัวเองออกจากเดอะเฮลได้โดยการมาซ่อนตัวอยู่ในเขตฮัวเซียนี้ แต่ไม่คาดคิดเลยว่าคนจากเดอะเฮลจะหาตัวเขาเจอเร็วขนาดนี้!
ชายหนุ่มถอนหายใจเบา ๆ ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะเหลือเวลาอีกไม่นานเสียแล้วสิ บางแผนอาจจะต้องตัดทิ้งไป หรือไม่ก็เร่งมันขึ้นมา…
ในเมื่อเดอะเฮลมาแล้ว มันก็ถึงเวลาที่เขาต้องแตกหักกับทั้งเดอะเฮลและเฮฟเว่นแล้ว!
เซียวเฟิงเอนตัวนอนลงไปบนโซฟาเงียบ ๆ ระหว่างนั้นแววตาทั้งสองข้างก็เปลี่ยนสีจนน่าประหลาด ข้างหนึ่งเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด ในขณะที่อีกข้างหนึ่งกลายเป็นสีทอง!
ห้วงอากาศรอบตัวของชายหนุ่มมันค่อย ๆ ช้าลงเรื่อย ๆ เซียวเฟิงสามารถรับรู้ได้ว่าที่ด้านหลังของตัวเองมีผีเสื้อกลางคืนกำลังบินอยู่ช้า ๆ โดยที่ไม่ต้องหันไปมองเสียด้วยซ้ำ
นี่เป็นพลังที่เฮฟเว่นมอบให้เขา เมื่อห้าปีที่แล้ว ในช่วงที่กำลังทดสอบอยู่ เซียวเฟิงถูกพวกเฮฟเว่นจับตัวไปเพื่อทำการทดลองเกี่ยวกับพันธุกรรมบางอย่าง มีคนอีกหลายร้อยคนที่ถูกเฮฟเว่นจับไปพร้อม ๆ กับเขาเพื่อทำการทดลองแบบเดียวกัน แต่ในท้ายที่สุด…ก็เหลือเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รอดมาได้
มันไม่ได้มีเซียวเฟิงเพียงคนเดียว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ถือเป็นร่างทดลองที่ประสบผลสำเร็จสูงที่หาได้ค่อนข้างยาก เขาได้รับพละกำลังที่มากมาย รวมถึงได้กลายเป็นตัวอย่างให้ร่างทดลองคนอื่น ๆ หรือที่ถูกเรียกว่า ‘ต้นแบบ!’
ชายหนุ่มควรจะขอบคุณพวกเฮฟเว่น เพราะถ้าคนเหล่านี้ไม่ช่วยเขาขึ้นมาจากแม่น้ำใต้ดินอันหนาวเหน็บล่ะก็ บางทีเขาอาจจะต้องตายเพราะโดนเหล่าคนที่อยู่เบื้องหลังกระทืบเมื่อห้าปีที่แล้วแน่ ๆ และเพราะแบบนี้เซียวเฟิงถึงได้พลังที่เหนือมนุษย์มาครอบครอง!
อย่างไรก็ตาม เฮฟเว่นก็ไม่ได้ใจบุญสุนทานขนาดนั้น แม้ว่าเซียวเฟิงจะเคยมีคุณค่าในสายตาพวกเขาอยู่ช่วงหนึ่ง แต่เมื่อร่างทดลองรุ่นใหม่ ๆ ประสบความสำเร็จ เซียวเฟิงและเหล่ารุ่นทดสอบต่าง ๆ ก็ล้วนถูกกำจัดไปพร้อมกัน และปลายทางของมนุษย์ทดลองที่ถูกกำจัดก็คือกลับไปอยู่ในเดอะเฮล!
เดอะเฮลนั้นได้ขึ้นชื่อว่าเป็นองค์กรนักฆ่าที่แข็งแกร่งที่สุดภายในโลกใต้ดิน แต่แท้จริงแล้วมันคือองค์กรแสวงหาผลกำไรของเฮฟเว่นแบบลับ ๆ!
