NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 212
บทที่ 212 จางกงหมิงมีเรื่องเดือดร้อน?
รถหรูกว่าร้อยคัน ขับขึ้นสะพานมาอย่างเป็นระเบียบ
ในนั้นมีโรลส์รอยส อยู่ประมาณสิบกว่าคัน
รถเบนซ์Maybach รถตู้เบนซ์ และรถหรูยี่ห้ออื่นๆ ขับมาเป็นแถว
ทุกคนถึงกับอึ้ง
รวมไปถึงมู่เสี่ยวไป๋ คุณชายตระกูลมู่ เขาก็ไม่เคยเห็นอะไรที่อลังการแบบนี้มาก่อน
“เชี่ย นี่มันสถานการณ์อะไรวะเหนี่ย? !” มู่เสี่ยวไป๋เปลี่ยนสีหน้า เมื่อเห็นรถหรูเป็นแถว
งานปาร์ตี้ที่เขาหมาป่าถึงแม้จะมีรถหรูอยู่มากมาย แต่เมื่อเทียบกับรถที่อยู่บนสะพานนี้ ก็ดูดรอปลงไปเลย……
แค่รถโรลส์รอยซ์ไม่กี่สิบคัน รถหรูของเขาหมาป่าก็เทียบไม่ได้
โรลส์รอยส บ่งบอกได้ถึงฐานะ
มีแค่คนใหญ่คนโต เจ้าของต้องเป็นคนใหญ่คนโตแน่ๆ ถึงได้สามารถนั่งรถโรลส์รอยซ์ออกมาได้
และคนใหญ่คนโต เครือข่ายในมือของพวกเขา ไม่ใช่สิ่งที่ผู้น้อยอย่างมู่เสี่ยวไป๋สามารถจับต้องได้
“เจ้านาย ทำไมรถหรูเยอะแบบนี้?”
“พวกเขาคงไม่ได้มุ่งหน้ามาหาเราใช่มั้ย?” เสือที่ยืนอยู่ด้านข้างมู่เสี่ยวไป๋ ถามขึ้น
สีหน้าของมู่เสี่ยวไป๋ หวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด
“นั่นตระกูลเสิ่น รถของเสิ่นหยุนหลิน”
“นั่นตระกูลสวี รถของสวีส้าวชิว”
“นั่นตระกูลจ้าว รถของจ้าวโหย่วฉาย”
“นั่นตระกูลเฉียน รถของเฉียนโตโต”
……
มู่เสี่ยวไป๋ชี้ไปที่รถพวกนั้น แล้วบอกทีละคันๆ
ในฐานะลูกคนรวยที่มีคุณสมบัติ สำหรับรถของบุคคลพวกนั้น มู่เสี่ยวไป๋จำได้ขึ้นใจตั้งนานแล้ว
เพราะว่าคุณท่านพวกนั้น เป็นบุคคลที่มู่เสี่ยวไป๋ไม่สามารถรุกรานได้ง่ายๆ
มู่เสี่ยวไป๋ขมวดคิ้วเข้ม: “คนพวกนี้ ล้วนแต่เป็นบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ของเมืองเอก”
“ทำไมพวกเขาถึงมาที่นี่?”
