NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 156
บทที่ 156 ช่วยหลินชิงชิง
เจ้าหัวแบนโทรหาหวางเห้า หวางเห้าก็รีบมาทันที
หวางเห้าคนนี้ ถือเอาเจ้าหัวแบนเป็นไอดอลไปแล้วจริงๆ
แต่หลังจากผ่านไปสิบนาที หลี่ฝางก็แทบรอไม่ไหว เขายืนอยู่หน้า หลี่ฝางได้ยินเสียงชวนดื่มดังขึ้นจากด้านในห้อง พูดตามตรง นี่ไม่ใช่การชวนดื่มแล้ว แต่เป็นบังคับให้หลินชิงชิงดื่ม ไม่ดื่มไม่ได้อะไรประเภทนั้น
หากไม่ใช่เพราะเจ้าหัวแบนหยุดเอาไว้ หลี่ฝางก็แทบอยากจะหยิบมีดเข้าไปสับพวกสุนัขเหล่านี้
จู่ๆ ประตูห้องส่วนตัวก็เปิดออก จากนั้นคนขี้เมาก็เดินออกมาจากด้านใน และชนเข้ากับหลี่ฝาง
ประกอบกับที่หลี่ฝางกำลังโกรธอยู่พอดี เขาเดินเข้าไปหาขี้เมาก่อนจะเตะเขาลงบนพื้น
จากนั้น ในห้องก็มีหลายคนรีบออกมา ทุกคนล้วนมีหน้าตาดุดัน รูปร่างกำยำราวกับหมี และเข้าไปล้อมรอบหลี่ฝาง
ในขณะที่เจ้าหัวแบน ตอนนี้กำลังซ่อนตัวอยู่ในห้องส่วนตัวอื่น กลัวว่าจะถูกคนอื่นจำได้
“แกทำอะไรพี่น้องฉัน?” ชายไอ้หน้าบากถามหลี่ฝาง
หลี่ฝางรู้สึกกลัวอยู่บ้าง แต่เมื่อนึกถึงว่าหลินชิงชิงถูกรังแกโดยคนเหล่านี้ สีหน้าของหลี่ฝางก็จมลง “เขาชนฉันก่อน”
“เจ้าเด็กนี่กล้าดีนี่ พี่น้องฉันดื่มไปเยอะ ก็แค่ชนนายเท่านั้น ถึงกับต้องลงมือเลยหรือไง?” ไอ้หน้าบากยื่นมือออกไปผลักหลี่ฝาง
เสียงปึงดังขึ้น กุญแจรถในกระเป๋าของหลี่ฝางตกลงไปที่พื้น
เมื่อเห็นกุญแจรถเบนซ์ตกอยู่ที่พื้น จู่ๆ ไอ้หน้าบากขมวดคิ้วขึ้นมา “รถเบนซ์G-Class ด้านนอกนั่น ของนาย?”
“เป็นของฉัน ทำไม?” หลี่ฝางตอบกลับ
ไอ้หน้าบากเคร่งเครียดขึ้นมาทันที
หลี่ฝางมองแล้วอย่างมากก็แค่อายุยี่สิบต้นๆ เท่านั้น เด็กอายุขนาดนี้ กล้าขับเบนซ์G-Class ไหนเลยจะเป็นแค่คนธรรมดา?
ทันใดนั้นไอ้หน้าบากก็แสยะยิ้มและพูด “น้องชาย เข้าใจผิดแล้ว เข้าใจผิดแล้ว”
“พี่น้องฉันดื่มมากไป อย่าได้ไปลดตัวยุ่งกับเขาเลย ฉันขอโทษแทนพี่น้องฉันด้วยแล้วกัน” ไอ้หน้าบากกล่าวด้วยรอยยิ้ม
คนอื่น ๆ ล้วนตกตะลึงกันหมด
“พี่หน้าบาก ไม่ใช่ว่าเด็กนี่ควรจะขอโทษพวกเราหรอกหรือไง?”
“นั่นสิ เจ้าเด็กเวรนี่มันอวดดีเกินไป แม้กระทั่งพี่น้องเรายังกล้าลงมือ ไม่ได้รนหาที่ตายหรือไง?”