ในขณะเดียวกันนั้น เฮฟเว่นก็จะทำการควบคุมสมองของร่างทดลองเอาไว้ด้วยระเบิดขนาดเล็กที่ซึ่งไม่เพียงจะควบคุมความเป็นความตายของร่างทดลองได้ตลอดเวลา แต่มันยังควบคุมถึงความรู้สึกนึกคิดของร่างทดลองไว้ด้วย ภายใต้เหตุผลที่ว่าในเมื่อเป็นสมาชิกขององค์กรนักฆ่า พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องมีความรู้สึกอะไรหรอก เช่นเดียวกับที่ทำกับเซียวเฟิง
แต่เซียวเฟิงที่สามารถหลุดออกจากการควบคุมของเฮฟเว่นและกลับบ้านได้แล้ว สิ่งที่เขาต้องทำไม่เพียงแต่หาข้อมูลของคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ แต่ต้องคอยหลบหนีการตามตัวของเฮฟเว่นด้วย
ในฐานะที่เป็นประเทศตะวันออกลึกลับ ฮัวเซียถือเป็นเขตหวงห้ามจากโลกใต้ดินมาตั้งแต่ครั้งอดีตกาลแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโลกของทหารรับจ้างหรือนักฆ่าในฝั่งยุโรป ไม่มีใครสามารถมาพรากชีวิตกันในแผ่นดินฮัวเซียได้ทั้งนั้นหากย่างกรายเข้ามาแล้ว…
เซียวเฟิงรู้เรื่องนี้ดี เพราะงั้นชายหนุ่มจึงใช้ที่แห่งนี้ในการหลบซ่อนและปกปิดตัวตนจากสายตาผู้อื่น ระหว่างนั้นก็คอยหาร่องรอยและข้อมูลของผู้ที่อยู่เบื้องหลังไปด้วย
ทว่าเขาไม่คาดคิดเลยว่าพวกเขี้ยวเล็บของเดอะเฮลจะมาที่นี่เร็วขนาดนี้ พวกนี้ละเมิดกฏเรื่องเขตหวงห้ามฮัวเซียและถลำลึกเข้ามาอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด!
เรื่องต่าง ๆ มากมายผุดขึ้นในสมองของเซียวเฟิง เขารีบส่ายหน้าอย่างแรงก่อนจะตัดสินใจว่าต้องจัดการเรื่องของเดอะเฮลและเฮฟเว่นด้วยตนเองให้ได้!
พี่เซียว! เกิดอะไรขึ้นเหรอ?
น้ำเสียงที่ไม่ปกติของเฉียนโตวโตวดังขึ้นจากด้านหลัง เธอและซือเยี่ยจิ๋งรีบออฟไลน์จากเกม แล้วลงมาด้านล่างหลังจากที่หลิวเฉียงเหว่ยขึ้นไปตาม
นั่งลงก่อน ฉันมีเรื่องที่จะต้องบอกพวกเธอ
ดวงตาของเซียวเฟิงทั้งสองข้างกลับมาเป็นสีปกติแล้ว เขาทำตัวให้ใจเย็นลงก่อนจะหันมาพูดกับทั้งสามสาว
มีอะไรงั้นเหรอ?
ซือเยี่ยจิ๋งหันไปมองหลิวเฉียงเหว่ย แต่หลิวเฉียงเหว่ยก็เพียงส่ายหน้าให้ ทำให้เธอต้องหันกลับไปถามเซียวเฟิงแทน
ถ้าจู่ ๆ ฉันหายตัวไปสักวันหนึ่ง พวกเธอต้องดูแลเซียวหลิงให้ฉัน
เซียวเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงใจเย็น แต่ทันทีที่พูดออกไป ทั้งสามสาวกลับกลายเป็นฝ่ายที่ไม่สามารถใจเย็นอยู่ได้
แต่เดิมหลิวเฉียงเหว่ยก็รู้สึกไม่ปกตินิดหน่อยภายในใจอยู่แล้ว พอมาตอนนี้ความไม่ปกตินั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นความกังวลและขยายตัวขึ้นอีกหลายเท่า มันเป็นความกังวลที่รุนแรงมากพอที่จะทำให้หญิงสาวหายใจไม่สะดวกได้เลย
นาย…จะไปจากที่นี่เหรอ? เธอพูดด้วยเสียงที่แข็งเกร็ง
พี่เซียว! มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?! ทำไมพี่ถึงจะไปจากที่นี่? ถ้าพวกเราทำอะไรไม่ดี พี่บอกเราได้นะ! สัญญาเลยว่าจะรีบปรับปรุงตัวทันทีเลย!
เฉียนโตวโตวรู้สึกเป็นกังวลเช่นเดียวกับซือเยี่ยจิ๋งที่แม้จะไม่แสดงอาการใด ๆ แต่แววตาของเธอมันก็ซ่อนไม่ได้ว่ากำลังกังวลเรื่องที่เซียวเฟิงพูดอยู่
เซียวเฟิง…กำลังจะจากไปเหรอ?
