Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子] - บทที่ 521 มันคืออะไร
บทที่ 521 มันคืออะไร?
บทที่ 521 มันคืออะไร?
เซียวเฟิงอยู่ที่ทุ่งซือเย่และเมืองกิลด์มิดซัมเมอร์อันยิ่งใหญ่ก็อยู่ในสายตา แม้ว่ามันจะไม่ได้สวยงามเท่าเมืองแห่งความโศกเศร้าและพื้นที่ของมันก็น้อยกว่าครึ่ง แต่ในฐานะเมืองหลักของผู้เล่น มันก็เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในเขตฮัวเซีย
นี่เป็นครั้งแรกที่เซียวเฟิงเห็นเมืองของกิลด์มิดซัมเมอร์ ครั้งสุดท้ายที่เขามาที่กิลด์มิดซัมเมอร์ มันยังคงมีขนาดเท่าหมู่บ้าน ชายหนุ่มไม่ได้เห็นมันเป็นเวลาหนึ่งเดือน แต่ทว่ามันก็เติบโตอย่างรวดเร็วมาก
“ฉันเห็นเลยว่าความทะเยอทะยานของเธอค่อนข้างสูงทีเดียว”
เสียงฝีเท้ามาจากด้านหลังพร้อมกับกลิ่นหอมของดอกกล้วยไม้ เซียวเฟิงกล่าวโดยไม่หันหลังกลับไปมอง
“ทุกอย่างที่ฉันทำก็เพื่อนาย”
เสียงที่แผ่วเบาของหลิวเฉียงเหว่ยดังขึ้นข้างหลังเซียวเฟิง เมื่อเทียบกับการพูดคุยกับบุคคลภายนอก น้ำเสียงของเธอดูไม่มีความเย็นชาเลยแม้แต่น้อย
“อย่าทำสิ่งที่ไม่จำเป็น”
เซียวเฟิงหันหลังกลับและจ้องไปที่ดวงตาของหลิวเฉียงเหว่ยพร้อมเตือน หลิวเฉียงเหว่ยยังคงต้องการเข้าร่วมกิลด์กางเขนเหล็ก ไม่รู้จริง ๆ ว่าผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ในแต่ล่ะวัน
หลิวเฉียงเหว่ยสวมชุดแฟชั่นเสื้อผ้าและกระโปรงสีขาวบริสุทธิ์ ผิวของเธอขาวและเนียนละเอียดราวกับหิมะ พร้อมกับหุ่นที่เพรียวบางและไร้ที่ติ แม้จะมีผ้าคลุมใบหน้าของเธอจนมองใบหน้าที่แท้จริงของเธอไม่เห็น แต่เสน่ห์ของหญิงสาวข้างตัวเขาตอนนี้ดูราวกับภูตสาวไม่มีผิด
“ฉันอยากช่วยนาย ฉันได้ฟังมาแล้วว่าตระกูลจางปฏิบัติต่อนาย…” หลิวเฉียงเหว่ยพูดพร้อมต้องการอธิบาย
“เธอยังคงเข้าร่วมกองกำลังกับกิลด์แอนติควิตี้เพื่อต่อสู้กับกิลด์สงครามเพื่อโลก?” เซียวเฟิงหรี่ตาลง
“ใช่” หลิวเฉียงเหว่ยนิ่งสักพักแล้วพยักหน้า
“ฉันจะพูดอีกครั้ง แค่ดูแลตัวเอง อย่ามายุ่งเรื่องของฉัน” น้ำเสียงของเซียวเฟิงไม่แยแส
“ฉันขอโทษ”
หลิวเฉียงเหว่ยก้มหน้า เธอเป็นหัวหน้ากิลด์เจ้าผู้ครองเขตใต้อย่างกิลด์มิดซัมเมอร์ และเป็นเทพธิดาอันดับหนึ่งในรายชื่อเทพธิดาประจำเขตฮัวเซีย และเป็นหนึ่งในสิบอันดับแรกในหอเกียรติยศของเขตฮัวเซีย เธอมีชื่อเสียงไปทั่วเขตฮัวเซีย
ในโลกที่สองนี้ สถานะนั้นสูงส่งแล้ว ผู้เล่นธรรมดาต่างชื่นชม ผู้เล่นระดับสูงก็เคารพ แม้ว่าจะเป็นหนึ่งในไม่กี่คนในเขตฮัวเซียก็ต้องสุภาพกับเธอ
แต่เมื่อเผชิญกับความแข็งแกร่งของเซียวเฟิง เธอก้มหน้าที่จองหองและขอโทษอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนและอ่อนแอ
เพราะเธอรู้สึกว่าเซียวเฟิงอารมณ์ไม่ดีจริง ๆ และเหตุผลก็คือหลังจากที่จางจิ่วจิ่วปรากฏตัว
“นายท่าน!”