พี่น้องของไอ้หน้าบากไม่พอใจ
ไอ้หน้าบากเอ่ยเสียงเย็น “ทั้งหมดล้วนหุบปาก”
“กลับไปดื่ม”
หลังจากไอ้หน้าบากเอ่ยขอโทษก็หันหลังกลับไปยังห้องส่วนตัว
หลี่ฝางเหลือบมองไปที่หลินชิงชิง เธอยังคงมีสติอยู่และมองเห็นหลี่ฝาง แต่ไม่ได้ออกมา
แน่นอนว่า หากเมื่อครู่ไอ้หน้าบากลงมือจริงๆ หลินชิงชิงก็จะต้องออกมาอย่างแน่นอน
“พี่หน้าบาก เจ้าเด็กนั่นพี่มีที่มาอย่างไร? ” หลังกลับเข้ามาในห้องส่วนตัว ผู้คนก็เริ่มสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติ
“รถเบนซ์G-Class หน้าประตูนั่น เด็กนั่นเป็นคนขับ”
ไอ้บากหน้าเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “พวกนายใช้สมองหน่อย เด็กหนุ่มวัยยี่สิบต้น ๆ ขับรถหรูสองล้านมา ตัวตนจะธรรมดาไหม? ”
“เสี่ยวอู่จือก็แค่ชนเขาเท่านั้น เขาก็ลงมือเตะเสี่ยวอู่จือแล้ว ถ้าเจ้าเด็กนั่นไม่มีเบื้องหลัง นายคิดว่าเขาจะกล้าตีเสี่ยวอู่จือไหม?”
ไอ้หน้าบากเอ่ย “พวกเราออกมาเที่ยวก็กลับไปแบบเที่ยว อย่าได้หาเรื่องให้ลูกพี่เสีย หากไปเตะโดนแผ่นเหล็กเข้า แบบนั้นคงไม่ดี”
“พี่หน้าบากพูดถูก”
“มา ดื่ม” พี่หน้าบากยกแก้วขึ้นและเอ่ย “ชิงชิง เติมเหล้าให้เต็ม พวกเราเพิ่งจะเริ่มนะ”
“รอจนอิ่มแล้ว พวกเราไปเล่นกันที่บาร์หลันกุ้ยฟาง” ก็พี่หน้าบากเอ่ยด้วยรอยยิ้มร่าเริง
สถานที่ที่เรียกว่าบาร์หลันกุ้ยฟางเป็นชื่อของบาร์แห่งหนึ่งในเมืองเอกของจังหวัด
เมื่อได้ยินดังนั้น คนในห้องส่วนตัวต่างก็ตื่นเต้นกันขึ้นมา บาร์หลันกุ้ยฟาง มีทั้งสาวฮอตและสาวสวยมากมาย อีกทั้งยังราคาแพงอย่างมาก โดยปกติแล้วคนเหล่านี้ไม่มีโอกาสที่จะได้ไป
หลี่ฝางขมวดคิ้ว และมองไปที่เจ้าหัวแบน “ทำไม หวางเห้ายังไม่มา?”
เพิ่งพูดจบ เสียงโทรศัพท์ของเจ้าหัวแบนก็ดังขึ้น เป็นหวางเห้าที่โทรเข้ามา
“เขามาแล้ว” หลังจากรับสาย เจ้าหัวแบนก็เอ่ย
หลี่ฝางและเจ้าหัวแบนลงไปชั้นล่างเพื่อหาหวางเห้า
หวางเห้าใส่แว่นกันแดด สวมเสื้อกันลมสีดำและขี่มอเตอร์ไซค์มาคนเดียว
ตอนนี้หลี่ฝางรู้สึกพูดไม่ออกไปแล้ว ดึกดื่นแบบนี้ใส่แว่นกันแดดมา? อยากเท่?
หลี่ฝางเดินไปถามว่า “พี่เห้า ทำไมพี่มาที่นี่คนเดียว?”
ในใจของหลี่ฝาง เยียบเย็นลงทันที คนเดียว จะสามารถเอาชนะคนมากมายได้ยังไง?
