NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 188
หวงว่างโก๋กลับเข้าไปในโรงแรม
หลี่ฝางตบบ่าของหวางเห้าเบาๆ: “ช่างเถอะ ในเมื่อชางสู่ไม่ยอมบอกความจริงกับคุณ ต้องเป็นเพราะหวังดีกับคุณแน่นอน”
คำพูดที่หลี่ฝางพูดพวกนี้ หวางเห้าจะไม่เข้าใจได้อย่างไร?
“เพราะผมไม่อยากให้ชางสู่หวังดีกับผมนี่แหละ ครั้งนี้เขาออกไปอย่างเร่งรีบ เห็นได้ชัดว่าเจอกับเรื่องยากลำบากเข้าแล้ว และหวงว่างโก๋พูดออกมาคำหนึ่ง น่าเสียดายแล้ว คำว่าเสียดายนี้หมายความว่าอย่างไร?”
หวางเห้าเป็นห่วงมาก ครั้งนี้ชางสู่จะเกิดเรื่อง
และ ยิ่งชางสู่ปิดบังหวางเห้า ก็ยิ่งแสดงว่าเรื่องนี้มีอันตราย
หวางเห้าอยากไปหาหวงว่างโก๋แล้วถามให้ชัดเจน กลับถูกหลี่ฝางหยุดเอาไว้ หลี่ฝางพูดว่า: “คุณคิดว่าพี่หวงจะบอกคุณเหรอ?”
“ถ้าเขายอมบอก เมื่อกี้ก็บอกกับคุณแล้ว” หลี่ฝางพูด
“ช่างมันเถอะ” หลี่ฝางตบบ่าของหวางเห้าเบาๆ พูดด้วยสีหน้าจนปัญญา
สามารถดูออกได้ว่า ความสัมพันธ์ของหวงว่างโก๋คนนี้กับชางสู่ ก็ดีมากเช่นกัน
ถ้าไม่อย่างนั้น ชางสู่ก็คงจะไม่กินฟรีดื่มฟรีที่โรงแรมว่างโก๋
ความจริงเกี่ยวกับการจากไปของชางสู่ คิดว่านอกจากหวงว่างโก๋แล้ว ก็มีไม่กี่คนที่รู้
หวางเห้าถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ถึงได้ละทิ้งการซักถามไป
หวางเห้ามองดูหลี่ฝาง ถามว่า: “ใช่แล้ว หลิวเหล่าซานคนนั้น เป็นใครกัน?”
“นักต้มตุ๋นน้อย(คนที่โกงตอนเล่นการพนัน)คนหนึ่ง ตอนนี้เป็นเจ้าของห้องคาสิโนอยู่ร้านหนึ่ง ในมือมีลูกน้องอยู่เยอะพอสมควร” หลี่ฝางพูด
หวางเห้ายิ้มออกมาอย่างเหยียดหยาม พูดว่า: “ไป ขึ้นรถ ผมพาคนไปกวาดล้างห้องคาสิโนของเขา”
หลี่ฝางคิดทบทวน ส่ายหน้าแล้วพูดว่า: “ช่างเถอะ ผมคิดว่าหลิวเหล่าซานน่าจะไม่มาหาเรื่องกับผมอีกแล้ว ตอนนี้คุณยังปักธงไม่สำเร็จ ยั่วยุศัตรูให้น้อยดีกว่า”
“เจ้านาย คุณหมายความว่าไง ดูถูกคนใช่ไหม?”
