NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 159
บทที่ 159 สายจากจางกงหมิง
หลี่ฝางคิดในใจ หลินชิงชิงหมายถึงอะไร?
เขาและหลินชิงชิงไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ ก็แค่ยอมรับกันไปตามสังคม ชายโสดหญิงโสดมาอยู่ร่วมห้องกัน แบบนี้ก็ง่ายอย่างยิ่งที่จะเกิดอะไรขึ้นมา
หลี่ฝางลังเลไปชั่วครู่ ก่อนจะตอบรับ
ตนเองเป็นถึงลูกผู้ชาย มีอะไรให้กลัวกัน?
อพาร์ตเมนต์ของหลินชิงชิง มองดูแล้วไม่เลวทีเดียว
“ห้องของพี่เป็นไงบ้าง?” หลินชิงชิงถาม
“เล็กเท่านกกระจอก แต่มีทุกอย่างครบ” หลี่ฝางกวาดตามอง มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และห้องครัวแยกเป็นอิสระ
“มีแค่ห้องเดียวเหรอ” จู่ๆ หลี่ฝางก็ตระหนักได้ถึงความผิดปกติ
“ใช่สิ” หลินชิงชิงพยักหน้า
“แล้วผมจะนอนที่ไหน?”
“โซฟา” หลินชิงชิงชี้ไปที่โซฟาและพูด “แน่นอน ถ้านายไม่กลัวว่าฉันจะกินนาย นายก็สามารถนอนกับฉันได้”
หลินชิงชิงทำงานมาทั้งวัน ท่าทางดูเหนื่อยอย่างยิ่ง
เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ และเอ่ยเตือนหลี่ฝาง “อย่าแอบมอง!”
หลี่ฝางนั่งอยู่บนโซฟาด้วยความตื่นเต้นอยู่บ้าง…
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ยินเสียงของน้ำ ก็ยิ่งทำให้หลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะหันไปแอบมองดู….
กระจกห้องน้ำเป็นฝ้า แม้ว่าจะทึบแสง แต่กลับยังสามารถเห็นโครงร่างคร่าวๆ ได้
หลังจากอาบน้ำเสร็จ หลินชิงชิงก็ออกมาจากห้องน้ำ บนตัวมีเพียงแค่เสื้อคลุมอาบน้ำเท่านั้น
“เสี่ยวฝาง นายก็เข้าไปอาบน้ำสักหน่อยเถอะ”
หลังจากหลินชิงชิงออกมา เธอก็พูดกับหลี่ฝาง
หลี่ฝางคิด ตนเองก็วิ่งวุ่นมาทั้งวันแล้ว สมควรอาบน้ำสักหน่อย
เมื่อเดินเข้าไปในห้องน้ำ หลี่ฝางก็ได้กลิ่นหอม เขาไม่รู้ว่ามันใช่กลิ่นของหลินชิงชิงที่ยังคงเหลืออยู่หรือไม่
“พี่สาว ผมขอใช้ผ้าขนหนูของพี่ได้ไหม?” หลี่ฝางถาม
“ใช้สิ”
หลินชิงชิงพูดจบ ก็หยุดไปชั่วขณะและเอ่ยเสริมว่า “ใช้เสร็จแล้วฉันทิ้งไปก็ได้แล้ว”
“……” ในใจของหลี่ฝางหดหู่เล็กน้อย เขาใช้มันนิดหน่อยจะเป็นไรไป ตัวเขาไม่ได้สกปรกสักหน่อย?
