NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 138
บทที่ 138 หลี่ฝางถูกจี้ใจดำ
บทสนทนาระหว่างแม่ของเซี่ยลู่และเซี่ยลู่เมื่อครู่นี้ หลี่ฝางได้ยินมันอย่างชัดเจนขณะอยู่ในรถ
“ลู่ลู่ ทำไมในรถถึงเป็นหลี่ฝางล่ะ ไม่ใช่เป็นแฟนลูกหรือ?” อยู่พริบตา แม่ของเซี่ยลู่ก็หันหน้าไปถามเธอด้วยความโมโห
“แม่ เมื่อกี้ฉันก็บอกแล้ว ว่าในรถไม่ใช่แฟนฉัน” เซี่ยลู่ตอบด้วยเสียงเบา
“เด็กสมควรตาย ใครใช้ให้แกไปมาหาสู่กับลูกชายของหลี่ต๋าคาง แถมยังนั่งรถเขากลับมาอีก อยากโดนดีใช่ไหม?” สีหน้าของพ่อของเซี่ยลู่เปลี่ยนไปเป็นดุร้ายขึ้นมาทันที
แม่ของเซี่ยลู่มองไปที่หลี่ฝางอย่างสงสัย “เสี่ยวฝาง นายยืมรถของเพื่อนมาใช่ไหม?”
หลี่ฝางส่ายหัว “นี่เป็นรถของผม ผมซื้อมา”
“นายซื้อมา? นายเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง จะเอาเงินที่ไหนมาซื้อได้!” แม่ของเซี่ยลู่ดูไม่เชื่ออย่างเห็นได้ชัด
พ่อของเซี่ยลู่เอ่ยเยาะ “นี่คือรถเน่าๆ คันหนึ่ง ลองดูไปหน้าสิ เสียไปแล้วข้างหนึ่ง ยังมีรูปร่างของมันอีก ดูต่างกับรถแทรกเตอร์ตรงไหน? ฉันว่า นี่คงเป็นรถมือสอง ส่วนเรื่องโลโก้ ก็คงแปะโลโก้เข้าไปเองล่ะสิ”
“เด็กสมัยนี้น้า ชอบโอ้อวด ซื้อรถผุพังมือสองมาแล้วยังแปะโลโก้รถเบนซ์เข้าไป” พ่อของเซี่ยลู่หัวเราะเยาะ
“เมื่อไม่นานมานี้ฉันยังเพิ่งเห็นข่าว มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งแอบขายไตตัวเองเพื่อซื้อโทรศัพท์มือถือไอโฟน”
พ่อของเซี่ยลู่มองไปที่หลี่ฝางและถามว่า “เสี่ยวฝาง นายคงไม่ได้ขายไตของเพื่อซื้อรถผุพังคันนี้ใช่ไหม?”
“พ่อ พ่อหยุดพูดจะได้ไหม?” เซี่ยลู่พูดอย่างไม่ชอบใจ ใบหน้าร้อนผ่าวด้วยความอับอาย
นี่เป็นรถเบนซ์G-Classคันใหญ่ มูลค่ามากกว่าสองล้านหยวน พ่อของเซี่ยลู่ ถึงกับกล้าเปรียบเทียบรถหรูสองล้านหยวนกับรถแทรกเตอร์ในหมู่บ้าน!
ขายไตเพื่อซื้อเบนซ์G-Classตัวใหญ่ ไตของใครจะมีค่าขนาดนั้น?
