NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 190
หลี่ฝางยิ้มอย่างเหยียดหยาม มองไปที่ฉินวี่เฟย
บนตัวหลี่ฝาง ดูแล้วมีมูลค่ามหาศาล
มูลค่าทรัพย์สินหลายแสนล้านของคุณท่านหลี่ ใครสามารถร่วมมือกับตระกูลหลี่ได้ กิจการของตระกูลนั้นก็จะสามารถเจริญรุ่งเรืองดุจดั่งดวงอาทิตย์กลางท้องฟ้า
และคุณท่านหลี่ก็อยู่ไกลถึงต่างประเทศ มหาเศรษฐีลึกลับก็ไม่ยอมปรากฏตัว……
ดังนั้น หลายชายของคุณท่านหลี่ เลยกลายเป็นเป้าหมายในสายตาพวกเขา
ใครได้ตัวหลี่ฝางก่อน ก็เท่ากับว่าคนนั้นมีสิทธิ์ในการกำหนดความร่วมมือกับตระกูลหลี่ก่อน……
ในความจริง มันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
หลี่ฝางถามฉินวี่เฟยคำหนึ่ง: “ฉินวี่เฟย คุณปิดบังฐานะทายาทเศรษฐีของคุณ จุดประสงค์คืออะไร?”
“ใช้ชีวิตตามความเป็นจริง คบหาเพื่อนแท้ที่เป็นเพื่อนกันจริงๆ” ฉินวี่เฟยตอบโดยไม่ต้องคิด
คำถามนี้ ฉินหยู่เฟยถูกถามมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เธอก็ตอบไปนับครั้งไม่ถ้วนเหมือนกัน
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ ถามต่อว่า: “งั้นคุณอยากให้มีคนมาขุดฐานะของคุณออกมาหรือเปล่า?”
ฉินวี่เฟยส่ายหน้า พูดว่า: “ก็ต้องไม่อยากอยู่แล้ว”
“งั้นก็ถูกแล้วไง สิ่งที่ตนไม่อยากทำอย่ายัดเยียดให้คนอื่น เหตุผลข้อนี้ผมเชื่อว่าคุณน่าจะเข้าใจ คุณไม่ต้องการให้คนรู้ฐานะตัวเอง ผมก็ไม่ต้องการเหมือนกัน”
หลี่ฝางหันไปทางฉินวี่เฟย พูดว่า: “เรื่องฐานะของผม คุณรู้คนเดียวก็พอ ผมไม่อยากให้คุณไปบอกคนอื่น รวมทั้งคนในครอบครัวของคุณ ก็ไม่ได้เหมือนกัน”
ฉินวี่เฟยได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าดูลำบากใจเล็กน้อย
“คุณคงไม่ได้บอกความลับเรื่องนี้กับคนในครอบครัวคุณแล้วนะ?” หลี่ฝางขมวดคิ้ว ซักถามด้วยความรู้สึกโกรธเล็กน้อย
“เปล่า” ฉินวี่เฟยส่ายหน้า
หลี่ฝางสูดลมหายใจเข้าอย่างลึกๆเฮือกหนึ่ง พูดว่า: “งั้นก็ดีแล้ว ผมไม่อยากให้ฐานะของตัวเองถูกคนรู้เยอะเกินไป เมื่อเป็นแบบนั้น จะนำพาปัญหามากมายมาให้ผม”
“ปัญหา?” ฉินวี่เฟยรู้สึกไม่เข้าใจเล็กน้อย
ทายาททรัพย์สินหลายแสนล้าน จะมีปัญหาอะไรได้?
“ใช่ ผมกลัวว่าคนในครอบครัวของคุณจะมาประจบสอพลอผม ผมเกลียดคนประเภทนี้ที่สุด จอมปลอม” หลี่ฝางพูด
ได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของฉินวี่เฟย ไม่น่าดูมากยิ่งขึ้นไปอีก
ฉินวี่เฟยขมวดคิ้ว รู้สึกโกรธเล็กน้อย นั่นคือคนในครอบครัวเธอนะ!
ต่อหน้าของฉินวี่เฟย หลี่ฝางไม่เพียงพูดว่าเกลียดคนในครอบครัวของเธอ ยังพูดอีกว่าครอบครัวของเธอจอมปลอม เป็นแต่ประจบสอพลอ
ฉินวี่เฟยจะไม่โกรธได้เหรอ?
