NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 120
บทที่ 120 หลี่ฝางถูกคนรุมทำร้าย
ตู้ต้าไห่ได้อึ้งไปชั่วขณะ เขาคิดในใจ ลูกชายของตัวเองมาได้ยังไง? หรือว่าลูกชายของตัวเองรู้ตั้งนานแล้วเรื่องที่เขาเลี้ยงดูผู้หญิง?
สีหน้าของตู้ต้าไห่ดูอึดอัดเล็กน้อย รู้สึกว่าตัวเองนั้นละอายใจที่จะเผชิญหน้ากับลูกชาย แต่เขาก็ได้ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว กำลังจะขึ้นไปนั่งตรงเบาะหน้าข้างคนขับ
เวลานี้ หลี่ฝางได้เหยียบคันเร่ง แล้วพุ่งชนเข้ามาทันที
หากไม่ใช่หลี่ฝางที่พุ่งชนเข้ามา คิดว่าตอนนี้ตู้ต้าไห่น่าจะขึ้นไปนั่งบนรถแล้ว
ส้งกงหมิงก็รีบเข้าไปในรถ แล้วเหยียบคันเร่ง มุ่งหน้าไปทางตู้ต้าไห่
“เหล่าส้ง เหล่าส้ง แกจอดๆ!” มองส้งกงหมิงที่ขับรถพุ่งมาข้างหน้าของเขา อีกอย่างไม่มีท่าทีที่จะลดความเร็วลงเลย ตู้ต้าไห่ตกใจจนตะโกนออกมา: “เหล่าส้ง แกจะฆ่าฉันเหรอ!”
“เย็ดแม่ กูจะชนมึงให้ตายเลย!” ส้งกงหมิงท่าทางดูโหดเหี้ยม
ตู้ต้าไห่ครั้งนี้ได้ทำให้ส้งกงหมิงหมดเจ็บหนักมาก เงินยี่สิบกว่าล้านนะ เงินในบัญชีของบริษัท ก็มีแค่นี้ แต่ได้ยืมให้กับตู้ต้าไห่ไปหมด สุดท้ายกลับสูญเปล่า
รถของส้งกงหมิงได้ชนตู้ต้าไห่จนล้ม แล้วรถก็ได้ทับอยู่บนขาสองข้างของตู้ต้าไห่
“อ้า!!”
ปากของตู้ต้าไห่ ได้เปล่งเสียงที่โหยหวนออกมา
ส้งกงหมิงดึงกุญแจออก ดับเครื่อง ถือเหล็กท่อนหนึ่งท่อนหนึ่งขึ้นมา
“เหี้ยเย็ดแม่!”
ส้งกงหมิงลงจากรถ นำท่อนเหล็กนั้นทุบตีลงไปบนร่างกายของตู้ต้าไห่
ขาของตู้ต้าไห่ถูกรถทับไว้ ไม่มีทางที่จะลุกขึ้นมาได้เลย เขาที่ถูกเหล็กทุบ เจ็บจนต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
ตู้เฟยจะลงมาจากรถ แต่ว่าตู้ต้าไห่กลับตะโกนไปว่า: “เสี่ยวเฟย รีบไป ไม่ต้องสนใจพ่อ!”
ตู้ต้าไห่รู้ว่าตัวเองต้องตายอย่างแน่นอน เขาทำให้ส้งกงหมิงต้องสูญเสียเงินไปยี่สิบกว่าล้าน ส้งกงหมิงน่าจะมีความคิดที่อยากจะฆ่าเขาด้วยซ้ำ
คนของส้งกงหมิงได้ไปล้อมรถของตู้เฟยเอาไว้ ตู้เฟยแสยะยิ้ม ตะโกนด่าว่าเหี้ย ก็วิ่งฝ่าออกไปจากฝูงชน
ตู้ต้าไห่เห็นลูกชายตัวเองหนีไปได้ ก็ทรุดตัวเหมือนกับลูกบอลที่ถูกปล่อยลมออก
“เหล่าส้ง ฉันผิดต่อนาย นายจะฆ่าฉัน ก็ฆ่าเถอะ!” ตู้ต้าไห่ยอมรับชะตากรรมแล้ว
“อยากตาย? เงินที่นายติดหนี้ฉันยังไม่ได้ใช้คืนเลย”
ส้งกงหมิงโยนแท่งเหล็กลงบนพื้น พูดอย่างโมโห
ตู้ต้าไห่กลายเป็นคนพิการแล้ว ตู้เฟยก็หนีไปแล้ว หลี่ฝางก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ต่อแล้ว
“ไปกันเถอะ!”
