NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 210
บทที่210 เพื่อนของหลี่ต๋าคาง
หลี่ต๋าคางได้ยินว่าหลี่ฝางถูกไล่ฆ่า ก็เครียดขึ้นมา
“ลูกชาย ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนเหรอ?” หลี่ต๋าคางถามด้วยความร้อนใจ
“ฉันเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ฉันใช้wechatส่งที่อยู่ให้คุณก็แล้วกัน” หลี่ฝางวางสายไป จากนั้นก็แชร์ที่อยู่ให้พ่อ
หลี่ฝางไม่ได้พูดอะไรผิดเลย เขาในตอนนี้ กำลังถูกมู่เสี่ยวไป๋ไล่ฆ่าจริงๆ
หลี่ต๋าคางกลับเข้าใจหลี่ฝางผิดแล้ว
“คุณหลี่ เกิดอะไรขึ้นเหรอ?สีหน้าของคุณทำไมมันแย่ขนาดนั้นเลย?” เมี๋ยวชุ่ยมองออกว่าสีหน้าของหลี่ต๋าคางไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เลยรีบถามออกไปประโยคหนึ่ง
“ตายล่ะ เสี่ยวฝางบอกว่าเขากำลังถูกคนไล่ฆ่า” หลี่ต๋าคางพูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง
“อะไรนะ?เสี่ยวฝางถูกตามฆ่าเหรอ?” เมี๋ยวชุ่ยได้ยิน จากนั้นหน้าก็ซีดลง
“งั้นคุณยังจะมาอึ้งอยู่ตรงนี้ทำไมล่ะ?ยังไม่รีบไปช่วยเขาอีกเหรอ” เมี๋ยวชุ่ยรีบพูดออกมา
ในตอนนั้นเอง ส้าวส้วยก็มาอยู่ตรงหน้าหลี่ต๋าคาง
“ลูกพี่ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าเนี่ย?” ส้าวส้วยรีบวิ่งเข้ามา พลางถาม
“เสี่ยวฝางเดือดร้อนแล้ว” หลี่ต๋าคางมีสีหน้ามืดมนลง
“เจ้านายน้อยมีเรื่องอะไรเหรอ?จะเป็นไปได้อย่างไร?” ส้าวส้วยไม่อยากจะเชื่อ: “เมื่อครู่สายของฉันยังบอกฉันอยู่เลย ว่าหลี่ฝางจะไปดูห้องกับพี่สาวของเขา”
“เมื่อครู่ฉันโทรหาเสี่ยวฝาง เขาบอกฉันเองเลยนะ” หลี่ต๋าคางพูดออกมาเสียงต่ำ: “เสี่ยวฝางบอก ว่ามีคนกำลังตามฆ่าเขา”
“โอเค คุณอย่าโอ้เอ้นะ”
ในตอนนั้นเอง เมี๋ยวชุ่ยดข้าไปในรถคันหนึ่ง: “คุณหลี่ รีบขึ้นรถเร็ว”
หลี่ต๋าคางเข้าไปในรถ ด้วยสีหน้าที่ดูไม่ได้เลย
“หญิงชรา คุณว่าจะใช่พวกเขาตามมาหรือเปล่า?” หลี่ต๋าคางมีสีหน้านิ่งลงก่อนจะพูดออกมา
“ให้ตายเถอะ แค่คนจนๆ พวกเขากล้ามาฆ่าลูกชายของพวกเรากลางวันแสกๆ เลยเหรอ?” เมี๋ยวชุ่ยพูดอย่างไม่แยแส: “นอกเสียจากพวกเขาจะไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว!”