ใจของมู่เสี่ยวไป๋เต้นเร็วขึ้น
เป็นผู้ยิ่งใหญ่คนไหน ที่บงการอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้
มู่เสี่ยวไป๋คิดจนหัวแทบระเบิด ก็คิดไม่ออกว่าเป็นใคร
หรือพูดได้ว่า มู่เสี่ยวไป๋ไม่เชื่อว่า จะมีคนบงการบุคคลเหล่านี้ได้
“ในรถหรูแต่ละคันนั้น ล้วนแต่เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในเมืองเอก ที่พวกเขามารวมตัวกันที่นี่ แสดงว่าต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแน่ๆ ”
มู่เสี่ยวไป๋ทำหน้าสงสัย
เขาคิดอยู่ครู่ แล้วพูดขึ้น: “ช่างเถอะ พวกเรารีบออกไปจากที่นี่กันดีกว่า”
“คนกลุ่มนี้ ถึงคุณปู่ฉันจะมา ก็เอาพวกเขาไม่อยู่” มู่เสี่ยวไป๋ยุ่งด้วยไม่ไหว ทำได้แค่อยากรีบออกไปจากที่นี่
มู่เสี่ยวไป๋กลัวว่าจะไปทำให้คนพวกนั้นไม่พอใจ แล้วจะนำพาภัยพิบัติมาให้ตระกูลมู่อย่างไม่คาดคิด เขาพูดกับเสือ: “พาซ้อของแกขึ้นรถ”
เสือพยักหน้า แล้วมองไปที่หลินชิงชิง
“เบามือหน่อย อย่าให้หล่อนได้รับบาดเจ็บ เข้าใจมั้ย?” มู่เสี่ยวไป๋พูดเตือน
“วางใจได้ครับ เจ้านาย ผมจะกล้าทำร้ายซ้อเหรอ?” เสือยิ้มอ่อน แสดงถึงด้านที่อ่อนโยน
พูดจบ เสือก็เดินไปทางหลินชิงชิง
แต่เมื่อมาถึงตรงหน้าหลินชิงชิง หลินชิงชิงก็ยกขาขึ้น เตะเข้าไปตรงเป้าของเสือ อย่างจัง
ทันใดนั้นเสือทรุดลง เจ็บจนยืนไม่ไหว
ปากยังอุทานออกมา เสียงโอ๊ย
ถึงแม้ว่าวิธีนี้ หลี่ฝางจะใช้เป็นประจำ แต่ลูกเตะของหลินชิงชิงนี้ แรงกว่าที่หลี่ฝางเตะมาก
“แม่งเอ๊ย……” เสือเงยหน้าขึ้น แล้วทำหน้าตาโกรธเกรี้ยว
แต่มู่เสี่ยวไป๋ ในขณะนั้นก็จ้องเขาตาเขม็ง
เสือกัดฟันกรอด ทำได้แค่อดทนไว้
“ไปตายซ่ะ!”
หลินชิงชิงยกเท้าขึ้นอีกครั้ง หุบขา แล้วใช้เข่าเสยคางเสือเข้าไปเต็มๆ
ท่วงท่าของหลินชิงชิง ทั้งเร็ว ทั้งแม่น และแรง
ฉากนี้ล้วนอยู่ในสายตาของมู่เสี่ยวไป๋ จนทำให้เขากลืนน้ำลายอย่างไม่รู้ตัว
มู่เสี่ยวไป๋คิดในใจ:ถ้าหากแต่งงานไป ตัวเองจะโดนซ้อมทุกวันเลยมั้ยเหนี่ย?
ตอนแรกที่เจ้าหัวแบนปกป้องหลินชิงชิง ก็มีสอนหล่อนไปบ้าง ให้หล่อนป้องกันตัวเอง
ปกติ หลินชิงชิงไม่ค่อยได้ลงไม้ลงมือกับใคร
ครั้งนี้ หลินชิงชิงงัดเอาออกมาใช้หมดเลย และทั้งหมดนั้นก็ลงไปยังร่างของเสือ
เสือโกรธมาก แต่มู่เสี่ยวไป๋อยู่ต่อหน้า
หล่อคือคู่หมั้นของเจ้านาย ถ้าหากลงมือกับหล่อน งั้นเขาก็จบกันพอดี?
เสือในตอนนี้ ทำอะไรไม่ได้อย่างไม่ต้องสงสัย เจ็บปวดแต่พูดอะไรไม่ได้
ทันใดนั้นเสือก็พยุงตัวเองขึ้น แล้วไปหลบหลังมู่เสี่ยวไป๋: “เจ้านาย ซ้อต่อสู้เก่ง ผมเอาไม่อยู่ครับ”
ที่จริงสำหรับเสือแล้ว จะจัดการหลินชิงชิง นั้นเป็นเรื่องง่ายมากๆ
แต่ว่า หลินชิงชิงเป็นคนในดวงใจของมู่เสี่ยวไป๋
จะจัดการเธอ แบบรุนแรงไม่ได้เด็ดขาด
และถ้าเธอทำร้ายเขา เขาก็ไม่สามารถสวนกลับได้
มู่เสี่ยวไป๋ขมวดคิ้ว แล้วมองไปที่เสือพลางก่นด่า: “แกก็เหมือนจางกงหมิง ไร้ประโยชน์เหมือนกัน!”