นี่ถ้าหากเปลี่ยนเป็นใครก็ตาม ฉินวี่เฟยก็อาจจะเข้าไปตบหน้าเขาสักฉากหนึ่ง
แต่คนคนนี้คือหลี่ฝาง เธอไม่กล้า
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ มองไปที่ฉินวี่เฟยอย่างตลกขบขัน: “ผมว่าคนในครอบครัวคุณแบบนี้ คุณยังไม่โกรธอีก?”
“ถ้าผมเป็นคุณ คงโกรธจนอกแตกตายนานแล้ว แทบอยากจะลงมือทำร้ายคนด้วยซ้ำ”
“คุณนี่อดทนเก่งจริงๆ ไม่พูดอะไรเลยสักคำ”
หลี่ฝางพูดอย่างไม่มีคำจะพูดจริงๆ: “คุณก็จอมปลอมมากเหมือนกัน”
“ผมดูถูกคนในครอบครัวของคุณ คุณกลับไม่กล้าทำร้ายผม เพราะผมเป็นหลานชายของหลี่เจียเฉิน คุณกลัวจะทำให้ผมขุ่นเคือง ทำให้ผมเกิดความไม่พอใจ ดังนั้นถึงแม้ผมจะดูถูกคุณ คุณก็ทำได้แค่อดทนไว้เท่านั้น” หลี่ฝางพูดและยิ้มออกมา
พูดจบ จู่ๆหลี่ฝางก็หันหน้ามา ร่างกายพุ่งมาข้างหน้ากะทันหัน
“คุณทำอะไร?”
หลี่ฝางในเวลานี้ ดันฉินวี่เฟยไปติดอยู่ที่มุมกำแพงมุมหนึ่ง
ดูท่าทางของหลี่ฝาง เหมือนกำลังเล่นลูกไม้ไม่ให้เกียรติผู้หญิง(ลวนลาม)
“ผมอยากจะลองทดสอบขีดจำกัดของความอดทนคุณดู ไม่ว่าผมจะทำอะไร คุณก็ไม่กล้าโกรธ” พูดไป หลี่ฝางก็ก้มหน้าลงไปทางฉินวี่เฟย
นาทีนี้ ฉินวี่เฟยกัดริมฝีปากไว้แน่น ความคิดสับสนไปในทันที
ผลักเขาออก?
หลี่ฝางเป็นถึงหลานชายของหลี่เจียเฉิน ถ้าหากสามารถคบหากับเขาหรือแม้กระทั่งมีความสัมพันธ์กัน งั้นในอนาคตตระกูลฉินอยากสร้างสัมพันธ์แบบร่วมมือกันกับหลี่ฝาง ก็จะง่ายขึ้นมาก
ไม่ผลักออก?
ยอมรับเงียบ ๆ?
ฉินวี่เฟยขมวดคิ้วขึ้นมา เพิ่งจะเคยพบกันสองสามครั้งเท่านั้น ก็ส่งมอบตัวเองออกไป?
สุดท้าย ในช่วงเวลาที่หลี่ฝางใกล้เข้ามา ฉินวี่เฟยยื่นมือออกไปกะทันหัน ผลักหลี่ฝางออกไป
หลี่ฝางสูดลมหายใจเข้าลึกๆเฮือกหนึ่ง ตกใจแทบแย่เหมือนกัน
“เกือบจะจูบไปแล้ว” หลี่ฝางพูดพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์
เสียงดังเพียะที่คมชัดดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง
ฉินวี่เฟยวิ่งเข้ามา ยื่นมือออกไปก็ตบหลี่ฝางไปหนึ่งฉาก: “คุณมันสารเลว!”