หลี่ฝางมองไปที่พวกหลี่เสี่ยวเสี่ยวแล้วพูด หญิงสาวเหล่านั้นจึงได้กลับเข้าไปในรถ
หลังจากที่ขึ้นรถแล้ว หลิวเฉียวเฉียวกับเชี่ยลู่หน้าบึ้งตึง ปากก็เอาแต่ด่าเสี่ยวซานจื่อคนนั้น
เงินก็แย่งไม่ได้ ยังถูกตบอีก เธอว่ามันน่าโมโหมั้ย?
แต่ว่าหลี่เสี่ยวเสี่ยวขึ้นรถแล้ว กลับมีสีหน้าที่ดีใจ
“หลี่เสี่ยวเสี่ยว เธอถูกตบ ทำไมยังดีใจอีก?” หลิวเฉียวเฉียวถามด้วยความสงสัย
หลี่เสี่ยวเสี่ยวยิ้มอย่างมีเลศนัย ยื่นมือเข้าไปในกางเกงของตัวเอง
หลี่เสี่ยวเสี่ยววันนี้สวมใส่กางเกงแบบที่หลวมๆ วินาทีที่เธอยื่นมือเข้าไปในกางเกงนั้น หลิวเฉียวเฉียวกับเชี่ยลู่ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว
หลี่ฝางก็ขมวดคิ้ว นี่เธอกำลังทำอะไร?
ทันใดนั้น หลี่เสี่ยวเสี่ยวก็ได้หยิบเงินออกมาจากกางเกงของเขา
“แม่ง หลี่เสี่ยวเสี่ยว……..ที่แท้เธอก็ซ่อนมันอยู่ข้างในกางเกง……..ใน!” หลิวเฉียวเฉียวกับเชี่ยลู่เบิกตากว้าง มองหลี่เสี่ยวเสี่ยวอย่างไม่อยากจะเชื่อ
สีหน้าของหลี่เสี่ยวเสี่ยวเต็มไปด้วยความสุข เริ่มนับเงินที่เก็บมา
“สามพันกว่าหยวนแหนะ!” หลี่เสี่ยวเสี่ยวที่ถือเงินไว้ในมือ หัวเราะขึ้นมา
มิน่าล่ะ ตอนที่ขึ้นรถ หลี่ฝางก็รู้สึกแปลกๆ แล้ว
ใครจะไปรู้ ที่แท้ก็คือเงินนี่เอง!
หลี่ฝางจะร้องไห้ก็ไม่ใช่จะหัวเราะก็ไม่เชิง ได้สตาร์ทรถขึ้น
“หลี่เสี่ยวเสี่ยว เธอแย่งเงินมาได้มากขนาดนี้ คืนนี้พาเราไปเลี้ยงหน่อยสิ?” เชี่ยลู่เริ่มออกความเห็น เธอเห็นหลี่เสี่ยวเสี่ยวแย่งเงินมาได้เยอะขนาดนี้ แต่ตัวเองนั้นกลับไม่ได้ซักหยวน เกิดความอิจฉาเล็กน้อย ดังนั้นจึงอยากจะผลาญเงินของเธอให้หมด
หลี่ฝางยังคิดว่าหลี่เสี่ยวเสี่ยวจะปฏิเสธเสียอีก
ไม่คิดว่าหลี่เสี่ยวเสี่ยวจะตกลงง่ายๆ แบบนี้: “ไม่มีปัญหา คืนนี้ไปที่ร้าน Recalling the past ข้าจะเป็นเจ้ามือเอง”
“แล้วตอนนี้พวกเราจะไปไหนละ? ยังเช้าอยู่เลย” เชี่ยลู่ถาม
“เราไปร้องเพลงกันมั้ย ฉันเป็นเจ้ามือเอง” หลิวเฉียวเฉียวกล่าว
“หลี่เสี่ยวเสี่ยวแย่งเงินมามากขนาดนี้ ให้เธอเลี้ยงแหละ” เชี่ยลู่กล่าว
“ฉันเลี้ยงเอง” หลี่ฝางพูดจบ ก็ได้ขับรถไปถึงหน้าร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง
สั่งเหล้ามาหนึ่งโหล และน้ำสองสามขวด ทั้งหมดมาถึงที่ห้องคาราโอเกะ หลี่ฝางไม่ชอบร้องเพลง ก็เล่นโทรศัพท์อยู่ด้านข้าง
ผู้หญิงสามคนนี้เล่นได้สนุกมาก ร้องเพลงก็เพราะมากด้วย
หลี่ฝางได้ส่งข้อความไปให้ลู่หลุ่ย ถามเธอว่าอยู่ไหน?