เดิมทีมีเพียงเซียวเฟิงและหลิวเฉียงเหว่ยบนเนินเขาในขณะนี้ อากาศโดยรอบเย็นลงอย่างกะทันหัน และทันใดนั้นก็มีร่างมากกว่าสี่สิบร่างปรากฏขึ้นในบริเวณโดยรอบ เสื้อผ้าสีดำ ชื่อตัวละครบนหัวของพวกเขาเป็นสีแดงเข้มและสีม่วง คุกเข่าข้างหนึ่งอยู่บนพื้น พูดกับเซียวเฟิงด้วยความเคารพ
นี่คือกลุ่มนักฆ่าชื่อแดงที่ดังกึกก้องไปทั่วประเทศฮัวเซีย ความแข็งแกร่งส่วนบุคคลของทุกคนอยู่ในระดับยอดฝีมือชั้นนำ แต่ในขณะนี้ พวกเขาไม่มีร่องรอยของแรงกดดันแบบยอดฝีมือเลย แต่คุกเข่าลงต่อหน้าเซียวเฟิงด้วยความเคารพ
หลิวเฉียงเหว่ยเงียบ มองดูเงาอันเยือกเย็นที่อยู่รอบ ๆ นี่เป็นหนึ่งในไพ่ของกิลด์มิดซัมเมอร์ เธอใช้พลังและทรัพยากรทางการเงินนับไม่ถ้วน แต่เธอเพียงแต่ทำให้กลุ่มนักฆ่าชื่อแดงที่น่าสะพรึงกลัวนี้เชื่อฟังเธอ และเธอก็รู้ด้วยว่าเหตุผลที่พวกเขาเชื่อฟังเธอก็เป็นเพราะคำสั่งของเซียวเฟิงเช่นกัน
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นฉากของกลุ่มนักฆ่าชื่อแดงพบกับเซียวเฟิง ความเคารพที่กลุ่มนักฆ่าชื่อแดงมีต่อเซียวเฟิงทำให้เธอเงียบ หญิงสาวรู้สึกได้ว่าความเคารพนี้ไม่ได้ปลอมเลย และที่เธอบริหารพวกเขามาเป็นเวลานานก็ได้เพียงระดับคำสั่งหนึ่งเหนือกลุ่มนักฆ่าชื่อแดงเท่านั้น
“กลับไปซะ”
นี่เป็นครั้งแรกที่เซียวเฟิงได้พบกับสมาชิกของเฮลในโลกของเกม เขามองไปทางซ้ายและขวาและโบกมือหลังจากเห็นว่าไม่มีสาวน้ำแข็งและสาวไฟในหมู่พวกเขา
“ครับ!”