หวางเห้าหัวเราะและเอ่ย “พวกเขาอยู่ข้างหลัง กำลังขับรถมา ฉันขี่มอเตอร์ไซค์มา ความเร็วของพวกเขาไม่เร็วเท่าฉัน”
“ว่ามา เกิดอะไรขึ้น” หวางเห้าถาม
เจ้าหัวแบนบอกความจริงให้หวางเห้าฟัง หลังจากหวางเห้าฟังจบ ก็เอ่ยขึ้น “พี่โจว ความหมายของคุณก็คือ ห้ามเปิดเผยตัวตนของพี่ชิง ใช่ไหม?”
ถ้าหากไปช่วยหลินชิงชิงโดยตรง ก็จะทำให้ไอ้หน้าบากและคนอื่นๆ สงสัย และรู้ว่าหลินชิงชิงมีคนอยู่เบื้องหลัง
เมื่อสงสัยแล้ว ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องถูกตรวจสอบ
หลี่ฝางคิดแผนในใจ ทันใดนั้นก็เอ่ย “ฉันมีความคิดแล้ว เมื่อครู่พวกเขาชนฉัน ฉันโกหกได้ว่าฉันทำนาฬิกาหาย และถูกคนของพวกเขาขโมยไป”
“ถ้าพวกเขาหานาฬิกาออกมาไม่ได้ อย่างนั้นพวกเราก็สามารถหาเรื่องเขาได้แล้ว” หลี่ฝางกล่าว
“ความคิดไม่เลว เอาตามนี้”
หวางเห้าพยักหน้าและกล่าว
เจ้าหัวแบนซ่อนตัวอยู่ในรถ ไม่ได้ขึ้นไปด้วย แต่เขาบอกไว้ว่าถ้าจำเป็น เขาสามารถสวมหน้ากากขึ้นไป
หลี่ฝางและหวางเห้าขึ้นไปชั้นบนก่อน
หลี่ฝางยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องส่วนตัว และฟังการสนทนาภายในนั้น
“ชิงชิง เธอดูถูกพี่หน้าบากใช่ไหม? พี่หน้าบากของพวกเราขอชนแก้ว แต่เธอกลับไม่กล้าดื่ม?”
“เชื่อหรือไม่ว่าแค่คำพูดของพี่หน้าบากคำเดียว สามารถทำให้ร้านของเธอพังได้?”
หลินชิงชิงเอ่ยอย่างช่วยไม่ได้ “ก็ได้ ฉันดื่ม”
หลินชิงชิงเพิ่งจะยกแก้วขึ้น จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงปึงดังขึ้น เป็นหลี่ฝางที่เตะประตูห้องส่วนตัวออก
เดิมทีเขามีแผนที่เข้ามาหลังจากที่พวกพี่น้องของหวางเห้ามาถึง
แต่ตอนนี้ เห็นชัดว่าหลี่ฝางรอไม่ไหวแล้ว
ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อเห็นหลินชิงชิงถูกรังแก หลี่ฝางก็โกรธมากกว่าปกติ แกทั้งยังมีใจถึงขนาดคิดจะฆ่าขึ้นมาเสียด้วยซ้ำ
“เป็นนาย?”
“ทำไมเป็นนายอีกแล้วไอ้หนุ่ม?”
เมื่อเห็นหลี่ฝางเตะประตูเข้า ทุกคนก็ลุกขึ้นยืน
ไอ้หน้าบากมีท่าทีโกรธขึ้นมาบ้างแล้ว “น้องชาย นายทำแบบนี้หมายความว่ายังไง?”
