Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子] - บทที่ 325 หอกลองกินัส
บทที่ 325 หอกลองกินัส
บทที่ 325 หอกลองกินัส
เมื่อมองขึ้นไปด้านบน พวกเขาเห็นยูนิคอร์นแสงศักดิ์สิทธิ์ที่วิ่งบนท้องฟ้าและโบกปีกอันใหญ่โตของมัน มาพร้อมกับแรงดันลมที่รุนแรง ที่ประตูห้องโถงฐานที่ตั้งกิลด์ คนสองกลุ่มที่กำลังจะปะทะกันต่างก็ตกใจในทันใด
ยูนิคอร์นแสงศักดิ์สิทธิ์ สัตว์พาหนะระดับทองเพียงตัวเดียวในโลกของเกม และมีเจ้าของเพียงคนเดียว ตัวตนของเขาไม่ใช่ความลับ เขาเป็นผู้เล่นอันดับ 1 ของเขตฮัวเซีย…เจ้าแห่งฮีลเลอร์!
ทั้งสกาย จืออี้ และผู้เล่นระดับสูงของกิลด์วอร์สปิริตฮอลล์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลิวเฉียงเหว่ยก็ผ่อนคลายร่างกายที่ตึงเครียดของตัวเองและเงยหน้าขึ้นมองด้วยแสงในดวงตาที่สวยงามของเธอ แต่ก็สบตากับจืออี้อีกครั้งโดยไม่ได้ตั้งใจ
“เร็วเข้า! ทำลายห้องโถงที่พักก่อนที่เขาจะลงมา!”
ในทางกลับกัน กลุ่มกิลด์ที่บุกจู่โจมก็ตกใจกลัวและมีคนตะโกน
เจ้าแห่งฮีลเลอร์มีความขัดแย้งมากมายกับกิลด์แอนติควิตี้ ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับพวกเขาที่เจ้าแห่งฮีลเลอร์จะปรากฏตัวในตอนนี้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างกิลด์มิดซัมเมอร์และเจ้าแห่งฮีลเลอร์นั้นผิดปกติเลย!
ดังนั้น หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง พวกเขาจึงพุ่งเข้าไปที่ห้องโถงกิลด์ทันที ไม่สนใจสกายและผู้เล่นระดับสูงคนอื่น ๆ เพียงแค่ต้องการบุกเข้าไปในห้องโถงกิลด์ก่อนที่เซียวเฟิงจะลงจอด
พวกเขาไม่สามารถกวาดพลังชีวิตของห้องโถงฐานที่ตั้งกิลด์ได้ในเวลาอันสั้นเพราะเลเวลกิลด์ของกิลด์วอร์สปิริตฮอลล์ แถมเซียวเฟิงจะไม่ให้โอกาสพวกเขาในเมื่อเขามาอยู่ที่นี่แล้ว
“ฮี้!”
ทันใดนั้นเสี่ยวเสวียก็หุบปีกของมัน ทำให้ร่างกายแข็งแรงและสมบูรณ์แบบของมันพุ่งลงมาที่พื้นเป็นเส้นตรง ความเร็วนั้นเร็วมากจนดูเหมือนว่าอากาศจะถูกบีบอัดและสร้างเสียงไดนามิก!
เมื่อเขากำลังจะลงถึงพื้น วงแหวนเวทอันเชิญก็ปรากฏขึ้นในแนวนอน ทำให้เสี่ยวเสวียสามารถพุ่งผ่านวงแหวนเวทและหายตัวไป
ในขณะเดียวกัน จากบนหลังของเสี่ยวเสวีย เซียวเฟิงที่เปลี่ยนจากชุดแฟชั่นเป็นเกราะกระดูกที่ดุร้ายพร้อมหน้ากากกะโหลกบนใบหน้าของเขาก็กระแทกกับพื้นอย่างดุดันด้วยแรงกระแทกจากการตกลงมา และเขาลงจอดระหว่างกลุ่มของซีเหมินชุยเสวียและห้องโถงกิลด์
ตู้ม!
-920!
