NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 106
บทที่106 ตู้เฟยงงเป็นไก่ตาแตก
“ฉันตาพร่ามัวหรือเปล่า ตงไห่ถึงได้มีปอร์เช่918ด้วย?”
ตู้เฟยสงสัยว่าตัวเองตาพร่ามัวแล้ว หลังจากมองอยู่หลายรอบ เขาก็มั่นใจได้ ว่านี่คือปอร์เช่918 หนึ่งในรถสามเทพในตำนาน
“ไม่ได้การล่ะ ฉันต้องไปสืบสักหน่อย ว่าใครซื้อรถคันนี้มา”
ตู้เฟยตกใจเป็นอย่างมาก ใครมีเงินเยอะขนาดนั้น แถมกล้าซื้อรถหรูหราคาดว่ายี่สิบล้านด้วย?
เมื่อออกมาจากร้าน4S ตู้เฟยก็โทรหาโจวเจ๋ ถึงอย่างไรเรื่องของพวกคนรวยแบบนี้ แค่ถามก็รู้แล้ว ไม่มีความลับอะไรต่อกันอยู่แล้ว
หลังจากที่โทรไป ตู้เฟยก็ถามขึ้น: “พี่เจ๋ คุณได้ซื้อปอร์เช่หรือเปล่า?”
โจวเจ๋ฝั่งนั้นยิ้มเบาๆ : “ตู้เฟย ข่าวจากลูกน้องคุณนี่ไวเหลือเกิน รถของฉันเพิ่งจะถึง คุณก็รู้แล้วเหรอ?”
“ฮ่าๆ พี่เจ๋ คุณเป็นคนซื้อจริงๆ ด้วย!”
ตู้เฟยหัวเราะฮ่าๆ ก่อนจะพูดว่า: “ฉันคิดอยู่พักหนึ่ง รถที่เท่และน่าเหลียวมองขนาดนี้ มีแค่พี่เจ๋เท่านั้นแหละที่ซื้อได้!”
“ฉันมีเรื่องจะบอกคุณ พี่เจ๋ ตอนนี้มีคนจนสองคนกำลังขับรถคุณเล่นอยู่ คุณรีบมาดูเถอะ” ตู้เฟยพูดขึ้น
“มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?” โจวเจ๋เลิกคิ้วขึ้น
“จริง จริงแท้แน่นอน” ตู้เฟยยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์: “อีกอย่าง ไอคนจนสองคนนั้นคุณเองก็รู้จัก ก็คือหลี่ฝางกับถังหยู่ซวน!”
“พวกเขาเหรอ?ฉันกำลังจะไปหาพวกเขา คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขากลับจะมาหาเองถึงที่” โจวเจ๋ลุกขึ้นจากเตียงด้วยความรวดเร็ว หลังจากที่จางกงหมิงหนีไป หลินชิงชิงหายไป เขาเองก็อยากหาทางสั่งสอนหลี่ฝาง
นี่ โอกาสมันมาถึงแล้วไม่ใช่เหรอ?
“คุณจะไปไหนล่ะ” จางเชี่ยนนอนอยู่ข้างเตียง อาบแดดอย่างสบายอารมณ์
“ลุกขึ้นเถอะ ตะวันส่องตูดแล้ว” โจวเจ๋ใส่เสื้อผ้า พลางพูดขึ้น
“ฉันลุกไม่ขึ้นแล้ว ดูสิว่าเมื่อวานคุณทำอะไรกับฉัน ตอนนี้ยังเจ็บอยู่เลย” จางเชี่ยนพูดขึ้นด้วยความอิดออดเล็กน้อย
“งั้นคุณนอนต่อไปก่อน รถของฉันมาถึงแล้ว จะไปเอารถ” โจวเจ๋พูดขึ้นนิ่งๆ
“ถึงแล้วเหรอ?”
จางเชี่ยนตาเป็นประกาย จนไม่ได้สนใจความเจ็บปวดตรงนั้น ก่อนจะรีบลุกจากเตียง
“ปอร์เช่คันนั้นเหรอ?” จางเชี่ยนถามขึ้นด้วยความตื่นเต้น
โจวเจ๋พยักหน้า พลางคิดด้วยความประหลาดใจ ว่าเมื่อครู่ตู้เฟยเป็นอะไร ตัวเองไม่ได้พูดถึงปอร์เช่911เหรอ?ถึงแม้ว่ารถคันนี้จะทันสมัยน่ามองเป็นอย่างมาก แต่ในฐานะลูกหลานเศรษฐี ก็ยังมีคนที่ซื้อไม่ได้อยู่ดี?