หลังจากมู่เสี่ยวไป๋ด่าเสือจบ จู่ๆ ก็เห็นถึงปัญหา
หรือว่าเขาจะต้องจัดการกับหลินชิงชิงเอง?
มู่เสี่ยวไป๋มองไปที่หลินชิงชิง แล้วพูด: “ชิงชิง ฉันขอเธอแหละอย่าต่อต้านเลย เป็นเด็กดีกลับบ้านไปกับฉันนะ”
“นายฝันกลางวันอะไร อยากให้ฉันกลับบ้านไปกับนายงั้นเหรอ? นอกจากฉันจะตายเท่านั้นแหละ” หลินชิงชิงพูดด้วยสีหน้าเย็นชา
มู่เสี่ยวไป๋รู้ว่าเขาไม่ได้คู่ต่อสู้ของหลินชิงชิง ดังนั้นจึงไม่กล้าเขาไปลงมือเอง
เขารู้ ว่าสำหรับหลินชิงชิงแล้ว คงจะไม่ยอมใจอ่อนให้เขา
“เสือ จับเธอขึ้นรถ” สีหน้าของมู่เสี่ยวไป๋ ดูย่ำแย่ขึ้น
“เจ้านาย ผม ไม่สามารถจัดการซ้อได้เลย” เสือพูดขึ้นอย่างเลิ่กลั่ก
“ฉันอนุญาตให้นายสวนกลับ” มู่เสี่ยวไป๋พูดขึ้น
เสือลังเลอยู่ครู่ จึงพูดขึ้น: “ครับ”
ถึงแม้มู่เสี่ยวไป๋จะอนุญาตให้เขาสวนกลับได้ แต่ตัวเขาจะสวนกลับได้จริงเหรอ?
อย่างมาก ก็แค่ป้องกันตัว
ถ้าหากลงมือก่อน คงจะได้โดนมู่เสี่ยวไป๋คิดบัญชีหลังเรื่องจบแน่
เสือไม่ใช่คนโง่ เขาถือว่าเขาพอมองออก ถึงแม้ปกติแล้วมู่เสี่ยวไป๋จะวางอำนาจ และมาดเข้ม แต่ว่าต่อหน้าผู้หญิงคนนี้ มู่เสี่ยวไป๋ก็เหมือนกับหนูตัวนึงเท่านั้น
“ซ้อ ผมไม่อยากลงมือกับซ้อ ซ้ออย่าบีบบังคับผมเลย” เสือมายืนอยู่เบื้องหน้าหลินชิงชิงอีกครั้ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ
“ใครเป็นซ้อแก? เรียกอะไรมั่วซั่วห้ะ” หลินชิงชิงขมวดคิ้ว แล้วด่าอย่างโมโห: “ฉันเป็นเจ้ายายแก !”
“งั้นเจ้ายายครับ พวกเราอย่าลงไม้ลงมือ แล้วมาคุยกันดีๆ ดีมั้ย?” เสือพูดหว่านล้อม
“ได้สิ นายไสหัวไป แล้วปล่อยฉันไป แบบนี้พวกเราก็แก้ปัญหากันด้วยดีแล้วจริงมั้ย” หลินชิงชิงพูดขึ้น
เสือถอนหายใจ แล้วพูดอย่างหมดหนทาง: “เห็นทีจะต้องลงมือจริงๆ สินะ”
เสือพูด พลางยืดอก ใบหน้าแสดงให้เห็นถึงความเหี้ยมโหด
กว่าเสือจะมาอยู่ในตำแหน่งนี้ได้ในวันนี้ นอกจากความช่วยเหลือของมู่เสี่ยวไป๋แล้ว ก็คือความสามารถของตัวเอง
เป็นนักเลงตามท้องถนน ใครไม่เคยทำกัน?
