NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 160
บทที่ 160 ผมจะเหยียบมู่เสี่ยวไป๋เอาไว้ใต้เท้า
มู่เสี่ยวไป๋ไอ้เวรนี่ ชั่วร้ายเสียจริง เขาเองก็รู้ว่าตนสนิทกับจางกงหมิง แต่กลับให้จางกงหมิงมาจัดการเขา
หลี่ฝางขมวดคิ้ว ใบหน้าเคร่งเครียด “พี่หมิง แล้วพี่ว่ายังไง?”
“พี่เชื่อฟังหรือไม่เชื่อฟังเขา?” หลี่ฝางถาม
“เสี่ยวฝาง ฉันรู้ว่านายจะมาที่เมืองเอกของจังหวัดเพื่อเรียนมหาวิทยาลัยในวันมะรืนนี้ ถ้านายยังนับถือฉันเป็นพี่ชาย นายก็อย่าได้มาเลย” จางกงหมิงกล่าวว่า “ขอแค่นายไม่มาเมืองเอก ฉันก็จะไม่แตะต้องนาย”
“แล้วถ้าผมไปเมืองเอกของจังหวัดล่ะ?” หลี่ฝางถาม
“เสี่ยวฝาง อย่าทำให้ฉันต้องลำบากใจเลย มู่เสี่ยวไป๋เป็นเจ้านายของฉัน”
เมื่อหลี่ฝางได้ยินดังนี้ เขาก็วางสายโทรศัพท์ลงทันที
หลี่ฝางไม่อยากจะเชื่ออยู่บ้าง ว่าจางกงหมิงจะสามารถพูดจาแบบนี้ได้ นี่คือจางกงหมิงจริงหรือ? แทบจะกลายเป็นคนละคน
“เกิดอะไรขึ้น?” เมื่อเห็นว่าสีหน้าของหลี่ฝางไม่ถูกต้อง หลินชิงชิงจึงถาม
หลี่ฝางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไอ้ลูกหมามู่เสี่ยวไป๋ ถึงกับกล้าส่งจางกงหมิงมาจัดการกับผม”
เมื่อหลินชิงชิงได้ยิน สีหน้าก็เปลี่ยนไป “การเคลื่อนไหวของมู่เสี่ยวไป๋ครั้งนี้ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ทางหนึ่งจัดการกับนาย อีกทางหนึ่งก็ทดสอบจางกงหมิง”
“เพื่อสนับสนุนจางกงหมิง มู่เสี่ยวไป๋ลงทุนลงแรงไปไม่น้อย ถ้าหากใจของจางกงหมิงไม่ไปทางเขา แบบนั้นเขาก็เสียเปรียบครั้งใหญ่แล้ว”
“เขาทำแบบนี้ ก็เพื่อทดสอบความภักดีของจางกงหมิงที่มีต่อเขา หลินชิงชิงวิเคราะห์
หลี่ฝางเองเข้าใจเจตนาของมู่เสี่ยวไป๋ จางกงหมิงเองก็ยิ่งเข้าใจดี
ที่หลี่ฝางโกรธก็คือ จางกงหมิงเองก็ตอบรับด้วย
หรือว่า จะเป็นอย่างที่หลินชิงชิงกังวลจริงๆ จางกงหมิงไม่ใช่คนที่น่าไว้วางใจอีกต่อไป?
“จางกงหมิงพูดว่าอะไร?” หลินชิงชิงมองไปที่การแสดงออกของหลี่ฝาง ในใจมีคำตอบอยู่แล้ว
“จางกงหมิงบอกว่า ตราบใดที่ผมไม่มาเมืองเอกของจังหวัด เขาก็จะไม่ลงมือกับผม” หลี่ฝางพูดไม่ออก “แต่ว่าผมต้องไปโรงเรียนในวันมะรืนนี้เพื่อรายงานตัวแล้ว”
“ผมคงจะมากลัวมู่เสี่ยวไป๋ จนแม้กระทั่งมหาลัยก็ไม่เรียนแล้วไม่ได้หรอกมั้ง?”
หลี่ฝางมองไปที่หลินชิงชิงอย่างไม่แน่ใจและเอ่ยถาม “พี่คิดว่าจางกงหมิงเอาจริงไหม หรือแค่ขู่ผมเท่านั้น?”
