NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 204
บทที่204 ลงโทษตู้เฟยกับสวีเถิงเฟย
ส้าวส้วยโยนอย่างสบายๆ ก้อนหินเหมือนกระสุนเลยล่ะ มันผ่านอากาศไป โดยมีเสียงที่เกิดจากความเร็วด้วย
ก้อนหินก้อนเล็กนั้นมันโดยข้อเท้าของตู้เฟย ตู้เฟยส่งเสียงออกมา ก่อนจะล้มลงบนพื้น
ตอนแรก สวีเถิงเฟยเองก็อยากจะวิ่งหนี แต่เมื่อเห็นตู้เฟย ก็ไม่คิดจะหนีแล้ว
“คุณยังมีความสามารถนี้อีกเหรอ” เมื่อเห็นแบบนี้ หลี่ฝางก็ตบไหล่ของส้าวส้วย พลาหัวเราะพลางพูดออกมาด้วยความพอใจ
ส้าวส้วยจับหัวด้านหลังของตัวเอง พลางพูดออกมา: “ก่อนหน้านี้ประตูบ้านของพวกเรามีแม่น้ำเล็กๆ อยู่ มันมีเป็ดอยู่ในน้ำ ฉันเลยชอบโยนก้อนหินใส่สัตว์พวกนั้น นานวันเข้า เลยมีความสามารถนี้”
“นี่มันไม่ใช่ความสามารถธรรมดาๆ เลยนะ” หลี่ฝางพูดขึ้น
เมื่อครู่ที่ส้าวส้วยดีดก้อนหินนี้ออกไป มันใหญ่แค่นิ้วเอง แต่ยังทำร้ายได้ขนาดนี้ จนตู้เฟยล้มลงไปบนพื้น
ถ้าเกิดว่าเปลี่ยนเป็นหินที่ใหญ่กว่านี้อีกหน่อย ขาจะขาดเลยไหมนะ?
หลี่ฝางคิด ว่าถ้าเกิดตัวเองมีความสามารถนี้ก็คงจะดี
เซี่ยลู่ลังเลอยู่สักพัก ก่อนจะวิ่งไปพยุงตู้เฟย
“ตู้เฟย คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?” เซี่ยลู่พยุงตู้เฟยขึ้นมา พลางถามออกไปประโยคหนึ่งด้วยความเป็นห่วง
“ให้ตายเถอะเหมือนขาของข้าจะหักแล้ว” ตู้เฟยกัดฟันพลางพูดออกมา
ตู้เฟยรู้สึกชาที่ขามาก โดยที่เดินไปไหนไม่ได้เลย
“หน้าของคุณ……” เซี่ยลู่เห็นหน้าของตู้เฟย ก็ตกใจจนถอยกลับไป
“หน้าฉันเป็นอะไรเหรอ?” ตู้เฟยรู้สึกเพียงว่าเจ็บใบหน้าของตัวเองมาก
“แตกแล้วใช่ไหม?”
ตู้เฟยถามออกไปประโยคหนึ่ง จากนั้นก็เอาโทรศัพท์ออกมา พลางเปิดกล้องขึ้นมา ดู จากนั้น ตู้เฟยก็ตกใจจนโยนโทรศัพท์ทิ้งเลยล่ะ
“ให้ตายเถอะ!”
เมื่อครู่ตอนที่ตู้เฟยล้มลง หน้ากระแทกเข้าไปเต็มๆ หัวเลยแตก
ในคืนที่มืดมิดนี้ ตู้เฟยที่มีเลือดเต็มหน้า น่ากลัวเหมือนผีเลยล่ะ
“ให้ตายเถอะ ร้องอะไรกัน”
หลี่ฝางวิ่งมา ก่อนจะจับไหล่ของตู้เฟย พลางพลิกตัวเขา: “อะไรกัน?โลกนี้มีผีที่ไหนกัน?”