ร่างที่เยือกเย็นของมือสังหารมากกว่าสี่สิบคนตอบพร้อมกันและหายตัวไปจากสายตาพร้อม ๆ กัน
“เลเวลสกิลตีเหล็กของเธอเต็มแล้วหรือยัง?” เซียวเฟิงหันไปหาหลิวเฉียงเหว่ยและถามต่อ
“เลเวลเต็มแล้ว”
หลิวเฉียงเหว่ยตอบ เซียวเฟิงได้บอกกับเธอสองครั้งแล้ว เธอจะกล้าลืมได้อย่างไร หลังจากสิ้นสุดสงครามกิลด์กับกิลด์พิชิตโลก เธอก็ไปฝึกความชำนาญในทันที
“งั้นก็รีบไปตีของสวมใส่ให้ฉันสิ…เดี๋ยวก่อน รอฉันอีกสักพัก เดี๋ยวฉันกลับมา”
เซียวเฟิงพูดอย่างไม่อดทน แต่นึกบางอย่างได้ ดังนั้นเขาจึงบอกให้หลิวเฉียงเหว่ยรอที่นี่ หลังจากที่เขาทิ้งเครื่องหมายมิติไว้ ก็ใช้แหวนมิติและจากไปในชั่วพริบตา
สถานที่ที่เขาปรากฏอยู่นอกเมืองแห่งห้วงลึก สิ่งที่เซียวเฟิงนึกได้กะทันหันไม่ใช่อย่างอื่น แต่เพราะเห็นเวลาคูลดาวน์ของหอกศักดิ์สิทธิ์ลองกินัสนั้นเสร็จแล้ว ดังนั้นเขาจึงยิงอีกนัดโดยไม่พูดอะไรสักคำ
แก๊ง!
ท้องฟ้าที่มืดมิดพังทลายอีกครั้งพร้อมกับเสียงระฆังที่ก้องกังวานไปทั่วท้องฟ้า แต่เซียวเฟิงไม่ได้หยุดเลย แสงสีขาววาบแล้วจากไป และเขาไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ อย่างไรก็ตาม เขามาที่นี่เพื่อขว้างสกิล
“โอเค”
ขณะที่หลิวเฉียงเหว่ยยังมึนงง เซียวเฟิงก็เทเลพอร์ตกลับมาภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที
“ช่วยฉันตีอาวุธให้ถึง +10 ก่อน”
เซียวเฟิงส่งคำขอแลกเปลี่ยนไปให้หลิวเฉียงเหว่ย และแลกเปลี่ยนค้อนแห่งวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ +9 และหินป้องกัน 30 ก้อนให้กับหลิวเฉียงเหว่ย โดยตั้งใจจะให้หลิวเฉียงเหว่ยทดสอบดวงก่อน
“ได้”
หลิวเฉียงเหว่ยตอบเบา ๆ จากนั้นจึงลดร่างของเธอลง คุกเข่าบนเนินหญ้าสีเขียว วางค้อนแห่งวิญญาณศักดิ์สิทธิ์บนขาของเธอ และกำลังจะเริ่มตีบวก
“เดี๋ยวก่อน!”
แต่ก่อนที่จะเริ่ม เซียวเฟิงก็ขัดจังหวะอีกครั้ง “ถ้าเธอใส่ของสวมใส่ของฉัน เธอจะสามารถเพิ่มเลเวลสกิลตีบวกได้ 1 เลเวล และอัตราความสำเร็จก็จะสูงขึ้น”
เซียวเฟิงนึกเรื่องนี้ได้ และส่งคำขอแลกเปลี่ยนรอบสองโดยไม่พูดอะไร เขาถอดชุดมังกรบนร่างกายของเขาแล้วโยนให้หลิวเฉียงเหว่ย
“นาย…นายใส่อย่างอื่นไม่ได้เหรอ?”
