NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 193
บทที่193 พี่ชายของฉินวี่เฟย
พี่ชายของฉินวี่เฟย?
หลี่ฝางตะลึงเล็กน้อย ที่แท้ผู้ชายคนนี้ขับเฟอร์รารี่รุ่นลิมิเต็ดได้ ที่แท้เขาก็เป็นคนของ ตระกูลฉินนี่เอง
ฉินจื่อยี่หัวเราะ ถามหลี่ฝาง:“น้องสาวผมไม่ได้บอกคุณเหรอ?”
หลี่ฝางส่ายหน้า:“เธอไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น ให้แค่นามบัตรคุณมาใบหนึ่ง”
“แล้วนามบัตรคุณนี้ ก็ไม่ได้เขียน เขียนแค่เบอร์โทรอย่างเดียว”
พูดจบ หลี่ฝางก็มองฉินจื่อยี่อย่างแปลกใจ มีใครบ้างทำนามบัตร แล้วเขียนแค่เบอร์ เขียนชื่อไว้หน่อยก็น่าจะดี
“ใช่สิ คุณยังไม่ตอบผมเลย คุณกับน้องสาวผมเป็นอะไรกัน?”ฉินจื่อยี่ถามอีกครั้ง
หลี่ฝางถามนิ่งๆ:“เพื่อนทั่วไปเฉยๆ”
“แค่เพื่อนทั่วไป?”
ฉินจื่อยี่มองหลี่ฝาง ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย
“ไม่อย่างนั้นล่ะ?คุณคิดว่าผมกับน้องสาวคุณเป็นอะไรกัน?”หลี่ฝางเลิกคิ้ว แล้วถาม
“น้องเขย?”ฉินจื่อยี่เดา แต่ต่อมาก็ปฏิเสธความคิดคาดเดานี้:“ไม่มีทาง สายตาน้องสาวผมไม่แย่ขนาดนั้น”
หลี่ฝางได้ยินคำนี้ ก็ไม่โกรธ
อย่างน้อยคำพูดฉินจื่อยี่นี้ แสดงให้เห็นว่าเขาไม่รู้จักตัวตนของตัวเอง
ดูเหมือนฉินวี่เฟยไม่ได้เอาตัวตนของตัวเองไปบอกครอบครัวเธอ
เวลานี้ หลี่ฝางก็รู้สึกดีต่อฉินวี่เฟยมาก อย่างน้อย เธอก็เป็นคนที่สามารถเก็บความลับได้
“ใช่สิ คุณหาสวีเถิงเฟยทำไม?”ฉินจื่อยี่ถามอย่างแปลกใจ
“ถามเยอะทำไมเนี่ย”หลี่ฝางกลอกตาใส่ฉินจื่อยี่ หันหน้ากลับไปที่รถของตัวเอง
ฉินจื่อยี่เป็นคนใหญ่โตขนาดนั้น ทำไมเหมือนเด็กขี้สงสัยเช่นนี้?
หลี่ฝางหันแล้วออกไป จึงทำให้ฉินจื่อยี่โมโห
ฉินจื่อยี่โตมาขนาดนี้ ไม่มีใครกล้าปฏิบัติต่อเขาแบบนี้เลย
“หยุด”ฉินจื่อยี่เปิดประตูรถ ตะโกนเรียกหลี่ฝาง
“มีอะไร?”หลี่ฝางถาม
“คุณชื่ออะไร”ฉินจื่อยี่ขมวดคิ้วถาม
“หลี่ฝาง”
“คุณชื่อหลี่ฝาง?”ฉินจื่อยี่มองหลี่ฝาง รีบเดินเร็วไม่กี่ก้าวเข้ามา
ฉินจื่อยี่มาตรงหน้าหลี่ฝาง สำรวจเขาอย่างละเอียด
“คุณที่ทำร้ายมู่เสี่ยวไป๋?”ฉินจื่อยี่ลูบคางตัวเอง มองหลี่ฝางอย่างไม่อยากจะเชื่อนัก
หลี่ฝางพยักหน้า:“ใช่ ผมเอง”
“ที่แท้ก็คุณ ผมอยากเจอคุณมานานแล้ว ผมอยากเห็นมาตลอดว่า ใครกันที่กล้าขนาด แม้แต่มู่เสี่ยวไป๋ก็ยังกล้าทำร้าย!”