แล้วที่บอกว่ามีแค่พี่เจ๋ที่ซื้อได้ มันหมายความว่าอย่างไร?
พูดจาถากถางฉันงั้นเหรอ?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ โจวเจ๋ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว จากนั้นก็พูดด้วยความโกรธ: “ไม่ใช่เศรษฐีลึกลับหรอกเหรอ?มันมีอะไรน่าตื่นเต้นนักเหรอ”
“เศรษฐีลึกลับอะไรกัน พี่เจ๋”
“เถ้าแก่ของRecalling the pastไง ได้ยินว่าเขามาลงทุนในตงไห่กว่าหมื่นล้าน เงินลงทุนนี้ ตอนนี้ตกไปอยู่ในมือของตระกูลตู้แล้ว” โจวเจ๋พูดขึ้นด้วยความอิจฉา
“ครอบครัวของตู้เฟยงั้นเหรอ?” จางเชี่ยนพูดด้วยความตกใจ: “งั้นตู้เฟยก็จะรวยแล้วล่ะสิ?”
“นั่นสิ เกรงว่าค่าตัวเขาจะพุ่งเป็นสิบกว่าเท่า” โจวเจ๋พูดงึมงำขึ้น
จางเชี่ยนคิด ว่าตัวเองเคยมีสัมพันธ์กับตู้เฟยอยู่เลย
เมื่อออกมาจากห้องรับรอง โจวเจ๋ก็ขับไปที่ร้าน4S จางเชี่ยนนั่งข้างคนขับ ก่อนจะเอนตัวมา
“ทำไมต้องเอนก้นนั่งแบบนั้นด้วย?” โจวเจ๋เมื่อเห็นแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มร้ายๆ ออกมา: “ยังเจ็บอยู่เหรอ?”
“ใช่สิ เจ็บจะตายอยู่แล้ว” จางเชี่ยนมองบนใส่โจวเจ๋: “เมื่อคืนคุณแย่จริงๆ เลย ของคุณใหญ่ขนาดนั้น จู่ๆ ก็เข้ามา จะทำอะไรไม่บอกกันก่อนเลย”
“นี่มันครั้งแรกของฉันนะ ทำจนฉันเจ็บจนอยากจะร้องไห้เลย” จางเชี่ยนยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ โจวเจ๋โรคจิตจริงๆ ไม่เหมือนตู้เฟย
ทั้งสองคนไปถึงร้าน4Sอย่างรวดเร็ว
ตู้เฟยรอพวกเขาอยู่ที่หน้าประตู เมื่อเห็นจางเชี่ยน ตู้เฟยก็ยิ้มให้: “จางเชี่ยน ก้นคุณเป็นอะไรเหรอ ทำไมเดินบิดแบบนั้น เป็นริดสีดวงเหรอ?”
“บ้าเหรอ ริดสีดวงของคุณน่ะสิ” จางเชี่ยนมองบนใส่ตู้เฟยด้วยความโกรธ
“นี่กำลังด่าใครเนี่น” ตู้เฟยโกรธขึ้นมา ก่อนจะเข้ามาพลางชี้ไปที่จางเชี่ยน: “นางแพศยา อยากโดนตบเหรอไง!”
จางเชี่ยนมองโจวเจ๋ เธอคิดว่าโจวเจ๋จะช่วยเธอ คิดไม่ถึงเลย ว่าโจวเจ๋เองก็ด่าเธอ: “คุณไม่ได้แปรงฟันเหรอ ถึงได้พูดจาเหมือนมีหมาอยู่ในปากแบบนี้ ทำไมพูดกับคุณชายตู้แบบนั้นล่ะ?”
“ยังไม่รีบขอโทษอีก?” โจวเจ๋พูดขึ้นเสียง
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ตู้เฟยคงไม่มีทางกล้ามาทำให้จางเชี่ยนลำบากใจต่อหน้าโจวเจ๋แน่ เพราะจะทำร้ายใครก็ต้องดูเจ้าของด้วย
แต่มาวันนี้ ตระกูลตู้ฟื้นฟูกลับมาแล้ว ค่าตัวของเขากำลังจะแพงกว่าโจวเจ๋แล้ว แล้วจะต้องกลัวอะไรอีก?