หลิวเฉียงเหว่ยไม่ได้ปฏิเสธชุดมังกร เธอก็กระตือรือร้นที่จะลองชุดอาร์ติแฟกต์เช่นกัน แต่เมื่อเธอเห็นเซียวเฟิงถอดของสวมใส่ออก เหลือเพียงร่างกายโล่ง ๆ ที่มีเพียงกางเกงในเท่านั้น และเขาก็ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย
“อะไรน่ะ? เธอยังไม่ชินหรือไง? อยากจะออฟไลน์มาดูมันไหม?” แต่เซียวเฟิงดูเหมือนคนเจ้าเล่ห์
หลิวเฉียงเหว่ยหยุดพูด ส่วนใหญ่เป็นเพราะเธอขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจเซียวเฟิง ใครจะรู้ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรอีกถ้าเธอพูดต่อ ดังนั้นเธอจึงละสายตาและเลิกสนใจ ก่อนจะจ้องไปที่ค้อนแห่งวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ในมือของเธอ พร้อมเริ่มตีบวก
เซียวเฟิงนั่งอยู่ข้าง ๆ และเขาก็ไม่สนใจว่าปลายหญ้าบนพื้นจะเจาะขาเปล่าของเขา เขาต้องใกล้ชิดกับหลิวเฉียงเหว่ยเพราะโชคที่ต้านกฎสวรรค์ของหลิวเฉียงเหว่ยต้องมีเขาอยู่ด้วยถึงจะแสดงผล
อย่างไรก็ตาม เดิมเซียวเฟิงก็วางแผนที่จะดูหลิวเฉียงเหว่ยตีบวกด้วย แต่เซียวเฟิงได้รับแจ้งเตือนการโทรออฟไลน์ของระบบในเวลานี้ ซึ่งทำให้เซียวเฟิงตะลึงเพราะการโทรออฟไลน์คือการกดปุ่มบนหมวกเกมของเขา และเขาก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ ดังนั้นเซียวเฟิงคิดเกี่ยวกับมันและต้องออฟไลน์และทิ้งตัวละครไว้กับหลิวเฉียงเหว่ย
“ฮะ?”
เมื่อถอดหมวกเกมออก เซียวเฟิงก็ถามคำถามทันทีที่เขาลืมตา เพราะสิ่งที่ดึงดูดสายตาของเขาคือขาคู่หนึ่งที่ไม่มีใครเทียบได้
มันเรียวยาวราวกับที่ใส่ปากกา ไม่มีรอยตำหนิหรือขน เรียบเนียนเหมือนหยก ละเอียดอ่อนเหมือนงาช้าง และขาวนวลเหมือนครีม
ดูจากขาก็ไม่รู้ว่าเป็นใครแล้วถ้าไม่ใช่ซือเยี่ยจิ๋ง!
ในขณะนี้ซือเยี่ยจิ๋งกำลังนั่งกอดเข่าอยู่ที่หัวเตียงของเซียวเฟิง หน้าเธอซุกหัวเข่า และดูหดหู่เล็กน้อย
“เธอเป็นอะไรไป?”
เซียวเฟิงมองไปทางซ้ายและขวา และพบว่ามีซือเยี่ยจิ๋งอยู่คนเดียวในห้อง กล่าวคือ เธอเป็นคนกดปุ่มโทร ดังนั้นเขาจึงสงสัย
เมื่อได้ยินเสียงของเซียวเฟิง ซือเยี่ยจิ๋งก็เงยหน้าขึ้น เผยให้เห็นใบหน้าที่สวยแต่ซีดเซียว เธอมองเซียวเฟิงโดยไม่พูด
“เธอเป็นอะไรไป?” เซียวเฟิงยิ่งแปลกใจและถามอีกครั้ง
“อะไรน่ะ นายไม่อดทนกับฉันแล้วเหรอ?” ในที่สุดซือเยี่ยจิ๋งก็พูดกับเซียวเฟิงด้วยเสียงต่ำ
“ไม่ใช่ ฉันหมายถึงอาการเธอเป็นอะไร? เกิดอะไรขึ้น? ถ้าเธอมีปัญหาอะไร บอกฉัน แล้วฉันจะจัดการให้เธอ” เซียวเฟิงพูดไม่ออก แต่ก็ยังพูด
“ฉันขอถามนาย ในใจนาย…ฉันเป็นอะไร?” ซือเยี่ยจิ๋งจ้องไปที่ดวงตาของเซียวเฟิง และจู่ ๆ ก็ถามคำถามดังกล่าว
“อะไรนะ?” เซียวเฟิงตกตะลึง
“ลูกพี่ลูกน้องกับนายถูกลิขิตกัน นายเอาจืออี้มา นายพยายามอย่างหนักเพื่อเธอ นายมอบหน้าที่ทั้งหมดให้กับโตวโตว และมอบร้านค้ามหาสมบัติให้เธอ แล้วฉันล่ะ? ฉันคืออะไร?”