ฉินจื่อยี่ส่ายหน้า ผิดหวังหน่อยๆ
เดิมทีเขาคิดว่า คนที่กล้าทำร้ายมู่เสี่ยวไป๋ จะต้องเป็นคนเก่งกาจเหนือคนธรรมดา มองไปแล้วแตกต่าง
แต่หลี่ฝางล่ะ เป็นคนธรรมดาที่ธรรมดาสุดๆ
คนที่ธรรมดาสุดๆแบบนี้ ทำร้ายมู่เสี่ยวไป๋?
“ผมอิจฉาคุณจริงๆ”ฉินจื่อยี่มองหลี่ฝาง แล้วพูด
“อิจฉาอะไร?”หลี่ฝางถามต่อ
“เห้อ เมื่อหลายปีก่อน ผมไม่สะดุดตามู่เสี่ยวไป๋ผู้ชายคนนั้นเลย อยากจะจัดการเขาสักดอก แต่ทุกการกระทำของผมต่างส่งผลกระทบต่อตระกูลผมหมด ดังนั้น ผมจึงได้ข่มตัวเองไว้ตลอด”
ฉินจื่อยี่ตบไหล่ของหลี่ฝาง พูดว่า:“ดังนั้นผมเลยอิจฉาคุณ เป็นอิสระ อยากทำร้ายใครก็ทำ”
หลี่ฝางพูดไม่ออก นี่มีอะไรให้น่าอิจฉา?
มู่เสี่ยวไป๋ไม่ทำร้ายลู่หลุ่ย ตัวเองก็ไม่มีทางทำร้ายเขา
หลี่ฝางมองฉินจื่อยี่ ถาม:“สวีเถิงเฟยน่าจะถึงประมาณกี่โมง?”
“อย่างน้อยก็ต้องครึ่งชั่วโมงแหละ”
ฉินจื่อยี่หัวเราะ:“คุณไปหาสวีเถิงเฟย คงไม่ใช่ว่าจะทำร้ายเขานะ?”
“ถูกคุณดูออกแล้ว”หลี่ฝางหัวเราะนิ่งๆ
ตอนนี้ สีหน้าของฉินจื่อยี่ ก็ดูแย่ขึ้นทันที
ตัวเองเอาคนหายนะมาแล้ว
ฉินจื่อยี่แอบด่า:ฉินวี่เฟยยัยเด็กนี่ รอไปเจอเธอก่อน ดูสิ ผมจะจัดการเธอยังไง
ฉินจื่อยี่พาหลี่ฝางมาที่นี่ เดี๋ยวถ้าหลี่ฝางถูกสวีเถิงเฟยทำร้าย สวีเถิงเฟยจะต้องเกลียดตัวเองแน่
หลี่ฝางมองความกังวลของฉินจื่อยี่ออก จึงพูด:“วางใจเถอะ ผมไม่บอกสวีเถิงเฟยแน่ ว่าคุณพาผมมา”
ฉินจื่อยี่คิด หัวเราะเบาๆไป:“ที่จริงก็ไม่มีอะไร ตระกูลฉินของเรากับตระกูลสวี ก็ไม่มีความร่วมมือทางผลประโยชน์ที่ค่อนข้างใหญ่กันนัก ดังนั้นถึงแม้ทำให้สวีเถิงเฟยขุ่นเคือง ก็ไม่เป็นไร”
ถึงแม้ปากของฉินจื่อยี่จะพูดไม่เป็นไร แต่ในใจนั้นแคร์สุดๆ
ยังไงก็อยู่ในแวดวงเดียวกัน ทำให้คนหนึ่งขุ่นเคือง ก็เท่ากับทำลายเส้นทางของตัวเอง
“ตอนนี้ยังมีเวลา มาแข่งสักครั้งไหม?”
