NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่ 1283 ควบคุมไม่ได้แล้ว
ทำไมเธอถึงได้คิดถึงแต่ความรู้สึกของคนอื่นมาเป็นอันดับแรกเสมอ และไม่ยอมคิดถึงตัวเองบ้างเลย ทำไมถึงเอาแต่ถอยให้คนอื่น และไม่ยอมเห็นแก่ตัวสักนิดเลย
“ฉันไม่สามารถทำให้หล่อนเสียใจได้ งั้นหรือว่าฉันจะทำให้เธอเสียใจได้เหรอ? ถ้าฉันคบกับหล่อน แล้วเธอจะทำยังไง? ทำไมเธอเอาแต่คิดแทนคนอื่นอยู่เรื่อยเลย เธอจะเห็นแก่ตัวเองสักนิดไม่ได้เหรอ? ทำไมถึงเอาแต่คอยผลักฉันไปให้คนอื่น ทำไมถึงไม่ให้ฉันอยู่ข้างกายเธอล่ะ!”
หลี่ฝางคว้าไหล่ของฉินวี่เฟย อารมณ์ก็ไม่นิ่งขึ้นมาเล็กน้อย
ถึงแม้ว่าหลี่ฝางจะพยายามระงับอารมณ์ตัวเองสุดๆ แล้ว แต่เขาก็ยังทำให้ฉินวี่เฟยเจ็บ ใบหน้าเล็กๆ ของฉินวี่เฟยขมวดเป็นปม หวาดกลัวเล็กน้อยพลางอยากจะหลุดออกจากมือของหลี่ฝาง
“หลี่ฝาง นายทำฉันเจ็บแล้ว นายปล่อยฉันก่อนได้มั้ย?”
เปลี่ยนเป็นเมื่อก่อน ฉินวี่เฟยไม่สบายนิดหน่อย หลี่ฝางก็ยิ่งเจ็บปวดใจไม่ไหว แต่ครั้งนี้ฉินวี่เฟยเกือบจะถูกเขาทำให้ร้องไห้แล้ว หลี่ฝางกลับทำเหมือนมองไม่เห็น ยังคงบีบไหล่ของฉินวี่เฟยอยู่อย่างนั้น
“ทำไมฉันต้องปล่อย เธอคิดจะไปจากฉันไม่มีทางหรอก!ชีวิตนี้ของเธอนอกจากคบกับฉัน ก็อย่าได้คิดจะแต่งงานกับผู้ชายคนอื่นเลย!ฉินวี่เฟย เธอเป็นของฉัน ถึงแม้จะตาย เธอก็ยังเป็นคนของฉัน!”
เมื่อพูดประโยคนี้ออร่าทั่วร่างของหลี่ฝางก็เปลี่ยนไป จากเดิมที่นัยน์ตาเปี่ยมไปด้วยความรักนั้นได้พร่างพรายไปแล้ว ออร่าเย็นชาจากร่างของเขาทำให้ฉินวี่เฟยกลัวสุดขีด อดไม่ได้ที่จะออกแรงดิ้นขึ้นมา
“นายปล่อยฉันนะ!หลี่ฝางนายบ้าไปแล้วเหรอ!นายรีบปล่อยฉันนะ!”
แต่ฉินวี่เฟยยิ่งดิ้น อารมณ์ของหลี่ฝางก็ยิ่งไม่สงบขึ้นมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด จากนั้นเขาก็เอามือสองข้างกุมหัวและกระแทกเข้าไปที่กำแพง
ฉินวี่เฟยที่ได้รับอิสรภาพคืนมาก็กลัวจนพูดไม่ออก มือเท้ายุ่งเหยิงวิ่งลงเตียงผู้ป่วยออกไปข้างนอก แต่เมื่อเห็นท่าทีกระแทกแบบไม่สนใจชีวิตของหลี่ฝาง เธอก็ลังเลขึ้นมา
คิดอยู่กับที่ครู่นึง ฉินวี่เฟยกัดฟัน จากนั้นก็พุ่งเข้าหาหลี่ฝาง ใช้ร่างกายของตนขวางหน้าของหลี่ฝางเอาไว้ ไม่ว่าหลี่ฝางจะใช้แรงกระแทกแค่ไหน เธอก็ยังคงกอดร่างของหลี่ฝางไว้แน่น ไม่ให้เขาบาดเจ็บอีกแม้สักนิด
“หลี่ฝาง นายใจเย็นลงหน่อยดีมั้ย? ฉันขอร้องแหละ นายรีบใจเย็นลงเถอะ!”