ซือเยี่ยจิ๋งไม่เคยจริงจังขนาดนี้มาก่อน จ้องมองที่เซียวเฟิงโดยไม่กะพริบตา
“ฉันไม่เข้าใจที่เธอพูด” เซียวเฟิงกล่าวพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ฉันคิดว่าเรารู้จักกันมานานและมีความทรงจำมากที่สุด แต่ตอนนี้ดูเหมือนไม่เป็นเช่นนั้น ฉันขอถามนาย นายมีความรู้สึกกับฉันไหม?” ซือเยี่ยจิ๋งไม่เคยกล้าขนาดนี้มาก่อน
“ในหัวใจของฉัน เธอคือผู้หญิงของฉัน พวกเธอทุกคนก็เหมือนกัน ไม่มีความแตกต่างระหว่างพวกเธอ” เซียวเฟิงได้ตอบกลับ
“ผู้หญิงของนาย? สำหรับนาย ผู้หญิงของนายคืออะไร? เป็นเครื่องมือในการระบายความต้องการทางเพศหรือเปล่า? อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ โกสต์ก็เป็นผู้หญิงของนาย สาวน้ำแข็งและสาวไฟก็เป็นผู้หญิงของนายด้วย”
ซือเยี่ยจิ๋งไม่ยอมรับคำตอบนี้และพูดว่า “ที่ฉันอยากรู้คือในใจของนายมีความรู้สึกกับฉันไหม? ฉันเป็นแค่เครื่องประดับของลูกพี่ลูกน้องของฉันหรือเปล่า?”
เซียวเฟิงไม่ได้ตอบโดยตรงในครั้งนี้ เพราะเขาเองก็ติดอยู่ในห้วงความคิด ขมวดคิ้วและครุ่นคิด หลังจากนั้นครู่หนึ่งเขาก็พูด
“เธอเป็นผู้หญิงของฉัน ฉันเลยไม่อยากหลอกลวงเธอด้วยคำโกหก ฉันไม่รู้ว่าความรู้สึกคืออะไร มันเกี่ยวเนื่องกับประสบการณ์ชีวิตของฉัน มันอาจจะไม่เกิดขึ้นในอนาคต แต่ในใจฉัน พวกเธอคือผู้หญิงของฉัน ทุกคนไม่มีช่องว่าง เป็นทรัพย์สินส่วนตัวของฉัน ฉันจะทำงานหนักเพื่อใครก็ตาม จืออี้ก็เป็นแบบนี้ และเธอก็เช่นกัน ใครก็ตามที่รังแกเธอ ฉันจะไปต่อสู้คนคนนั้น ร้านค้ามหาสมบัติก็สามารถนับว่าเป็นสิ่งที่ฉันมอบให้โตวโตว แต่โตวโตวกับร้านค้ามหาสมบัตินั้นแยกออกจากกันไม่ได้แล้ว และถ้าเธอต้องการ ฉันจะยกเมืองแห่งความโศกเศร้าให้ก็ยังได้”
เสียงของเซียวเฟิงสงบแต่ก็จริงจังมากเช่นกัน ไม่มีร่องรอยการโกหกแม้แต่น้อย
“นายเป็นคนครอบงำและยังชอบบังคับ นายไม่ชอบเราเลย ในใจของนาย บางทีเราอาจจะเป็นแค่ข้าวของของนาย เหมือนกับของสวมใส่”
ดวงตาของซือเยี่ยจิ๋งเป็นสีดอกกุหลาบและหัวของเธอตกลงไปในอ้อมแขนของเซียวเฟิง เธอไม่ได้รับคำตอบที่เธอต้องการ แต่เธอกลับได้รับคำตอบอื่นที่ทำให้เธอมั่นใจ
“โอเค ๆ ฉันจะออนไลน์แล้ว” เซียวเฟิงตบเอวเรียวของซือเยี่ยจิ๋ง
“ไม่! ฉันอยากให้นายอยู่กับฉันในบ่ายนี้!”
แต่ซือเยี่ยจิ๋งปฏิเสธโดยตรง ยื่นมือของเธอออกแล้วผลักเซียวเฟิงลงบนเตียง จากนั้นก้าวไปข้างหน้าด้วยขาที่ไม่มีใครเทียบได้ของเธอและขี่เอวของเซียวเฟิง