เวลานี้ ฉินวี่เฟยโมโหจนเกือบจะร้องไห้ออกมา
นี่เป็นครั้งแรกที่มีผู้ชายมาเอาเปรียบตัวเอง และยังเปิดเผยขนาดนี้
นาทีนี้ จู่ๆฉินวี่เฟยก็รู้สึกว่า หลี่ฝางเหมือนกับทายาทเศรษฐีคนอื่นๆ เป็นคุณชายนักรัก(เพลย์บอย)คนหนึ่ง และเป็นไอ้สารเลวคนหนึ่งเหมือนกัน
หลี่ฝางจับหน้าที่โดนตบของตัวเองเอาไว้ แต่กลับหัวเราะเหอะๆขึ้นมา
“น่าสนใจดี”
มองดูเงาแผ่นหลังของฉินวี่เฟยที่วิ่งหนีไป หลี่ฝางยิ้มออกมา
ถ้าหากเมื่อกี้ฉินวี่เฟยไม่ได้ปฏิเสธ หลี่ฝางอาจจะจูบลงไปจริงๆ
แต่ว่า ถึงแม้ว่าจะจูบฉินวี่เฟยไปจริงๆ หลี่ฝางก็จะไม่รับผิดชอบ
หลี่ฝางอยากจะหยั่งเชิงฉินวี่เฟยดูหน่อย ตกลงเธอมีขีดจำกัดความอดทนหรือเปล่า……
ถ้าหากไม่มีขีดจำกัดความอดทน ตัวเองบอกจะจูบก็จูบ งั้นก็แสดงว่าผู้หญิงคนนี้ ก้มหัวให้กับอำนาจแล้ว ผู้หญิงแบบนี้ ในสายตาของหลี่ฝาง คือคนไม่มีจิตวิญญาณ
ปฏิกิริยาของฉินวี่เฟย ทำให้หลี่ฝางพอใจพอสมควร
ฉินวี่เฟยไม่เพียงแต่ผลักตัวเองออกไป ยังตบตัวเองไปฉากหนึ่ง เพราะความโกรธ
หลี่ฝางไม่ได้เป็นโรคหลงผิดคิดว่าถูกรังแก แต่ถ้าหากฉินวี่เฟยเลือกที่จะเชื่อฟังโดยไม่มีเงื่อนไข เพราะอำนาจของตัวเอง คนแบบนี้ มีความหมายอะไร?
ฉินวี่เฟยที่วิ่งกลับเข้าไปในชั้นเรียน ฟุบอยู่บนโต๊ะร้องไห้ขึ้นมา
เมื่อกี้อีกแค่นิดเดียว อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น จูบแรกของเธอก็จะหายไปแล้ว
นึกถึงการกระทำของหลี่ฝางเมื่อกี้ ฉินวี่เฟยก็โกรธมาก
ถึงแม้จะยังไม่ถูกจูบ ฉินวี่เฟยก็รู้สึกอัปยศอดสูมาก
“วี่เฟย เธอเป็นอะไร?”
ในเวลานี้ เหยนเสี่ยวน่ามาถึงในชั้นเรียน
เธอเห็นฉินวี่เฟยร้องไห้ สะดุ้งตกใจทันที
เหยนเสี่ยวน่าพูดขึ้นมาด้วยความโกรธ: “วี่เฟย ใครรังแกเธอ เธอบอกกับฉันเลย ฉันไปแก้แค้นให้เธอ”
แต่ฉินวี่เฟยเอาแต่ร้องไห้ ไม่ตอบอะไร เหยนเสี่ยวน่าร้อนใจขึ้นมา ตะโกนพูดเสียงดังขึ้นมาในชั้นเรียน: “ไอ้สารเลวคนไหนรังแกฉินวี่เฟย ออกมาเลยนะ!”
“ไม่ใช่คนในห้องเราที่เป็นคนทำ” มีคนพูดขึ้นมา
ฉินวี่เฟยสวยขนาดนั้น สวยเหมือนกับดารา เด็กผู้ชายในห้องของพวกเธอกลุ่มนี้ ประจบประแจงเอาใจยังไม่ทันเลย ไหนเลยจะทำใจรังแกฉินวี่เฟยได้
“หวางตาน ไป เราไปหาไอ้หมอนั่น แก้แค้นให้ฉินวี่เฟย”
ผู้ชายสองสามคนลุกขึ้นมา อยากจะไปคิดบัญชีกับหลี่ฝาง
นี่คือเทพธิดาของพวกเขานะ ร้องไห้ขนาดนี้ ผู้ชายกลุ่มนี้ปวดใจจะตายอยู่แล้ว
แต่ตอนที่พวกเขาวิ่งไปถึงดาดฟ้า หลี่ฝางหนีหายไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งนานแล้ว
“หยุดนะ”
“ผู้ชายกลุ่มนี้เพิ่งเดินไปถึงหน้าประตู จู่ๆฉินวี่เฟยก็เงยหน้าขึ้นมา พูดว่า: “ใครใช้ให้พวกนายไปแก้แค้นให้ฉัน!”