หลังจากอาบน้ำเสร็จ หลินชิงชิงก็เป่าหัวเสร็จและเข้านอนไปแล้ว
หลี่ฝางมองไปที่โซฟา และหันมองไปที่เตียง เขาไม่รู้ว่าจะเลือกอะไรดี
ประตูห้องนอนหลินชิงชิงเปิดอยู่ กล่าวคือหลินชิงชิงได้อนุญาตให้เขาขึ้นไปนอนได้
“พี่ โซฟาของพี่แคบเกินไป ถ้าผมนอนบนโซฟา ดึกๆ คงต้องตกลงมา”
หลี่ฝางพูดจบ ก็เดินเข้าไปในห้องนอนของหลินชิงชิง “ดังนั้น ผมก็นอนบนเตียงด้วย”
“ไม่กลัวแฟนนายจะรู้แล้วหึงหรือไง?” หลินชิงชิงถาม
“กลัวอะไร” หลี่ฝางหัวเราะ เรื่องแบบนี้ ตัวเองจะให้ลู่หลุ่ยรู้ได้อย่างไร
เขาไม่ได้โง่สักหน่อย
หลี่ฝางยกผ้าห่มขึ้นและสอดตัวเข้าไป
ทันทีที่หลี่ฝางเข้ามา หลินชิงชิงก็เอาหมอนใบหนึ่ง ยัดเข้าไปในผ้าห่ม
“หมอนคือขอบเขต ห้ามข้ามเขต เข้าใจไหม?” หลินชิงชิงเอ่ยเตือนหลี่ฝาง
“พี่ ทำไม กลัวขึ้นมาแล้ว?” หลี่ฝางหัวเราะ
หลินชิงชิงกลอกตาใส่หลี่ฝางและเอ่ย “พี่ไม่ได้กลัว แต่ว่านี่เป็นครั้งแรก”
“จะเอาเปรียบนายไม่ได้”
ไม่รู้ว่าทำไม หลี่ฝางพอได้ยินก็รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก
“อ้อใช่ เสี่ยวฝาง บ้านนายรวยขนาดนั้น นายไม่คิดจะทำอะไรสักหน่อยหรือไง?” หลินชิงชิงหันหน้ามาและมองไปที่ หลี่ฝาง
หลี่ฝางส่ายหัว “ตอนนี้ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้”
“แต่ถังหยู่ซวนเคยบอกว่า บริษัทสื่อทำเงินได้ไม่เลว ดังนั้นผมคิดจะเปิดสักที่” หลี่ฝางกล่าว
“บริษัทสื่อ?”
“ใช่ ก็พวกเซ็นสัญญากับพวกนางแบบ ไอดอล ดาราอะไรพวกนี้ ออกเงินเล็กน้อย ซื้อตัวพวกเขามา รอจนพวกเธอมีชื่อเสียง ก็ปล่อยให้พวกเขาเปิดการถ่ายทอดสด รับการแสดงเชิงพาณิชย์ และเป็นนางแบบ Taobao”
“แปลกใหม่ดี” หลินชิงชิงพยักหน้า “ตอนนี้พวกนี้พัฒนาไปเร็วมาก”
“นอกจากนี้ล่ะ?” หลินชิงชิงถามต่อ
“ไม่มีแล้ว” หลี่ฝางส่ายหัว
“ไม่มีแล้ว?”
หลี่ฝางพยักหน้าและกล่าวว่า “ใช่ บาร์ของผมทำกำไรได้หลายล้านทุกวัน ทำไมผมถึงต้องไปเริ่มธุรกิจด้วย?”
“นอกจากนี้ อีกไม่นานรีสอร์ตและสวนสนุกก็จะเปิดแล้ว พวกนั้นล้วนเป็นอุตสาหกรรมของครอบครัวผม”
“ฉันรู้สึกว่า อันที่จริงผมไม่จำเป็นต้องหาเงินเลยสักนิด แค่ต้องใช้เงินก็พอแล้ว”
หลี่ฝางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พี่ ไม่งั้นพี่เองก็ไม่ต้องทำงานแล้ว เกิดไอ้หน้าบากมาหาเรื่องพี่อีกจะทำยังไง? ยังไงผมก็มีเงิน เลี้ยงพี่ได้”
“เจ้าพานทำคนเดียวไม่ไหว ฉันต้องไปช่วย วันนี้ไอ้หน้าบากเสียเปรียบไปขนาดนั้น ช่วงไม่กี่วันนี้คงไม่มาที่ร้านบาร์บีคิวหรอก เห็นที เขาคงยุ่งอยู่กับการหาทางแก้แค้นหวางเห้ามากกว่า” หลินชิงชิงกล่าว
“หวางเห้าจะเกิดเรื่องไหม?”
