NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 176
คนที่ตกใจกับบัตรแบล๊คการ์ดทั่วโลก ไฉนเลยจะมีเพียงหวางเสี่ยวโก๋
หวงว่างโก๋ ฉินวี่เฟย เหยนเสี่ยวน่า ……
ส่วนคนที่ไม่ได้ตกตะลึงด้วยคือ
ต่อให้ตอนนี้ยัยแว่นกับยายอ้วนจะไม่รู้ว่าแบล๊คการ์ดสื่อความหมายทั่วโลกอย่างไร แต่ทั้งคู่ต่างก็รู้สึกซูฮกหลี่ฝาง
“หลี่ฝางนี่มีเงินจริงๆเลยนะ ตั้งหกแสนกว่า ไม่กระพริบตาเลยแม้แต่น้อย”ยัยอ้วนย้อนนึกภาพตอนที่หลี่ฝางจ่ายเงิน น้ำเสียงออกแนวชื่นชม
นี่แหละมหาเศรษฐี ช่างเอาแต่ใจ
โตมาขนาดนี้ ยัยอ้วนยังไม่เคยเห็นเจ้านายที่มีเงินขนาดนี้
ยัยแว่นแค่นเสียงหัวเราะ“มีเงินอะไรล่ะ ฉันว่าเขาอวดรวยมากกว่า ตัวเองแซ่อะไรยังไม่รู้”
“ก็แค่ซื้อที่ดินมาแปลงเดียวเท่านั้น แค่สามล้านกว่า แล้วก็ซื้อรถหรูไปอีกสองล้านกว่า แล้วก็ข้าวมื้อละห้าหกแสน เป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ถึงอาทิตย์ คนที่ชื่อหลี่ฝาง ก็คงใช้เงินหมดเกลี้ยง”ยัยแว่นขมวดคิ้ว พูดอย่างดูแคลน
เมื่อกี้ตอนอยู่ที่ห้องส่วนตัว หลี่ฝางวู่วาม แถมยังโกหกทุกคน ว่าตัวเองโชคค่อนข้างดี ขายที่ดินสมบัติตกทอดได้มาสามล้าน
จากนั้น จึงใช้เงินสองล้านซื้อรถเบนซ์มาสองคัน
เดิมทีใครๆก็คิดว่าหลี่ฝางเป็นลูกเศรษฐีที่ไหน รู้สึกว่าเขาเก่งกาจมาก แต่ครั้งนี้ ไม่มีใครเหลือความรู้สึกดีๆให้เขาแล้ว
โดยเฉพาะยัยแว่น หล่อนรู้สึกว่าหลี่ฝางยโสเกินไป ก็แค่ขายที่ได้ ก็ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายแบบนี้
แล้วเกิดวันไหนใช้เงินหมดล่ะ
ยัยแว่นกล่าว“ฉันว่านะ หลี่ฝางสู้เสี่ยวน่าไม่ได้ อย่างน้อยบ้านเสี่ยวน่ามีโรงงานผลิตเหล้า ในแต่ละปีมีรายรับเป็นล้าน”
“อย่างหลี่ฝาง ก็แค่รวยทางลัด เงินของเขา ใช้หมดแล้วก็หมดกัน ไม่สามารถงอกออกมาอีก”
“เธอว่าแบบนั้นมั้ยล่ะ เสี่ยวน่า”เห็นคนส่วนมากไม่พูดอะไร ยัยแว่นจึงเริ่มเอ่ยปากถาม เหยนเสี่ยวน่า
เดิมที ความคิดของเหยนเสี่ยวน่า ก็คล้ายๆกับยัยแว่นนี้แหละ
แต่ในตอนที่หลี่ฝางโยนบัตรแบล๊คการ์ดออกไป เธอก็รู้แล้วว่า หลี่ฝางโกหก
แบล๊คการ์ดสามารถแสดงได้ถึงสถานภาพของตน ต่อให้คุณมีเงินกี่ร้อยล้าน ถ้าไม่มีอิทธิพลระดับโลก ก็ไม่มีสิทธิ์ใช้แบล๊คการ์ด
เหยนเสี่ยวน่าพูดอย่างกระอักกระอ่วน“เอาเป็นว่าฉันไม่กล้าใช้เงินแบบนั้นหรอก”
ไม่ใช่ไม่กล้า แต่ไม่มีปัญญาใช้