แต่ในตอนนั้นเอง หลี่ฝางเองก็ตกใจเพราะใบหน้าของตู้เฟยเหมือนกัน
หลี่ฝางตกใจจนยกเท้าขึ้นมา ก่อนจะเตะเข้าที่ท้องของตู้เฟย
“ตกใจหมดเลย”
ตู้เฟยถูกเตะจนลงไปกองอยู่ที่พื้น หลี่ฝางเองก็เข้าใจทันที ว่าเป็นตู้เฟย ไม่ใช่ผี
“เจ้านาย จะจัดพวกเขาอย่างไรดี?” ส้าวส้วยเดินเข้ามาถาม
หลี่ฝางขมวดคิ้วเป็นปม ก่อนจะเดินมาที่ด้านหน้าของสวีเถิงเฟย
สวีเถิงเฟยเงียบไปสักพัก ก่อนจะพูดออกมา: “หลี่ฝาง จะให้ดีคุณอย่ามามีเรื่องกับฉันเลย ฉันจะบอกคุณให้นะ พ่อฉันคือสวีเจิ้งหรุง ฉันเป็นคุณชายคนโตของบริษัทสวีซื่อเลยนะ ถ้าคุณมาหาเรื่องฉัน……”
มีเสียงตบฉาดดังขึ้น หลี่ฝางตบหน้าของสวีเถิงเฟย
“งั้นคุณรู้ไหมว่าฉันคือใคร?” หลี่ฝางมองสวีเถิงเฟยพลางถาม
“คุณเป็นใคร?” สวีเถิงเฟยถามต่อ
“ฉันเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดคนหนึ่งในประเทศจีน ฐานะสูงส่งกว่าคุณเยอะเลย!” หลี่ฝางหัวเราะพลางพูดออกมาอย่างไม่แยแส
ช่างมันเถอะ พ่อของตัวเองหลี่ต๋าคาง ถึงจะไม่ใช่มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในประเทศจีน แต่ก็ไม่น้อยหน้า
เมื่อสวีเถิงเฟยได้ฟังคำนี้ ก็หัวเราะพรวดออกมา
“อย่างคุณ จะเป็นลูกของมหาเศรษฐีของประเทศจีนเหรอ?” สวีเถิงเฟยหัวเราะขึ้นมา
หลี่ฝางเองก็ไม่ได้หวังว่าสวีเถิงเฟยจะเชื่อ เลยพัดไปอีกครั้งหนึ่ง
“คุณทำร้ายฉันอีกแล้ว?พอได้แล้ว ฉันจะบอกคุณให้นะ พ่อของฉันเป็นผู้บริหารระดับสูงของโรงเรียนของสุ่ยมู่เลยนะ ถ้าคุณยังมาทำร้ายฉันอีก พรุ่งนี้ฉันจะให้ผู้อำนวยการมาตัดรายชื่อคุณออก” สวีเถิงเฟยขู่เสียงเย็นชา
สุดท้ายเมื่อคำพูดของสวีเถิงเฟยพูดจบ หลี่ฝางก็ตบหน้าของเขาอีก
ในตอนนั้นเอง สวีเถิงเฟยเหม่อลอยไป
สวีเถิงเฟยมองหลี่ฝางด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะพูดออกมา: “คุณลองทำร้ายฉันอีกสิ”
เสียงตบดังขึ้นอีกครั้ง
หลี่ฝางก็ตบอีก: “ฉันยังไม่เคยเห็นใครมีข้อเรียกร้องที่ต่ำทรามขนาดนั้นเลย”
“เป็นไง ยังต้องลองอยู่ไหม?” พูดไป หลี่ฝางก็ยกแขนขึ้นอีกครั้ง
สวีเถิงเฟยจับใบหน้าของตัวเอง จากนั้นจึงส่ายหัวพลางพูดออกมา: “ไม่ต้องลองแล้ว”
สวีเถิงเฟยพอจะมองออก ว่าหลี่ฝางคนนี้ เหมือนปีศาจร้าย
กล้าทำร้ายทุกคนเลยล่ะ!
ก่อนหน้านี้สวีเถิงเฟยได้ยินคนอื่นพูด ว่าตอนที่ รีสอร์ต หลี่ฝางทำร้ายมู่เสี่ยวไป๋ไปแล้วด้วย ตอนแรก สวีเถิงเฟยก็ยังสงสัยอยู่นิดหน่อย แต่ตอนนี้ สวีเถิงเฟยเชื่อแล้วจริงๆ
ชายหนุ่มคนนี้ทำอะไรไม่เหมือนคนอื่นจริงๆ
ขนาดเป็นลูกหลานเศรษฐียังถูกทำร้ายเลย……
“ฉันถามคุณ ว่าทำไมคุณถึงไปหาหลิวเสี่ยวเทากับหลิวเหล่าซานให้มาแก้แค้นฉันเหรอ?” หลี่ฝางชี้หาจมูกของสวีเถิงเฟย ก่อนจะถามด้วยความสงสัย
สวีเถิงเฟยคิดอยู่สักพัก ก่อนจะพูดชื่อหยูเถิงออกมา
“หยูเถิงให้ฉันทำแบบนี้”
ในตอนนั้นเอง สวีเถิงเฟยเกลียดหยูเถิงเป็นอย่างมาก
ถ้าไม่ใช่หยูเถิง วันนี้เขาคงไม่เสียไปสิบล้าน
สิบล้านเลยเหรอ!