ตอนนั้นเองที่ซือเยี่ยจิ๋งเริ่มตระหนักได้ว่าเธอรู้เรื่องเกี่ยวกับเซียวเฟิงน้อยมากจริง ๆ หากบอกว่าไม่รู้อะไรเลยก็ไม่เกินจริงนัก ยิ่งตอนที่เซียวเฟิงบอกจะจากไปแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเช่นนี้ มันก็ยิ่งทำให้ซือเยี่ยจิ๋งรู้สึกเคว้งคว้างและวิตกในใจอย่างบอกไม่ถูก
อะไรคือความหมายของคำว่าหายไปที่เขาพูด? แล้วเขาจะกลับมาหรือเปล่า? เขาจะหายไปนานขนาดไหน?
ฉันต้องไปจัดการเรื่องของฉันให้เสร็จ ๆ ไปสักที แล้วก็จะกลับมาหลังจากที่เรื่องที่ว่านั่นจบลงแล้ว เซียวเฟิงส่ายหน้า เขาไม่ได้อธิบายรายละเอียดของเรื่องนี้มากนัก จากนั้นก็เหลือบมองปฏิกริยาของทั้งสาวคนตรงหน้าโดยที่ยังไม่พูดอะไรต่อ
ทั้งสามสาวตรงหน้าเขานั้นต่างเป็นผู้หญิงที่สวยงามในแบบของตนเอง ไม่ว่าจะด้วยความบริสุทธิ์ ความแข็งแกร่งไปจนถึงความสง่างาม อย่างไรก็ตาม เซียวเฟิงก็ไม่ได้มีอารมณ์ที่อยากจะมากล่าวชื่นชมพวกเธอในตอนนี้ น้ำเสียงของเขากลับมาเต็มเปี่ยมไปด้วยความจริงจังอีกครั้ง
สิ่งเดียวที่ฉันกังวลที่สุดคือ เซียวหลิง หากจู่ ๆ ฉันหายไป พวกเธอต้องดูแลเด็กคนนี้ให้ดีที่สุด เธอยังเป็นเด็กดังนั้นจึงมีบางครั้งที่เธอจะแสดงความเอาแต่ใจหรือโวยวายออกมาด้วยความโกรธ พวกเธอต้องคอยตามใจและอย่าไปรังแกเซียวหลิง
ไม่ต้องห่วงค่ะพี่เซียว! ฉันจะเลี้ยงดูเซียวหลิงเหมือนน้องสาวของฉันเลย! ฉันจะช่วยเธอทุกอย่างจนกว่าพี่จะกลับมา! เฉียนโตวโตวปาดความชื้นที่ดวงตาของตนแล้วรีบพยักหน้าในสิ่งที่เซียวเฟิงพูด
อีกคนหนึ่งก็เคอเค่อ เธอคนนั้นกำลังเจอกับบางสิ่งบางอย่างที่ยุ่งยาก ซึ่งมันเกี่ยวพันกับครอบครัวของเธอด้วย หากเธอคนนั้นไม่ได้พูดอะไรออกมา พวกเธอก็ไม่ต้องทำอะไร แต่ถ้าวันไหนเธอขอความช่วยเหลือ พวกเธอต้องช่วยเด็กคนนั้นให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เซียวเฟิงพูดต่อ
ในตอนที่พูดนั้น มันมีเสียงเหมือนฝีเท้าดังขึ้นมาจากชั้นสอง บริเวณบันได ด้วยความหูไวเซียวเฟิงรีบเหลือบไปมองทันที และเขาก็โล่งใจที่เจ้าของเสียงนั้นคือหนิงเคอเค่อ
บางทีอาจจะเป็นเพราะเธอเห็นว่าไฟในห้องนั่งเล่นนี้ยังไม่ปิด ก็เลยออกมาดู แล้วก็เผอิญได้ยินบทสนทนาพอดี ส่วนเซียวหลิงน่าจะยังหลับอยู่ ซึ่งมันทำให้เซียวเฟิงโล่งอกและพูดต่อ
ตอนนี้ร้านค้ามหาสมบัติกับกิลด์มิดซัมเมอร์กำลังเข้าสู่ยุคแห่งความเจริญรุ่งเรืองแล้ว ตราบใดก็ตามที่พวกเธอทำงานด้วยกัน จะไม่มีศัตรูหน้าไหนกล้าย่างกรายเข้ามา แถมพวกเธอยังจะกลายเป็นผู้มีอิทธิพลในโลกของเกมในอนาคตด้วย ไม่ว่าสิ่งใดที่พวกเธอต้องการ โลกใบที่ 2 นี้จะตอบสนองให้อย่างแน่นอน น้ำเสียงของเซียวเฟิงเปลี่ยนไปเป็นเหมือนกล่าวเตือนขณะที่จ้องมองไปยังสองสาว จำไว้ว่า รวมกันเราอยู่ แยกกันเราตาย เมื่อใดก็ตามที่พวกเธอไม่ช่วยเหลือกันเอง จะไม่มีใครช่วยเหลือพวกเธอได้
เรื่องนั้นก็ไม่ต้องเป็นห่วงพี่เซียว! พวกเราจะร่วมมือกันอย่างแน่นอน!