เซี่ยลู่ทนฟังต่อไปไม่ไหว พ่อของเธอ ทำให้เธออับอายเกินไป แม้แต่รถเบนซ์G-Classก็ยังไม่รู้ยัง แถมยังบอกว่าหลี่ฝางเอาโลโก้แปะเข้าไปเอง
พ่อของเซี่ยลู่ถลึงตาใส่ลูกสาวของตน “ฉันพูดอะไร? คนหนุ่มสาวสมัยนี้ เพื่อให้ได้โอ้อวดมีหน้ามีตา อะไรก็ทำได้ลงทั้งนั้น”
“หน้าตามีค่าขนาดนั้นเลยหรือไง? ยิ่งไปกว่านั้น ซื้อรถผุพังคันนี้ก็มีหน้ามีตาแล้วหรือไง? มีเงิน ก็เอาไปคลุมบ้านเก่าๆ ของนายยังจะดีกว่า ลองดูบ้านของพวกเขาเสียบ้าง ซอมซ่อไปถึงไหนแล้ว?” พ่อของเซี่ยลู่มองไปที่หลี่ฝางและพูดดูถูกถากถาง “พ่อเป็นแบบไหน ลูกชายก็เป็นแบบนั้นจริงๆ”
“หลี่ต๋าคางนั่นก็ดูไม่น่าเชื่อ หายตัวไปสามปี ที่แท้กลับไปทำงานแชร์ลูกโซ่…” พ่อของเซี่ยลู่ถอนหายใจ “คนพ่อไปทำหลี่ต๋าคางลูกชายขายไตเพื่อซื้อรถ ช่างเป็นคู่พ่อลูกที่สมกันจริงๆ”
หลี่ฝางขมวดคิ้วเล็กน้อย และโมโหอยู่บ้าง นี่ยังไม่จบไม่สิ้นอีก!
ในตอนนี้ ใบหน้าของเซี่ยลู่อับอายมากจนเธอแทบอยากจะมุดลงดินไป
“พ่อ หลี่ฝางไม่ได้ขายไตซื้อรถนะ” เซี่ยลู่รีบเอ่ยอธิบาย
“ไม่ได้ขายไต?” พ่อของเซี่ยลู่นิ่งไปสักพัก จากนั้นจึงพูดว่า “อย่างนั้นก็ขโมย ไม่งั้นก็โกงมา!”
สรุปก็คือ ให้ตายยังไงพ่อของเซี่ยลู่ก็ไม่ชื่อว่าหลี่ฝางจะซื้อรถด้วยเงินของเขาเองได้
เซี่ยลู่ยิ่งหมดคำพูด “พ่อ ไม่ต้องพูดแล้ว พวกเรากลับห้องกันเถอะ?”
กว่าพ่อของเซี่ยลู่จะหยุดคำพูดลงได้ก็ไม่ง่ายเลย แต่แม่ของเธอกลับเดินเข้ามาแล้วเอ่ยกับหลี่ฝาง “เสี่ยวฝาง ฉันรู้ว่านายชอบลู่ลู่ของเรา แต่นายต้องดูเงื่อนไขของนายเองบ้าง นายคิดว่านายซื้อรถผุพังคันนี้มา ก็สามารถคู่ควรกับลู่ลู่ของพวกเราได้แล้วหรือ?”
แม่ของเซี่ยลู่ขอให้หลี่ฝางก้มลงดูเงาตัวเองในน้ำเสียบ้าง
“ลู่ลู่ของเราหน้าตาดีขนาดนี้ เรียนก็เก่ง ต่อไปถ้าจะแต่งงาน ก็ต้องแต่งกับมังกรในหมู่ผู้คนเท่านั้น”
“อ้อใช่ เสี่ยวฝาง ได้ยินมาว่าครั้งนี้นายสอบได้แค่ 400 คะแนน… 400 คะแนน จะไปเข้ามหาวิทยาลัยอะไรได้”
“เซี่ยลู่ของเรา สอบได้ตั้งมากกว่า 600 คะแนน เธอได้รับการตอบรับเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยดังแล้วด้วย”
“เสี่ยวฝาง ฉันแนะนำนายสักคำ จากนี้ไปอยู่ให้ห่างจากลู่ลู่ของเราสักหน่อย พวกเราไม่ใช่คนในโลกเดียวกันอีกต่อไป” แม่ของเซี่ยลู่เอ่ยอย่างเหยียดหยาม
“ใช่ อยู่ให้ห่างจากลู่ลู่ของเราหน่อย” พ่อของเซี่ยลู่เอ่ยเสียงดัง
“ลู่ลู่ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อย่าได้ติดต่อกับเสี่ยวฝางอีก ได้ยินไหม?” พ่อของเซี่ยลู่มองไปที่ลูกสาวของตนและเอ่ยอย่างเข้มงวด
