NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1282 พวกเราแต่งงานกันเถอะ
“พี่หลี่ฝาง ในที่สุดพี่ก็กลับมา!” หยางฉงที่อยู่ใกล้หลี่ฝางมากกว่าก็รีบวิ่งลงจากเตียงผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว และโผเข้าอ้อมแขนของหลี่ฝาง พูดอย่างสะอื้น
ส่วนฉินวี่เฟยที่นั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วยที่ติดหน้าต่างเห็นภาพทั้งสองโอบกอดกัน ที่จริงอยากจะเปิดผ้าห่มก็ชะงักและหยุดลง ในใจเกิดความเจ็บปวด และดวงตาที่มองไปทางหลี่ฝางก็ปรากฏเงาของน้ำตา
หลี่ฝางกอดคนอยู่ในอ้อมแขน ดวงตากลับมองฉินวี่เฟยที่อยู่ไม่ไกล ทำให้เขามีความรู้สึกผิดสุดๆ
เขามีความคิดอยากจะสลัดหยางฉงออก และโผเข้ากอดฉินวี่เฟย แต่คำพูดของหลี่ต๋าคางบนรถเมื่อครู่มันดังก้องย้ำเตือนหลี่ฝางอยู่ในใจ เขาทำได้แค่ระงับความต้องการนี้ไว้อย่างสุดกำลัง
“เอาล่ะ ทำไมเธอยังขี้แยเหมือนแต่ก่อนเลยนะ ฉันก็กลับมาอย่างปลอดภัยแล้วไง?”
หลี่ฝางเบนสายตา ก้มหน้าลูบผมหยางฉงเบาๆ น้ำเสียงปลอบโยนอย่างช่วยไม่ได้
หลังจากร้องไห้ไปรอบนึง อารมณ์ของหยางฉงก็ค่อยๆ สงบลง จากนั้นถึงจะนึกได้ว่าพฤติกรรมของตัวเองนั้นไม่เหมาะสมเล็กน้อย ถึงยังไงตอนนี้หลี่ฝางก็ไม่ใช่ของเธอคนเดียว
“พี่วี่เฟย ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ แค่หลังจากที่ฉันได้เห็นพี่หลี่ฝางก็ตื่นเต้นเกินไปหน่อย เลยควบคุมตัวเองไม่ได้ครู่นึง”
หยางฉงผละตัวออกจากอ้อมแขนของหลี่ฝาง หันไปมองฉินวี่เฟย และพูดด้วยสีหน้าขอโทษ
ฉินวี่เฟยยิ้มอ่อนและส่ายหัว ปกปิดความเศร้าพวกนั้นในดวงตาของตน “ไม่เป็นไร ฉันไม่ถือสา”
เมื่อหลี่ฝางได้ยินคำว่าไม่ถือสาสามคำนี้ ใจก็เหมือนว่ามีคนกระแทกชนอย่างจัง เจ็บแบบจุกๆ ลูกกระเดือกเขาสั่นอยู่ครู่ อยากจะพูดอะไรแต่กลับพูดไม่ออก
ถึงแม้ความคิดของหยางฉงจะไม่ได้ระมัดระวัง แต่ก็สามารถรู้สึกได้ถึงความผิดหวังบางอย่างจากฉินวี่เฟย ในขณะเดียวกันก็ยังเห็นถึงความต่อต้านในสายตาของหลี่ฝาง
มองสายตาที่ลึกซึ้งของหลี่ฝาง ใจของหยางฉงก็มีความรู้สึกเจ็บแปล๊บๆ ความจริงแล้วตอนที่หลี่ฝางออกจากเมืองจินซานเธอก็รู้แล้วว่าผลลัพธ์ที่หลี่ฝางจะเลือกสุดท้ายคืออะไร แต่เธอแค่อยากจะพยายามเพื่อความรู้สึกครั้งนี้สักครั้ง
“ห้องนี้อึดอัดไปหน่อย ไท่ซางนายไปเดินเล่นข้างล่างเป็นเพื่อนฉันหน่อย” หยางฉงรู้ว่าตอนนี้ตนอยู่ในห้องพักผู้ป่วยก็จะเป็นส่วนเกิน ทั้งที่ไม่เต็มใจจะปล่อยมือหลี่ฝาง แต่เธอก็ยังเลือกที่จะสนับสนุนหลี่ฝางกับฉินวี่เฟย
แล้วลากไท่ซางที่พยายามทำตัวให้เหมือนอากาศสุดๆ ออกไปจากห้องพักผู้ป่วยโดยไม่หันกลับไปมอง ฉินวี่เฟยอยากจะรั้งให้เธออยู่ แต่หยางฉงกลับทำเป็นไม่ได้ยิน
ไม่นานในห้องพักผู้ป่วยก็เหลือแต่หลี่ฝางกับฉินวี่เฟยสองคน ถึงแม้ว่าระยะห่างของทั้งสองคนจะอยู่แค่สาม สี่เมตร แต่หลี่ฝางกลับรู้สึกว่านี่เป็นการเดินทางที่ยาวนานที่สุดในชีวิตเขา
“วี่เฟย ฉันกลับมาแล้ว” หลี่ฝางเดินไปด้านหน้าเตียงผู้ป่วยของวี่เฟย พลางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและเอ็นดู
ไม่มีคนอื่นอยู่แล้วฉินวี่เฟยก็ไม่สามารถยับยั้งความคิดถึงในใจที่มีต่อหลี่ฝางได้ และโผเข้าอ้อมกอดของหลี่ฝางอย่างแรง
ทั้งสองที่พรากจากกันไปนานกอดกันแน่น ถึงแม้ว่าฉินวี่เฟยจะพยายามกลั้นไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมา แต่หลี่ฝางก็ตัดสินได้ว่าฉินวี่เฟยกำลังร้องไห้อยู่จากตัวที่สั่นเทาของเธอ
ในความคิดของหลี่ฝาง ฉินวี่เฟยเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งและเด็ดเดี่ยวคนนึง ถึงแม้จะได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจก็ยากที่จะมีน้ำตาไหล
เทียบกับหยางฉงที่เจ็บก็ร้องแล้ว หลี่ฝางรู้สึกว่าร้องไห้แบบไม่มีเสียงอย่างฉินวี่เฟยยิ่งทำให้เจ็บปวดมากกว่า
“โอ๋ ไม่ต้องร้องแล้ว ฉันรู้ว่าฉันไม่ดี ทำให้เธอเป็นห่วงแล้ว” รู้สึกถึงความเจ็บปวดของคนในอ้อมแขน ในใจของหลี่ฝางก็รู้สึกไม่ดีสุดๆ จนน้ำเสียงก็มีความสะอื้นเล็กน้อย
“หลี่ฝาง!นายมันคนเลว!ทำไมกัน ถึงแม้จะเลิกกันแล้ว นายก็ยังมีอิทธิพลในหัวใจฉันแบบนี้!เพราะอะไร!ทำไมกัน!”
