NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 158
บทที่ 158 ไปอยู่บ้านของหลินชิงชิง
“ทำไมถึงได้เรื่องเยอะขนาดนี้วะ! ”
หวางเห้าเหลือบมองไปที่ชายผมสั้นและเอ่ยอย่างไม่พอใจ
โดยปกติแล้ว เงินควรจะมาจากชายผมสั้น แต่หวางเห้าคิดว่า ครอบครัวชายผมสั้น คงไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้น
“พี่เห้า เรื่องผิดพลาดอย่าได้พาลไปถึงครอบครัว หลักการนี้คุณไม่เคยได้ยินหรือไง” ไอ้หน้าบากพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ฉันไอ้หน้าบากคลุกคลีอยู่ข้างนอกนี่มานานหลายปี ไม่เคยทำประโยชน์อะไรให้ครอบครัว แต่ก็ไม่เคยทำให้ครอบครัวต้องมาลำบาก” ไอ้หน้าบากพูดตรงๆ “สายนี้ ฉันไม่โทร”
ไอ้หน้าบากมีสีหน้าเด็ดเดี่ยว ทัศนคติของเขาชัดเจนอย่างยิ่ง เป็นตายยังไงเขาก็จะไม่โทรหาที่บ้าน
หวางเห้าโบกมือและเอ่ย “ช่างเถอะ ไม่ว่าจะใช้วิธีอะไร วันนี้ฉันจะต้องได้เห็นเงิน 400000”
“พวกนายอยากโทรหาใครก็โทร แต่จำไว้สองข้อ ข้อแรก เวลาโทรยืมเงิน เปิดลำโพง ข้อสอง ห้ามให้คนส่งเงินมา เดี๋ยวนี้ก็มีการโอนผ่าน WeChat และ Alipayแล้ว ง่ายจะตาย”
“แต่ว่า ฉันขอเตือนว่าพวกนายควรจะเร่งเวลาหน่อย ลองมองดูพี่น้องของนาย ท้องเขามีเลือดไหลอยู่ตลอดเลยนี่นา” หวางเห้าหัวเราะและพูด “อย่างมากเขาก็อยู่ได้ไม่เกินหนึ่งชั่วโมง”
ไอ้หน้าบากเหลือบมองไปที่หวางเห้า เขาเอ่ย “แกมันเหี้ยมจริงๆ”
หลังจากที่ไอ้หน้าบากติดตามเสีย ก็ไม่เคยถูกใครหาเรื่องขนาดนี้มาก่อน
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ไอ้หน้าบากและพี่น้องก็รวบรวมเงินมาได้ 230000
“พี่เห้า มีแค่นี้” หลังจากไอ้หน้าบากโอนเงินให้กับหวางเห้า เขาก็เอ่ย ปล่อยเราไปสักครั้งเถอะ”
“คิดว่าฉันอยู่ในตลาดสดหรือไง ถึงได้มาต่อรองราคากับฉัน!” หวางเห้ากลอกตาใส่ไอ้หน้าบากไปทีหนึ่ง เขาเอ่ย “เร็วเข้า อย่ามาเสียเวลาของฉัน”
สิบนาทีต่อมา กลุ่มคนเหล่านี้ก็รวบรวมเงินอีก 60000 หยวนสำหรับและให้กับหวางเห้า
ไอ้หน้าบากเอ่ย “พี่เห้า สังคมมีกฎเกณฑ์ เป็นคนทิ้งทางเหลือเอาไว้บ้าง ภายหลังยังอาจได้พบกันอีก ฉันขอเตือนว่านายอย่าได้ทำเรื่องให้มันมากเกินไป”
หวางเห้าเอ่ยในใจ ใครจะไปพบนายกัน พบนายอีกทีไม่ฆ่าฉันหรือไง
“ได้ วันนี้ฉันจะปล่อยนายไปสักครั้ง” หวางเห้าลุกขึ้นและตบไหล่ของไอ้หน้าบาก “เรื่องนี้ พวกเราถือว่าจบกัน”
หลังจากที่หวางเห้าและหลี่ฝางลงไปชั้นล่าง ก็มีคนเอ่ยขึ้นอย่างไม่ยอม “พี่หน้าบาก จะให้เงินเขาไปทั้งอย่างนี้หรือ?”