เกิดเสียงดังและแรงสั่นสะเทือนบนพื้น แม้แต่เซียวเฟิงยังเสียพลังชีวิตไปกว่า 900 หน่วยจากแรงกระแทกมหาศาลนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเร็วที่น่าทึ่ง!
อย่างไรก็ตาม เซียวเฟิงก็บัฟอวยพรชีวิตไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว และพลังชีวิตของตัวเองก็ทะลุไปถึงหนึ่งพันอีกด้วย แม้ว่าเขาจะเสียพลังชีวิตมากกว่าครึ่ง แต่ก็ยังมีพลังชีวิตหลงเหลืออยู่เล็กน้อย
“เปลี่ยนเป้าหมาย! ฆ่าเขา! เขามีพลังชีวิตเหลืออยู่เล็กน้อยเท่านั้น! ไปฆ่าเขาด้วยกันเถอะ!”
ซีเหมินชุยเสวียและกลุ่มของเขาที่ถูกเซียวเฟิงขวางไว้และบุกโจมตีห้องโถงล้มเหลว ตอนนี้เมื่อเห็นเซียวเฟิงมีพลังชีวิตหลงเหลืออยู่เล็กน้อย พวกเขาก็รู้สึกตื่นเต้นและพุ่งไปที่เซียวเฟิงเพื่อรุมโจมตีเขาทันที
“ระวังตัวด้วย เจ้าแห่งฮีลเลอร์!”
ที่ด้านหลัง สกายอดไม่ได้ที่จะตะโกนเสียงดัง ในขณะที่คนอื่น ๆ ก็ประหม่าจนพูดไม่ออก
เหตุผลหลักคือพลังชีวิตของเซียวเฟิงทำให้พวกเขากังวล ยิ่งกว่านั้นซีเหมินชุยเสวียและผู้เล่นระดับสูงคนอื่น ๆ ทั้งหมดก็อยู่ที่นี่และฉากที่พวกเขาเข่นฆ่าเมื่อครู่นี้ก็ยังคงฉายซ้ำอยู่ในใจ
เซียวเฟิงแสยะยิ้ม เขาไม่ฟื้นฟูพลังชีวิตตัวเองเพื่อไม่ให้พวกเขากลัวจนหนีไป และหลังจากที่ทุกคนเข้าใกล้ เขาก็เริ่มลงมือ
มังกรคำราม!
มังกรย่ำบาทา!
มังกรคำราม!
ภาพลวงตาของมังกรโครงกระดูกปรากฏขึ้นข้างหลังเซียวเฟิง มันคำรามขึ้นท้องฟ้าทันที ทำให้ผู้เล่นทุกคนรอบ ๆ ซีเหมินชุยเสวียตกตะลึง จากนั้นมันก็กระทืบพื้น คลื่นกระแทกสามระลอกกระจายไปรอบ ๆ เซียวเฟิงทันที!
-382!
-400!
-796! คริติคอล!
-788! คริติคอล!
-399!
…
ชุดของตัวเลขความเสียหายแพร่กระจายออกไปโดยมีเซียวเฟิงเป็นตัวต้นเหตุ ด้วยพลังโจมตีของชายหนุ่ม นักดาบที่เปราะบางและไม่มีบัฟจากนักบวชก็ไม่สามารถรับการโจมตีของเขาถึงสองครั้งได้ นับประสาอะไรกับการโจมตีสามครั้ง ในชั่วพริบตา มีศพจำนวนมากนอนอยู่รอบ ๆ เซียวเฟิง
ความจริงแล้ว ผู้เล่นระดับสูงของกิลด์แอนติควิตี้ก็ไม่ได้อ่อนแอนัก ทันทีเซียวเฟิงเตรียมที่จะโจมตี บางคนก็สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติและใช้สกิลระบำดาบ สกิลแปลงกายของอาชีพรองเพื่อหลอมรวมร่างของพวกเขาเป็นแสงดาบ เพื่อที่พวกเขาจะได้หลบการโจมตีของเซียวเฟิงและสร้างความเสียหายใส่เซียวเฟิงไปพร้อมกัน
ทว่าพวกเขาคาดไม่ถึงว่าสถานะมึนงงของสกิลมังกรคำรามจะไม่เพียงแต่เป็นสกิลโจมตีเป็นวงกว้างที่กว้างใหญ่ แต่ยังกำหนดเป้าหมายแบบไม่เลือกหน้า ดังนั้นเอฟเฟกต์สกิลของอาร์ติแฟกต์จึงแสดงผล และผู้ที่ใช้ระบำดาบก็ติดสถานะมึนงงและหลุดออกจากแสงดาบ จากนั้นพวกเขาก็ได้รับบาดเจ็บจากคลื่นกระแทกครั้งที่สาม และส่วนใหญ่ก็ถูกคลื่นกระแทกสังหารโดยไม่ได้ทำอะไรเลย
“อะไรกัน?”
เซียวเฟิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเพราะยังมีคนยังมีชีวิตอยู่ นั่นคือซีเหมินชุยเสวีย แม้ว่าเขาจะติดสถานะมึนงงเช่นกัน แต่เมื่อกำลังจะถูกคลื่นกระแทก ดาบยาวของเขาในมือก็แยกออกเป็นห้าชิ้นและลอยอยู่รอบ ๆ ตัวของเขา มันหมุนเป็นวงกลมและสกัดกั้นคลื่นกระแทกทั้งสามคลื่น!
“สกัดกั้น!”
“สกัดกั้น!”
“สกัดกั้น!”
เพล้ง! เพล้ง! เพล้ง!
ดาบสามเล่มแตกไปราวกระจก แต่พวกมันก็ปกป้องซีเหมินชุยเสวียได้อย่างสมบูรณ์แบบและทำให้เขาไม่ได้รับอันตรายจากการโจมตีของมังกรย่ำบาทา นอกจากนี้ คงมีของสวมใส่ที่ลดเวลาควบคุมการเคลื่อนในตัวซีเหมินชุยเสวียแน่ ตอนนี้เขาถึงได้หลุดจากสถานะมึนงงแล้วรีบถอยกลับไป
“คิดว่าจะหนีไปได้เหรอ?”
เซียวเฟิงยิ้ม เขายกมือขึ้นเพื่อจับซีเหมินชุยเสวียหลังจากใช้สกิลเขตแดนมังกร จากนั้นเขาก็เดินไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ
นอกเหนือจากสกิลที่ทำให้อยู่ยงคงกระพันอย่างพลังมังกรที่ยังอยู่ในสถานะคูลดาวน์แล้ว สกิลทั้งหมดของเซ็ตมังกรยังคงทำงานอยู่ ในกรณีนี้ เซียวเฟิงไม่อาจคิดวิธีที่ซีเหมินชุยเสวียจะสามารถหลบหนีได้เลย
“นายหาเรื่องกับคนที่นายไม่ควรหาเรื่องด้วยแล้ว”
ซีเหมินชุยเสวียยอมแพ้ที่จะดิ้นรน เขาจ้องเซียวเฟิงอย่างเฉยเมย “เรื่องนี้จะทำให้นายต้องจ่ายราคาที่หนักกว่าชีวิต”
“จริงเหรอ? ฉันจะรอดู”
เซียวเฟิงยิ้มอย่างไม่พอใจ ค้อนทองคำยักษ์โผล่ออกมาในมือของเขาแล้วทุบไปที่ซีเหมินชุยเสวีย
“เธอก็ด้วย เธอหนีไม่พ้นหรอก” ซีเหมินชุยเสวียหันไปมองจืออี้ที่อยู่ข้างหลังและกล่าวประโยคที่อธิบายไม่ได้นี้ หลังจากนั้นเขาก็ถูกค้อนแห่งการพิพากษาตีและถูกฆ่าทันที ก่อนที่ร่างจะร่วงลงกับพื้น กลายเป็นแสงสีขาวแล้วก็หายไป
ในขณะนี้ จืออี้ซึ่งอยู่ด้านหลังก็กัดริมฝีปากของเธอเล็กน้อย และใบหน้าที่เย้ายวนของเธอก็ซีดลงเช่นกัน
“เจ้าแห่งฮีลเลอร์แข็งแกร่งมาก!”
