NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 249
บทที่ 249 วิดีโอของการนับเงินของจ้าวเสี่ยวตาว
ถ้าคุณขี้เหร่ คนอื่นว่าคุณขี้เหร่ คุณจะโกรธเกรี้ยวมาก
แต่ถ้าคุณไม่ขี้เหร่ คนอื่นว่าคุณขี้เหร่ ในใจของคุณ ก็จะไม่รู้สึกอะไร
ดังนั้น เมื่อเผชิญกับการดูถูกเช่นนี้ ในใจหลี่ฝางกลับไม่มีผลกระทบใดๆ และยังอยากหัวเราะ
“นายไปเป็นวีเจหรือ?”
หลังจากที่โจวเจ๋ได้ยิน ก็เงยหน้าขึ้นจ้องมองหลี่ฝาง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความขี้เล่น
“ก่อนหน้านี้ไม่พูด? ถ้าพูดก็มาที่บริษัทของฉัน ยังไงก็เป็นคนกันเอง ฉันก็ยังสามารถดูแลนายได้” โจวเจ๋แสร้งทำเป็นพูดดี
“ใช่สิ ฉันได้ยินมาว่านายกับน้องชายของฉันโจวหยางเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน”
“ตอนนี้น้องชายฉันเป็นผู้จัดการใหญ่ของถู่โต้ว ถ้านายไม่ต้องการมาหาฉัน ก็สามารถไปพึ่งพาน้องชายของฉัน”
“เพราะถู่โต้วเป็นแพลตฟอร์มขนาดใหญ่”
นี่เป็นครั้งแรกที่โจวเจ๋พูดถึงน้องชายของเขาให้ส้งเสียงและคนอื่นๆฟัง
และยังเป็นความรู้สึกชื่นชม
การจัดอันดับแอปวิดีโอสั้นของถู่โต้ว ครองตำแหน่งห้าอันดับแรกมาตลอด โดยมีผู้ใช้หลายสิบล้านคน
ทุกคนบนโต๊ะ รู้ถึงชื่อเสียงของถู่โต้ว
โจวหยางเพิ่งเข้ามหาลัยปีแรก และกลายเป็นผู้จัดการใหญ่ของถู่โต้ว กล่าวได้ว่ามีอนาคตที่สดใส
“พี่เจ๋ น้องชายของคุณมีอนาคตที่ดีจริงๆ นี่พึ่งเรียนปีหนึ่ง ก็ได้เป็นผู้จัดการใหญ่ของถู่โต้ว ถ้าจบปริญญา จะขนาดไหน”
“ใช่สิ ฉันได้ยินมาว่าถู่โต้วถูกบริษัทข้ามชาติซื้อไว้แล้ว บริษัทข้ามชาติเหล่านี้ ความสามารถยอดเยี่ยม ยิ่งใหญ่ไม่ด้อยกว่าบริษัทอาลีบาบาใหญ่ภายในประเทศ”
“บริษัทข้ามชาติแห่งนี้ได้ซื้อกิจการถู่โต้ว ต้องมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ ฉันเดาว่า คงใช้เวลาไม่นาน ยูสของถู่โต้ว จะต้องเพิ่มขึ้นหลายเท่า”
เรื่องที่ถู่โต้วถูกซื้อกิจการ โจวเจ๋ก็เคยได้ฟัง
น้องชายโง่ของเขา ได้รับคัดเลือกจากถู่โต้วให้เป็นผู้จัดการใหญ่
เจ้านายของถู่โต้วนี้ เป็นคนโง่หรือเปล่า? กระทั่งเชิญนักศึกษาปีหนึ่งมาทำงาน
โจวเจ๋คิดเรื่องนี้ ก็รู้สึกขบขัน
แต่ว่า โจวหยางกลายเป็นผู้จัดการใหญ่ของถู่โต้ว พูดออกไป ในฐานะที่เป็นพี่ชาย ก็มีราศีขึ้น
โจวเจ๋ไอเบาๆ และพูดเบาๆ ถ้าไม่ใช่เพราะบริษัทสื่อของฉันเป็นที่นิยม บริษัทใหญ่อย่างถู่โต้ว จะเชิญเขามาเป็นผู้จัดการใหญ่หรือ?”