คำพูดอ่อนโยนของหลี่ฝางไม่เพียงแต่ไม่สามารถปลอบประโลมได้เท่านั้น กลับทำให้ฉินวี่เฟยกลายเป็นตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น ทุบอกหลี่ฝางด้วยกำปั้นอย่างบ้าคลั่ง อารมณ์ไม่สงบพลางตะโกนใส่หลี่ฝาง
อาจพูดได้ว่าความขับข้องใจและความไม่สบายใจหลายปีของฉินวี่เฟยทั้งหมดถูกระบายออกมาในครั้งเดียว ความจริงแล้วตอนที่รู้ว่าหลี่ฝางมีผู้หญิงคนอื่น ในใจของฉินวี่เฟยก็มีความเคียดแค้นใจ
แต่ว่าต่อมาหลังจากที่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น ความเคียดแค้นในใจของฉินวี่เฟยก็ค่อยๆ หายไป แม้แต่หลี่ฝางก็ไม่เคยได้ยินข่าวกลับมา ใจของเธอยังรู้สึกเป็นห่วง
ทำไมเธอถึงไม่อยากคบกับหลี่ฝาง อาจเป็นเพราะยิ่งรู้จักกับหยางฉง ฉินวี่เฟยก็ยิ่งรู้สึกว่าหยางฉงเป็นผู้หญิงที่ดี เพราะไม่มีทางที่จะแย่งหลี่ฝางมาจากหยางฉงได้จริงๆ
“เอาล่ะวี่เฟย ไม่ร้องแล้วโอเคมั้ย? เธอร้องใจฉันก็ยิ่งรู้สึกแย่ ทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน เป็นฉันที่ไม่ดี เธอจะตีจะด่าฉันได้หมดเลย แต่เธออย่าร้องไห้เพราะฉันเลยโอเคมั้ย?”
ความจริงแรงน้อยๆ ของฉินวี่เฟยตีหลี่ฝางราวกับละอองฝนกระทบ แต่คำพูดของเธอกลับเหมือนเข็มที่ทิ่มแทงหัวใจของหลี่ฝาง ทำให้เขาทั้งเจ็บทั้งปวด เขากอดฉินวี่เฟยไว้ในอ้อมแขนแน่น และพูดปลอบซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ผ่านไปประมาณ10นาที ฉินวี่เฟยถึงจะหยุดร้อง ร่างกายอ่อนปวกเปียกอยู่ในอ้อมแขนหลี่ฝาง แดดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่าง ทำให้เกิดภาพที่งดงามขึ้น
“วี่เฟย พวกเราแต่งงานกันเถอะ” หลี่ฝางก้มหน้าและลูบหน้าผากของฉินวี่เฟยไปจนถึงหลังใบหู พลางพูดกับเธอด้วยสีหน้าที่มีความรู้สึกลึกซึ้ง
คำพูดประโยคนี้ทำให้ฉินวี่เฟยอึ้ง มองหลี่ฝางอย่างอึ้งๆ ไม่ได้สติไม่รู้ว่าตัวเองได้ยินอะไรอยู่ครู่
เมื่อเห็นท่าทีอึ้งๆ ของเธอ หลี่ฝางก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ และเคาะหน้าผากฉินวี่เฟยเบาๆ “ยัยนี่ เธอคงไม่ได้ตกใจจนเอ๋อไปแล้วใช่มั้ย?”
ถูกหลี่ฝางเคาะแบบนี้ ฉินวี่เฟยก็นับว่าดึงสติกลับมาได้แล้ว แต่บนใบหน้าเธอกลับไม่ได้มีความสุขของการถูกขอแต่งงาน ตรงกันข้ามกลับมีความไม่เต็มใจ
“นายพูดบ้าอะไรเหนี่ย พวกเราจะแต่งงานกันได้ยังไง ถ้าฉันแต่งงานกับนาย แล้วหยางฉงจะทำยังไง ลูกของนายกับเธอจะทำยังไง? หยางฉงเป็นผู้หญิงที่ดี นายจะทำให้เธอเสียใจไม่ได้”
หลังจากได้ยินคำของฉินวี่เฟย รอยยิ้มที่เคยเต็มหน้าของหลี่ฝางก็แข็งทื่อลงเล็กน้อยทันที ไม่รู้ว่าทำไม เขาในตอนนี้ไม่ชอบความรู้ความของฉินวี่เฟยเอามากๆ