สวีเถิงเฟยจะปิดจุดด่างนี้ได้อย่างไร?
ไม่ว่าจะให้พ่อของตัวเองรู้ หรือจะให้คนของเหยโก่วรู้ ตัวเองก็ต้องตายแน่นอน
“ทำไมคุณเชื่อฟังขนาดนั้นล่ะ หยูเถิงให้คุณทำอะไร คุณก็ทำ” หลี่ฝางมองบนใส่สวีเถิงเฟย ก่อนจะหัวเราะพลางพูดออกมา: “หยูเถิงบอกให้คุณไปกินขี้ คุณจะกินไหม?”
สวีเถิงเฟยเงยหน้าขึ้น มองหลี่ฝางสักหน่อย ก่อนจะพูดออกมา: “ก่อนหน้านี้ฉันผิดเอง ตอนนี้คุณเองก็ทำร้ายฉันไปหลายครั้งแล้ว ความแค้นระหว่างเรา ถือว่าหายกัน เป็นไง?”
“หายกันงั้นเหรอ คุณคิดได้ดีหนิ” หลี่ฝางหัวเราะขึ้น แต่ก็พูดอะไรไม่ออกเลย
สวีเถิงเฟยเกือบจะถูกตัดขาทิ้งไปแล้ว มาในวันนี้ ตัวเองแค่ตบเขาเอง แต่เขาอยากให้หายกันงั้นเหรอ?
คิดได้โง่จริงๆ เลย
หลี่ฝางมีสีหน้าจริงจัง ก่อนจะยิ้มอย่างเย็นชา: “ถอดเสื้อผ้า!”
“คุณจะทำอะไร?” สวีเถิงเฟยกอดอก พลางมองหลี่ฝางด้วยความกลัว
“คุณยังมีงานอดิเรกพรรค์นี้ด้วยเหรอ”
สวีเถิงเฟยกลืนน้ำลาย: “หรือไม่ก็เอาแบบนี้ ฉันพาคุณไปที่หนึ่ง หาคนที่ทำเรื่องนี้โดยเฉพาะ เอาไหม?”
“คุณอย่ามาทำแบบนี้กับฉันนะ ฉันรับไม่ได้” เมื่อคิดๆ ไป สวีเถิงเฟยก็รู้สึกเย็นวาบขึ้นมาจากก้น
“ให้ตายเถอะ สมองคิดอะไรอยู่เนี่ย”
หลี่ฝางขมวดคิ้วเป็นปม ก่อนจะเตะสวีเถิงเฟยเข้าไปทีหนึ่ง
หลี่ฝางไม่สนใจว่าสวีเถิงเฟยเป็นคุณชายตระกูลสวีหรือเปล่า
เขาเอาแต่เน้นย้ำไปที่ตัวเอง ทำให้โกรธมาตั้งนานแล้ว
“เร็วเข้า ถอดเสื้อผ้าออก ไม่อย่างนั้น จะฆ่าให้ตายเลย!” หลี่ฝางมองสวีเถิงเฟย ก่อนจะพูดออกมาเสียงเย็นชา
ส้าวส้วยเดินเข้ามาในตอนนั้นเอง
“เจ้านาย เขาไม่เชื่อฟังใช่ไหม ให้ฉันทำร้ายเขาสักหน่อยก่อนไหม?” ส้าวส้วยเดินพลางพูดออกมา
“ได้ เอาสักหน่อย” หลี่ฝางพยักหน้า ก่อนจะบอกว่าเห็นด้วย
“ทำร้ายนี่ใช้แฮมเบอร์เกอร์หนึ่งชิ้น หรือว่าแฮมเบอร์เกอร์สองอันนะ?” ส้าวส้วยถามออกไปประโยคหนึ่ง
“ทำร้ายตามจำนวนแฮมเบอร์เกอร์สิบอัน” หลี่ฝางขมวดคิ้วเป็นปม
“เจ้านาย คุณอยากจะให้ฉันทำร้ายหนุ่มคนนี้ ใช่ไหม?” ส้าวส้วยถามเสียงเรียบ
หลี่ฝางไม่รู้จะทำอย่างไรดี เลยต้องเปลี่ยนคำพูด: “งั้นตีสักแฮมเบอร์เกอร์ห้าอันก็แล้วกัน!”