“พี่เจ๋……” จางเชี่ยนมองโจวเจ๋ด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“อย่ามาเล่นแง่กับฉันให้มากนะ คุณชายตู้เป็นคนที่คุณจะด่าอะไรก็ได้งั้นเหรอ?รีบขอโทษเร็ว” โจวเจ๋พูดเสียงเย็นชาอีกรอบ
“ขอโทษ คุณชายตู้” จางเชี่ยนกัดฟัน พลางพูดกับตู้เฟยด้วยความไม่พอใจ
“นังแพศยา ทีหลังระวังคำพูดหน่อย” ตู้เฟยชี้ไปที่จมูกของจางเชี่ยนก่อนจะด่าออกไป
หลังจากด่าเสร็จ ตู้เฟยก็โอบไหล่ของโจวเจ๋: “พี่เจ๋ ผู้หญิงแบบนี้ คุณยังจะเอาเธอมาทำอะไร?ไม่มีอะไรที่ดูดีเลย เอาออกไปให้อายคนอื่นเปล่าๆ”
“น้องเฟยพูดถูก ฉันอยากจะทิ้งเธอไปตั้งนานแล้ว” โจวเจ๋พยักหน้าพลางตอบ
โจวเจ๋รู้ว่าตู้เฟยกำลังจะร่ำรวยมีอำนาจขึ้นมาแล้ว เลยไม่กล้าพูดจาขัดอะไรมาก
“น้องเฟย เมื่อครู่คุณบิดว่าพวกหลี่ฝางเอารถของฉันไปขับเล่น จริงเหรอ?” โจวเจ๋พูดด้วยความสงสัย
“ไม่หรอก ฉันเห็นกับตาเลยนะ”
“พี่เจ๋ คุณรวยเกินไปแล้วนะ ซื้อรถดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” ตู้เฟยถามขึ้นด้วยความสงสัย: “คุณไม่ได้จะซื้อรถให้พวกศิลปินในบริษัทมาถ่ายไวรอลวิดีโอเรื่องตลกใช่ไหม?”
“อะไรกัน ฉันซื้อมาขับเอง” โจวเจ๋ขมวดคิ้ว: “จะว่าไป รถหรูอะไรกัน”
“ใช้มาไม่นาน พ่อคุณก็ต้องซื้อคันใหม่ที่ดีกว่าอยู่แล้ว” โจวเจ๋พูดขึ้น
ตู้เฟยคิด มันยังจะมีรถอะไรที่ดีกว่าปอร์เช่918อีกเหรอ?
เกรงว่าจะต้องซื้อเครื่องบินแล้วล่ะ!
“พี่เจ๋ พรุ่งนี้เอารถมาให้ฉันยืมหน่อยได้ไหม ให้ฉันเอาไปอวดหน่อย” ตู้เฟยมองโจวเจ๋พลางถามขึ้น
“มันจะไปมีปัญหาอะไรกัน เดี๋ยวคุณขับไปเลยก็ได้ อยากจะขับนานแค่ไหนก็ได้” โจวเจ๋พูดขึ้นด้วยท่าทีใจดีสปอร์ต
“จริงเหรอ?”
“ฉันเคยโกหกคุณเหรอ?” โจวเจ๋เลิกคิ้วขึ้น: “แต่ว่าถ้าคุณรวยแล้ว อย่าลืมพี่ชายคนนี้นะ มีธุรกิจอะไรดีๆ ก็ดูแลฉันหน่อย
“ไม่มีปัญหา”
ทั้งสองคนคุยกันไป ก็เดินเข้าไปในร้านปอร์เช่ ส่วนจางเชี่ยนก็เดินตามต้อยๆ เข้าไป
“ประธานโจว คุณมาแล้วเหรอ” ผู้หญิงมัดผมหางม้าคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทาย
โจวเจ๋พยักหน้า: “รถของฉันมาถึงแล้วใช่ไหม?”