หลี่ฝางเตะประตูเข้ามา ไม่ได้เปิดเข้ามา แบบนี้มีความหมายหาเรื่องอยู่บ้าง”
“นาฬิกา Rolex ของฉันหายไป”
ทันทีที่เข้ามา หลี่ฝางก็เอ่ย “นั่นคือสิ่งที่พ่อฉันซื้อให้ตอนกลับมาจากคุยธุรกิจที่ยุโรป เป็นเงินหลายแสน”
“ความหมายของนายก็คือ พี่น้องฉันขโมยนาฬิกาของนายไป?” ไอ้หน้าบากมีสีหน้าเย็นชา
“บอกจากพี่น้องของนาย ยังมีใครอีก? เมื่อครู่มันยังอยู่บนมือของฉัน แต่พอพี่น้องนายชนฉันเข้า ฉันลงไปข้างล่างก็พบว่านาฬิกาของฉันไม่อยู่แล้ว” หลี่ฝางเอ่ย
“บอกพี่น้องนายให้คืนนาฬิกาฉันมา ฉันจะไม่เอาเรื่องไม่อย่างนั้น ฉันจะโทรหาตำรวจ” หลี่ฝางพูดและเดินไปหาผู้ชายผมสั้น
ชายผมสั้นคนนี้ก็คือคนที่เมื่อครู่ดื่มมากเกินไปและชนหลี่ฝางเข้าให้
เขามองไปที่หลี่ฝางอยู่นาน “ไอ้หนุ่มแกล้อเล่นกับใครมิทราบ ฉันแค่ชนนายไปแป๊บเดียวเท่านั้น ไม่ได้ขโมยนาฬิกาของนาย”
“พี่หน้าบาก ไอ้เด็กนี่กำลังคิดจะมาต้มผมอยู่ชัดๆ” ชายผมสั้นเอ่ย
“นายไม่ได้เอานาฬิกาของเขาไปจริงๆ?” พี่หน้าบากเองก็ถามพี่น้องตนอย่างสงสับเช่นกัน
ท้ายที่สุด ยังไงเสียหลี่ฝางก็ขับรถหรูราคามากกว่าสองล้าน แค่มองก็รู้ว่าเป็นลูกเศรษฐี ลูกเศรษฐีประเภทนี้ ปกติแล้วไม่มีทางใส่ร้ายคนมั่วซั่ว
“พี่หน้าบาก ผมไม่ได้เอาจริงๆ ถ้าไม่เชื่อก็ลองค้นตัวผมได้” ชายผมสั้นพูดด้วยสีหน้าโดนใส่ร้าย
“น้องชาย นายไปทำนาฬิกาหายที่อื่นรึเปล่า” พี่หน้าบากหันไปมองหลี่ฝาง
“ไม่มีทาง เป็นพี่น้องของนายที่ขโมยนาฬิกาของฉัน” หลี่ฝางยืนยัน
ใบหน้าของพี่หน้าบากเปลี่ยนเป็นเย็นชา “น้องชาย นายมีหลักฐานรึเปล่า? ถ้าไม่มีหลักฐาน ก็อย่ากล่าวหาคนมั่วๆ”
“ใช่ ไอ้เด็กหน้าเหม็น ฉันจะบอกให้ อาหารกินได้ตามอำเภอใจ แต่ปากอย่าได้พูดตามอำเภอใจ ถ้านายกล้าบอกว่าพี่น้องฉันขโมยนาฬิกานายอีก ก็ระวังปากของนายให้ดีๆ” ชายร่างสูงลุกขึ้นยืน
“พี่หน้าบาก” ฉันว่าเขาจงใจแบล็กเมล์พวกเรา
“พี่หน้าบาก พี่ลองดูข้อมือเด็กนี่ มีรอยนาฬิกาที่ไหนกัน เขาไม่ได้มีนาฬิกามาแต่แรก” มีคนตาดีสังเกตเห็น จากนั้นจึงชี้ไปที่ข้อมือของหลี่ฝางและกล่าว
ผู้ที่สวมนาฬิกาเป็นประจำ จะต้องมีรอยบนข้อมือ
“ฮ่าฮ่า น้องชาย นายกล้าไม่เบานี่”
“มาแก้แค้นถึงหัวฉันได้”
มุมปากของไอ้หน้าปากยิ้มเยาะ “คนที่นายพามาข้างหลัง ดูจะคุ้นตาอยู่บ้างนี่”
“ดูเหมือนจะเคยเห็นที่นั่น …”
ไอ้หน้าบากมองไปที่หวางเห้าครู่หนึ่ง จากนั้นก็เอ่ย “จัดการพวกมัน!”
เมื่อไอ้หน้าบากพูดจบ คนทั้งหมดในห้องก็ลุกขึ้นมา และเข้าไปล้อมรอบหลี่ฝางและหวางเห้า