NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 248
บทที่ 248 ความตกอับและเสียคนของถังหยู่ซวน
มูลค่าหนึ่งล้านในบอร์ด ได้รีเฟรชการบันทึกของtik tokโดยตรง
ในเวลานี้ หลี่ฝางรู้สึกยอมรับกับความใจใหญ่ของหมาป่าใหญ่
หมาป่าใหญ่คนนี้เป็นใครกันแน่?
กล้าใช้หนึ่งล้านเพื่อจีบสาว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนนี้มีค่าตัวอย่างน้อยร้อยล้าน
หรืออาจ มากกว่าร้อยล้าน… …
ก่อนหน้านี้ หลี่ฝางเคยสงสัยว่าหมาป่าใหญ่คือเฉินเสี้ยว แต่ตอนนี้ดูเหมือน จะเป็นไปไม่ได้แน่นอน
เพราะเฉินเสี้ยวเป็นครอบครัวชนชั้นกลาง เขาจะเอาเงินเป็นล้านเพื่อเปย์ของขวัญได้หรือ?
เป็นไปได้ไหมว่า หมาป่าใหญ่คนนี้เหมือนตัวเอง เป็นทายาทเศรษฐีรุ่นที่สอง?
ในเวลานี้ ห้องไลน์สดกำลังดุเดือดเต็มที่ และจำนวนคนยังคงทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ความสนใจของยูสนับหมื่น จุดสนใจไม่ได้อยู่ที่ตัวของลู่หลุ่ยอีกต่อไป พวกเขามาดูการเปย์เงิน
การใช้เงินแบบนี้ของเศรษฐี เห็นแล้วมันน่าตื่นเต้นมาก
พี่หมาป่านี่ยอดเยี่ยมมาก เขาเป็นเศรษฐีขั้นเทพอันดับหนึ่งบนแพลตฟอร์มtik tok!
“ไอ้เด็กเปรตคนนั้น เก่งไม่ใช่เหรอ? พี่หมาป่าใหญ่เปย์เป็นล้านแล้ว เห็นบอกว่าอยากท้าดวลสักครั้งไม่ใช่เหรอ? มาสิ!”
“ฮ่าฮ่า สงสัยกลัวจนหนีไปนานแล้ว”
“ใครจะกล้ามาแข่งเงินกับพี่หมาป่า นั่นเหมือนเป็นการหาที่ตายชัดๆ?”
ความคิดเห็นของยูส เอนเอียงไปหมด ทุกคนพูดเข้าข้างหมาป่าใหญ่
เพราะหมาป่าใหญ่เป็นยูสเก่าแก่ของแพลตฟอร์มtik tok และเจ้าตัวเองก็มีผู้สนับสนุนมากมาย
“ไอ้เด็กเปรต รีบออกมาและเรียกคุณปู่สิ!” หมาป่าใหญ่โห่ร้องออกมา
หลี่ฝางหัวเราะเบาๆ และเริ่มลงมือ
เรือยอชต์ทีละลำ ลอยอยู่ทั่วจอไลน์สด
“เขายังกล้าเปย์อีก ไม่อยากจะเชื่อเลย ลำดับรายชื่อบนบอร์ดของหมาป่าใหญ่ สูงถึงหนึ่งล้านแล้ว!”
“เขาจะเปย์เงินล้านเพื่อคว้าตำแหน่งสูงสุดที่อยู่ในบอร์ดของหมาป่าใหญ่จริงหรือ?”
“คุณดูดีๆนะ เขาไม่ได้ใช้บัญชีเดียวเพื่อเปย์ แต่ใช้สองบัญชีปย์… … ก็หมายความว่า เขาไม่ใช่จะเปย์หนึ่งล้าน แต่จะเปย์สองล้าน”
ทุกคนตกตะลึง
666 เต็มจอยอดเยี่ยม ว้าว
ภายในเวลาไม่ถึงสามนาที ทั้งสองบัญชีของหลี่ฝาง ในรายชื่อบอร์ดมีถึงหนึ่งล้าน
รายชื่อสามอันดับแรกนั้น เหมือนกันทุกประการ ซึ่งมีมูลค่าคนละหนึ่งล้าน
หมาป่าใหญ่เห็นว่าเขายังอยู่ในอันดับแรกของรายการ ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“หยุดทำไม?” ทุกคนตกใจ
“พี่หมาป่ายังคงอยู่ในอันดับแรกของรายการ!”