“เจ้าแห่งฮีลเลอร์ไร้เทียมทาน!”
“สุดยอด!”
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ ไม่มีใครสังเกตเห็นความผิดปกติของจืออี้เลย หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ผู้เล่นก็ระเบิดเสียงทันทีและรีบวิ่งไปที่เซียวเฟิง
พวกเขาเห็นความแข็งแกร่งของซีเหมินชุยเสวียและผู้เล่นระดับสูงเหล่านั้นซึ่งสามารถทำลายแนวป้องกันที่สร้างโดยผู้เล่นนับล้านได้อย่างง่ายดาย และฆ่าผู้เล่นในฐานที่ตั้งกิลด์วอร์สปิริตฮอลล์จนเกือบหมด ไม่มีใครหยุดพวกเขาได้เลย
ทว่าผู้เล่นระดับสูงเหล่านั้นถูกเจ้าแห่งฮีลเลอร์ฆ่าในชั่วพริบตา แบบเดียวกับที่ซีเหมินชุยเสวียฆ่าผู้เล่นธรรมดาคนอื่น ๆ ในกิลด์วอร์สปิริตฮอลล์
นี่คือ…ช่องว่างขนาดใหญ่! ผู้เล่นธรรมดาไม่ได้มีความหมายอะไรกับซีเหมินชุยเสวีย แล้วซีเหมินชุยเสวีย รวมถึงผู้เล่นระดับสูงเหล่านั้นก็ไม่มีความหมายอะไรกับเจ้าแห่งฮีลเลอร์เช่นกัน!
ในขณะนี้สกายพูดอะไรไม่ออกนอกจากถอนหายใจ เขาต้องถอนหายใจเพราะว่าอันดับหนึ่งของเขตฮัวเซียนั้นไร้เทียมทานจริง ๆ!
“ท่านหัวหน้ากิลด์! มีบางอย่างผิดปกติ! หน่วยจู่โจมของกิลด์ใหญ่ทั้งสี่ได้บุกทะลวงเข้ามาแล้วเมื่อครู่นี้!”
ในเวลานี้ คนของกิลด์วอร์สปิริตฮอลล์ก็มารายงานว่าสถานการณ์รอบนอกนั้นตึงเครียดมาก ผู้เล่นของกิลด์กลอรี่แต่เดิมล้วนแต่เป็นผู้เล่นระดับสูง หลังจากเข้าร่วมกิลด์แอนติควิตี้แล้ว พลังการต่อสู้ของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก และพวกเขาทั้งหมดก็ชนะการต่อสู้ร่วมกับกิลด์แอนติควิตี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับสมาชิกหลักของแก๊งชิงหลง ทุกคนเก่งและกล้าหาญ หลังจากที่ซีเหมินชุยเสวียและผู้เล่นระดับสูงเหล่านั้นบุกทะลวงเข้ามาได้ พวกเขาก็เข้าตามมาผ่านทางนั้นด้วย!
“ไว้ค่อยคุยกัน ฉันจะไปจัดการกับคนข้างนอก”
เซียวเฟิงเป็นคนเดียวที่สังเกตความผิดปกติของจืออี้ หลังจากประสานสายตากับจืออี้ เขาก็ละสายตาและหันไปทางสกาย และขัดจังหวะคำพูดที่สกายกำลังจะพูด
“ฮึ่ม!”