“พูดถูกต้อง โจวหยางสามารถไปเป็นผู้จัดการใหญ่ของถู่โต้ว ทั้งหมดนี้เป็นเพราะพึ่งบารมีของพี่เจ๋ คนที่อยู่ที่นี่ ล้วนแต่เป็นคนที่ประจบสอพลอ ก็ต้องเริ่มประจบสอพลอ
“ฉันคิดว่าถู่โต้วต้องจ้างพี่เจ๋ก่อนแน่ๆ ท่านไม่เห็นด้วย พวกเขาก็ถอยออกมา แล้วจ้างน้องชายของท่าน” ชายชุดแดงพูดประจบ
ประโยคนี้ ทำให้ใบหน้าของโจวเจ๋เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
“ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้ถู่โต้วเคยเชิญฉันก่อน แต่ฉันปฏิเสธ”
“ทำงานให้คนอื่น ไม่สบายเท่ากับการเป็นเจ้านาย พวกนายว่าใช่ไหม?”
โจวเจ๋หัวเราะฮ่าๆ “หลังจากนั้น ฉันก็แนะนำน้องชายของฉันให้เจ้าของถู่โต้ว”
“ที่แท้งานของโจวหยาง พี่เจ๋เป็นคนแนะนำให้”
“ใช่สิ มิฉะนั้น บริษัทใหญ่แพลตฟอร์มอย่างถู่โต้ว จะสังเกตเห็นเด็กมหาลัยปีหนึ่งเหรอ?” โจวเจ๋เลิกคิ้ว และพูด
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลี่ฝางรังเกียจจนเกือบอาเจียนออกมา
โจวเจ๋คนนี้ ช่างไร้ยางอายจริงๆ
คิดว่าเขาคงจะยังไม่รู้ เจ้านายของถู่โต้ว ก็ยืนอยู่ตรงหน้าเขา
พูดโกหกได้ง่ายๆ โจวเจ๋คนนี้ ไม่รู้จักอายเลย
หลิวเฉียวเฉียวพึ่งตระหนักได้ ก็หัวเราะเยาะเสียงดัง
“มิน่าล่ะ!”
หลิวเฉียวเฉียวเหลียวมองหลี่ฝาง “ฉันว่าแล้วทำไมนายถึงไป(วิลล่ากลางภูเขา) เพื่อสมัครเป็นวีเจ ที่แท้โจวหยางเป็นผู้จัดการใหญ่นี่เอง”
“วิลล่ากลางภูเขา?” ชายชุดแดงถาม “นั่นเป็นวิลล่าราคาเริ่มต้นที่หกหมื่นขึ้นไป วิลล่าทั่วไป ราคาก็ยี่สิบล้านเลยเหรอ?”
“ใช่สิ หลิวเฉียวเฉียวพยักหน้า
“เจ้านายถู่โต้ว ได้ซื้อ(วิลล่ากลางภูเขา)หลังหนึ่งเอาห้องนอนในวิลล่า เปลี่ยนเป็นห้องไลน์สดของวีเจ”
“วันนี้ฉันไปเป็นเพื่อนกับเซี่ยลู่เพื่อสมัครเป็นวีเจหญิง และก็เข้าไปดู การตกแต่งภายในหรูหรามาก”
“แต่ฉันไม่ได้ไปสมัครงาน ก็เลยไม่ได้เจอโจวหยาง”
ทันทีที่หลิวเฉียวเฉียวพูดจบ สีหน้าของทุกคน ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
(วิลล่ากลางภูเขา) เป็นสถานที่อะไร?
นั่นคือที่ที่คนรวยที่สุดในเมืองเอก อาศัยอยู่
เจ้าของถู่โต้ว ได้ซื้อวิลล่ากลางภูเขาหลังหนึ่ง และได้ดัดแปลงให้เป็นห้องไลน์สดสำหรับวีเจ
ให้ตายเถอะ คิดผิดหรือเปล่า!