ฉินจื่อยี่ถาม
“ผมแข่งรถไม่เป็น”หลี่ฝางส่ายหัวแล้วพูด
ถึงแม้ตั้งแต่เด็กหลี่ฝางจะเรียนขับรถ แต่เทคนิคขับรถก็ธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นเขาหมาป่าที่ทางโค้งเยอะมากขนานนี้ หลี่ฝางไม่เอาตัวเองมาล้อเล่นแน่
แข่งรถเสี่ยงตายแบบนี้ แน่นอนว่าหลี่ฝางทำไม่ได้
“ดูสมองผมสิ ผมเห็นคุณเป็นคนขับที่เขาหมาป่าแล้ว”ฉินจื่อยี่ตบหัวตัวเอง พูดว่า:“คุณมาหาสวีเถิงเฟยต่างหาก”
“ผมจะไปวอร์มเครื่อง มาลองสัมผัสความรู้สึกแข่งรถกับผมหน่อยไหม?”ฉินจื่อยี่พูดเชื้อเชิญหลี่ฝาง
หลี่ฝางส่ายหน้าพูด:“ผมยังอยากมีชีวิตอยู่อีกนาน”
“นี่หมายความว่าไง ผมเล่นอยู่ที่เขาหมาป่ามาตั้งหลายปี ไม่เคยเกิดเรื่องอะไรเลย”
“อีกอย่าง ที่นั่งข้างคนขับผมรับแค่สาวสวยเท่านั้น ไม่เคยชวนผู้ชายที่ไหนมาก่อน”ฉินจื่อยี่พูด
หลี่ฝางยังคงส่ายหน้า:“ยังไงซะผมก็ไม่สนใจ”
หลี่ฝางคิดว่า แข่งรถคือการกระทำอย่างหนึ่งที่ความเสี่ยงสูง
และก็มีแค่พวกลูกเศรษฐีที่รู้สึกเบื่อชีวิต ถึงได้คิดจะลอง
หลี่ฝางไม่คิดเช่นนั้น
พอเห็นหลี่ฝางปฏิเสธ ใบหน้าฉินจื่อยี่ก็ผิดหวังหน่อยๆ:“ผมคิดว่าคุณจะกล้าหาญมาก คิดไม่ถึงว่าความกล้าของคุณจะนิดเดียว”
“ผมแค่วอร์มเครื่องเท่านั้น ความเร็วของรถไม่เร็วหรอก”ฉินจื่อยี่พูดอย่างดูถูก
“คุณแน่ใจ?”หลี่ฝางถามอย่างสงสัย
“แน่นอน แค่วอร์มเครื่อง ไม่ได้แข่งกับใคร เพื่อให้คุ้นกับเส้นทางเท่านั้นเฉยๆ”ฉินจื่อยี่พูดชวนอีกครั้ง:“มาน่า ผมขับรถคนเดียว ก็น่าเบื่อสุดๆ”
เมื่อก่อนแข่งรถที่เขาหมาป่า ข้างถนนต่างยืนเต็มไปด้วยสาวสวยหลายประเภท แซ่บๆ
บนตัวพวกเธอสวมบิกินี่ แต่ละคนสูง และมีหุ่นนางแบบ
แต่วันนี้ฉินจื่อยี่มาเร็วเกิน ดังนั้น จึงได้แต่จับผู้ชายไป แล้วก็เลือกหลี่ฝางคุณชายคนนี้
หลี่ฝางเข้าไปในเฟอร์รารี่ของฉินจื่อยี่ รู้สึกว่ารถหรูมาพร้อมกับความรู้สึกสบาย
“รถนี้ประมาณเท่าไหร่?”หลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะถาม
“ไม่เท่าไหร่หรอก”ฉินจื่อยี่หัวเราะนิ่งๆ พูด:“แค่สิบล้าน”
“แพงขนาดนี้เชียว?”หลี่ฝางตกใจเล็กน้อย ไม่ใช่แค่ราคาของเฟอร์รารี่ แต่เป็นน้ำเสียงที่ฉินจื่อยี่พูด
แค่สิบล้าน?