เฉียนโตวโตวรีบตอบรับในทันที จากนั้นเธอก็ยื่นมือไปจับมือเรียวยาวนวลผ่องประดุจหยกขาวของหลิวเฉียงเหว่ยแล้วเขย่า ก่อนที่หลิวเฉียงเหว่ยจะค่อยเขย่าตาม
เซียวเฟิงเลิกคิ้วขึ้นหลังจากที่เห็นมือของสองสาวจับกัดแน่น เขาพูดต่อ โตวโตว ฉันเชื่อในศักยภาพของเธอ ด้วยร้านค้ามหาสมบัติ และเมืองแห่งความโศกเศร้า มันจะทำให้ฝันของเธอไม่ใช่เรื่องยากเกินเอื้อม
เมื่อเห็นว่าเฉียนโตวโตวพยักหน้าแล้ว เซียวเฟิงก็หันไปมองทางหลิวเฉียงเหว่ยต่อ
หลิว…เฉียงเหว่ย ฉันรู้บางอย่างเกี่ยวกับโชคชะตาของเธอ ถ้าหากโลกใบที่ 2 ไม่สามารถช่วยเธอได้ ให้เธอโทรไปตามเบอร์นี้แล้วพูดชื่อฉันออกไปเพื่อเป็นที่พึ่งสุดท้าย ใครบางคนจะช่วยเธอออกจากเรื่องเลวร้ายนั้นได้
นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เซียวเฟิงเรียกชื่อของหลิวเฉียงเหว่ย แล้วชายหนุ่มก็พบว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะพูดเหมือนกัน เซียวเฟิงหยิบเอากระดาษแผ่นหนึ่งที่มีตัวเลขเก้าหลักถูกเขียนเอาไว้ส่งให้อีกฝ่าย
หลิวเฉียงเหว่ยรับกระดาษนั้นมาโดยไม่พูดอะไร ยามที่มองไปยังเบอร์บนกระดาษมันก็ทำให้หญิงสาวรู้สึกประหลาดใจอยู่ไม่น้อยเลย
ไม่ต้องห่วง ไม่ว่าจะเป็นในฮัวเซียหรือที่ไหนบนโลก เจ้าของเบอร์นี้ก็สามารถแก้ได้ทุกปัญหา เซียวเฟิงพูดติดตลก เขายิ้มและปลอบหลิวเฉียงเหว่ยไปด้วย
ท่าทีเขาเองนั้นก็ทำให้เธอประหลาดใจเหมือนกัน เธอไม่ได้สงสัยอยู่แล้วว่าเซียวเฟิงจะพูดจริงหรือไม่ ดังนั้นเธอจึงรีบเก็บกระดาษในมือไปอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าฉันจะมั่นใจแล้วว่าคนที่ฉันกำลังตามหาอยู่ได้หนีออกจากมิดซัมเมอร์กรุ๊ปไปแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่กล้ารับปากว่าจะไม่มีโอกาสที่คนคนนั้นจะกลับมาอีก ถ้าหากเธอเจออะไรเข้า เธอห้ามไปกระตุ้นความสงสัยของเขา แล้วถ้ามันเป็นแบบนั้นเธอก็ไม่ต้องคืนมิดซัมเมอร์กรุ๊ปกลับไปให้เซียวหลิงก็ได้ ปล่อยให้เธอโตอย่างหมดห่วงไปเลย เซียวเฟิงพูดเสริม
จิ๋งจิ๋ง…
ท้ายที่สุด เซียวเฟิงก็หันมามองซือเยี่ยจิ๋ง ซึ่งเธอหูผึ่งทันทีเมื่อได้ยินเขาเรียกเธอด้วยชื่อ ‘จิ๋งจิ๋ง’ เช่นนี้ มันทำเอาเธอเขินจนใบหูทั้งสองข้างแดงไปหมดเลยขณะที่หันไปมองเซียวเฟิง