หลินชิงชิงส่ายหัวและเอ่ย “ฉันไม่รู้”
“ผู้ชายมากมายที่หลงใหลในอำนาจ จนกระทั่งมากกว่าผู้หญิงด้วยซ้ำ พ่อของฉันก็เป็นคนที่หลงใหลในอำนาจนั้น เพื่อที่เขาจะได้เป็นพี่ใหญ่ของเขตเมืองตะวันตก ไม่เพียงแต่เอาฉันเป็นเครื่องมือแลกเปลี่ยน แม้กระทั่งจางกงหมิง ที่เติบโตมากับพ่อของฉัน ก็ได้รับอิทธิพลนั้นมาด้วย เขาเองก็อยากเป็นพี่ใหญ่”
“ฉันจำได้ว่าหลายปีก่อน จางกงหมิงก็คิดจะจัดการกับลูกพี่หลี่แล้วเขามุ่งหน้าไปถึงเขตเมืองตะวันออก แต่ว่าพ่อของฉันคอยห้ามเขามาไว้ไม่ให้ทำแบบนั้น”
“ต่อมาลูกพี่หลี่เสียชีวิต เขาก็ได้รับตำแหน่งพี่ใหญ่เขตเมืองตะวันออกไป”
“ต่อมา จางกงหมิงฆ่าต้าเฉียง แต่ว่าทั้งสองคนนี้ ล้วนถูกอู๋เฟยหมายหัวเอาไว้แล้ว ดังนั้นจางกงหมิงจึงไม่เป็นอะไร ฉันสงสัยมาตลอดว่า ทำไมเขาถึงไม่กลับไปที่ตงไห่และเป็นพี่ใหญ่ของตงไห่ต่อ”
“จนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ฉันได้ยินจากเสี่ยวโจวบอกว่า พี่น้องของจางกงหมิงทั้งหมดล้วนมาที่เมืองเอกของจังหวัดแล้ว พวกเขาวางแผนเป็นใหญ่ในเมืองเอกของจังหวัด อีกทั้งมู่เสี่ยวไป๋ก็ช่วยเขาอยู่เบื้องหลัง”
“เสือก็ได้รับการสนับสนุนจากมู่เสี่ยวไป๋ แต่เสือนั้นโอหังเกินไป หลายๆ ครั้งที่เขาไม่เห็นมู่เสี่ยวไป๋อยู่ในสายตา ดังนั้น มู่เสี่ยวไป๋จึงวางแผนที่จะสนับสนุนจางกงหมิงขึ้นมาเพื่อปรามเสือไว้”
หลังจากหลินชิงชิงพูดจบ เธอก็มองไปที่หลี่ฝาง “เสี่ยวฝาง ไม่ว่านายจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม ล้วนหนีไม่พ้นการสนับสนุนจากทั้งด้านขาวและด้านดำ”
“ถ้ามีการสนับสนุนจากทั้งขาวและดำ ต่อไปนายทำธุรกิจขึ้นมาก็จะราบรื่น” หลินชิงชิงพูดกับหลี่ฝาง
“ขาว ตอนนี้นายไม่มี แต่ว่านายสามารถพัฒนาดำได้ เมื่อนายไปถึงในระดับหนึ่ง ขาวก็จะมาหานายเอง”
“ก็เหมือนกับพ่อของฉัน เมื่อก่อนเขาไม่รู้จักหม่าเทียน แต่ตอนนี้พอกลายเป็นพี่ใหญ่ของตงไห่ เขากับหม่าเทียนก็เจอกันอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งพ่อของฉันยังเคยได้เจอกับสวีจื่อโห้ด้วย” หลินชิงชิงกล่าว
ลูกพี่หลินเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในตงไห่ ใครก็ไม่กล้าดูถูกเขา
ทันใดนั้น หลี่ฝางก็ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขามองไปที่หลินชิงชิง “พี่ ทำไมผมถึงรู้สึกว่าวันนี้พี่ออกจะผิดปกติอยู่หน่อย!”
“ทำไม?”
“ดูเหมือนพี่จะคอยชี้แนะผมอยู่ตลอด ให้ผมเข้าไปคลุกวงการสีดำ” หลี่ฝางขมวดคิ้วและถาม “พี่ นี่พี่ตั้งใจหรือเปล่า?”