“ฉันถามเธอ ได้ยินฉันไหม?” พ่อของเซี่ยลู่เห็นเธอไม่ตอบจึงเอ่ยย้ำเสียงเข้มอีกครั้ง
“พ่อ พวกคุณอาศัยอะไรมาห้ามฉันไม่ให้เป็นเพื่อนกับหลี่ฝาง?” เซี่ยลู่แทบจะอยากร้องไห้ เธอเพิ่งตัดสินใจที่จะทำให้หลี่ฝางกลับมาตกหลุมรักเธออีกครั้ง แต่พ่อแม่ของเธอ กลับร่วมกันกีดกันและเยาะเย้ยหลี่ฝาง
“แก…แกกล้าไม่ฟังฉัน!” เมื่อพ่อของเซี่ยลู่ได้ยินคำตอบของลูกสาว เขาก็เบิ่งตาโตด้วยความโมโหขึ้นมาทันที
“พ่อ ฉันอายุตั้งเท่าไหร่แล้ว อาศัยอะไรให้พวกคุณมายุ่งเรื่องการคบเพื่อนของฉัน? อาศัยอะไรกัน” เซี่ยลู่ยังคงโต้แย้ง
พ่อของเซี่ยลู่อ้าปากค้าง จากนั้นจึงเหยียดแขนออกและตบลงบนใบหน้าลูกสาวตน
แม่ของเซี่ยลู่กอดลูกสาวของเธอเอาไว้อย่างสงสาร “คุณทำอะไรน่ะ ตีลู่ลู่ทำไม”
“ลู่ลู่เป็นลูกสาวแท้ๆ ของคุณเอง ถ้าคุณมีความสามารถ คุณก็ไปตีเสี่ยวฝางซะสิ!”
หลังจากฟังคำพูดของภรรยา พ่อของเซี่ยลู่ก็เดินไปหาหลี่ฝางจริงๆ “เด็กหน้าเหม็น ฉันไม่สนใจว่านายจะใช้ไม้ไหนมาทำให้ลูกสาวฉันหลงกล แต่แกจงฟังฉันให้ดี จากนี้ไปถ้าแกกล้าติดต่อลูกสาวฉันอีก ฉันจะหักขาแก!”
“ได้ ไม่มีปัญหา”
หลี่ฝางยิ้มเหยียด จากนั้นจึงเหยียบคันเร่งและจากไป
ใบหน้าของบ้านนี้ หลี่ฝางเห็นมามากพอแล้ว
เมื่อกลับมาถึงบ้าน หลี่ฝางก็นั่งลงบนโซฟาด้วยความโกรธ
“เป็นอะไรไปลูก” เมี๋ยวชุ่ยเห็นสีหน้าของหลี่ฝางผิดปกติอยู่บ้าง ดังนั้นจึงเดินเข้ามาถาม
หลี่ฝางไม่ได้พูดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่แต่กลับบอกว่า “แม่ ผมอยากจัดงานเลี้ยงศึกษาต่อ”
เมี๋ยวชุ่ยหัวเราะหึหึ “ลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย งานเลี้ยงศึกษาต่อยังไงก็ต้องจัดอยู่แล้ว”
หลี่ฝางเอ่ยอีก “แม่ ความหมายของผมคือผมอยากจัดงานเลี้ยงศึกษาต่อให้ใหญ่โตและยิ่งใหญ่ขึ้นอีกหน่อย”
“ลูกคิดจะจัดยังไง?” เมี๋ยวชุ่ยรู้สึกไม่มีปัญหาอะไร ยังไงเสียที่บ้านก็ไม่ได้ขาดแคลนเงิน อยากจะจัดใหญ่แค่ไหนก็แค่นั้น
หลี่ฝางลังเลไปครู่หนึ่ง และกล่าวว่า “แม่ ผมค่อยบอกแม่พรุ่งนี้ วันนี้ผมไปคิดให้ดีก่อน”
“ได้” เมี๋ยวชุ่ยพยักหน้า
หลี่ฝางกลับไปที่ห้องของตน จากนั้นจึงเริ่มวางแผนสำหรับงานเลี้ยงการศึกษาต่อของเขา
เมี๋ยวชุ่ยมาตรงหน้าของหลี่ต๋าคางและส่ายหัวถาม “วันนี้เสี่ยวฝางเป็นอะไรไป เขาไม่ได้ชอบทำตัวติดดินหรอกหรือ? ทำไมจู่ๆ อยากจะจัดงานเลี้ยงศึกษาต่อขึ้นมา แถมยังจะจัดให้ใหญ่โตอีกด้วย?”