“ถึงแล้ว คุณจ่ายเงินที่เหลือให้ครบ ก็ขับไปได้เลย” ผู้หญิงมัดผมหางม้าพูดขึ้นพลางยิ้ม
โจวเจ๋มีสีหน้าหนักใจ: “เดี๋ยวนะ ทำไมฉันถึงได้ยินว่ามีคนเอารถของฉันไปขับเล่นล่ะ?”
“ประธานโจว คุณอย่ามาล้อเล่นเลย รถเพิ่งถึงเมื่อเช้านี้เอง ยังไม่มีใครไปแตะเลย” หญิงสาวผมหางม้ายังคงยิ้มอยู่
โจวเจ๋หันกลับมามองตู้เฟย: “น้องเฟย คุณดูผิดหรือเปล่า?”
“ไม่มีทาง!” ตู้เฟยขมวดคิ้วเป็นปม ก่อนจะชี้ไปที่ผู้หญิงมัดผมหางม้า พลางถามขึ้น: “แล้วผู้ชายสองคนที่เข้ามาเมื่อสักครู่ล่ะ!”
“คุณหมายถึงหนุ่มหล่อที่เข้ามาใช่ไหม?” ผู้หญิงมัดผมหางม้ายิ้มให้ตู้เฟย ก่อนจะตอบว่า: “เขาทั้งสองคนกำลังทำเรื่องจัดการไปตามระเบียบอยู่”
“ทำเรื่องอยู่งั้นเหรอ?ทำไมต้องทำเรื่อง?” ตู้เฟยขมวดคิ้วเป็นปม
“ทำเรื่องอะไรได้อีกล่ะ พวกเขามาเอารถไป ก็ต้องทำเรื่องอยู่แล้วไงล่ะ” ผู้หญิงมัดผมหางม้าพูดขึ้น
“คันที่ทั้งสองคนเพิ่งลองขับรถเล่นเมื่อสักครู่อะนะ?” ตู้เฟยถามขึ้น
“ใช่สิ” ผู้หญิงมัดผมหางม้าพยักหน้า
“ให้ตายเถอะ โม้แล้ว นั่นมันปอร์เช่918นะ ราคาตั้งยี่สิบล้านกว่า พวกกระจอกนั้น จะไปมีปัญญาซื้อรถในตำนานราคายี่สิบล้านกว่าได้อย่างไร?” ตู้เฟยเบิกตาโตพลางมองผู้หญิงมัดผมหางม้า แล้วถามขึ้น
“พวกเขา……จะเป็นพวกกระจอกได้อย่างไร” ผู้หญิงมัดผมหางม้ายิ้มเพราะทำตัวไม่ถูก
“น้องเฟย เมื่อครู่คุณพูดอะไรน่ะ ปอร์เช่918เหรอ?” โจวเจ๋เองก็อึ้งไปตรงนั้นเลย
“พี่เจ๋ รถปอร์เช่918คันนั้น ไม่ใช่คันที่คุณมารับเหรอ?” ตู้เฟยมองโจวเจ๋พลางถามขึ้น
“ฉันซื้อ911 ไม่ใช่918 ฉันจะไปมีปัญญาซื้อ918ได้อย่างไรกัน?” โจวเจ๋ส่ายหัว ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มพลางถากถางตัวเอง
“อะไรนะ?จะเป็นไปได้อย่างไร?” ตู้เฟยขมวดคิ้วเป็นปม ก่อนจะมองไปรอบๆ ก็หารถ918คันนั้นเจอ
ตู้เฟยเดินไปที่ข้างหน้าของปอร์เช่918 ก่อนจะชี้ไปที่รถ พลางถามขึ้น: “พี่เจ๋ นี่ไม่ใช่รถของคุณหรอกเหรอ?”
“ไม่ใช่” โจวเจ๋ส่ายหัว พลางมองปอร์เช่918 ด้วยความตกใจอึ้งไป
ในตอนนั้นเอง ถังหยู่ซวนกับหลี่ฝางก็จัดการทำตามระเบียบเสร็จ จากนั้นจึงเดินออกมาจากโถงรับรอง
“ให้ตายเถอะ เอามือออกนะ!”
ถังหยู่ซวนเดินไป ก่อนจะจ้องตู้เฟยด้วยแววตาน่าเกรงขาม: “นี่มันรถของฉัน มาชี้อะไรกัน!”