คำพูดของหลินชิงชิงเมื่อครู่นี้ แทบจะเรียกว่าเป็นการชี้ทางให้หลี่ฝาง
หลินชิงชิงยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ซับซ้อนอย่างยิ่ง “ฉันตั้งใจจริงๆ นั่นแหละ ฉันคิดว่าวันหนึ่งนายจะแข็งแกร่งอย่างยิ่ง มีพลังอำนาจมากกว่ามู่เสี่ยวไป๋ ถึงตอนนั้น ฉันก็ไม่จำเป็นต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ แล้ว”
“แบบนี้นี่เอง”
หลี่ฝางหัวเราะ “ได้ พี่ ผมสัญญากับพี่ว่าผมจะเติบโตขึ้นในเวลาอันรวดเร็วที่สุด จากนั้นก็เหยียบมู่เสี่ยวไป๋เอาไว้ใต้เท้า”
หลินชิงชิงหัวเราะพรูด
แต่เดิมผ้าห่มนั้นปกคลุมอยู่ที่หน้าอกของหลินชิงชิงพอดี พอหลินชิงชิงหัวเราะ ก็ทำให้หลี่ฝางเห็นรูปร่างทั้งหมดของเธอ
“หลี่ฝาง จมูกของนายเป็นอะไร?”
หลินชิงชิงพูด จากนั้นจึงลุกขึ้นไปหยิบกระดาษทิชชูมาจากโต๊ะข้างเตียงสองแผ่นแล้วส่งให้กับหลี่ฝาง
ทันในนั้น หลี่ฝางก็ทนไม่ได้อีกต่อไป
“พี่ พี่รับเข้าไปในผ้าห่มเร็ว” หลี่ฝางเอากระดาษทิชชูอุดจมูกขอตน
หลินชิงชิงหน้าแดง จากนั้นก็รีบเข้าไปในผ้าห่ม
“นาย…”
หลินชิงชิงมองไปที่หลี่ฝางอย่างโกรธ ๆ “ทำไมนายถึงได้ไม่ได้เรื่องแบบนี้?”
หลี่ฝางเองก็ไม่คาดคิดว่า ตนเองก็เลือดกำเดาไหลออกมา ได้
ครั้งที่แล้วตอนเห็นหลิวเฉียวเฉียว เขาก็ไม่มีเลือดกำเดาไหลนี่
หรือเป็นเพราะว่าวันนี้ตนกินแกะย่าง?
“พี่…ช่วยเอาให้ผมเพิ่มอีกสองใบได้ไหม….” หลี่ฝางพบว่าเลือดยังคงไหลออกมาจากจมูกของตน….
จากนี้ไปให้ตายยังไงก็ห้ามกินแกะย่างแล้ว ด้วยอายุของเขาตอนนี้ ไฟในตัวแต่เดิมก็ลุกโชนอยู่แล้ว
“ไปเอาเอง” เสียงของหลินชิงชิงไม่พอใจอยู่บ้าง
เมื่อครู่หลินชิงชิงเห็นว่าจมูกของหลี่ฝางมีเลือดออก ก็เลยกังวลไปจนลืมไปว่าตนไม่ได้ใส่เสื้อผ้าอยู่
หลี่ฝางลุกขึ้น และเอื้อมมือไปหยิบกระดาษทิชชู่
ในขณะที่หลี่ฝางกำลังคว้ากระดาษทิชชู่ เลือดก็ไหลหยดออกมาจากจมูกของเขา
หลี่ฝางเอื้อมมือไปห้ามเลือดกำเดาไม่ให้ตกใส่ตัวของหลินชิงชิง…
แต่สุดท้าย หลี่ฝางกลับจับลงไปบนตัวของหลินชิงชิงแทน
ในเวลานั้น หลี่ฝางรู้สึกงงงันไปทันที ในขณะที่หลินชิงชิงก็มึนงงไปเช่นกัน
ทั้งสองมองหน้ากันไปมา ไม่กี่วินาทีจากนั้น หลินชิงชิงก็ผลักหลี่ฝางออกอย่างแรงจนหลี่ฝางล้มลงกับพื้น