“ก็แค่นักต้มตุ๋นน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ผมใช้มือเดียวก็สามารถจัดการเขาได้แล้ว เชื่อไหม?” หวางเห้าพูดอย่างเหยียดหยามมาก
“หลิวเหล่าซานอยู่ในเมืองเอกนานขนาดนี้ ก็ต้องพอมีความสามารถอยู่แน่นอน อย่าไปดูถูกเขา” หลี่ฝางพูด
“คุณรับมือจางกงหมิงโดยเฉพาะดีกว่า ผมได้ยินว่าจางกงหมิงปักธงสำเร็จแล้ว เป็นเรื่องจริงไหม?” หลี่ฝางมองไปที่หวางเห้าแล้วถาม
“ผมกำลังจะบอกคุณอยู่พอดีเลย จางกงหมิงคนนี้ มันโหดมากจริงๆ ในเมืองเหนือแห่งนี้มีคนที่ชื่อห้าวหนานอยู่คนหนึ่ง ในเมืองเหนือ สามารถพูดได้ว่าอยู่ในระดับของลูกพี่ใหญ่ เมื่อคืนจางกงหมิงคนนี้ทำให้ห้าวหนานกลายเป็นคนพิการไป รับช่วงต่อเขตอิทธิพลทั้งหมดของเขาในชั่วข้ามคืน”
“ถือว่าโด่งดังในชั่วข้ามคืนมั้ง ตอนนี้วงการมาเฟียใต้ดินของเมืองเอก รู้จักเขาจางกงหมิงหมดแล้ว”
หวางเห้ายิ้มออกมา พูดว่า: “เจ้านาย ข่าวนี้สำหรับคุณแล้ว เป็นเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่งเลย”
“นี่ถือเป็นเรื่องดีแบบไหนกัน ตอนนี้เขาติดตามมู่เสี่ยวไป๋แล้ว ถือได้ว่าเป็นศัตรูของผมแล้ว” หลี่ฝางกลอกตามองหวางเห้าแวบหนึ่ง พูดด้วยความโกรธ
“คุณคิดดูสิ ห้าวหนานเป็นลูกพี่ใหญ่วงการมาเฟียใต้ดินมาหลายปีขนาดนี้แล้ว ในมือจะไม่มีลูกน้องที่ภักดีและพี่น้องที่ผ่านความยากลำบากและตายแทนกันได้เลยเหรอ? จางกงหมิงทำให้ห้าวหนานกลายเป็นคนพิการ ทำให้เขาต้องใช้ชีวิตที่เหลือนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยเท่านั้น ลูกน้องของพี่ห้าว และพี่น้องของเขา จะปล่อยจางกงหมิงไปเหรอ?”
“มู่เสี่ยวไป๋อย่างมากก็สามารถช่วยให้จางกงหมิงรอดพ้นจากการลงโทษทางกฎหมาย แต่คนในวงการ มู่เสี่ยวหมิงจะสามารถขัดขวางเอาไว้ได้เหรอ อย่างน้อยที่สุดในหนึ่งเดือนนี้ ชีวิตของจางกงหมิง จะไม่สงบสุขแน่”
“แม้แต่การไปห้องน้ำ เขาคงต้องพาบอดี้การ์ดไปด้วย หรือไม่ก็ต้องคอยระวังตัวอย่างดี”
“ปักธง ไม่เคยเป็นเรื่องที่ง่ายเลย” หวางเห้าพูดด้วยสีหน้าจริงจังหนักแน่น
ความจริงวิธีการปักธง ไม่มีอะไรมากไปกว่าสองวิธี
วิธีการแรก นั่นก็คือค่อยเป็นค่อยไปช้าๆ พัฒนาไปทีละก้าว รอให้เขตอิทธิพลของคุณใหญ่พอแล้ว เวลานานไป คนในวงการก็จะรู้ว่าคุณเป็นใคร
วิธีการปักธงวิธีนี้ ช้ามาก แต่คนส่วนใหญ่ ก็ล้วนแต่จะเลือกวิธีนี้กันทั้งนั้น
วิธีการที่สอง นั่นก็คือการเลือกลูกพี่ใหญ่ในวงการมาเฟีย ยิ่งมีชื่อเสียงยิ่งดี จัดการกับเขา แล้วกินรวบเขตอิทธิพลของเขาเสีย
วิธีการปักธงแบบนี้ เร็วมาก เร็วจนสามารถโด่งดังในชั่วข้ามคืน
แต่มันก็ยากมากเช่นกัน อย่างไรเสียลูกพี่ใหญ่ทุกคน ก็ล้วนมีความสามารถและประสบการณ์มากเพียงพอ อยากกำจัดพวกเขาทิ้งมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด?
ตำแหน่งลูกพี่ใหญ่วงการมาเฟียมากมาย ก็ล้วนแต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ไปสั่นคลอนได้
สาเหตุที่จางกงหมิงสามารถทำสำเร็จได้ หนึ่งเพราะมีมู่เสี่ยวไป๋คอยสนับสนุนเขา สองคือตัวของจางกงหมิงเองก็เป็นคนมีความสามารถคนหนึ่ง
“คุณอยากปักธงอย่างไร?”
หลี่ฝางถามหวางเห้า
“ก็ต้องเหมือนกับจางกงหมิงอยู่แล้ว ดึงธงของเจ้าของเดิมออก เสียบธงตัวเองเข้าไป” หวางเห้าเลิกคิ้ว
หลี่ฝางถามต่อว่า: “มีเป้าหมายหรือยัง?”