เงินกว่า 300,000 หยวน ไม่ใช่เงินก้อนเล็ก ๆ ให้หวางเห้าไปแบบนี้ คนอื่นๆ รู้สึกไม่ยินยอมอยู่บ้าง
“วันหลังเจอพี่เสือ บอกพี่เสือไปสักหน่อย ยังไงพวกเราก็รู้ว่าเจ้านั้นเป็นใคร ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะหลบหนี” ไอ้หน้าบากเอ่ย
“เมื่อกี้พวกนายก็เห็นแล้ว หวางเห้ากับพี่น้องเขา ไม่ได้เป็นมิตรอะไร ถ้าพวกเราไม่ยอมให้ไป เกรงว่าหวางเห้าคงไม่ปล่อยพวกเราไปแน่”
“ฉันเคยได้ยินเรื่องคนคนนี้ เจ้านี่มาจากฝั่งตงไห่ พวกเขาดุร้ายมากเสียจนแม้แต่เจ้าถิ่นก็ยังเอาไม่อยู่”
“ยังมีไอ้เด็กเปรตนั่น อายุยังน้อยแต่ขับเบนซ์G-Class ไม่รู้ว่ามีความเป็นมายังไง”
“จำทะเบียนรถเขาเอาไว้ ไปตรวจสอบดู …”
ไอ้หน้าบากพูดจบ ใบหน้าก็มีร่องรอยของความเหี้ยมเกรียมพาดผ่าน
เขาไม่เคยคิดว่า ในเขตของตนเองแบบนี้ตนเองจะถูกแบล็กเมล์
“อ้อใช่ เรื่องวันนี้อย่าไปบอกใคร” ไอ้หน้าบากเอ่ย
จากนั้น กลุ่มไอ้หน้าบากก็ลงไปชั้นล่าง
“เจ้าพาน วันนี้นายทำเงินได้เท่าไหร่?” เมื่อเห็นเจ้าพานที่ชั้นล่าง ไอ้หน้าบากก็เริ่มหัวเราะ
“พี่หน้าบาก วันนี้การค้าไม่ดี ยังไม่ได้เงินทุนเลย” เจ้าพานได้ยินคำพูดนี้ เนื้อตัวก็สั่นขึ้นมา
เจ้าพานรู้ว่า ไอ้หน้าบากกำลังจะไถเงินตนอีกแล้ว
“งั้นหรือ?” ไอ้หน้าบากเดินไปที่เคาน์เตอร์และเปิดลิ้นชักเงินออกโดยตรง
“ไอ้เวรเอ้ย วันนี้ได้แค่นี้เองหรอวะ?” สีหน้าของไอ้หน้าบากดูไม่ได้อยู่บ้าง
“พี่หน้าบาก นี่เป็นของสองวัน”
ไอ้หน้าบากยื่นมือออกไปคว้าเอาไว้ ไม่เหลือแม้กระทั่งเศษให้เจ้าพาน
“ไอ้เวรเอ้ย ตาแก่นี่ โง่จริงๆ ไอ้ซื้อเนื้อหมูและเนื้อหนูราคาถูกแล้วเอามาทาน้ำมันแกะสักหน่อย แบบนี้ก็ได้เงินแล้วไม่ใช่หรือไง? ทำไมจะต้องมาใช้เนื้อแกะบริสุทธิ์ด้วย! ” ไอ้หน้าบากกลอกตาใส่เจ้าพานแล้วจึงเดินจากไป
หลังจากออกมา ไอ้หน้าบากก็ยัดเงินใส่มือเจ้าชายผมสั้น “รับไปโรงพยาบาลเถอะ ดูหน้านาย ไม่มีเลือดเหลือแล้ว”
……
ในเบนซ์G-Classคันใหญ่ หลี่ฝาง หลินชิงชิง หวางเห้าและเจ้าหัวแบน ทั้งหมดกำลังนั่งอยู่ในนั้น
“พี่เห้า พี่ไม่กลัวเหรอว่าไอ้หน้าบากจะมาแก้แค้น?” หลี่ฝางถามด้วยความกังวล “เขารู้จักตัวตนของพี่แล้ว”