เมี๋ยวชุ่ยหยิบโทรศัพท์ของหลี่ต๋าคางออกมา ก่อนจะวางอยู่ต่อหน้าตัวเอง
“หญิงชรา ให้ฉันขับรถเถอะ”
หลี่ต๋าคางเพิ่งพูดจบ เมี๋ยวชุ่ยก็ออกรถ
ส้าวส้วยตามมาติดๆ ไม่ถึงสามนาที ส้าวส้วยก็พบว่าตัวเองหลงแล้ว
รถของเมี๋ยวชุ่ยมันเร็วเกินไป มีรถขับไปขับมาบนถนน รถที่ล้อมอยู่แถวๆ นั้นต่างตกใจหมด
ยังดีที่ส้าวส้วยติดเครื่องติดตามที่รถของหลี่ฝางแล้ว
ทางฝั่งหลี่ฝาง ถูกคนของมู่เสี่ยวไป๋ตามมาติดๆ
“พี่สาว พวกเขาจะตามมาได้แล้ว” หลี่ฝางกลัวนิดหน่อย
มู่เสี่ยวไป๋เป็นเหมือนคนบ้า ถ้าเกิดถูกไล่ตาม เขาจะต้องโดนฆ่าแน่นอน
แต่มีดที่จะลงมานี้ ไม่รู้เลยว่าจะโดนส่วนไหนของตัวเอง
ครั้งก่อนมู่เสี่ยวไป๋เคยเตือนหลี่ฝางแล้ว ว่าถ้ากล้ามาคุยกับหลินชิงชิงอีก จะแทงให้ตายเลย
เมื่อคิดถึงประโยคนี้ หลี่ฝางก็อดไม่ได้ที่จะกลัวตัวสั่น
“พี่สาว คุณไปที่ศูนย์อาบน้ำสุ่ยหยุนเทียน” หลี่ฝางพูดออกมา: “พวกเราไปหาหวางเห้า หวางเห้าจะต้องช่วยเราได้แน่นอนเลย”
“ไม่ได้ พวกเราไปที่ศูนย์อาบน้ำสุ่ยหยุนเทียน มีแต่จะทำให้หวางเห้าเหนื่ยเปล่าๆ” หลินชิงชิงส่ายหัวแล้วพูด: “หวางเห้าในตอนนี้ ไม่ถือเป็นคู่แข่งของมู่เสี่ยวไป๋ด้วยซ้ำ”
จางกงหมิงคนเดียว ตอนนี้หวางเห้ายากที่จะสู้ แถมในสถานการณ์แบบนี้ลูกน้องของมู่เสี่ยวไป๋ ก็ยังมีเสืออยู่ด้วย
หลี่ฝางถามต่อ: “งั้นพวกเราจะไปไหน?นอกจากที่ของหวางเห้าแล้ว พวกเราก็ไม่มีที่ไหนให้ไปแล้วนะ!”
“มีที่หนึ่งที่มู่เสี่ยวไป๋ไม่กล้าไป” หลินชิงชิงพูดออกมา
“ที่ไหน?” หลี่ฝางถามต่อ
“เมืองเอกยังมีที่ที่มู่เสี่ยวไป๋ไม่กล้าไปอีกเหรอ?” หลี่ฝางไม่ค่อยอยากจะเชื่อ
“มีอยู่ที่หนึ่ง มู่เสี่ยวไป๋ไม่กล้าตามไปแน่นอน” หลินชิงชิงยิ้มขึ้น ก่อนจะพูดออกมา: “ตระกูลฉินของเมืองเอก”
“ตระกูลฉินเหรอ?”
“ใช่ ฉันเคยได้ยิน ตระกูลฉินกับตระกูลมู่ จะแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์กัน ตระกูลฉินมีลูกสาว ชื่อฉินวี่เฟย ตอนแรกเธอเป็นคู่หมั้นของมู่เหวินตง แต่วันนี้มู่เหวินตงพิการ ตอนนี้ งานหมั้นของฉินวี่เฟยกับมู่เหวินตง เลยเปลี่ยนคนแล้ว”
“แต่คนคนนี้ คือมู่เสี่ยวไป๋”
หลินชิงชิงพูดออกมา:“ ฉันสามารถหลุดพ้นได้จากมู่เสี่ยวไป๋หรือไม่ ก็ต้องดูตระกูลฉินแล้วล่ะ”
“ฉินวี่เฟยเป็นคู่หมั้นของมู่เสี่ยวไป๋เหรอ?” หลี่ฝางหัวเราะขึ้นมา มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยเหรอ
ครั้งก่อนที่ รีสอร์ต มู่เสี่ยวไป๋เรียกฉินวี่เฟยอย่างไม่แยแสเลยล่ะ
ยังจะพูดอะไรอีก โยนฉินวี่เฟยลงบนเตียง ตัวเองก็ไม่มีทางลนใจ
คิดไม่ถึงเลย ว่าฉินวี่เฟยจะเป็นคู่หมั้นของมู่เสี่ยวไป๋!
“บอกให้เร็วกว่านี้สิ ฉันรู้จักฉินวี่เฟยอยู่พอดีเลย” หลี่ฝางพูดออกมา
“คุณรู้จักฉินวี่เฟยด้วยเหรอ?”
“ฉันไม่ได้แค่รู้จักฉินวี่เฟย ยังรู้จักพี่ชายเขาชื่อฉินจื่อยี่ด้วย” หลี่ฝางพูดต่อ
“หรือไม่อย่างนั้น ฉันจะโทรหาพวกเขา แล้วเอาเรื่องที่มู่เสี่ยวไป๋ตามคุณอย่างบ้าคลั่งไปบอกพวกเขาไหม?”