“หมาป่าใหญ่เป็นแค่น้องชาย แต่เขาเปย์เงินไปสองล้าน
หมาป่าใหญ่หัวเราะเยาะในห้องไลน์สด “เคยพูดไว้แล้ว ใครอยู่อันดับแรกของรายการ ใครชนะ!
“ตอนนี้ ฉันเป็นอันดับหนึ่ง ฉันชนะ… …”
ทันทีที่หมาป่าใหญ่พูดจบ ทั้งสองบัญชีของหลี่ฝาง ก็แจกอมยิ้มมูลค่าไม่ถึงบาทในเวลาเดียวกัน
? ?
ดวงตาของหมาป่าใหญ่ ลูกกะตาแทบกระเด็นออกมา
หมาป่าใหญ่จากอันดับแรกเปลี่ยนเป็นอันดับสามทันที อันดับแรกและอันดับที่สองมีมูลค่ามากกว่าเขาไม่ถึงหนึ่งบาทเท่านั้น!
ยั่วยุ!
ทุกคนสามารถเห็นได้ว่า นี่คือการยั่วยุหมาป่าใหญ่!
หมาป่าใหญ่โกรธจนอยากอาเจียนเป็นเลือด นายน่ามากกว่าฉันสักหนึ่งหมื่น ก็ยังจะดีกว่า!
หมาป่าใหญ่ในขณะนี้ ตอนแรกพอใจและเชื่อมั่นแล้ว
ตัวเองทุ่มไปหนึ่งล้าน หลี่ฝางทุ่มไปสองล้าน!
นี่แสดงให้เห็นว่า หลี่ฝางร่ำรวยกว่าเขามาก
ตรงจุดนี้ ทุกคนในห้องไลน์สด สามารถมองเห็นสิ่งนี้อย่างชัดเจน
หลี่ฝางไม่เพียงแต่ร่ำรวย แล้วยังชอบทำตามใจตัวเอง… …
ประเด็นคือ ทำไมมีคนที่ชอบยั่วยุแบบนี้
ชนะด้วยเงินไม่ถึงหนึ่งบาท นี่เป็นการดูถูกกันหรือเปล่า?
หมาป่าใหญ่ตกอยู่ในภาวะลำบากใจ ตัวเองจะเล่นต่อ หรือไม่เล่นต่อ?
ถ้าไม่เล่น ก็ต่างกันไม่ถึงบาท เพียงเพราะเงินไม่ถึงบาท ต้องเรียกคนอื่นว่าคุณปู่ มันอัดอั้นตันใจเกินไปหรือเปล่า?
พอเล่น อีกฝ่ายร่ำรวย ก็เหมือนกับสายลมที่พัดแรง ตัวเองทุ่มเท่าไหร่ อีกฝ่ายก็ต้องทุ่มตาม
ดังนั้น ถ้าเล่น ก็แพ้
ไม่เล่น ก็แพ้อย่างอัดอั้นตันใจ
“คุณปู่ ฉันแพ้แล้ว!”
หลังจากลังเลอยู่นาน หมาป่าใหญ่ก็พิมพ์คำสองคำในช่องแสดงความคิดเห็น และรีบถอนตัวออกจากห้องไลน์สดทันที
เมื่อค้นหาบุคคลนี้ หมาป่าใหญ่ก็ได้เปลี่ยนชื่อแล้ว และเปลี่ยนเป็นบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว มีธุระก็เผากระดาษเงินไปให้
แม่งเอ้ย!
เมื่อเห็นชื่อนี้ หลี่ฝางก็ตกใจ
ดึกดื่นขนาดนี้ มาหลอกกันทำไม?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนต้นขาของหลี่ฝาง ยังมีเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับคนตาย!
