Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子] - บทที่ 380 ถอดของเขาก่อน
บทที่ 380 ถอดของเขาก่อน
บทที่ 380 ถอดของเขาก่อน
“ฉัน…” เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของเฉียนโตวโตว หลิวเฉียงเหว่ยก็รู้สึกหวั่นไหวเช่นกัน เธอคิดว่าคำพูดของเฉียนโตวโตวก็มีเหตุผล
เป็นไปได้สูงที่จืออี้ได้รับการปฏิบัติพิเศษดังกล่าวหลังจากก้าวข้ามความสัมพันธ์นั้น สิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกถึงวิกฤติ ถ้าเธอไม่ลงมือเปลี่ยนแปลงอะไร เธอจะถูกผู้หญิงคนอื่นชิงดีชิงเด่นไป!
บุคลิกที่เยือกเย็นของหลิวเฉียงเหว่ยทำให้เธอรู้สึกละอายที่จะพูดถึงหัวข้อเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกถึงวิกฤติที่เธอมีก็มีอยู่จริง แม้ว่าเธอจะมั่นใจมากในรูปร่างหน้าตาในฐานะผู้หญิงของเธอ…แต่จืออี้ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอ
นอกจากนี้ ในบางแง่มุมจืออี้ก็เหนือกว่าเธอ และจืออี้รู้ดีเกี่ยวกับวิธีการยั่วยวนผู้ชายซึ่งทำให้หลิวเฉียงเหว่ยจริงจัง ภายใต้แรงกดดันนี้ หลิวเฉียงเหว่ยก็เริ่มประพฤติตัวโดยไม่คำนึงถึงอะไร
เหตุผลที่สำคัญอีกประการหนึ่ง ก็คือจืออี้เป็นสมาชิกของกิลด์วอร์สปิริตฮอลล์ หากเธอได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากเซียวเฟิงเนื่องจากความสัมพันธ์ของพวกเขา สิ่งที่ควรเป็นของกิลด์มิดซัมเมอร์ก็จะถูกโอนไปยังกิลด์วอร์สปิริตฮอลล์ผ่านคำหวานของจืออี้ หลิวเฉียงเหว่ยไม่สามารถยอมรับมันได้เลย
“ฉันไม่มีคำค้านอะไร” หลิวเฉียงเหว่ยพูดเบา ๆ
“งั้นก็ตามนี้! ไปกันเถอะ! ในขณะที่พี่เซียวอยู่ในเกม ไปทำให้สำเร็จกันเถอะ!” เฉียนโตวโตวเคลื่อนไหวทันที
“เดี๋ยวก่อน ฉันมีเรื่องจะบอกเธอ” แต่หลิวเฉียงเหว่ยหยุดเธอในจังหวะนี้
ดวงตาของหลิวเฉียงเหว่ยฉายแววลังเล แต่ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจที่จะเปิดเผยตัวตนของเซียวเฟิงต่อทุกคน เพราะยังไงเธอก็ไม่สามารถซ่อนมันได้อยู่ดี หลังจากรู้ที่อยู่ของเซียวเฟิง ตระกูลจางก็จะจัดพิธีแต่งงานให้เสร็จ
แม้ว่าหลิวเฉียงเหว่ยจะรู้ว่าเซียวเฟิงไม่เต็มใจที่จะกลับไปหาตระกูลจาง แต่เธอก็รู้จากจางเสี่ยวหยูว่าการแต่งงานครั้งนี้ถูกตัดสินโดยผู้อาวุโสที่เป็นที่นับถือในตระกูลจาง ดังนั้นตระกูลจางจะทำตามให้เสร็จสิ้น ความตั้งใจของเซียวเฟิงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย เขาไม่สามารถมีเรื่องกับตระกูลของเขาเองได้ใช่ไหม?
จางเสี่ยวหยูแอบบอกหลิวเฉียงเหว่ยให้เฝ้าดูเซียวเฟิงอย่างใกล้ชิดก่อนที่เธอจะจากไป เธอเป็นน้องสาวของเขา ดังนั้นจึงไม่มีความคิดที่จะบังคับให้เซียวเฟิงกลับบ้าน แต่หลังจากที่ข่าวกลับไปถึงตระกูลจาง ก็จะต้องมีคนใหญ่คนโตมาอย่างแน่นอน
ในเวลานั้นเซียวเฟิงจะถูกบังคับให้กลับตระกูลจางเพื่อจัดพิธีแต่งงานให้เสร็จ ดังนั้นจางเสี่ยวหยูจึงขอให้หลิวเฉียงเหว่ยดูเซียวเฟิงไว้เผื่อว่าเขาจะหายตัวไปอีกครั้ง
“มีอะไรเหรอพี่หลิว?”