“ถ้าไอ้หน้าบากสามารถเชิญให้เสือมาออกหน้าให้ได้ แบบนี้หวางเห้าก็คงจะรับมือยากมาก เพราะยังไงเสียในเมืองเอกของจังหวัด เสือมีอำนาจมากและฝังรากลงลึก หวางเห้าที่เพิ่งจะมาถึงที่นี่ ย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเสือ”
หลังจากหลี่ฝางได้ฟังก็รู้สึกกังวล
ท้ายที่สุดเรื่องนี้ก็เป็นความผิดของหลี่ฝาง ถ้าหวางเห้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริงๆ ก็เท่ากับว่าตนไปทำให้เขาพลอยลำบาก
“นายกลัวหวางเห้าเกิดเรื่อง?”
“ใช่ ยังไงเขาก็เป็นคนดี อีกทั้งยังช่วยเหลือพวกเราด้วย” หลี่ฝางกล่าว “พี่ พี่คิดว่าผมสามารถช่วยหวางเห้าได้ไหม?”
“นายต้องการช่วยเขาจริงๆ หรือ?” หลินชิงชิงยิ้ม
“ใช่”
“ถ้าอยากช่วยเขา ง่ายมาก ก็แค่ให้เงินเขา” หลินชิงชิงหัวเราะ “ในสังคมนี้ เรื่องต่างๆ ส่วนใหญ่ สามารถตัดสินได้ด้วยเงิน๐
“หวางเห้าเป็นคนที่มีความสามารถ ไม่เลวไปกว่าลูกพี่ลูกน้องของฉัน ด้วยการสนับสนุนของมู่เสี่ยวไป๋ ลูกพี่ลูกน้องของฉันสามารถสร้างชื่อในเมืองเอกของจังหวัดได้ในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้น”
“ถ้าคุณยินดีที่จะเป็นนายทุนให้กับหวางเห้า ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่เขา ฉันเชื่อว่าหวางเห้าเองก็สามารถคนคุมเมืองเอกของจังหวัดได้เช่นกัน”
หลินชิงชิงเอ่ยขึ้นมา หลี่ฝางก็ตาสว่างทันที “พี่ ขอบคุณมาก”
“ขอบคุณอะไร?”
“อันที่จริง ผมก็อยากทำอะไรสักอย่างเหมือนกัน เพียงแต่ผมอายุยังน้อย ประสบการณ์ในสังคมนี้ก็น้อย ก็เลยยังไม่รู้ว่าต้องทำอะไร”
หลี่ฝางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เมื่อกี้ที่พี่พูด ผมก็รู้แจ้งขึ้นในทันที แม้ว่าผมจะไม่มีประสบการณ์ในสังคม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะไม่มี”
“เช่นเดียวกับหลิวปัง แม้ว่าเขาจะไม่มีความสามารถอะไร แต่ในมือเขาก็มีหานซิ่น จางเหลียง เซียวเหออยู่ เขาก็กลายเป็นจักรพรรดิได้เหมือนกันไม่ใช่หรือ?”