ปล่อยให้วีเจอยู่ในวิลล่าคุณภาพระดับสูง เจ้าของถู่โต้วนี้ คนรวยทำอะไรไม่เหมือนคนอื่น หรือสมองมีปัญหา
“ดูเหมือนข่าวลือจะเป็นเรื่องจริง คนที่ซื้อถู่โต้วนั้น คงร่ำรวยมาก ถึงกับใช้เงินหลายสิบล้านซื้อวิลล่า เพื่อให้เหล่าวีเจไปอยู่!”
“จริงสิ หลิวเฉียวเฉียววิลล่าของพวกเขา เบอร์อะไร?”
“ฉันได้ยินมาว่า ตัวเลขยิ่งน้อยยิ่งมีค่ามากขึ้นเท่านั้น”
“วิลล่าหมายเลข1 เป็นวิลล่าราคาสูงเสียดฟ้า ราคายูนิตละแสนแปด และพื้นที่มากกว่าพันสองตารางเมตร มูลค่ารวมมากกว่าสองร้อยล้าน”
“ถึงตอนนี้ยังขายไม่ได้ค่ะ”
“ใครบอกว่าขายไม่ได้? เมื่อไม่กี่วันพึ่งขายออก เพื่อนในเมืองเอกของฉันยังส่งวิดีโอมาให้ดู ผู้ซื้อรายนั้น ขนเงินสดมากกว่าสองร้อยล้าน รับเงินสดไปเต็มจำนวน!”
“ขนเงินมากกว่าสองร้อยล้านเพื่อซื้อบ้าน? ว้าว ไอ้หมอนี่สุดยอดไปเลยใช่ไหม”
“วิดีโอยังมีอยู่ไหม เอาออกมาให้ทุกคนดูหน่อย ฉันยังไม่เคยเห็นเงินสดเลย
ในเวลานี้ ชายสวมแว่นตาหยิบโทรศัพท์ออกมา และเปิดวิดีโอ
ในวิดีโอ มีกองเงิน กองเหมือนภูเขา
มีชายสองคนและหญิงหนึ่งคน กำลังนับเงินทีละใบ
เมื่อเห็นวิดีโอนี้ ทุกคนต่างตกตะลึง
พวกเขาก็เป็นทายาทเศรษฐีรุ่นที่สอง แต่พวกเขาเป็นเพียงทายาทเศรษฐีรุ่นที่สองในตงไห่… … พวกเขาไม่เคยเห็นฉากเช่นนี้มาก่อน
เงินสดมากกว่าสองร้อยล้าน คนในนี้ ทรัพย์สินกิจการบ้านใคร จะมีถึงสองร้อยล้าน?
แม้แต่ตระกูลส้งที่ร่ำรวยที่สุด ก็ทำไม่ได้?
“ดูวิดีโอนี้แค่ดูๆ ห้ามพูดออกไป” ชายใส่แว่นพูด
“ทำไมล่ะ? ทำไมถึงพูดไม่ได้” ชายในชุดแดงถาม
โจวเจ๋เบ้ปากและยิ้ม “เสี่ยวสาน วิดีโอนี้ คงไม่ใช่นายค้นหาจากอินเทอร์เน็ต แล้วนำมาแกล้งล้อพวกเรา?”
โจวเจ๋สงสัยเกี่ยวกับวิดีโอนี้
เพราะเมืองเอกกับตงไห่อยู่ใกล้กันขนาดนี้ เกิดเรื่องแบบนี้ ทำไมพวกเขาถึงไม่เคยได้ยินมาก่อน?”
“ใช่สิ เสี่ยวสาน ทำไมวิดีโอนี้ มีแต่นายที่มี ทำไมพวกเราไม่เคยเห็นมาก่อน?”
“ถ้าวิดีโอนี้เป็นเรื่องจริง คิดว่าคงจะถูกแชร์ออกไปทางเน็ตนับไม่ถ้วนแล้ว?”