เฉียนโตวโตวหันกลับไปมองอย่างสับสน ซือเยี่ยจิ๋งก็เช่นกัน เธอยังมองไปที่หลิวเฉียงเหว่ยด้วยความสงสัย
“มีเรื่องหนึ่งที่ฉันอยากจะบอกเธอ มันเกี่ยวกับตัวตนของเซียวเฟิงและความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเขา” หลิวเฉียงเหว่ยตัดสินใจ
“อะไรนะ?” หลังจากได้ยินว่าเกี่ยวกับตัวตนของเซียวเฟิงแล้ว เฉียนโตวโตวและซือเยี่ยจิ๋งก็จริงจังและนั่งลงอีกครั้ง
“ฉันเคยเล่าเรื่องชะตากรรมอันเลวร้ายของฉันแล้วใช่ไหม ฉันเชื่อว่าเธอจะยังไม่ลืมมัน” หลิวเฉียงเหว่ยกล่าว เมื่อเห็นว่าเฉียนโตวโตวและซือเยี่ยจิ๋งต่างก็พยักหน้า เธอก็พูดต่อ “ตระกูลที่นำชะตากรรมที่ว่ามาให้ฉันมีชื่อว่าตระกูลจาง”
“ตระกูลจาง?” เฉียนโตวโตวสับสน มีเพียงซือเยี่ยจิ๋งเท่านั้นที่ดูเคร่งขรึมเพราะเธอรู้เรื่องนี้
“โตวโตว เธอน่าจะรู้อยู่แล้วว่ามีตระกูลที่อายุยืนยาวมากมายในฮัวเซีย พวกเขามีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีอำนาจมหาศาล และมีมรดกอันล้ำลึก ความแข็งแกร่งของพวกเขาสามารถอธิบายได้ด้วยคำว่ายากจะหยั่งถึงเท่านั้น” หลิวเฉียงเหว่ยอธิบาย
“ฉันเคยได้ยินมาบ้าง ดูเหมือนว่ากิลด์แอนติควิตี้ก็เป็นกิลด์ของตระกูลพวกนั้นใช่ไหม? เหล่าผู้เล่นชั้นยอดเหล่านั้นล้วนมาจากตระกูลโบราณ” แม้ว่าเฉียนโตวโตวจะไม่รู้รายละเอียดแน่ชัด แต่ในฐานะเจ้าของร้านค้ามหาสมบัติ เธอก็ได้ยินข่าวลือเหล่านี้มาบ้าง
“ใช่ และในบรรดาตระกูลโบราณทั้งหมด ตระกูลที่มีอำนาจมากที่สุดคือตระกูลจาง นอกจากนี้ยังมีตระกูลชื่อซวนหยวนด้วย เมื่อหลายร้อยปีก่อนมันสามารถแข่งขันกับตระกูลจางได้ แต่ตอนนี้ตระกูลซวนหยวนได้หายไป ดังนั้นตระกูลจางจึงไร้เทียมทาน” หลิวเฉียงเหว่ยกล่าว
“ตระกูลจางเป็นแค่ตระกูลโบราณ มันทรงอำนาจจริง ๆ เหรอ? แม้ว่าจะมีบุคคลที่โดดเด่นบ้าง แต่ก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อกฎเกณฑ์ของโลกนี้ได้ ในโลกนี้ ยังไงรัฐบาลของประเทศเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดไม่ใช่หรอกเหรอ?” เฉียนโตวโตวสงสัย
“บางทีในแง่ของความแข็งแกร่งโดยรวม ประเทศอาจมีอำนาจมากที่สุด แต่จุดที่ยอดเยี่ยมที่สุดของตระกูลโบราณคือพลังการต่อสู้แบบเดี่ยว เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นชัด ๆ เธอคิดยังไงหลังจากที่ได้เห็นการต่อสู้ระหว่างเซียวเฟิงกับทาสดาบคนนั้น เอาฉิงเอ๋อเปรียบเทียบกับกองทัพดูสิ?” หลิวเฉียงเหว่ยส่ายหัว
“พี่เซียวแข็งแกร่งที่สุดอย่างแน่นอน ฉิงเอ๋อก็ทรงพลังมากเช่นกัน พวกเขาน่าจะเพิกเฉยต่อการคุกคามของกองทัพและฆ่าผู้บังคับบัญชาได้โดยตรง เว้นแต่กองทัพจะส่งอาวุธชั้นยอดมาเพื่อทำลายทุกสิ่งรอบตัวในขณะที่พวกเขาเผลอ” เฉียนโตวโตวคิดแล้วตอบ