หลินชิงชิงพยักหน้า
หลี่ฝางหยิบโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะโทรหาฉินวี่เฟย
ฉินวี่เฟยโทรติด ก่อนจะถามออกไป: “ทำไมคุณว่างมาโทรหาฉันได้ล่ะ?”
“ฉินวี่เฟย ฉันมีเรื่องจะถามคุณหน่อยได้ไหม?” หลี่ฝางคิดงานหมั้นของฉินวี่เฟยกับมู่เสี่ยวไป๋ขึ้นมาได้ ก็อดไม่ได้ที่จะขำ
“เรื่องอะไร?พูดมา!” ฉินวี่เฟยถามอย่างไม่สบอารมณ์
“คุณกับมู่เสี่ยวไป๋ มีงานหมั้นกันใช่ไหม?” หลี่ฝางถามด้วยความย่ามใจ
“คุณรู้ได้อย่างไร?” ฉินวี่เฟยตกใจ เพราะถึงอย่างไร เรื่องนี้มันก็เป็นความลับระหว่างตระกูลฉินกับตระกูลมู่
การแต่งงานของทั้งสองครอบครัว จัดขึ้นอย่างลับๆ ไม่ได้เปิดเผยให้คนนอกรู้
เพราะว่าถ้าเปิดเผยออกไป จะต้องมีความเคลื่อนไหวเป็นอย่างมาก
ในเมืองเอก ตระกูลฉินกับตระกูลมู่ เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ถ้าทั้งสองตระกูลนี้แต่งงานกัน จะมีผลกระทบเกิดขึ้นมากมาย
ดังนั้น การแต่งงานของทั้งสองครอบครัวนั้น เลยต้องแอบจัดขึ้น
มีเพียงแค่วันหมั้น ที่จะเปิดเผยต่อโลกภายนอก
ดังนั้น นอกจากคนสำคัญของตระกูลฉินและตระกูลมู่แล้ว ก็แทบไม่มีใครรู้เลย
เมื่อหลี่ฝางพูดความลับนี้ขึ้นมา ฉินวี่เฟยก็ตกใจจนสีหน้าเปลี่ยนไป
หลี่ฝางหัวเราะขึ้น: “คุณไม่ต้องรู้หรอกว่าฉันรู้ได้อย่างไร ฉันจะถามคุณหน่อย ว่าคุณชอบมู่เสี่ยวไป๋หรือเปล่า?”
“ไม่ได้ชอบ” ฉินวี่เฟยตอบอย่างไม่ต้องคิดเลย
“งั้นฉันจะช่วยคุณ ช่วยให้คุณสลัดมู่เสี่ยวไป๋ออกไป เป็นไง?” หลี่ฝางพูดออกมา
“คุณจะช่วยได้เหรอ?จะช่วยอย่างไรล่ะ?” ฉินวี่เฟยถาม
“ฉันบอกความลับให้นะ มู่เสี่ยวไป๋เนี่ย ชอบผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อหลินชิงชิง เธอเป็นพี่สาวของฉันเอง ตอนนี้เขาชอบพี่สาวฉันมากจนไม่ยอมปล่อยเลยล่ะ คุณเอาเรื่องนี้ไปบอกพ่อหรือปู่คุณสิ……”
หลี่ฝางยังไม่ทันพูดจบ ฉินวี่เฟยก็ตัดบทเขา: “มีประโยชน์เหรอ?”
“มู่เสี่ยวไป๋จะชอบใครอีกมากแค่ไหน พ่อกับปู่ฉันก็ไม่สนใจหรอก เพราะเป้าหมายของการแต่งงานของสองตระกูลนี้ เป็นการบังคับน่ะ ไม่ว่ามู่เสี่ยวไป๋จะทำอะไร ปู่ฉันก็ไม่มีทางยกเลิกงานหมั้น”
“คุณเองก็เป็นลูกหลานเศรษฐี ทำไมเรื่องง่ายๆ แค่นี้คุณไม่เข้าใจเหรอ?ในสายตาพวกเขา กำไรเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด”
น้ำเสียงของฉินวี่เฟย เหมือนกับกำลังร้องเรียนอยู่เลย
หลี่ฝางตกใจไป เพราะปฏิกิริยาของฉินวี่เฟย มันมากเกินไปหรือเปล่านะ?
เห็นได้ชัดเลย ว่าในใจลึกๆ ของฉินวี่เฟยนั้น ไม่อยากจะแต่งงานในครั้งนี้มากแค่ไหน
ก็จริง ผู้หญิงที่มีนิสัยของตัวเองเหมือนกับฉินวี่เฟยขนาดนั้น จะมายอมให้ถูกบังคับแต่งงานได้อย่างไรกัน?