ไม่นานลู่หลุ่ยก็ตอบกลับมา: อยู่ที่Blue moon สังสรรค์กับเพื่อน
“Blue moon?” หลี่ฝางเลิกคิ้ว ดีใจจนนั่งลงไป ทำไมบังเอิญจัง: “ฉันก็อยู่ที่Blue moonเหมือนกัน เธออยู่ชั้นไหน ออกมาเจอกันหน่อยสิ!”
หลี่ฝางชวน ลู่หลุ่ยก็ออกมาเลย ทั้งสองต่างก็อยู่ที่ชั้นสาม
“เธอดื่มเหล้าเหรอ” หลี่ฝางได้กลิ่นเหล้าจากตัวของลู่หลุ่ย ไม่พอใจเล็กน้อย
“พวกเขาบังคับให้ฉันดื่ม ฉันก็เลยดื่มไปไม่กี่แก้ว” ลู่หลุ่ยพูดอย่างเบื่อหน่าย
“ใครกัน เธอไปเรียกเขาออกมาเลย เดี๋ยวฉันจะสั่งสอนเขาเอง” หลี่ฝางพูดอย่างโมโห
“เพื่อนๆ กันทั้งนั้น นายทำอะไรของนาย” ลู่หลุ่ยเหลือบมองหลี่ฝางอย่างโกรธเคือง เห็นหลี่ฝางโกรธแล้ว ก็ได้พูดขึ้นมาอีกประโยค: “คราวหลังฉันจะไม่ดื่มอีก”
เวลานี้ ประตูห้องคาราโอเกะของลู่หลุ่ยถูกผลักออกมา ชายผมหยิกคนหนึ่งเดินออกมา: “ลู่หลุ่ย เธอออกมาทำไม?”
“เขาเป็นใคร?” เมื่อเห็นหลี่ฝาง สายตาของไอ้หัวหยิกก็แสดงออกเหมือนกับเจอศัตรู
“เพื่อนของฉัน……….” ลู่หลุ่ยเพิ่งจะพูดจบ ไอ้หัวหยิกก็เดินเข้ามา มองดูก็รู้ว่าไอ้หัวหยิกคนนี้เมาแล้ว แค่เดินมาถึงเขาก็ได้ชี้ที่หน้าของหลี่ฝาง
“จะบอกนายให้นะ อยู่ห่างๆ จากหลุ่ยหลุ่ยของฉันหน่อย ไม่อย่างนั้นฉันจะจัดการนาย!” ไอ้หัวหยิกพูดอย่างดุเดือด
“เฉินเสี้ยว นายทำไมพูดแบบนี้ ใครเป็นของนาย” ลู่หลุ่ยขมวดคิ้วพูดกับไอ้หัวหยิก: “นายพูดจาให้เกียรติคนอื่นด้วย”
“หลุ่ยหลุ่ย เธอพูดแล้วไม่ใช่เหรอ หากเราสองคนสอบเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกัน เธอก็จะยอมเป็นแฟนของฉัน” ไอ้หัวหยิกกล่าว
“ฉันแค่บอกว่าจะพิจารณา ยังไม่ได้ตอบตกลง” ลู่หลุ่ยขมวดคิ้วอย่างลึกๆ เธอมองหลี่ฝางอย่างระมัดระวัง กลัวว่าหลี่ฝางจะเข้าใจผิด
เป็นจริงเช่นนั้น หลี่ฝางขมวดคิ้วขึ้นมาทันที เห็นได้ชัดว่าหึงแล้ว
“เอาล่ะ นายรีบเข้าไปเลย” ลู่หลุ่ยพบว่ารอยยิ้มของหลี่ฝางนั้นไม่ค่อยปกติ ก็รีบไล่ให้เฉินเสี้ยวเข้าไปในห้องคาราโอเกะ
“เขาพูดจริงเหรอ?” หลี่ฝางมองลู่หลุ่ยอย่างเคืองๆ
“ตอนนั้นฉันแค่พูดเล่นกับเขา เพราะว่าเขามาตอแยฉันทุกวัน ฉันกลัวจะมีผลต่อการเอ็นทรานซ์ของฉัน ก็เลยพูดไปแบบนั้น หากสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกัน ฉันก็จะคิดดู ก็ให้คำตอบที่สองแง่สองง่ามกับเขา ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าผลการเรียนของเขาจะดีขนาดนั้น สามารถสอบเข้าสุ่ยมู่ได้ด้วย” ลู่หลุ่ยถอนหายใจ
“หลี่ฝาง นายวางใจเถอะ ฉันไม่มีทางคบกับเขาอย่างแน่นอน” ลู่หลุ่ยยืนยันกับหลี่ฝาง