“แล้วถ้าฉันบอกเธอว่ามีคนหลายร้อยหรือหลายพันคนที่มีความแข็งแกร่งเช่นเซียวเฟิงกับฉิงเอ๋อในตระกูลจาง และแม้แต่บางคนก็แข็งแกร่งกว่าเซียวเฟิงกับฉิงเอ๋อด้วย” หลิวเฉียงเหว่ยอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
“อะไรนะ?! ถ้าอย่างนั้น ตระกูลจางก็สามารถทำทุกอย่างที่ต้องการในโลกนี้ได้งั้นเหรอ? และไม่มีใครควบคุมพวกเขาได้! หากพวกเขาไม่มีความสุข พวกเขาก็สามารถกวาดล้างผู้บริหารของประเทศได้อย่างง่ายดายงั้นเหรอ?” เฉียนโตวโตวตกใจ
“ในแง่หนึ่ง ตระกูลจางมีความสามารถนี้อย่างแน่นอน รวมถึงตระกูลโบราณอื่น ๆ ที่ไม่ค่อยเก่งเท่าตระกูลจาง เธอจะดูถูกตระกูลโบราณทุกตระกูลไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ทุกตระกูลโบราณก็มักจะปฏิบัติตามกฎของโลกนี้เพื่อดำรงชีวิตและพัฒนาตัวเอง ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถอยู่มาได้จนถึงปัจจุบัน พวกเขาจะไม่เคลื่อนไหวอย่างน่ากลัว เพราะมันจะสร้างปัญหาและอาจส่งผลต่อการที่ตระกูลจะสืบทอดต่อไปได้” หลิวเฉียงเหว่ยพยักหน้า
“ถ้าอย่างนั้น…ตระกูลที่นำชะตากรรมมาสู่เธอคือตระกูลจางใช่ไหม?” เฉียนโตวโตวมองที่หลิวเฉียงเหว่ยอย่างกังวล
“ใช่ มันคือตระกูลจาง” หลิวเฉียงเหว่ยพยักหน้า
ซือเยี่ยจิ๋งไม่พูดอะไรตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะเธอรู้ทุกอย่างและรู้ว่าตระกูลจางนั้นน่ากลัว
“ดังนั้น เธอเลยพยายามในโลกที่สองอย่างหนักเพียงเพื่อให้สามารถมีทุนมาต่อกรกับตระกูลจางได้…ไม่เช่นนั้น เธอจะถูกปฏิบัติเหมือนเป็นเครื่องสังเวยที่มีชีวิตโดยตระกูลจางและแต่งงานกับคนตาย…” เฉียนโตวโตวกัดริมฝีปากของเธอ รู้สึกโกรธแทนหลิวเฉียงเหว่ย
ทว่า เฉียนโตวโตวนึกอะไรบางอย่างได้ในทันที “เดี๋ยวก่อน จางเสี่ยวหยูที่มากินอาหารร่วมกับเราในวันนี้ก็มาจากตระกูลจางใช่ไหม?”
“ใช่” หลิวเฉียงเหว่ยพยักหน้า
“พี่หลิว ทำไมพี่ถึงสนิทกับเธอล่ะ เราควรไล่เธอออกไปไม่ใช่เหรอ” เฉียนโตวโตวงงงวย
“ฉันเคยเกลียดเสี่ยวหยูเพราะเธอมาจากตระกูลจาง แต่ตอนนี้สถานการณ์มันไม่เหมือนเดิมแล้ว” หลิวเฉียงเหว่ยส่ายหัว
“สถานการณ์มันไม่เหมือนเดิม?” เฉียนโตวโตวสงสัยอีกครั้ง
“เธอไม่ได้ยินเสี่ยวหยูเรียกเซียวเฟิงว่าพี่เหรอ? เพราะเซียวเฟิงก็มาจากตระกูลจางเช่นกันไงล่ะ”
ทันทีที่หลิวเฉียงเหว่ยกล่าวเช่นนี้ เฉียนโตวโตวและซือเยี่ยจิ๋งก็แข็งตัวพร้อมกัน ทั้งคู่มองหลิวเฉียงเหว่ยด้วยสายตาตกตะลึง
“พี่เซียวเป็นทายาทของตระกูลจาง?”