“ถึงจะไม่แต่งแล้ว คุณเองก็ไม่อยากให้คู่หมั้นไปหาผู้หญิงคนอื่นรึเปล่า?คุณบอกปู่ของคุณเถอะ ให้ปู่กดดันเสี่ยวไป๋ ให้เขาหยุดมาตามตื้อพี่สาวฉัน เพราะเธอก็รำคาญเขาอยู่” หลี่ฝางพูดขึ้น
“นี่สิถึงเป็นเป้าหมายของการโทรมาจริงๆ ของคุณ” ฉินวี่เฟยพูดออกมาเสียงเย็นชา
“คุณไม่ได้อยากจะช่วยยกเลิกงานแต่งของฉันตั้งแต่แรกหรอก แต่อยากจะใช้ฉันเท่านั้นเอง ใช้พวกเราตระกูลฉิน ให้มู่เสี่ยวไป๋เลิกรบกวนพี่สาวของคุณ”
เมื่อถูกจับได้ หลี่ฝางก็ทำตัวไม่ถูก
“ฉินวี่เฟย คุณนี่ฉลาดจริงๆ เลย” หลี่ฝางยิ้มขึ้นอย่างประหม่า: “ถือว่าฉันคิดค้างคุณอยู่ก็แล้วกัน”
“คุณช่วยพี่สาวฉันไง เดี๋ยวฉันจะเลี้ยงข้าวคุณ”
หลังจากที่หลี่ฝางพูดจบ ฉินวี่เฟยก็พึมพำเสียงเย็นชา: “หลี่ฝาง คุณแคร์พี่สาวคนนี้มากเลยใช่ไหม?”
“อือ ทำไมเหรอ?” หลี่ฝางพยักหน้า
“งั้นก็ดี คุณไม่ได้อยากให้ฉันช่วยพี่สาวคุณหรอกเหรอ?แต่คุณต้องสัญญากับฉันเรื่องหนึ่งนะ” ฉินวี่เฟยพูดออกมา
“เรื่องอะไร?พูดมา” หลี่ฝางถามต่อ
“ตอนนี้ฉันยังบอกไม่ได้ แต่ตอนที่ฉันต้องใช้คุณ คุณต้องออกมาช่วยฉันนะ” ฉินวี่เฟยพูดขึ้น
“ไม่ใช่ให้ไปฆ่าคนหรือวางเพลิงใช่ไหม?” หลี่ฝางถามต่อ
“ฆ่าคนหรือวางเพลิงเลยเหรอ คุณกล้าขนาดนั้นเลยหรือไง” ฉินวี่เฟยพูดออกมา
“ได้ ฉันตกลงกับคุณก็โอเคแล้ว คุณรีบโทรหาปู่ของคุณเถอะ พวกเราตกอยู่ในอันตราย” หลี่ฝางรีบพูดออกมา: “ฉันจะส่งที่อยู่ให้คุณ คุณรีบให้ปู่คุณพาคนมาเร็ว”
หลี่ฝางวางสายไป ก่อนจะส่งที่อยู่ของตัวเองให้ฉินวี่เฟย
“ไม่เลวเลยหนิไอหนุ่ม สนิทกับคุณหนูคนโตของตระกูลฉินมากเลยใช่ไหม?” หลินชิงชิงหันไป พลางมองหลี่ฝางแล้วหัวเราะ
“พวกเราเคยเรียนด้วยกันน่ะ”
“ฉันได้ยินว่าฉินวี่เฟยน่ะ เป็นสาวสวย สวยกว่าดาราหลายๆ คนอีก คุณไม่ได้คิดอะไรกับเธอใช่ไหม?” หลินชิงชิงเลิกคิ้วขึ้น พลางถามลองใจ
“พี่สาว ฉันมีแฟนแล้ว” หลี่ฝางพูดออกมา
“ฉันรักเดียวใจเดียวมากนะ”
……
ทางฝั่งหลี่ต๋าคาง มาถึงครึ่งทางแล้ว
ในตอนนั้นเอง หลี่ต๋าคางหยิบโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะโทรไปที่เบอร์หนึ่ง
โทรศัพท์นั้นรออยู่นานกว่าจะมีคนรับ มีเสียงคนแก่ดังขึ้นมา: “ในที่สุดคุณก็กลับมาแล้ว ฉันรอสายของคุณอยู่ รอมาสามปีแล้ว”
หลี่ต๋าคางยิ้มแห้งๆ : “ลุงจวน ฉันมีปัญหาที่เมืองเอก”
“คุณโทรหาฉันมีอะไรเหรอ?”