“ก็เสือนี่แหละ”
หวางเห้าพูดพร้อมหัวเราะเหอะๆ: “เมืองเอกไม่เหมือนตงไห่ หลายปีมานี้ ก็มีลูกพี่ใหญ่แค่สองคน ลูกพี่หลินคนหนึ่ง ลูกพี่หลี่คนหนึ่ง”
“แต่เมืองเอก ลองนับดูดีๆ มีบุคคลอย่างลูกพี่หลินอย่างน้อยก็มีสิบกว่าคนแล้ว”
“และ แต่ละคนก็ไม่ใช่ตะเกียงที่ประหยัดน้ำมัน(จัดการได้ง่าย) รวมถึงห้าวหนานคนนั้น ก็เป็นด้วยกระดูกที่แทะยากคนหนึ่งเหมือนกัน ผมได้ยินมาว่าครั้งนี้สามารถจัดการกับห้าวหนานของเมืองเหนือได้ ความจริง ลูกพี่หลินออกแรงในที่ลับไปไม่น้อย”
“ดูท่า จางกงหมิงเติบโตอยู่ที่เมืองเอก ลูกพี่หลินยอมรับแล้ว”
หวงเห้ายิ้มออกมาอย่างขมขื่น: “จางกงหมิงคนนี้แม่งมันโชคดีกว่าผม ไม่ได้มีเพียงแต่มู่เสี่ยวไป๋เท่านั้นที่สนับสนุนเขา ยังมีลูกพี่หลินที่คอยสนับสนุนเขาเงียบๆอยู่ข้างหลัง เขาไม่อยากจะประสบความสำเร็จยังยากเลยเนาะ”
“คุณมีผมอยู่ไม่ใช่เหรอ?” หลี่ฝางพูดอย่างไม่ละลาย
“เจ้านาย นอกจากคุณจะสามารถให้เงินผมได้แล้ว ยังให้อะไรผมได้อีก? หรือคุณจะให้ผมเอาเงินไปฟาดหัวของเสือ ให้เขาก้มหัวให้ผม เป็นลูกน้องของผม?”
“นี่เป็นไปได้ไหม?” หวางเห้าพูดเซ็งๆ
“มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าหากตอนนี้ผมถือเงินยี่สิบล้านไปหาเสือ ให้เขามาติดตามผม ผมคิดว่าเขาจะต้องตอบตกลงอย่างแน่นอน” หลี่ฝางพูดพร้อมกับยิ้มไปด้วย
“สุนัขที่เลี้ยงออกมาด้วยเงิน มันจะกัดเจ้าของได้ เจ้านาย คุณคงไม่ได้ไม่รู้แม้กระทั่งเหตุผลข้อนี้หรอกใช่ไหม?”
หวางเห้าพูด: “อีกอย่าง ผมเอาฟาดหัวแล้ว ถึงแม้จะปักธงสำเร็จ ก็จะไม่มีคนยอมรับผม”
“ก็เหมือนมู่เสี่ยวไป๋ ทั่วทั้งตงไห่ ยังมีใครรวยมากกว่าเขาอีก? แต่เขาก็ไม่สามารถเป็นลูกพี่ใหญ่ได้ เจ้าหมอนั่น ก็เป็นแค่ขยะเท่านั้น” หวางเห้ายิ้มออกมาอย่างดูถูก
ข้อนี้ หลี่ฝางก็เห็นด้วยเหมือนกัน
มู่เสี่ยวไป๋เป็นขยะจริงๆนั่นแหละ ตอนที่อยู่รีสอร์ตในตอนนั้น ตัวเองก็สามารถจัดการเขาให้เรียบร้อยแล้ว และยังสามารถปราบเขาได้อยู่หมัด
นี่หมายความว่าว่า มู่เสี่ยวไป๋ไม่มีอะไรน่ากลัวเลย
ที่น่ากลัวจริงๆ คือตระกูลมู่ที่อยู่เบื้องหลังมู่เสี่ยวไป๋
“เจ้านาย เรื่องที่ผมจะจัดการเสือ คุณเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย? ถ้าหากว่าเห็นด้วย ผมจะได้เริ่มเตรียมการ” หวางเห้าถามหลี่ฝาง
อย่างไรเสียหวางเห้าก็เป็นเจ้านายของหวางเห้า ให้ความช่วยเหลือทางการเงินกับเขา
ดังนั้น หวางเห้าทำอะไร ต้องหารือกับหลี่ฝางด้วย
“มั่นใจหรือเปล่า?”