“เซียวเฟิงไม่ใช่ชื่อจริงของเขาเหรอ? นามสกุลของเขาคือจางงั้นเหรือ?”
“เซียวเฟิง เดิมชื่อว่าจางเซียวเฟิง เขาไม่เพียงแต่เป็นทายาทของตระกูลจางเท่านั้น แต่ยังเป็นคนที่ฉันจะต้องแต่งงานด้วย” หลิวเฉียงเหว่ยพูดทุกอย่าง
“เดี๋ยว เดี๋ยว และเดี๋ยว! ฉันสับสนไปหมดแล้ว พี่หลิวหมายความว่าไงกัน?” เฉียนโตวโตวจ้องที่หลิวเฉียงเหว่ย
“เซียวเฟิง ดูเหมือนจะละเมิดกฎของตระกูลจางและถูกห้ามใช้นามสกุลของเขา ต่อมาเขาหนีจากตระกูลจางและหายตัวไป ในเวลานั้นไม่อาจรู้ว่าเขาเป็นตายร้ายดียังไง ดังนั้นตระกูลจางจึงถือว่าเขาเป็นคนตาย” หลิวเฉียงเหว่ยยังเดาอย่างไม่แน่ใจ
“ไม่น่าแปลกใจที่จางเสี่ยวหยูมาที่นี่ ปรากฏว่าตระกูลจางรู้จักตัวตนของพี่เซียว และเธอก็รู้ด้วยว่าเป้าหมายการแต่งงานของเธอไม่เพียงแต่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ยังเป็นถึงพี่เซียวด้วย ดังนั้นตอนนี้เธอไม่เพียงแต่หลุดจากชะตากรรมสีเทาของเธอ แต่ยังได้สถานะคู่หมั้นของพี่เซียวด้วย? นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมช่วงนี้เธอถึงได้ทำตัวสบาย ๆ และสนิทกับจางเสี่ยวหยูมากงั้นเหรอ?”
เฉียนโตวโตวรู้แจ้งทันที แต่เมื่อเธอมองไปที่รอยยิ้มหลิวเฉียงเหว่ยที่กำลังยิ้มแย้ม น้ำเสียงของเธอก็ค่อย ๆ แปลกขึ้น
“ฉันไม่ได้รู้สึกอิ่มเอมใจเพราะได้เป็นคู่หมั้นของเขาหรอก มันเป็นเพียงเพราะว่าเมฆที่ปกคลุมโชคชะตาของฉันได้สลายไป มันทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายมาก” หลิวเฉียงเหว่ยอธิบาย
“ฉันไม่เชื่อ! ต่อให้จู่ ๆ เธอจะมีสถานะพิเศษเป็นคู่หมั้นของพี่เซียวก็อย่าได้ใจนัก ถ้าเธอคิดจะผูกขาดพี่เซียว อย่าโทษฉันถ้าฉันแตกหักกับเธอ”
ใบหน้าที่สวยงามของเฉียนโตวโตวเริ่มจริงจัง
สิ่งนี้ทำให้หลิวเฉียงเหว่ยรู้สึกปวดหัว เพราะนี่คือสิ่งที่เธอกังวลมาก่อนแล้ว
“ไม่ พวกเราตกลงเรื่องนี้กันไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ไหนจะเรื่องที่ฉัน…ฉันไม่สามารถทำให้เขาพอใจได้เพียงลำพังอีก” หลิวเฉียงเหว่ยต้องรักษาเสียงไว้ระดับต่ำ เพราะเธอสังเกตว่าซือเยี่ยจิ๋งก็แอบสนใจปฏิกิริยาของเธอเช่นกัน
“ดี! นั่นแหละถูกต้อง! เราได้ตกลงเรื่องนี้กันไว้แล้ว ไม่เป็นไรถ้าพี่หลิวจะเป็นภรรยาที่ถูกกฎหมาย ในขณะที่เราเป็นนางสนมของเขา! เป็นการดีที่จะมีตัวตนที่ถูกต้อง เพื่อที่เราจะสามารถขับไล่ผู้หญิงป่าคนอื่น ๆ ไปได้!”