“อยากให้ฉันช่วยเหรอ?ล้อเล่นอะไรอยู่ คุณยังแก้ไขปัญหาไม่ได้ แล้วคุณคิดว่าคนแก่อย่างฉัน จะแก้ไขได้เหรอ?” พูดออกมาอย่างไม่มีความสุข
“ฉันไม่ค่อยสะดวก หวังว่าคุณจะจัดหาคนมาให้ได้นะ”
“ถึงอย่างไร เมืองเอกก็เป็นที่ของคุณนะ” หลี่ต๋าคางพูดออกมาเบาๆ
อีกฝ่ายลังเลอยู่สักพัก: “โอเค บอกที่อยู่มา ฉันจะหาคนไปดูให้”
“ขอบคุณนะ ลุงจวน” หลี่ต๋าคางพูดออกมา
ในตอนนั้นเอง ในใจของหลี่ต๋าคาง ไม่ได้เครียดขนาดนั้นแล้ว
“ถ้าเป็นชายคนนั้นจริงๆ เสี่ยวฝางก็ตกอยู่ในกำมือพวกเขาตั้งนานแล้ว”
เมื่อเห็นที่อยู่ของหลี่ฝางไม่เปลี่ยนไป ลี่ต๋าคางก็รู้ ว่าคนที่จะมาตามฆ่าหลี่ฝาง ไม่ใช่คู่อริของครอบครัวตัวเอง
เมี๋ยวชุ่ยถาม: “ท่านจวนคนนั้นยังดีอยู่ไหม?”
หลี่ต๋าคางยักไหล่ขึ้น พลางพูดออกมา: “ฉันเองก็ไม่มั่นใจ ถึงอย่างไรไม่กลับมาสามปีแล้ว ใครจะไปรู้ว่าเขายังจะดีอยู่ไหม”
“ได้ยินว่าชายแก่คนนั้นล่าถอยออกไปแล้ว แต่ก็ยังมีดีอยู่ไม่น้อยเลย ในสถานการณ์แบบนี้ ท่านจวนไม่ใช่แค่คนไร้ความสามารถเลย”
ในบ้านพักตากอากาศหลังหนึ่งบนเขา
มีชายชราที่ใส่ชุดฮั่นฝูสีเหลืองค่อยๆ ลุกขึ้นมา ก่อนจะเดินไปที่สวนของบ้านพักตากอากาศของตัวเอง
“ท่านจวน ทำไมคุณออกมาล่ะ?” ยามหน้าประตูถาม
“ฉันมีเพื่อนคนหนึ่งเกิดปัญหาที่เมืองเอก อยากให้ฉันไปจัดการ คุณช่วยโทรศัพท์หน่อย แล้วเตรียมรถให้ด้วย” ชายชราพูดออกมาเสียงนิ่ง
“ท่านจวน ใครกัน ถึงอยากให้คุณออกหน้าแทนขนาดนี้?” ยามตกใจเล็กน้อย
ถึงอย่างไร ท่านจวนก็อายุไม่น้อยและเจออะไรมามากแล้ว
ท่านจวนอยู่ที่วิลล่าเขาหลง โดยไม่ได้ลงมาครึ่งปีแล้ว
ฐานะของท่านจวนนั้น ถ้าพูดชื่อเขาเป็นที่หนึ่ง ก็ไม่มีใครในเมืองเอกกล้าพูดที่สองขึ้นมาแล้ว
ถึงอย่างไร เมื่อก่อนท่านจวนก็เป็นฉายาที่เอาไว้เรียกคนในเมืองเอกที่มีอำนาจใหญ่โต
“สิ่งที่ไม่ควรถามก็ไม่ควรถาม รีบเตรียมรถให้ฉัน” ชายชราพูดจบ ก่อนจะเดินขึ้นลงไปจากเขา
ถึงชายชราจะโตแล้ว แต่เดินเหินได้อย่างสะดวก การลงมาจากภูเขา มันไม่ได้ช้ากว่าพวกคนปีนเขาเลย
“โทรศัพท์เสร็จหรือยัง?”
หลังจากขึ้นรถโรลส์รอยซ์ไป ชายชราก็ถามยาม
ยามของชายชราพยักหน้า ก่อนจะพูดออกมา: “พวกเขารวมตัวกันแล้ว”
“อือ งั้นไปกันเถอะ” ชายชราโบกมือให้ พลางพูดออกมา
ยามออกรถ หัวใจก็สั่นรัว ครั้งนี้ท่านจวนออกหน้าด้วยตัวเอง หมายความว่าในเมืองจะเกิดเรื่องอะไรแน่นอน