ที่จริงหลี่ฝางในตอนนี้กำลังต่อสู้กับพลังมืดในตัวของเขา เมื่อกี้ตอนที่อารมณ์ของหลี่ฝางผันผวนเล็กน้อย เทพสงครามก็ฉวยโอกาสเข้าครอบคลุมร่างของเขา
เมื่อครู่หลี่ฝางแทบจะสูญสิ้นสติไปแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าฉินวี่เฟยในตอนนั้นจะกอดเขาไว้อย่างแน่น บางทีอาจเพราะได้ยินเสียงร้องเรียกของคนที่ตัวเองรัก หลี่ฝางถึงค่อยๆ ดึงสติกลับมาได้
เขาแต่เดิมบ้าคลั่งก็ค่อยๆ สงบนิ่งลง ล้มลงบนเตียงอย่างอ่อนปวกเปียกพลางหายใจหอบ ฉินวี่เฟยที่นอนอยู่ด้านข้างคิดอยากจะลุกขึ้นนั่ง แต่บริเวณหน้าอกนั้นเจ็บทำให้เธออดไม่ได้ที่จะกลัว
เธอคงจะได้รับบาดเจ็บจากการที่หยุดหลี่ฝางเมื่อกี้ แต่แค่ตอนนั้นใจของฉินวี่เฟยนึกถึงแต่หลี่ฝาง ไม่ได้นึกถึงร่างกายของตัวเอง
“วี่เฟย เธอเป็นอะไรไป?” เมื่อได้ยินเสียงร้องของฉินวี่เฟย หลี่ฝางก็รีบใช้แรงดัดตัวเองขึ้นมาพลางถาม
“ฉันไม่เป็นไร อาจเพราะเมื่อกี้ไม่ระวังเลยบาดเจ็บมั้ง” ฉินวี่เฟยยื่นมือไปเช็ดเหงื่อที่หน้าผากของหลี่ฝางแทน และพูดพลางยิ้ม
แม้ว่าเธอจะพยายามซ่อนความเจ็บปวดของเธอ แต่หลี่ฝางก็ยังมองออก ถึงแม้เมื่อกี้เขาจะอยู่ในสภาวะคลั่ง แต่ตัวเองทำอะไรลงไปก็ยังมีความทรงจำอยู่
แรงที่เขากระแทกกับกำแพงนั้นแรงมหาศาลสุดๆ ฉินวี่เฟยให้ร่างมาบังหัวของเขาไว้ ไม่บาดเจ็บสิแปลก
“เธอบาดเจ็บตรงไหนกัน!รีบให้ฉันดูเร็ว!” หลี่ฝางพูดจบก็ยื่นมือไปทางหน้าอกของฉินวี่เฟย วินาทีต่อมาก็ถูกฉินวี่เฟยใช้แรงปัดมือออกไป
“นายทำอะไรเหนี่ย!กลางวันแสกๆ ไม่รู้จักอายเลย” ถึงแม้ว่าทั้งสองนอนด้วยกันแล้ว แต่ฉินวี่เฟยก็ยังหน้าบางสุดๆ เมื่อเห็นหลี่ฝางจะตรวจสอบร่างกายของตน สีหน้าเธอก็เปลี่ยนไปเหมือนก้นลิง
เมื่อเห็นฉินวี่เฟยใช้เมื่อกุมหน้าอกตัวเองไว้แน่น หลี่ฝางก็ทั้งโมโหทั้งหมดหนทาง เขาแค่อยากจะเห็นว่าฉินวี่เฟยบาดเจ็บตรงไหน ความคิดอื่นไม่ได้มีเลยสักนิด