เฉียนโตวโตวยิ้มและจับมือหลิวเฉียงเหว่ยไว้ทันที และซือเยี่ยจิ๋งก็หันหน้าหนีไปในขณะนี้
เรื่องนี้ทำให้หลิวเฉียงเหว่ยโล่งใจ ในที่สุดเธอก็แก้ปัญหาเรื่องตัวตนได้แล้ว แม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจ แต่นี่ก็จัดเป็นสถานการณ์ที่ดีที่สุดแล้ว
หลิวเฉียงเหว่ยต้องยอมรับมัน เพราะเธอรู้สึกว่าเฉียนโตวโตวไม่ได้ล้อเล่นกับเธอ เฉียนโตวโตวจะแตกหักกับเธอเพื่อเซียวเฟิง บางทีซือเยี่ยจิ๋งก็เหมือนกัน ทำให้หลิวเฉียงเหว่ยพูดไม่ออก ทั้งหมดนี้เป็นเพียงเพราะเซียวเฟิงมีเสน่ห์เกินไป
แต่มันก็ดี เพราะยังไงเอเรบัสก็บอกไว้แล้วว่าถ้าพวกเธอต้องการอยู่กับเซียวเฟิง มีคนเยอะ ๆ ไว้จะดีกว่า
“อ๊ะ! เกือบลืมเรื่องธุระของเราเลย! เร็วเข้า! ได้เวลาไปห้องพี่เซียวแล้ว! ในขณะที่หญิงป่าคนนั้นยังอาบน้ำทำความสะอาดห้องอยู่ เราต้องลงมือ ไม่งั้นแผนของเราจะถูกทำลายโดยผู้หญิงคนนั้น!” เฉียนโตวโตวกระโดดขึ้นและบอก
“ไปกันเถอะ” หลิวเฉียงเหว่ยและซือเยี่ยจิ๋งตอบสนองต่อจุดประสงค์ที่พวกเธอมารวมตัวกันที่นี่ ดังนั้นพวกเธอจึงลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
ประตูห้องของหลิวเฉียงเหว่ยถูกเปิดออกอย่างเงียบ ๆ และดวงตาที่สวยงามสามคู่ก็มองผ่านประตูเข้าไปในทางเดิน หลังจากพบว่าไม่มีการเคลื่อนไหว ประตูห้องก็เปิดกว้าง จากนั้นทั้งสามก็เดินเงียบ ๆ ไปที่ห้องของเซียวเฟิง
“ชู่ว!”
เฉียนโตวโตวทำท่าทางเป็นใบ้ก่อนที่จะเปิดประตูห้องของเซียวเฟิงอย่างนุ่มนวล จากนั้นเธอก็มองเข้าไปข้างใน และพบว่าเซียวเฟิงสวมหมวกเกมอยู่นิ่ง ๆ และไม่มีใครอื่นอยู่ด้วย เธอก็ยิ้มอย่างพึงพอใจทันที หันกลับไปทำท่า ‘ทางสะดวก’ แล้วเดินเข้าไปในห้องของเซียวเฟิงก่อน
หลิวเฉียงเหว่ยและซือเยี่ยจิ๋งที่อยู่ด้านหลังก็เดินตามไปอย่างประหม่า ไม่กล้าทำเสียงใด ๆ เหมือนกับเป็นหัวขโมย
“ตอนนี้เราควรทำยังไง?”
ซือเยี่ยจิ๋งเป็นคนสุดท้ายที่เข้ามา เธอล็อกประตูห้องอย่างระมัดระวังแล้วกระซิบถาม
“ไม่รู้ แต่เราควรถอดเสื้อผ้าก่อน” เฉียนโตวโตวและหลิวเฉียงเหว่ยยังไม่เคยมีประสบการณ์นี้มาก่อนก็ตอบหลังจากคิดดูแล้ว
“ถะ…ถอดของเขาก่อน” หลิวเฉียงเหว่ยก็อายและบอก
“งั้นก็ไปด้วยกัน แล้วก็เคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังด้วย อย่ารบกวนพี่เซียวและทำให้เขาออกจากระบบล่ะ”
“รับทราบ!”