“ต้องโดนจี้ใจอะไรมาแน่” หลี่ต๋าคางมองความคิดของหลี่ฝางได้อย่างรวดเร็ว
“ปล่อยให้เขาทำไปตามใจเถอะ พวกเราติดค้างเขา เขาอยากจัดก็ให้จัดเถอะ” หลี่ต๋าคางนึกถึงเรื่องที่เขาหายตัวไปเป็นเวลาสามปี ทำให้หลี่ฝางต้องทนทุกข์มามากมาย ความรู้สึกผิดในใจก็ผุดขึ้นมา
“อ้อใช่ ที่เมืองเอกจัดการปักหลักเรียบร้อยแล้วหรือยัง?” เมี๋ยวชุ่ยถาม
“วางใจเถอะ จัดการเรียบร้อยแล้ว ยังเหมือนเดิม ถ้าเสี่ยวฝางสามารถจัดการเองได้ ฉันจะไม่สอดมือเข้าไปยุ่ง ฉันไม่สอดมือเข้าไป เขาจัดการไม่ได้ ฉันค่อยยื่นมือเข้าไปจัดการ”
หลี่ต๋าคางเอ่ยอย่างดูถูก “ก็แค่เมืองเอกของจังหวัดเล็กๆ เท่านั้น จะก่อคลื่นลูกใหญ่อะไรได้?”
ต่อมาหลังจากที่หลี่ฝางไปเมืองเอกของจังหวัด กลับมีคลื่นลูกใหญ่อยู่ไม่น้อย และหลายครั้งที่อยู่เหนือการควบคุมของหลี่ต๋าคาง
แน่นอนว่า ทั้งหมดคือเรื่องในอนาคต
หลังจากที่หลี่ฝางกลับไปที่ห้อง เขาก็ใช่เวลาหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ ถึงเตรียมงานเลี้ยงศึกษาต่อของตนเสร็จ
ในเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น หลี่ฝางยังไม่ได้ทานแม้กระทั่งอาหารเช้า เขาก็ขับรถ เบนซ์G-Classออกไปแล้ว
เมื่อผ่านบ้านของเซี่ยลู่ เซี่ยลู่ก็เพิ่งออกมาก็เดินเข้ามาทางรถของหลี่ฝางและเอ่ยตะโกน “หลี่ฝาง นายจะไปไหน? ช่วยพาฉันไปด้วยได้ไหม”
หลี่ฝางไม่แม้แต่จะฟัง เขาแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน
หลี่ฝางขับรถตรงไปที่บาร์ และหาลุงเฉียน
“ลุงเฉียน ที่บาร์มีเงินในบัญชีเท่าไหร่?” หลี่ฝางถาม
“ไม่กี่วันนี้ได้มาสามล้าน” ลุงเฉียนรู้ว่าหลี่ฝางไม่มีเงิน ดังนั้นจึงให้เงินทั้งหมดแก่เขา
แต่เงินสดก็มีมูลค่ามากกว่าสองล้าน
หลี่ฝางยังคงตะลึงอยู่บ้าง แค่ไม่กี่วัน กลับทำเงินได้อีกหลายล้านแล้ว?
“ลุงเฉียน ทำไมถึงได้เยอะขนาดนั้น? ไม่จำเป็นต้องนำเข้าอะไรเลยหรือ?” หลี่ฝางถามอย่างสงสัย
“นำเข้าอะไร? พวกเรามีโรงกลั่นเหล้าของตัวเอง เหล้าส่วนใหญ่ที่นี่ ล้วนเอามาจากโรงกลั่นเหล้าของเราเอง ที่ดินก็ของเราเอง ไม่ได้เช่ามา ดังนั้นโดยพื้นฐานแล้วพวกเราขายได้เท่าไหร่ก็ได้เงินเท่านั้น” ลุงเฉียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลี่ฝางรู้สึกตะลึงอยู่บ้าง “พวกเรามีโรงกลั่นเหล้าด้วย?”
“ทำไม พ่อของนายไม่ได้บอกนายหรือ?” เฉียนถาม
หลี่ฝางส่ายหัวและพูดว่า “ไม่มี”
“สงสัยจะขี้เกียจบอกนาย ยังไงเสียโรงกลั่นพวกนั้นก็ไม่ได้มีมูลค่าอะไรมากนัก” ลุงเฉียนเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