ข้าวมื้อนึงหกแสน สวรรค์ เงินเบี้ยเลี้ยงของเหยนเสี่ยวน่าในปีนึง ก็ยังไม่ถึงหนึ่งแสนด้วยซ้ำ
ใช้เงินหกแสนเลี้ยงข้าวมื้อเดียว ตลกละ
กลับมาถึงสุ่ยมู่
หลี่ฝางลงจากรถ เมื่อเห็นเหยนเสี่ยวน่าจึงถามขึ้น“ทำไมรถของเธอจึงเข้ามาจอดในมหาวิทยาลัยได้”
“คุณไม่ได้ลงทะเบียนรถยนต์เอาไว้เหรอ”เหยนเสี่ยวน่าหัวเราะแหะๆ“ก็แค่บอกกับรปภ. จ่ายค่าที่จอด ก็เรียบร้อยแล้ว”
“เดือนละร้อย ถูกมากเลย”
“ตอนนี้ที่จอดรถก็มีมากอยู่นะ ตามมาสิ”เหยนเสี่ยวน่ากวักมือเรียกหลี่ฝาง แล้วพาหลี่ฝางไปที่ลานจอดรถ รถมีไม่มาก
รถหรูก็ยิ่งน้อยลงไปอีก
หลี่ฝางจำรถเบนซ์คันนั้นได้ เป็นรถของตู้เฟย
และก็บีเอ็ม ซีรีย์ห้าคันหนึ่ง ไม่รู้ว่าของใคร
นอกจากนี้ก็ไม่มีรถหรูจากที่ไหนอีกแล้ว
ในตอนนี้ เหยนเสี่ยวน่ากล่าว“ที่จริง ลูกเศรษฐีที่สุ่ยมู่ก็มีไม่น้อย เพียงแต่ว่า พวกเขาแค่ไม่ได้อยู่ในหอพักมหาวิทยาลัยก็เท่านั้น แต่เช่าคอนโดพักอยู่ด้านนอก รถก็เลยไม่จอดไว้ในโรงเรียน”
“เท่าที่ฉันรู้ ของหยูเถิงเป็นปอร์เช่911 ราคาล้านกว่า”
“ยังมีสวีเถิงเฟยนั่นอีก รถของเขาคือเบนซ์ลี่ แม้ว่าจะไม่ใช่ชื่อของเขา แต่เขาก็ขับอยู่ ก็ถือว่าของเขาแหละ”
หลี่ฝางขมวดคิ้ว มองดูเหยนเสี่ยวน่า“หยูเถิงกับสวีเถิงเฟย สองคนนี้อยู่มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่เหรอ”
เหยนเสี่ยวน่าพยักหน้า พูด“ใช่น่ะสิ สุ่ยมู่เป็นสถาบันที่ดีที่สุดในมณฑล พวกลูกเศรษฐีท้องถิ่น ถ้าไม่ได้ไปเรียนที่เกียวโต ส่วนมากก็มาเรียนที่สุ่ยมู่”
“อีกอย่าง สุ่ยมู่สำหรับพวกลูกเศรษฐี มีชื่อเสียงมาโดยตลอด ขอแค่นายมีชาติตระกูลที่ดี ต่อให้สอบได้ศูนย์คะแนน ก็มาเรียนที่สุ่ยมู่ได้”
“เพราะงั้นน่ะสิ มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่นอกจากจะรับพวกหัวกะทิแล้ว ก็ยังรับลูกเศรษฐีอีกด้วย”
“อีกอย่างนะ พวกเศรษฐีท้องถิ่น แปดเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ จบที่สุ่ยมู่ทั้งนั้น”เหยนเสี่ยวน่าอธิบายให้ทุกคนฟังแบบนี้มาโดยตลอด
รอจนเหยนเสี่ยวน่าพูดจบ หวางเสี่ยวโก๋ก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจ“พี่ พูดน้อยหน่อย พี่พูดหมดแล้ว ผมจะพูดอะไรกับพวกเขา”
“ได้ งั้นฉันไม่พูดแล้ว”เหยนเสี่ยวน่าพูดจบจึงเงียบปาก
ทุกคนเดินออกมาจากลานจอดรถ เริ่มโอ้อวดกัน
รอจนเหยนเสี่ยวน่าเดินไปไกล เลี่ยวข่ายจึงถามขึ้น “เสี่ยวโก๋ ไอดีวีแชทพี่สาวนายเบอร์อะไร ขอแอดหน่อย”
“ไสหัวไป!”