ฉันอยากให้เธอทำอะไรบางอย่าง ผู้เล่นจะเปิดแผนที่เมืองจักรวรรดิได้หลังจากที่ทำการเปลี่ยนคลาสครั้งที่ 2 เรียบร้อยแล้ว ภายในเมืองจักรวรรดินั้นมีอารีน่าอยู่ ฉันอยากให้เธอเป็นอันดับแรกของอารีน่าภายในเกม หากวันใดวันหนึ่งมันเกิดมีการแข่งขันแบบสงครามผู้เล่นปะทะผู้เล่นที่ร่วมทั่วทุกเซิร์ฟเวอร์ ฉันอยากให้เธอเป็นตัวแทนเขตฮัวเซียไปร่วมศึกครั้งนั้นด้วย ก่อนฉันจะไป เดี๋ยวฉันจะทิ้งไอเทมของฉันไว้ที่ร้านค้ามหาสมบัติ ด้วยความแข็งแกร่งของเธอกับไอเทมของฉัน ฉันเชื่อว่าเธอแทบจะเป็นอมตะได้เลย แล้วก็ฉันอยากจะให้เธอช่วยฉันตามหาคนคนหนึ่ง! สายตาของเซียวเฟิงนั้นเต็มไปด้วยความลังเลอยู่ครู่หนึ่งขณะพูดออกไปแบบนั้น
ใครกัน? ซือเยี่ยจิ๋งไม่ได้สงสัยอะไรในสิ่งที่เขาพูดก่อนหน้าเลย กลับกันเธอเลือกถามไปตามตรงถึงสิ่งที่เขาอยากจะให้เธอตามหา
การกระทำของเธอเช่นนี้มันเป็นตัวยืนยันว่าเธอจะทำตามที่เซียวเฟิงพูดไว้ก่อนหน้าแน่ ๆ อย่างไม่ลังเล
บางทีคนคนนั้นอาจจะปรากฏตัวอีกครั้งในการแข่งขัน แล้วเขาจะต้องใช้ทุกวิถีทางเพื่อโกงผู้เล่นของเขตฮัวเซียแน่ และโกงเอาผลประโยชน์ไปจนหมดด้วย! รายละเอียดเพิ่มเติมเธอก็ถามลูกพี่ลูกน้องของเธอเอาก็แล้วกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
เข้าใจแล้ว ซือเยี่ยจิ๋งหันไปมองหลิวเฉียงเหว่ยและพยักหน้า
โอเค ไม่ต้องทำหน้าอมทุกข์กันขนาดนั้น ฉันไม่ได้ไปแล้วไปลับ ถ้ายังไงจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด หรือถ้าจู่ ๆ เรื่องมันจบไปเองด้วยดี ฉันก็จะไม่ไป
เซียวเฟิงปรบมือจากนั้นก็ยิ้มให้ทั้งสามคน เรื่องที่พูดไว้นั้นมีโอกาสเป็นไปได้ เพราะยังไงเสียเขตฮัวเซียก็ถือเป็นดินแดนต้องห้ามของโลกใต้ดิน มันถูกหวงห้ามจากเดอะเฮลที่คิดจะรุกล้ำเข้ามา ถ้าหากเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น เขี้ยวเล็บของเดอะเฮลก็อาจจะถูกกำจัดจนหายไปจากดินแดนตะวันออกแห่งนี้ก่อนที่จะได้เจอตัวเซียวเฟิงเสียอีก
สามสาวพยายามฝืนยิ้ม แต่พวกเธอก็ดูจะกังวลเหมือนกันหมด เซียวเฟิงพูดเหมือนมันเป็นเรื่องง่าย แต่ไม่ว่าจะจากมุมไหน มันก็ดูเหมือนว่านี่จะเป็นคำสั่งเสียของเซียวเฟิงซะมากกว่า
ไปกันเถอะ ล็อกอิน เดี๋ยวฉันจะพาพวกเธอไปเก็บเลเวลกับลงดันเจี้ยนเอง!
ชายหนุ่มพูดขึ้นพร้อมกับเดินนำขึ้นชั้นบนไปก่อน เขาได้ยินเรียบร้อยแล้วว่าหนิงเคอเค่อแอบเดินย่องกลับห้องของตนเองไปแล้ว
หญิงสาวทั้งสามคนหันมองซึ่งกันและกัน จากนั้นพวกเธอก็ได้แต่ตามเซียวเฟิงขึ้นไปด้วยรอยยิ้ม