“มีอะไรต้องกลัว ก็แค่พวกขี้แพ้ ถ้ากล้าไปหาฉัน ฉันจะจัดการฆ่าพวกมัน” หวางเห้าเอ่ยด้วยสีหน้าไม่ใส่ใจ
“ถ้าพวกเขาเรียกตำรวจล่ะ? ” หลินชิงชิงเอ่ยขึ้น “ยังไงพวกนายก็เข้าข่ายต้องสงสัยว่ามีการขู่กรรโชก”
“แจ้งตำรวจคงไม่น่าจะเกิดขึ้น ไอ้หน้ายากเป็นลูกค้าประจำที่ศูนย์อาบอบนวดของเรา พื้นเพก็ไม่ได้สะอาดอะไร ไม่มีทางกล้าไปแจ้งตำรวจแน่ อีกทั้งเรื่องบนท้องถนน แก้ปัญหาบนท้องถนน ไปแจ้งตำรวจ เท่ากับทำลายกฎ” หวางเห้าเอ่ย “นอกจากว่าเจ้านั่นไม่คิดจะอยู่ในวงการแล้ว”
“อย่างนั้นนายเองก็ใจดำไม่เบา พริบตาเดียวก็หลอกแบล็กเมล์เจ้าพวกนั้นไปมากกว่า 300,000” หลินชิงชิงเอ่ย
“อันที่จริง ฉันเองก็อยากสั่งสอนคนพวกนี้ไปตั้งนานแล้ว พี่สาวในศูนย์อาบอบนวด ต่างก็รู้สึกแย่ๆ กับไอ้เจ้าพวกนี้ โดยเฉพาะไอ้หน้าบาก มันเป็นพวกโรคจิต”
“ถ้าไม่ใช่เพื่อนฉันบอกว่าทำการค้าจะต้องประนีประนอมเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่งั้นฉันคงจัดการพวกมันไปตั้งแต่ที่ศูนย์อาบอบนวด แล้ว” หวางเห้าเอ่ยอย่างโมโห
ยังมีเรื่องนี้อยู่นี่เอง
หลี่ฝางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พี่เห้า ครั้งนี้เป็นหนี้พี่ครั้งใหญ่แล้วจริงๆ”
หวางเห้าหัวเราะและเอ่ย “ยังมีเรื่องอื่นอีกไหม? ถ้าไม่มีแล้ว ฉันต้องกลับไปแล้ว ศูนย์อาบอบนวดไม่มีฉันไม่ได้”
“ได้ อย่างนั้นพี่ขับช้าๆ หน่อยล่ะ”
หวางเห้าสวมแว่นกันแดด จากนั้นก็ขี่มอเตอร์ไซค์ออกไป
“ผู้ชายคนนี้ ดึกดื่นใส่แว่นกันแดด จะมองเห็นถนนได้ชัดเจนหรือไงกัน?” หลินชิงชิงส่ายหัว พูดไม่ออกอยู่บ้าง
หวางเห้าเพิ่งจะจากไป เจ้าหัวแบนเองก็เอ่ยขึ้น “ฉันเองก็สมควรกลับไปแล้ว”
“ถ้ายังไม่กลับไป มู่เสี่ยวไป๋ก็อาจจะสงสัยฉัน เมื่อกี้เขาโทรหาฉันหลายครั้งแล้ว แต่ฉันไม่กล้ารับ” เจ้าหัวแบนเอ่ย
“ผมไปส่งพี่ไหม?” หลี่ฝางถาม
“ถ้านายอยากตาย ก็ไปส่งฉัน” เจ้าหัวแบนล้อเล่น จากนั้นจึงเรียกแท็กซี่ออกไป
เมื่อเหลือแค่หลินชิงชิงและหลี่ฝาง หลินชิงชิงก็เอ่ยปาก “เสี่ยวฝาง ตอนนี้นายมีเงินสดรึเปล่า?”