หวางเสี่ยวโก๋จ้องเลี่ยวข่ายเขม็ง“นายคิดว่าพี่สาวฉันจะมองนายเหรอ”
เหยนเสี่ยวน่าตัวค่อนข้างสูง แต่แน่นอนว่าสูงไม่เท่าฉินหยู่เฟย แต่อย่างน้อยก็สูงถึงร้อยหกสิบห้า ส่วนสูงนี้ สำหรับเด็กสาวแล้ว นับว่าสูง
รูปร่างเธอถือว่าดี โหงวเฮ้งดี และนิสัยร่าเริงใจกว้าง ดูเปิดเผยจริงใจ
ตอนรู้จักใหม่ๆ หลี่ฉางรู้สึกว่าเด็กสาวคนนี้น่ารักดี
ส่วนเลี่ยวข่ายยิ่งสนใจ
แต่ว่าเลี่ยวข่ายทั้งอ้วนทั้งเตี้ย ใช่ว่าหวางเสี่ยวโก๋จะพูดจาไม่น่าฟัง ต่อให้หลี่ฝาง ก็คิดว่าเหยนเสี่ยว
น่าคงไม่น่าจะเหลียวแลเลี่ยวข่าย
“ลดความอ้วนเถอะ รอนายลดความอ้วนสำเร็จ จะต้องเป็นหนุ่มหล่อแน่นอน”หลี่ฝางตบบ่าเลี่ยวข่าย พูดให้กำลังใจคำหนึ่ง
“อืม เจ้าอ้วนของเรามีศักยภาพไม่น้อย”เลี่ยวข่ายพยักหน้าพูด
“น้ำหนักเพิ่มลดได้ แล้วส่วนสูงล่ะ”หวางเสี่ยวโก๋ส่ายหน้าอย่างหมดคำพูด“พี่สาวฉันต่อให้ไม่ใส่ส้นสูง ก็ยังสูงเลยหัวนาย”
ในเวลานี้เอง จู่ๆเหยนเสี่ยวน่าก็วิ่งกลับมา
“พี่ กลับมาได้ไงเนี่ย ลืมของไว้ในรถเหรอ”หวางเสี่ยวโก๋ถามอยากสงสัย
เหยนเสี่ยวน่าส่ายหน้า กวาดตามองหลี่ฝาง
“มาหาผมมีธุระอะไร” หลี่ฝางถามอย่างสงสัย
เหยนเสี่ยวน่ากัดริมฝีปาก พูดอย่างเขินอาย“หลี่ฝาง ฉันแอดวีแชทคุณได้ไหม”
“ได้อยู่แล้ว”
หลี่ฝางหัวเราะแหะๆ พยักหน้า“เรามาสร้างกลุ่มแชทกันเถอะ เดี๋ยวกลับถึงหอพัก คุณดึงเพื่อนเข้ามานะ”
เหยนเสี่ยวน่าพยักหน้ารับ สีหน้าเป็นประกาย
เหยนเสี่ยวน่าคิดในใจ หลี่ฝางพูดแบบนี้ เพราะคงอยากแอดฉินหยู่เฟย
อย่างไรเสีย ในบรรดาผู้หญิงสี่คน เรื่องรูปร่าง มีเพียงฉินหยู่เฟยที่นำเหยนเสี่ยวน่าเท่านั้น
ระหว่างทางกลับหอพัก หวางเสี่ยวโก๋ถ่ายรูปบ่าของหลี่ฝาง“หลี่ฝาง ฉันมั่นใจ พี่สาวฉันกำลังสนใจนาย”