“รู้แล้ว เอาแบบเกือบตายเลยใช่ไหม?” ส้าวส้วยกำหมัดขึ้น ก่อนจะเดินเข้าไปเพื่อจะต่อยสวีเถิงเฟย
สวีเถิงเฟยมองมือของส้าวส้วย ก่อนจะกลืนน้ำลาย เพราะตกใจเป็นอย่างมาก
“อย่าขยับนะ”
สวีเถิงเฟยเชื่อฟัง พลางพูดออกมา: “ฉันถอดๆ ถอดก็จบแล้วใช่ไหม”
ถึงแม้ว่าสวีเถิงเฟยจะเชื่อฟัง แต่ส้าวส้วยก็ต่อยอยู่ดี
ส้าวส้วยยิ้มพลางพูดออกมา: “ฉันจัดท่าแล้ว ถ้าเกิดไม่ทำร้ายเนี่ย ท่านี้ก็คงจะเปล่าประโยชน์แล้ว?”
หมัดของส้าวส้วย ต่อยเข้าที่จมูกของสวีเถิงเฟยพอดี ก่อนจะทำให้จมูกเขาเลือดไหล
สวีเถิงเฟยโกรธอยู่ในใจ ต่ก็ทำได้แค่อดทนเอาไว้
ถึงอย่างไรส้าวส้วยก็สามารถต่อยเหยโก่ว และโยนออกไปได้ทุกเมื่อ
ชายกำลังมากขนาดนี้ สวีเถิงเฟยจะกล้ามามีเรื่องด้วยได้อย่างไร?
สวีเถิงเฟยไม่อยากโดยต่อยไปเรื่อยๆ เลยรีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก
หลังจากที่ถอดเสร็จ สวีเถิงเฟยก็นั่งยองลง ตัวก็สั่น
เซี่ยลู่รีบหันหน้าไป เพราะไม่กล้ามองมาทางนี้
“ถึงตาคุณแล้ว”
เมื่อหลี่ฝางเดินมาอยู่ตรงหน้าตู้เฟย ก็พูดกับตู้เฟย
“จะถอดเสื้อผ้าทำไม?” ตู้เฟยขมวดคิ้วเป็นปม พลางมองหลี่ฝางด้วยความสงสัย
“บอกให้คุณถอดก็ถอดสิ จะพูดอะไรมากมาย!” หลี่ฝางมองตู้เฟยด้วยสายตาเย็นชา พลางพูดออกมา
ตู้เฟยส่ายหัว ก่อนจะพูดออกมา: “ฉันไม่ถอด”
“ต่อให้คุณตีฉันให้ตาย ฉันก็ไม่ถอด” ตู้เฟยพูดออกมาด้วยความแน่วแน่
เมื่อหลี่ฝางได้ยิน ก็หัวเราะขึ้น: “ฉันชอบคนที่เป็นแบบคุณจริงๆ เลย”
“ส้าวส้วย มานี่หน่อย มีงานแล้ว” หลี่ฝางโบกมือให้ส้าวส้วย ก่อนจะเรียกเขาเข้ามา
“เจ้านาย นี่มันเรื่องอะไรกัน” ส้าวส้วยถาม
“เลี้ยงแฮมเบอร์เกอร์คุณสิบอัน คุณก็จะช่วยฆ่าได้คนหนึ่งเหรอ?” หลี่ฝางถามออกไปประโยคหนึ่ง
“ใช่ ทำไมเหรอ?” ส้าวส้วยตอบกลับ
หลี่ฝางหัวเราะขึ้น พลางชี้หาตู้เฟย: “งั้นฉันให้แฮมเบอร์เกอร์สิบอัน คุณช่วยตีเขาจนตายเลยละกัน”