เสียงตุบดังขึ้น หลี่ฝางล้มลงไปใต้เตียงอย่างแรง
“นาย…นายไม่เป็นไรใช่ไหม?” หลินชิงชิงลดเสียงลง และถาม
หลี่ฝางสูดปากและเอ่ย “นับว่าผมเกือบตายไปแล้ว”
“สมควร” หลินชิงชิงทั้งขำทั้งโกรธ
“ใครใช้ให้มือนายชั่วขนาดนั้น” หลินชิงชิงเอ่ยอย่างเคืองๆ
“ผมไม่ได้ตั้งใจ” หลี่ฝางอธิบายอย่างแห้งแล้ง จากนั้นจึงผ้าห่มขึ้นสอดตัวเข้าไป
แต่ครั้งนี้ ตอนที่หลี่ฝางยกผ้าห่มขึ้น เขาออกแรงไปอย่างหนัก จากนั้นก็แอบมองเข้าไปในผ้าห่ม
ปฏิกิริยาของหลินชิงชิงรวดเร็วไม่น้อย เธอรีบกดผ้าห่มลงทันที
“เจ้าปีศาจตัวน้อย นับวันยิ่งกลายเป็นคนไม่ซื่อสัตย์มากขึ้นเรื่อย ๆ “ หลินชิงชิงจ้องไปที่หลี่ฝาง
“ถ้านายทำแบบนี้อีก ก็ออกไปนอนโซฟาเถอะ” หลินชิงชิงขู่
หลี่ฝางที่ถูกมองออกก็อย่างยิ้มเก้อเขิน เขาสอดตัวเข้าไปในผ้าห่ม และไม่กล้าขยับมั่วซั่วอีก
“เสี่ยวฝาง หุ่นของฉันเป็นไง?”
หลังจากเงียบไปนานกว่าสิบนาที หลินชิงชิงเป็นฝ่ายแรกที่เริ่มทำลายความเงียบ
หลี่ฝางพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม “พี่ รูปร่างของพี่สุดยอดมาก”
“นาย!” หลินชิงชิงหันหน้ากลับมา และเอื้อมมือไปหยิกเอวหลี่ฝางเข้า
หลี่ฝางร้องออกมาด้วยความเจ็บ
“นายเห็นแล้วจริงด้วย” หลินชิงชิงมองไปที่หลี่ฝางด้วยความโกรธ
กับดัก!
หลี่ฝางพูดไม่ออกอยู่บ้าง คำถามเมื่อกี้ ที่แท้ก็เป็นคำถามวัดชะตา
ในเวลานี้เอง ห้องข้างๆ ก็มีเสียงสวบสาบดังขึ้น
หลี่ฝางกลืนน้ำลาย จู่ๆ เขาก็รู้สึกกระหายขึ้นมา “พี่ ฉนวนกันเสียงของชุมชนนี้ออกจะแย่ไปหน่อยนะ”
“ให้”
หลินชิงชิงยื่นที่อุดหูสองอันให้หลี่ฝาง “ใช้ที่อุดหูยัดเข้าหูของนาย จะได้ลดจินตนาการของนายลง”
หลี่ฝางหัวเราะ หลินชิงชิงกลัวขึ้นมาอีกแล้วเหรอ?
หลี่ฝางรับมา จากนั้นก็อุดหูของตน ถึงแต่เขาจะไม่ได้ยินแล้ว แต่หลินชิงชิงกลับได้ยินมันตลอดเวลา
ทันใดนั้น หลินชิงชิงก็พลิกตัวไปมา และนอนไม่หลับอยู่บ้าง
หลี่ฝางเห็นว่าหลินชิงชิงผิดปกติไป เขาเอ่ย “พี่ พี่เป็นอะไร? ท้องไม่สบายใช่ไหม”
“ไปให้พ้น!” หลินชิงชิงถลึงตาใส่หลี่ฝาง “อย่ามาคุยกับฉัน”
หลี่ฝางตะลึงไปชั่วขณะ ตนเองทำอะไรอีกล่ะเนี่ย? เขาไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิด ทำไมถึงยังโดนด่าอีก?
หลี่ฝางกลืนน้ำลาย เป็นอีกหนึ่งคืนที่นอนไม่หลับ