“เทพธิดาก็คือเทพธิดา ร้องไห้จนหน้าตามอมแมมก็ยังสวยขนาดนี้”
“นี่สวยกว่าเน็ตไอดอลในแอพไขว่โส่วมาก ถึงแม้ว่าดาวมหาลัยฉินจะไม่แต่งหน้าเลย ความสวยของหน้าตายังสามารถฆ่าพวกเธอได้เลย”
ผู้ชายจนๆสองสามคนมองไปที่ใบหน้าของฉินวี่เฟย ตกอยู่ในความหลงใหลอีกครั้ง
“วี่เฟย ตกลงใครเป็นคนรังแกเธอกันแน่?” เหยนเสี่ยวน่าถามขึ้นมาอีกครั้ง
เหยนเสี่ยวน่าอยากรู้มาก นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นฉินวี่เฟยปกป้องผู้ชายคนหนึ่ง
ผู้ชายคนนี้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากไหนกันแน่?
“เขาไม่ได้รังแกฉัน” ฉินสี่เฟยเช็ดน้ำตาออก ส่ายหน้าและพูด
“เขาไม่ได้รังแกเธอ งั้นเธอร้องไห้ทำไม?” เหยนเสี่ยวน่าซักถาม
“เธออย่าถามได้ไหม” ฉินวี่เฟยรู้สึกโกรธเล็กน้อยแล้ว
“ได้ ไม่ถามแล้ว งั้นเธอบอกฉันหน่อยว่าเขาเป็นใคร ฉันสัญญา ฉันจะไม่ไปหาเรื่องเขาหรอก” ตอนนี้เวลานี้ เหยนเสี่ยวน่าแค่อยากจะรู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใครกัน
“เธอยังจะถามอีก ไม่สนใจเธอแล้ว” ฉินวี่เฟยพูดแล้วก็หันหน้ากลับไป
หลี่ฝางหาหลี่ฝางไม่เจอ เลยได้แต่กลับเข้าไปในชั้นเรียนของตัว
เพิ่งกลับมา หลี่ฝางก็ถูกหวางเสี่ยวโก๋กอดเอาไว้
“หลี่ฟาง นายนี่มันสุดยอดมากจริงๆ” หวางเสี่ยวโก๋พูดและมองดูหลี่ฝางด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเลื่อมใสศรัทธา
“ทำไมเหรอ?” หลี่ฝางถาม
“ฉันเพิ่งได้ข่าวมา ขาของหลิวเสี่ยวเทา หักไปแล้วจริงๆ”
หวางเสี่ยวโก๋หัวเราะเหอะๆ: “เมื่อคืนนายบอกว่านายตีขาของหลิวเสี่ยวเทาหัก ฉันยังไม่เชื่อ”
“ตอนนี้ฉันไม่เพียงแค่เชื่อเท่านั้น ตรงกันข้ามยังนับถือชื่นชมนายจนอยากจะก้มตัวลงไปกราบเลยด้วยซ้ำ หลี่ฝาง นายทำได้อย่างไรกันน่ะ?” มองดูหลี่ฝาง หวางเสี่ยวโก๋ถามด้วยความอยากรู้
“นี่ยังไม่ง่ายเหรอ ใช้ไม้ตีลงไป ขาของหลิวเสี่ยวเทา ก็หักแล้วไม่ใช่เหรอ?” หลี่ฝางพูดอย่างเรียบเฉย
หวางเสี่ยวโก๋กลอกตามองหลี่ฝางแวบหนึ่ง: “นายแกล้งทำเป็นโง่กับฉันเหรอ”
“ที่ฉันอยากจะถามคือ ที่นายตีขาของหลิวเสี่ยวเทาหัก โดยไม่ให้หลิวเหล่าซานแก้แค้นนายนายทำได้อย่างไร?”
หวางเสี่ยวโก๋มองดูหลี่ฟาง สายตาจมเข้าไปอยู่ในความคิดจากเรื่องหนึ่งเชื่อมโยงไปอีกเรื่องหนึ่ง
“หลี่ฝาง นายคงไม่ได้เป็นลูกชายของลูกพี่ใหญ่ในวงการมาเฟียคนไหนหรอกนะ?” จู่ๆ หวางเสี่ยวโก๋ก็คว้าแขนของหลี่ฝางเอาไว้ ถามขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
“ไม่ใช่” หลี่ฝางส่ายหน้าและพูดขึ้นมา: “พ่อฉันเป็นแค่ชาวนาชาวไร่ธรรมดาเท่านั้น”