หลี่ฝางยิ้มเขินอาย เงยหน้าขึ้น เห็นลู่หลุ่ย
หลี่ฝางคิดว่าตาฝาดไป เขารีบขยี้ตา เริ่มมองอีกครา
“ลู่หลุ่ยเหรอ”
สีหน้าหลี่ฝางแสดงความดีใจ รีบวิ่งเข้าไป
“รอผมอยู่เหรอ”
หลี่ฝางเห็นลู่หลุ่ยยืนอยู่ด้านล่างหอพักตนเอง ถามอย่างทะนุถนอม“รอนานแค่ไหนแล้ว ทำไมไม่โทรมา”
“หลี่ฝาง หัวเราะอะไร มีอะไรขัดใจนายเหรอ”
คำพูดของลู่หลุ่ย ทำให้สีหน้าหลี่ฝางที่มีรอยยิ้ม แข็งขึ้นทันที
ในเวลานี้ หลี่ฝางรู้สึกตรงหัวใจ ราวกับโดนมีดกรีด เจ็บปวดมาก
“เขาแค่บังเอิญมาส่งฉันที่โรงเรียนเท่านั้น ออกหมัดหนักทำไมเล่า ชกจนฟันร่วงเลยเหรอ”ลู่หลุ่ยพูดอย่างขุ่นเคือง“มีสิทธิอะไรมาใช้อำนาจ”
หลี่ฝางหัวเราะแหะๆ“ถือสิทธิ์อะไรเหรอ พอใจน่ะสิ ได้ไหม”
“ฉันอยากซ้อมใครก็คนนั้น เกี่ยวอะไรกับเธอด้วย เธอมีสิทธิอะไรวิ่งมาก้าวก่าย อีกอย่าง เฉินเสี้ยวเป็นอะไรกับเธอ ก็แค่ฟันหักซี่เดียว ถึงขั้นเธอต้องโร่มาหอพักชายกลางดึกเลยเหรอ รอเป็นเพื่อน เพื่อที่จะมาด่าฉันให้เฉินเสี้ยวนี่นะ”
หลี่ฝางกัดฟันกรอด มองลู่หลุ่ยอย่างเย็นชา
ลู่หลุ่ยได้ยินคำพูดดังนี้ ก็ไม่ตอบเป็นนานสองนาน
ในเวลานี้ หลี่ฝางกำหมัดแน่น ชกลงบนใบหน้าตนเอง“ก็ได้ ฉันชกเฉินเสี้ยวฟันหัก ฉันคืนเขาหนึ่งซี่แล้วกัน”
สวบๆๆ หลี่ฝางกระหน่ำชกตัวเองสามหมัด ชกจนปากตัวเองเลือดออก แต่ฟันกลับไม่เป็นไร
“พอได้แล้ว นี่ทำอะไรน่ะ!”หวางเสี่ยวโก๋รีบวิ่งเข้าไป ดึงหลี่ฝางเอาไว้
ลู่หลุ่ยเห็นหลี่ฝางที่เดือดดาล จึงตกใจจนร้องไห้
“ที่ฉันมาหานาย ไม่ใช่เพราะเฉินเสี้ยว”
ลู่หลุ่ยร้องไห้พลาง ควักบัตรออกมาจากกระเป๋า“ในบัตรนี้มีแสนห้า พ่อฉันบอกให้มอบให้นาย”
“พ่อบอกแล้ว เงินที่เหลือ เขาจะรีบหาทางคืนให้”ลู่หลุ่ยยัดบัตรใส่มือหลี่ฝาง หมุนตัวกลับวิ่งจากไป