ชายที่ชื่อเสี่ยวสานหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “พวกนายดูดีๆนะ ผู้ชายที่นับเงินคนนี้ พวกนายคุ้นหน้าไหม”
ชายชุดแดงส่ายหัว แสดงท่าทางไม่รู้จัก และถามว่า “เขาเป็นใคร”
“นายไม่เคยเห็นเหรอ?” เสี่ยวสานทำตาเหลือกให้ชายชุดแดง และพูดว่า “นายไปค้นหาประวัติชายคนนี้ในเมืองเอก มีคนมากมายที่รู้จักเขา”
“เขาสุดยอดมาก?”
ชายชุดแดงยิ้มอย่างเหยียดหยาม “ถ้าเขาเยี่ยมยอดขนาดนั้น ทำไมตกอับจนต้องไปนับเงินให้คนอื่น?”
“ชายคนนี้ดูแล้วต้องเป็นคนที่ขายบ้าน ยากจนจนน่าสมเพชมาก”
“คิดว่าคงไปดูถูกผู้ซื้อ ดังนั้นเมื่อผู้ซื้อโกรธ เขาจึงลงโทษเขาด้วยเงิน”
เสี่ยวสานพูดว่า “คำพูดประโยคสุดท้ายของนายพูดถูก เขาทำให้ผู้ซื้อ(วิลล่าหมายเลข1)ขุ่นเคืองจริง ฉะนั้นผู้ซื้อ ได้ให้คนขนเงินสดมาสองร้อยล้าน เพื่อลงโทษเขา”
แต่นายบอกว่าเขาเป็นคนน่าสมเพช แล้วนาย คงเทียบไม่ได้กับขอทาน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ชายชุดแดงก็โกรธทันที
เสี่ยวสาน แม่งเอ้ยพูดอย่างนี้หมายความว่าไง?” ชายในชุดสีแดงขมวดคิ้ว คำพูดของเสี่ยวสาน เป็นการดูถูกเขาอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะถากถางนาย คนๆนี้ ไม่เพียงแต่ไม่ยากจน เขายังร่ำรวยกว่าทุกคนที่อยู่ในห้องนี้”
ในเวลานี้ โจวเจ๋และส้งเสียง ก็จำจ้าวเสี่ยวตาวได้ในเวลาเดียวกัน
เพราะครั้งที่แล้วที่อยู่ในสถานตากอากาศ พวกเขาเคยได้พบกับจ้าวเสี่ยวตาว
“เขาเป็นคนหนุ่มที่ร่ำรวยในเมืองเอก?”โจวเจ๋ขมวดคิ้ว และถาม
“ใช่แล้ว เขาชื่อจ้าวเสี่ยวตาว เป็นคนตระกูลจ้าวในเมืองเอก ฉันคิดว่า ตระกูลจ้าวในเมืองเอก พวกนายคงเคยได้ยิน?” เสี่ยวสานยิ้มหึหึ แล้วพูด
ตระกูลจ้าวในเมืองเอก?
คุณชายตระกูลเจ้าในเมืองเอก ถึงกับตกอยู่ในสถานการณ์ต้องนับเงินให้คนอื่นจริงหรือ?”
“ฉันเคยเห็นเขา ครั้งนั้นมีงานเลี้ยงส่วนตัวที่สถานตากอากาศหลงเหมิง เขาเคยไป” สีหน้าของส้งเสียงดูซับซ้อนเล็กน้อย
เขาไม่อยากจะเชื่อ คุณชายในตระกูลที่ร่ำรวย ยินดีที่จะนับเงินบนพื้นดิน
ถ้าอย่างนั้น ภูมิหลังของอีกฝ่าย จะยิ่งใหญ่ขนาดไหน!”
ในตอนนี้ หลิวเฉียวเฉียวพูดอย่างสบายๆ และพูดว่า “รู้สึกว่าสถานที่ที่ฉันไปในวันนี้ ก็คือวิลล่าหมายเลข1”