หลี่ฝางตัวสั่น และลงจากรถ เดินเข้าไปในบาร์
สถานที่นี้ คุ้นเคยมาก!
เมื่อเห็นธุรกิจบาร์ของตัวเองกำลังเฟื่องฟู มุมปากของหลี่ฝาง มีความสุขมาก
เมื่อมาถึงตรงหน้าหวางเสี่ยวโก๋ หลี่ฝางมองเหล้าที่อยู่บนโต๊ะ และไอแห้งทีหนึ่ง “พวกคุณกำลังทำอะไร? ช่วยผมประหยัดเงินหรือไง ดูถูกผมเหรอ”
“พวกเราเก้าคน สั่งอาหารแค่สี่อย่าง ผลไม้หนึ่งจาน?” หลี่ฝางพูดด้วยความไม่พอใจ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเหยนเสี่ยวน่า ดูแย่เล็กน้อย
เพราะสิ่งเหล่านี้ เธอเป็นคนสั่ง
หลี่ฝางกวักมือเรียก และเรียกโหจื่อมา “โหจื่อ เอาเหล้าดีๆมาให้พวกเรา และ เอาอาหารมาเยอะหน่อย”
โหจื่อพยักหน้า และจากไป
เมื่อมองไปที่หลี่ฝาง เหยนเสี่ยวน่าก็ขมวดคิ้ว “ฉันขอถาม หลี่ฝางนายเป็นใครกันแน่?”
“ทำไมถึงรู้จักคุ้นเคยกับคนในบาร์นี้จัง นายไม่บอกชื่อเหล้า และขอให้เขาเอามาให้เลย?” เหยนเสี่ยวน่ามองหลี่ฝางอย่างสงสัย
“ถ้าผมบอกว่าผมเป็นเจ้าของบาร์นี้คุณเชื่อไหม?” หลี่ฝางพูดติดตลก
“นายเป็นคนใจกว้างขนาดนี้ พวกเราจะไม่เชื่อได้ไง” เหยนเสี่ยวน่าพูด
หวางเสี่ยวโก๋ก็พูด “นั่นสิ หลี่ฝาง ถ้านายบอกว่านายเป็นลูกเศรษฐี พวกเราก็เชื่อนาย”
หลี่ฝางยิ้มจางๆ “จริงๆแล้ว บาร์ร้านนี้ น้องชายของผมเป็นคนเปิด”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ หลี่ฝางไม่เจอถังหยู่ซวนมาหลายวันแล้ว และไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่
โหจื่อนำไวน์แดงมาหลายขวด และอาหารอีกหลายจาน ผลไม้… …
ในตอนนี้ หลี่ฝางถามโหจื่อว่า “ถังหยู่ซวนอยู่ที่ไหน? เขาอยู่ที่บาร์หรือไม่”
“กำลังดื่มเหล้ากับกลุ่มทายาทเศรษฐีรุ่นที่สอง” โหจื่อพูด และหัวเราะ
“ทายาทเศรษฐีรุ่นสอง?” หลี่ฝางขมวดคิ้ว “มีใครบ้าง?”
“จะเป็นใครได้ โจวเจ๋ ส้งเสียง และอีกหลายคน… … ผมก็ไม่รู้จัก เจ้านาย น้องชายของคุณ ไม่ได้ใส่ใจอะไร นอกจากดื่มเหล้าจีบสาวแล้ว ไม่สนใจธุรกิจบาร์เลย”
“ลุงเฉียน ตั้งใจจะสอนวิธีบริหารบาร์ให้เขา แต่ว่า เขาไม่มีความตั้งใจที่จะเรียนรู้”
โหจื่อส่ายหัวและพูดว่า “ที่จริงแล้วก็ไม่ตำหนิเขา แต่เดิมเขาเป็นคนไม่เอาไหนอยู่แล้ว จะต้านทานสิ่งเย้ายวนเหล่านี้ได้ยังไง?” “เหล้าดี คนงาม ทุกคนต่างชื่นชมเขา ภายใต้สภาพแวดล้อมเช่นนี้ ทำให้เขาตกอับและเสียคน มันแน่นอนอยู่แล้ว”
คำพูดของโหจื่อ เหมือนเป็นการฟ้องหลี่ฝาง
หลี่ฝางขมวดคิ้ว ไม่พอใจเล็กน้อย
ถังหยู่ซวนเป็นพี่น้องที่ร่วมเป็นร่วมตายกับหลี่ฝาง ตอนนั้นหลี่ฝางใช้เงินหกล้านกว่าทดลองใจเขา เขาได้ผ่านการทดสอบแล้ว
เสียคน อย่างน้อยยังช่วยได้
ขอเพียงไม่คิดทรยศตัวเอง.