“มี”
หลี่ฝางเอ่ย “ใต้ก้นพี่มีแต่เงิน เชื่อไหม?”
หลินชิงชิงยกบั้นท้ายขึ้น ใต้เบาะที่ตนเองนั่ง เต็มไปด้วยกองเงินเป็นฟ่อนๆ
“ใช้ได้นี่ เก่งขึ้นมาบ้างแล้ว แม้แต่พี่สาวก็ยังกล้าแซว” หลินชิงชิงถลึงตาใส่หลี่ฝาง
“พี่สาว ผมแซวพี่ที่ไหนกัน” หลี่ฝางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“นายบอกว่าใต้เบาะมีเงินก็ได้แล้วไม่ใช่หรือไง? ทำไมต้องบอกว่าใต้ก้นฉันด้วย” หลินชิงชิงพูดอย่างเคืองๆ
“ก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ?” หลี่ฝางลูบหลังศีรษะของเขาและหัวเราะ
“เอาเถอะ ฉันจะเอาไปให้เจ้าพาน ที่บ้านพวกเขาลำบากไม่น้อย” หลินชิงชิงกล่าว
หลี่ฝางไม่ปฏิเสธ ท้ายที่สุดแล้วเขาไม่ได้ขาดแคลนเงินแต่อย่างใด
“ชิงชิง นี่เธอกำลังทำอะไร? ”
เมื่อมองไปที่หลินชิงชิงเดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับเงินสดสองกองในมือ เจ้าพานก็ตะลึงไป
“ลุงพาน เงินนี่คุณเอาไปเถอะ ถือค่าชดเชยร้านคุณที่เสียหายไป” หลินชิงชิงวางเงินบนเคาน์เตอร์
“ลุงพาน คุณอย่าได้เกรงใจไป หลิงหลิงไปโรงเรียน ก็ต้องใช้เงินไม่ใช่หรือ?” ลุงพานคิดจะคืนเงินให้หลินชิงชิง แต่หลินชิงชิงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“อ้อใช่ ไอ้หน้าบากมาแย่งเงินคุณไปทุกวัน ทำไมคุณไม่ไปแจ้งตำรวจ?” หลินชิงชิงถาม
“แจ้งตำรวจ? แจ้งอะไรกัน เจ้านั่นมีกำลังมากขนาดนั้น ต่อให้ฉันแจ้งตำรวจไป เกิดมันจับได้ขึ้นมา พวกมันคงไม่ปล่อยฉันไปแน่” เจ้าพานพูดอย่างขมขื่น “ถ้าแจ้งตำรวจไป ร้านนี้ คงเปิดต่อไปไม่ได้แล้ว”
“ฉันเป็นแค่สามัญชนตัวเล็ก ๆ เท่านั้น ไหนเลยจะไปทำให้ลูกพี่ของพวกอันธพาลนั่นโกรธได้! ”
หลี่ฝางยืนอยู่ที่ประตู ได้ยินประโยคนี้ เขาเองก็รู้สึกไม่สบายใจเช่นกัน
“ช่างเถอะ ทนได้ก็ทนไป” เจ้าพานพูดอย่างหมดหนทาง
หลินชิงชิงส่ายหัวและไม่พูดอะไรอีก
เมื่อออกมาจากร้าน หลินชิงชิงก็เอ่ย “อันที่ไอหน้าบาก เห็นว่าเจ้าพานรังแกง่าย”
“ลูกชายของเจ้าพานล่ะ?”
“นายหมายถึงพ่อของหลิงหลิงหรอ? เฮ้อ ตอนทำงานประสบเข้ากับดินถล่ม คนทั้งคนถูกฝังอยู่ใต้ดินและไม่พบศพด้วยซ้ำ” หลินชิงชิงถอนหายใจ “เถ้าแก่ก็หนีไป เจ้าพานไม่ได้เงินชดเชยอะไรสักแดงเดียว”
หลังจากขึ้นรถ หลินชิงชิงก็เอ่ย “ดึกขนาดนี้แล้ว นายไม่ต้องกลับไปตงไห่แล้ว ไปที่บ้านของฉันแล้วกัน