หลี่ฝางชอบเป้าหมายนี้อยู่ เพราะเสือเป็นคนของมู่เสี่ยวไป๋ ถ้าหากสามารถกำจัดเสือทิ้งเสีย ก็เท่ากับถอดแขนของมู่เสี่ยวไป๋ทิ้งไปข้างหนึ่ง
นี่ยังเป็นประโยชน์ต่อการโค่นล้มมู่เสี่ยวไป๋ในอนาคตอีกด้วย
หลี่ฝางเคยรับปากหลินชิงชิง จะใช้เวลาที่สั้นที่สุด เหยียบมู่เสี่ยวไป๋ไว้ใต้เท้า
ดังนั้น กำหนดเป้าหมายไปที่คนของมู่เสี่ยวไป๋ ไม่มีอะไรเหมาะสมไปมากกว่านี้แล้ว
“มีแน่นอนอยู่แล้ว” หวางเห้าตบไปที่หน้าอก พูดด้วยความมั่นใจอย่างมาก
“อย่าประเมินศัตรูต่ำเกินไป ข้างหลังของเสือมีมู่เสี่ยวไป๋สนับสนุนเขาอยู่ คุณจะกำจัดเขาทิ้ง ทางด้านมู่เสี่ยวไป๋ก็คืออุปสรรคอย่างหนึ่ง” หลี่ฝางพูดเตือนหวางเห้า
“วางใจเถอะ เจ้านาย ผมไม่ทำให้คุณผิดหวังหรอก” หวางเห้ายังคงทำหน้าเหยียดหยามแบบนั้น เหมือนกับว่าเสือเป็นสิ่งของที่อยู่ในกระเป๋าเขามานานแล้ว(ได้มาโดยไม่ต้องเสียแรงมาก)
“ลงมือเมื่อไหร่ บอกผมคำหนึ่ง” หลี่ฝางพูดกับหวางเห้า
หวางเห้าพยักหน้า: “งั้นผมกลับไปก่อนแล้ว ทางด้านศูนย์อาบน้ำ ผมต้องคอยดูแลหน่อย อย่างไรเสียชางสู่ไม่อยู่ ก็เหลือผมคนเดียวแล้ว”
หลี่ฝางพยักหน้า โบกมือให้หวางเห้าไปเลย
จากนั้น หลี่ฝางกลับเข้าไปในรถเบนซ์G-Class เวลานี้ หวางเหยาคนนั้นหันหน้าเข้าหาโทรศัพท์มือถือ เปิดการไลฟ์สดอยู่ในรถ
หลี่ฝางคลิกเข้าไปดู มีคนดูอยู่ในไลฟ์สามพันกว่าคน นี่ทำให้หลี่ฝางตกตะลึงไปเลย
เมื่อหลี่ฝางกลับมา หวางเหยาก็ทักทายในห้องไลฟ์สดเสร็จแล้วก็ปิดการไลฟ์สดไปเลยโดยตรง
หลี่ฝางสอบถามไปคำหนึ่ง: “ทำเงินได้เท่าไหร่ล่ะ?”
“ได้รับของขวัญหนึ่งพันกว่า แฟนคลับเพิ่มขึ้นมาหนึ่งหมื่นกว่า ตอนที่พวกคุณต่อสู้กันเมื่อกี้ ฉันแอบไลฟ์สดไปครู่หนึ่ง ผลตอบรับดีมากเลย ถ้าไม่ใช่มีคำเตือนจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการเตือนเข้ามาในไลฟ์สดของฉัน ก็ทะลุหลักหมื่นไปแล้ว” หวางเหยาเบ้ปาก พูดด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
“รอให้บริษัทสื่อการสื่อสารของเราจัดตั้งขึ้นมาแล้ว เราจะจัดเตรียมคนให้ช่วยเพิ่มแฟนคลับให้คุณ ช่วยสร้างความนิยมให้คุณ” หลี่ฝางพูด: “อยู่กับผม ผมรับประกันว่าคุณจะทำเงินได้มหาศาล”
พูดจบ หลี่ฝางก็ส่งหวางเหยากับโจวหยางกลับไป
สุดท้ายหลี่ฝางขับรถกลับไปถึงสุ่ยมู่ เตรียมจะไปคิดบัญชีกับสวีเถิงเฟยในวันที่สอง