หลี่ฝางยิ้ม และตบไหล่โหจื่อ “นายไปทำงานเถอะ ถ้ามีอะไร ฉันค่อยเรียกนาย”
“โอเค” โหจื่อพยักหน้า และไปทำงาน
ขณะนี้ หลี่ฝางเดินไปที่โต๊ะวีไอพี
บนโซฟา มีใบหน้าที่คุ้นเคยนั่งอยู่หลายคน มีจางเชี่ยน โจวเจ๋ หลิวเฉียวเฉียว ส้งเสียง… … ถังหยู่ซวนเมาหนักมาก หน้าแดง ในอ้อมกอดเขา ไม่เพียงแต่มีสาวจางปิงปิง และยังมีอีกคนนอนอยู่
อันที่จริง หลี่ฝางไม่ได้ตำหนิเขามากนัก อย่างไรก็ตามผู้ชาย แทบจะไม่สามารถต้านทานความเย้ายวนของเหล้าดีและสาวงามได้… …
แน่นอน นี่แสดงให้เห็นว่า ถังหยู่ซวนไม่ใช่คนเก่งที่จะเปลี่ยนแปลงได้
เดิมที หลี่ฝางวางแผนที่จะสนับสนุนถังหยู่ซวน แต่ตอนนี้ดูเหมือน มันน่าจะยากมาก
จางเชี่ยนนั่งอยู่อีกมุมของห้อง พร้อมกับบุหรี่ในมือ และแต่งหน้าเข้ม และไม่ทันสังเกตเห็นหลี่ฝางเข้ามา
หลิวเฉียวเฉียวเงยหน้าขึ้นและเห็นหลี่ฝาง และดึงแขนเสื้อของส้งเสียง
“โอ้ นึกว่าใคร นี่หลี่ฝางไม่ใช่เหรอ?”
“เห็นถังหยู่ซวนอยู่ที่นี่ เลยเข้ามาขอดื่มใช่ไหม?”
ส้งเสียงเงยหน้าขึ้นและมองหลี่ฝาง สายตาเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
“ช่างเถอะ ไม่ว่ายังไง เขาก็เป็นน้องชายของถังหยู่ซวน ให้เขานั่งลงเถอะ” โจวเจ๋เหลือบมองหลี่ฝาง ทำเหมือนไม่แยแส
“ไม่มีที่นั่งแล้ว?” ไม่นาน โจวเจ๋ก็พูดขึ้นมา
“ฮึฮึ หลี่ฝาง ถ้าอย่างนั้นนายก็ยืนดื่ม”โจวเจ๋ยิ้มเยาะ และผลักแก้วเหล้ามาฝั่งหลี่ฝาง
ในขณะนี้ ส้งเสียงก็นึกอะไรบางอย่างได้
“ฉันได้ยินเฉียวเฉียวพูดว่า เงินจากการขายที่ดินนายใช้จนหมดเกลี้ยง และตอนนี้ตกอับจนต้องมาเป็นวีเจ หรือว่า นายมาร้องเพลงให้พวกเรา หรือเต้นรำ”
“แสดงความสามารถของนาย ให้พวกเราได้เห็น เป็นอย่างไรบ้าง?”
“ไม่ต้องกังวล พวกเราจะให้เงิน” พูดจบ ส้งเสียงหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา วางไว้บนโต๊ะเหล้า