ได้ยินหลี่ฝางพูดแบบนี้ ทันใดนั้นก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาหน่อย คำพูดประโยคนี้ของลู่หลุ่ย เห็นได้ชัดว่าเธอเห็นตัวเองเป็นแฟน
หลี่ฝางไม่โกรธแล้ว ก็เริ่มแกล้งลู่หลุ่ยเล่น ทั้งสองคนคุยกันได้อย่างมีความสุขมาก พูดคุยหยอกล้อกัน
ไม่นานนัก ไอ้หัวหยิกก็วิ่งออกมาจากห้องคาราโอเกะ ด้านหลังยังมีชายกลุ่มหนึ่งตามมาด้วย คิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของลู่หลุ่ย
“ลู่หลุ่ย เขาเป็นใครกันแน่?” ไอ้หัวหยิกขมวดคิ้วถาม
ไอ้หัวหยิกเมื่อกี้แอบมองจากตรงซอกประตูเห็นได้ชัดเจนมาก หลี่ฝางกับลู่หลุ่ยพูดคุยหยอกล้อกัน ดูแล้วความสัมพันธ์ต้องไม่ธรรมดา
เพราะปกติเวลาเรียน น้อยมากที่ลู่หลุ่ยนั้นจะคลุกคลีกับเพื่อนนักเรียนชาย ยิ่งไม่มีทางที่จะคุยกับผู้ชายอย่างมีความสุขแบบนี้
“ฉันเป็นใครแล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย!” หลี่ฝางพูดอย่างกวนประสาท
“เหี้ย นายมันอวดดีเหมือนกันนะ!” ไอ้หัวหยิกหัวเราะอย่างเยือกเย็น ชี้ไปที่หลี่ฝางแล้วกล่าว:” “เพื่อน ลุยเลย!”
พูดจบ ไอ้หัวหยิกก็ลงมือโดยตรง
หลี่ฝางตัวคนเดียว แต่พวกไอ้หัวหยิกนั้นมีตั้งห้าหกคน เมื่อต่อสู้กันขึ้นมา หลี่ฝางก็ถูกซ้อมคนเดียว
สุดท้ายหลี่ฝางก็จับไอ้หัวหยิกมาสู้กันตัวต่อตัว และลู่หลุ่ยก็ห้ามทุบอยู่ข้างๆ เห็นได้ชัดว่าไม่เกิดประโยชน์อะไร
หลี่เสี่ยวเสี่ยวได้ยินเสียงเอะอะโวยวายมาจากข้างนอก ก็รีบวิ่งออกมาดู
เมื่อออกมาก็เห็นหลี่ฝางถูกซ้อม เธอตะโกนไปหนึ่งประโยค: “แย่แล้ว หลี่ฝางถูกรุม!”
หลี่เสี่ยวเสี่ยวกับเชี่ยลู่ แต่ละคนต่างก็คือขวดเบียร์ออกมากันคนละขวด วิ่งเข้ามาโดยไม่ลังเล ผู้หญิงสองคนนี้ช่างกล้านัก ใช้ขวดเบียร์ฟาดลงบนหัวของอีกฝ่ายทันที ไม่กลัวเลยแม้แต่นิดเดียว
เฉินเสี้ยว นายรีบหยุดได้แล้ว ลู่หลุ่ยที่ร้อนใจได้แต่ตะโกนห้าม พลางใช้มือไปกระชากไอ้หัวหยิก แต่ก็ไม่เกิดประโยชน์ เธอกำหมัดแน่นอย่างกังวล แล้วทุบลงไปที่หัวของไอ้หัวหยิก
“ลู่หลุ่ย เธอทำร้ายฉันเพราะนายคนนี้เหรอ!” ไอ้หัวหยิกหันหน้ามาแล้วตะโกนไปหนึ่งประโยค
หลี่ฝางทำร้ายไอ้หัวหยิกไปตั้งหลายที แต่ไอ้หัวหยิกกลับไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆ แค่ลู่หลุ่ยแค่ทุบเขาไปไม่กี่ที เขากลับคลุ้งคลั่งขึ้นมา ดวงตาเปล่งด้วยประกายไฟ
เขาวิ่งเข้าไปในห้องคาราโอเกะ ไปหยิบขวดเหล้ามาสองขวด
“ได้ ลู่หลุ่ย ฉันทำร้ายเขาเธอสงสารเขาใช่มั้ย? ดี วันนี้ฉันจะให้เธอสงสารให้มากพอ!” ไอ้หัวหยิกพูดจบ ก็ยกขวดเหล้าฟาดไปทางหลี่ฝาง
เสียงโครมดังขึ้น ขวดเหล้าแตกกระจาย ก็ไม่รู้ว่าไอ้หัวหยิกทุ่มแรงไปมากแค่ไหน!