“อย่างนั้น ผมก็จะให้หวางเห้าเป็นหานซิ่น ช่วยผมเอาชนะใต้หล้า” หลี่ฝางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลี่ฝางคิดในใจ หวางเห้าสามารถต่อสู้ได้ แถมยังโหดเหี้ยมมากพอ อีกทั้งลูกน้องของเขา ก็ภักดีต่อเขา
หวางเห้าคนนี้ อันที่จริงขาดก็แค่โอกาสเท่านั้น ขอแค่มีโอกาส จะต้องติดปีกโบยบินแน่
“หลิวปังสามารถควบคุมหานซิ่นได้ แต่นายคิดว่านายสามารถควบคุมหวางเห้าได้หรือ? เมื่อกี้ฉันบอกไปแล้ว หวางเห้าเก่งมากพอกับลูกพี่ลูกน้องของฉัน”
“แม้ว่าตอนนี้จะยังทำไม่ได้ แต่ผมก็เชื่อว่าหวางเห้าไม่ใช่คนที่กินบนเรือนขี้รดบนหลังคา” หลี่ฝางเอ่ย
หลี่ฝางรู้สึกว่าหวางเห้ามีความภักดีอยู่ไม่เลว
“รู้หน้าไม่รู้ใจ เสี่ยวฝาง นายอย่าได้ไว้ใจคนคนหนึ่งมากเกินไป” หลินชิงชิงกล่าว
“เหมือนลูกพี่ลูกน้องของฉัน ฉันอยู่เมืองเอกมานานขนาดนี้แล้ว ยังไม่กล้าติดต่อเขาเลย” หลินชิงชิงกล่าวด้วยสีหน้าซับซ้อน
“ทำไม พี่กลัวพี่หมิงจะหักหลังพี่หรือ?” หลี่ฝางถาม
หลินชิงชิงพยักหน้า “เขาแตกต่างจากเสี่ยวโจว เสี่ยวโจวไร้ทางเลือก ถึงได้ต้องทำตามมู่เสี่ยวไป๋”
“แต่ลูกพี่ลูกน้องของฉัน เขาอาสาที่จะติดตามมู่เสี่ยวไป๋”
หลินชิงชิงขมวดคิ้ว “และเขาเองก็รู้ว่าฉันเกลียดมู่เสี่ยวไป๋มาก”
“จางกงหมิงติดตามมู่เสี่ยวไป๋ ฉันกับมู่เสี่ยวไป๋ก็ยิ่งมีความเกี่ยวพันกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคตหากจะตัดขาด ก็จะยิ่งยากขึ้นเรื่อย ๆ ที่เช่นกัน”
“พ่อของฉันสามารถเป็นลูกพี่ใหญ่ของตงไห่ได้ มู่เสี่ยวไป๋ก็ช่วยไปไม่น้อย ดังนั้นพ่อของฉันจึงผลักดันฉันให้มู่เสี่ยวไป๋”
หลินชิงชิงพูดไป ดวงตาก็ชื้นขึ้นเล็กน้อย “หลาย ๆ ครั้ง ฉันไม่เข้าใจเลยว่า สรุปแล้วฉันเป็นลูกสาวของเขาหรือเครื่องมือของเขากันแน่?”
หลี่ฝางนิ่งเงียบไปชั่วขณะ
ท้ายที่สุดแล้ว การถูกคนคนสนิทเครือญาติทรยศ ถือเป็นการหักหลังครั้งใหญ่ที่สุดต่อคนๆ หนึ่ง
และเรื่องแบบนี้ พบได้บ่อยที่สุดในครอบครัวที่เศรษฐี
ในเวลานั้นเอง โทรศัพท์ของหลี่ฝางก็ดังขึ้น มันคือหมายเลขของจางกงหมิง
“พี่…”
หลี่ฝางถามหลินชิงชิง “สายของจางกงหมิง พี่ว่าผมรับดีไหม?”
“เขาโทรหานายบ่อยหรือ?”
หลี่ฝางส่ายหัว “ตั้งแต่เขาหนีไป นี่เป็นครั้งแรกที่เขาติดต่อผม”
“อย่างนั้นก็รีบรับเถอะ เขาจะต้องมีเรื่องอะไรสำคัญที่ต้องตามหานายแน่” หลินชิงชิงกล่าว
หลี่ฝางพยักหน้าและกดปุ่มรับสาย
“พี่หมิง?”
“ฉันเอง” จางกงหมิงเอ่ย “เสี่ยวฝาง ฉันถามนายหน่อย วันนี้นายไปต่อยตีมู่เสี่ยวไป๋มาใช่ไหม?”
“ใช่ มีอะไรหรือ?” หลี่ฝางพยักหน้า
“มู่เสี่ยวไป๋ต้องการแก้แค้น เขาให้ฉันมาจัดการกับนาย” จางกงหมิงเอ่ย