น้ำเสียงที่พูดนี้ ทำไมเหมือนตัวเองขนาดนั้น?
หรือว่าตระกูลฉิน รวยเหมือนตระกูลตัวเอง?
“นี่คือรถตอนวันเกิดยี่สิบปีของผม ปู่ผมให้ผมมา รถคันนี้ มีขายจำกัดทั้งโลก ยากที่จะซื้อมามาก ที่เมืองเอก นับได้แค่สามคันแหละ”ฉินจื่อยี่พูด
“ยังมีรถใครที่แพงกว่าคุณอีก?”หลี่ฝางถามนิ่งๆ
“มู่เหวินตง รถสปอร์ตของเขา ราคาสิบหกล้าน เขาคือนักแข่งรถ”
พูดถึงมู่เหวินตง ฉินจื่อยี่ก็ถอนหายใจ:“น่าเสียดายจริงๆ ที่เขาถูกคนทำจนพิการ”
“มู่เหวินตงคือคู่ต่อสู้ที่น่านับถือคนหนึ่ง เขาไม่ใช่แค่เป็นนักแข่งรถฝีมือดี แต่ยังเป็นนักธุรกิจที่มีความสามารถ และเขายังได้เป็นทายาทหัวหน้าครอบครัวของตระกูลมู่ตั้งนานแล้วด้วย”
“แต่ตอนนี้ ตำแหน่งนี้ กลับกลายเป็น ของมู่เสี่ยวไป๋ไปแล้ว”
ฉินจื่อยี่หัวเราะอย่างดูถูก:“ดูละกัน ตระกูลมู่จะต้องตกต่ำ”
“ทำไม?”หลี่ฝางถาม
“เพราะว่ามู่เสี่ยวไป๋เทียบกับมู่เหวินตงพี่ของเขาแล้ว เทียบไม่ติดสักนิด”ฉินจื่อยี่ทำเสียงฮึดฮัดอย่างไม่ปริปากพูด:“เขาก็แค่คนไม่เอาไหนคนหนึ่ง”
“ไร้คาวมสามารถขนาดนั้นเชียว?”
หลี่ฝางกลับไม่คิดเช่นนั้น มู่เสี่ยวไป๋สนุบสนุนเสือได้ แล้วยังสนับสนุนจางกงหมิงอีก ก็ชัดเจนแล้วว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา
ถ้ามู่เสี่ยวไป๋เป็นแค่ขยะจริงๆ งั้นเสือ จะยอมเขาได้ยังไง?
“ที่จริง ผมคิดมาตลอดว่า คนที่ทำร้ายมู่เหวินตงจนพิการ ก็คือมู่เสี่ยวไป๋”มองหลี่ฝาง จู่ๆฉินจื่อยี่ก็พูด:“ครอบครัวที่ต่อสู้เพื่ออำนาจแบบนี้ ผมเห็นมาเยอะแล้ว”
“ผมได้ยินว่าคนที่ชินมู่เหวินตงจนพิการ และก็เป็นนักแข่งรถฝีมือดี เทคนิครถของเขา เกือบจะไปอยู่ถึงจุดยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว คืนวันนั้น ผู้มีอำนาจทุกคนของเมืองเอกกำลังตามจับเขา แต่เขาก็หนีไปได้”
“แล้วก็หนีไปจากเขาหมาป่า”
ฉินจื่อยี่ตาเป็นประกาย พูดอย่างคาดหวัง:“พูดตรงๆนะ ผมอยากจะแข่งรถกับคนนี้สักครั้งจริงๆ”