เมื่อกี้เขาแค่ลนลาน ไม่ได้คิดไปทางนั้นเลยสักนิดเดียว ใครจะรู้ว่ายัยนี่กลับเข้าใจเขาผิด
“ยัยบ้า ฉันแค่เป็นห่วงเธอเท่านั้นเอง อีกอย่าง ความสัมพันธ์ของพวกเรา เธอยังมาอายอะไรกัน”
หลี่ฝางยิ้มพลางพูด พลางยื่นมือเข้าไปจะตรวจดูรอยบาดเจ็บแทนฉินวี่เฟย แต่ก็เช่นเดิม ฉินวี่เฟยยังคงไม่ยอมเอามือออก
“ไม่ได้ก็คือไม่ได้!นายอย่ามาแตะฉันนะ อีกแป๊บฉันจะตรวจเอง” ฉินวี่เฟยจับคอเสื้อตัวเองไว้แน่น
และขดตัวเข้าไปในผ้าห่ม ให้ตายยังไงก็ไม่ให้หลี่ฝางโดนตัว
“โอเคๆ งั้นฉันจะพาเธอไปตรวจเดี๋ยวนี้ เธอไม่ต้องมุดเข้าผ้าห่มแล้ว ระวังมุดจนตัวเองหายใจไม่ออก”
หลี่ฝางมองฉินวี่เฟยที่ยากที่จะได้เห็นเธอเขินอายอย่างช่วยไม่ได้พลางยิ้มและพูด
หลังจากได้ยินที่หลี่ฝางพูด ฉินวี่เฟยก็ค่อยๆ มุดออกมาจากผ้าห่ม และมองหลี่ฝางอย่างระแวง ราวกับหลี่ฝางเป็นสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวนึง
จากสายตาที่ระแวงแบบนี้เห็นแล้วแทบโมโหตาย แต่ก็หมดหนทางกับเธอ ทำได้แค่ทั้งโมโหทั้งเอือมและยื่นมือไปบีบจมูกของฉินวี่เฟย แล้วพูดอย่างทั้งรักและโมโห
“เธอนี่นะ หรือว่าในใจของเธอฉันไม่มีค่าพอให้เชื่อใจหรือไง? ฉันบอกว่าจะไม่แตะเธอแล้ว ทำไมเธอยังป้องกันตัวเหมือนฉันเป็นขโมยด้วยเหนี่ย”
ฉินวี่เฟยจมูกฮึดฮัด และพูดอย่างอู้อี้ “ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อใจนาย แต่แค่กลางวันแสกๆ ถ้าหากถูกคนอื่นเห็นจะรู้สึกเกรงใจแค่ไหน อีกอย่าง นายก็ไม่ใช่หมอ นายดูแล้วจะมีประโยชน์อะไร”
เมื่อเห็นท่าทีน่ารักของฉินวี่เฟย หลี่ฝางก็โกรธไม่ลง ความเหนื่อยล้าที่ต้องต่อสู้กับเทพอ้านในตัวเมื่อครู่ก็ได้รับการบรรเทาลงอย่างมากจากฉินวี่เฟย ดังนั้นเขาจึงอุ้มฉินวี่เฟยลงจากเตียงโดยท่าเจ้าหญิง
ฉินวี่เฟยที่จู่ๆ ก็ถูกอุ้มท่าเจ้าหญิง ก็ตกใจใหญ่ หลังจากกรีดร้องก็มือไม้ลนลานคล้องคอหลี่ฝางไว้
“นายทำอะไรเหนี่ย!ฉันตกใจหมดเลย!รีบวางฉันลงนะ ในโรงพยาบาลมีคนเยอะแยะมองอยู่นะ!”