วงแหวนเวทอัญเชิญขนาดใหญ่เปิดขึ้นในแนวตั้งด้านหลังเซียวเฟิง จากนั้นร่างที่สูงและทรงพลังของเสี่ยวเสวียก็ก้าวออกมา มันเงยหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจและสูดอากาศ
เซียวเฟิงพลิกตัวและขึ้นขี่หลังเสี่ยวเสวีย เขาตบที่คอของเสี่ยวเสวียอย่างนุ่มนวลโดยไม่พูดอะไร เสี่ยวเสวียก็กางปีกสีขาวกว้าง แล้วมันก็ทะยานขึ้นไปในอากาศและบินไปด้านนอกของฐานที่ตั้งกิลด์
ด้วยสนามรบขนาดใหญ่ที่มีผู้เล่นมากกว่าหกล้านคน ไม่มีใครสามารถเห็นขอบของมันได้ รวมทั้งเซียวเฟิงที่อยู่ในอากาศ เมื่อมองไปรอบ ๆ ก็เห็นแต่ผู้เล่นราวกับทะเลแห่งความมืดมิด
สถานการณ์ในอีกสามทิศที่เหลือยังมีความสมดุล อย่างไรก็ตาม ด้วยการสนับสนุนที่มีประสิทธิภาพของร้านค้ามหาสมบัติ ความสมดุลนี้จึงค่อนไปทางได้เปรียบ
มีเพียงความสับสนวุ่นวายอยู่ตรงหน้า กองทัพร่วมของกิลด์วอร์สปิริตฮอลล์และกิลด์มิดซัมเมอร์ร่นถอยไปทีละนิด และสายตาของเซียวเฟิงก็เปลี่ยนไปในทิศทางนี้
กองกำลังของเซียวเฟิงคือเมืองแห่งความโศกเศร้า ซึ่งเป็นพันธมิตรกับกิลด์วอร์สปิริตฮอลล์และกิลด์มิดซัมเมอร์ ในสงครามกิลด์ พวกเขาจะถูกตัดสินว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นมิตร ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องกังวลกับการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ จากนั้นเซียวเฟิงก็กางนิ้วทั้งห้าของเขาและเล็งไปที่ท้องฟ้า
“หอกลองกินัส!”
“สกัดกั้น!”
ราวกับเสียงระฆังที่ดังก้องไปทั่วท้องฟ้าและผืนดิน ปกคลุมแม้แต่เสียงสนามรบที่เดือดพล่าน ท้องฟ้าแตกสลายในทันใด ราวกับดวงอาทิตย์สีทองผงาดและแสงศักดิ์สิทธิ์อันแรงกล้าก็ปกคลุมผืนดิน
ในขณะนี้ ผู้เล่นนับล้านในสนามรบจากทุกด้านของเมืองน้ำแข็งหยุดการต่อสู้โดยไม่ตั้งใจและมองขึ้นไปบนฟ้า
พวกเขาเห็นแต่หอกสีทองขนาดใหญ่ฉีกท้องฟ้า ทะลุผ่านเมฆ และร่วงลงสู่พื้น!
หอกทองคำนั้นใหญ่เกินไป เหมือนกับเกาะสีทอง และเหมือนเรือบรรทุกเครื่องบินสีทอง หรือเมืองหลักสีทอง จากนั้นมันก็กระแทกพื้นอย่างรวดเร็ว!
มันเหมือนวันโลกาวินาศ!
ผู้เล่นหลายล้านคนบนทุ่งน้ำแข็งนี้ต่างตกตะลึงในเวลานี้ พวกเขาไม่เคยเห็นพลังเช่นนี้มาก่อน!
การต่อสู้ของผู้คนนับล้านได้ยุติลง ไม่ว่าผู้เล่นธรรมดาหรือผู้เล่นระดับสูงของกิลด์ รวมถึงหลิวเฉียงเหว่ยและสกายในเมืองน้ำแข็งต่างก็ลืมไปว่าพวกเขากำลังทำอะไรและตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน ทุกคนต่างจ้องมองไปที่หอกที่ตกลงมาบนท้องฟ้าอย่างว่างเปล่า!
“ตู้ม!”
เห็นได้ชัดว่ามีเวลาเพียง 10 วินาทีสำหรับผู้เล่นที่จะได้เห็นวันโลกาวินาศในขณะนี้ แต่มันรู้สึกราวกับยาวนานเป็นศตวรรษ แล้วหอกศักดิ์สิทธิ์ก็ร่วงลงถึงพื้น!
แผ่นดินสั่นสะเทือน…เสียงคำรามทำให้ทุกคนหูหนวกทั้งสองข้าง…