เสือเลิกคิ้วขึ้น แล้วพุ่งเข้าไปหาหลินชิงชิง
หลินชิงชิงยกขา แล้วออกลูกเตะใส่
แต่เสือ ไม่ได้หลบแต่อย่างใด เขารับลูกเตะที่เตะอัดท้องของเขา
ลูกเตะคราวนี้ ไม่ได้ทำร้ายเสือแต่อย่างใด
เสือยิ้มเยาะ: “ซ้อ ผมแนะนำให้ซ้อยอมแพ้ก่อนเถอะ”
เสือพุ่งเข้าไปด้านหน้า แล้วคว้าแขนของหลินชิงชิง แล้วล็อกไว้
เสือกดแขนของหลินชิงชิงไว้ แล้วจับเธอขึ้นรถ
ถึงแม้ขณะนั้นหลินชิงชิงจะดิ้นแรงแค่ไหน ก็ไม่มีประโยชน์
หลังจากเรื่องจบ มู่เสี่ยวไป๋ก็ เตะเข้าไปที่ร่างของเสือ: “ผู้หญิงคนอื่น แกจับขาหล่อนทำไม!”
“ขาของผู้หญิงของฉัน คนอย่างนายกล้าจับเหรอ?” มู่เสี่ยวไป๋มองเสืออย่างโมโห แล้วก่นด่า
เสือกัดฟันแน่น ทนต่อคำดูถูกของมู่เสี่ยวไป๋
เมื่อหลี่ฝางเห็นหลินชิงชิงถูกพาขึ้นรถไป ทันใดนั้นก็เลิ่กลั่ก
เขามองไปที่จางกงหมิง แล้วพูดอย่างเย็นชา: “จางกงหมิง ถึงพี่จะไม่สนใจว่าฉันจะเป็นหรือตาย พี่ก็ควรจะแคร์หลินชิงชิงหน่อยนะ เธอเป็นน้องสาวญาติแท้ๆ ของพี่นะ”
“เสี่ยวฝาง จำไว้นะ ตอนที่ฉันโยนนายลงไป ต้องสูดหายใจเข้าลึกๆ นะ”
“กลั้นหายใจไว้ นายก็จะไม่ตาย เข้าใจมั้ย?”
จางกงหมิงตบไปที่บ่าของหลี่ฝาง แล้วพูด: “นายวางใจเถอะ เรื่องของชิงชิง ฉันจะไปจัดการเอง”
“ฉันจะไม่ให้ชิงชิงเป็นอะไร และก็หวังว่านายจะไม่เป็นอะไรเหมือนกัน” สีหน้าของจางกงหมิง ย่ำแย่ถึงขีดสุด
หลี่ฝางถามจางกงหมิง: “พี่หมิง สรุปแล้วพี่ซ่อนความเดือดร้อนอะไรไว้กันแน่?”
จางกงหมิงไม่ได้ตอบ
และในตอนนั้น มู่เสี่ยวไป๋ก็ตะโกนมาทางพวกเขา: “จางกงหมิง แกรอบ้าอะไรอยู่ห้ะ!”
“รีบโยนไอ้หมอนั่นลงไปซะที!”
หลังจากที่มู่เสี่ยวไป๋พูดจบ จางกงหมิงก็อุ้มหลี่ฝางขึ้นมา
หลี่ฝางมองไปที่แม่น้ำที่เชี่ยว จู่ๆ ใจก็เต้นแรงขึ้น
“รีบสูดหายใจ!” จางกงหมิงพูดเตือนหลี่ฝาง
ขณะที่จางกงหมิงอุ้มหลี่ฝางขึ้นมา ประตูของรถทุกคัน ก็ถูกเปิดออก
กลุ่มคนที่ดูเป็นระเบียบพวกนั้น ลงจากรถ แล้วเดินเข้าไปทางนั้น