NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 261
บทที่ 261 ส้งเสียงที่อัปยศอดสู
รอยยิ้มของหลี่ฝางดูเหมือนว่าจะไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่จริงๆ แล้วกลับซ่อนความน่ากลัวเอาไว้อยู่ในนั้น
หากส้งเสียงไม่รับปาก หลี่ฝางจะต้องจัดการกับเขาแน่นอน เพราะในเมื่อหลี่ฝางมีทั้งพยานและหลักฐาน เพียงแค่แจ้งตำรวจ ตระกูลส้งจะต้องเดือดร้อนหนักแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้น หลี่ฝางยังรู้จักกับสวีจื่อโห้อีกด้วย เรื่องนี้ส้งเสียงรู้ดีตั้งแต่แรก
หากสวีจื่อโห้มายุ่งกับเรื่องนี้ เช่นนั้นตระกูลส้ง สิ่งที่ต้องเจออาจจะไม่ต่างกับที่ตู้ต้าไห่เจอเลย
“ฉันให้เวลา 30 วินาที นายคิดให้ดีๆ” หลี่ฝางพูดจบก็ยกนาฬิกาบนแขนขึ้นมาดู
หลี่ฝางดูไปก็พูดเวลานั้นไป
“30 29…18…10 9 8 7 6 5 4 3 2 1”
หลี่ฝางอ่านเวลาจบก็มองไปที่ส้งเสียงด้วยสายตาราบเรียบ “ทำไม ยังตัดสินใจไม่ได้เหรอ”
ส้งเสียงเงียบไป
“ดูท่านายจะปฏิเสธ?” หลี่ฝางยิ้มเยาะ หันหลังแล้วเดินจากไป
แต่เวลานั้น ส้งเสียงกลับหมอบคลานลงไป แล้วเริ่มคลานไปข้างหน้า
หลี่ฝางส่ายหน้า ดูเหมือนว่าชื่อเสียงเงินทอง จะสำคัญมากกว่าศักดิ์ศรีสินะ
“เฮ้ย คุณชายส้งทำอะไรเนี่ย คลานหาของข้างล่างเหรอ”
“ไม่ใช่ เขากำลังเลียนแบบหมาคลานต่างหากล่ะ!”
“อะไรกันเนี่ย ไอ้นั่นมันเป็นใครกันแน่ ถึงได้บังคับให้คุณชายส้งคลานเลียนแบบหมาแบบนี้” ทุกคนมองไปที่หลี่ฝางด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ
“นั่นสิ เขาเป็นใครกัน ดูๆ แล้วเหมือนคุณชายส้งจะกลัวเขามากเลย”
หลี่ฝางเดินผ่านผู้คนมากมาย เขาทำให้คนเหล่านั้นจำเขาได้ดี
เพียงแค่เขาไปคุยกับส้งเสียงแค่ไม่กี่คำ ส้งเสียงก็ยอมที่จะมอบคลานไปตามพื้นเลียนแบบหมาแบบนี้
มีคนสายตาแหลมคมบางคน ก็เห็นว่าส้งเสียงเดินไปที่ฟลอร์เต้นรำ ก็เป็นเขาเองที่แอบผลักให้ไป
“นักข่าวมาแล้วๆ”
ตงไห่มีสถานโทรทัศน์เล็กๆ อยู่ 1 ช่อง ซึ่งเลี้ยงดูนักข่าวอยู่ไม่กี่คน
แล้วนักข่าวเหล่านี้ ปกติก็ไม่มีข่าวอะไรให้เขียนอยู่แล้ว หลังจากมีข่าวการลงทุนหลายอย่างของหลี่ต๋าคาง นักข่าวเล็กๆ พวกนี้ถึงได้พอมีตัวตนอยู่บ้าง
ตอนนี้นักข่าว 2 คนได้มาที่ Recalling the past แล้วเห็นส้งเสียงกำลังเลียนแบบหมาคลานอยู่บนพื้น
ทั้งสองต่างก็ตกใจเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นสีหน้าก็ตื่นเต้นกันขึ้นมาทันที
รียยกกล้องมาและทำการถ่ายรูปทันที
แต่การถ่ายรูปของพวกเขาทำด้วยความระมัดระวัง ไม่ให้ส้งเสียงเห็นเด็ดขาด
พวกเขารู้ดีว่าส้งเสียงเป็นคนยังไง ถ้าหากส้งเสียงเห็นจะต้องทุบกล้องของพวกเขาเป็นแน่
“นี่มันไอ้ผู้ชายเลวที่ตีผู้หญิงเมื่อกี้ใช่ไหม”
“ใช่ เขานี่แหละ!”
คนที่มาเที่ยวที่ Recalling the past มีเพียง 30% ที่เป็นคนในพื้นที่ของตงไห่
อีก 70 % เป็นนักท่องเที่ยวที่มาจากพื้นที่อื่นทั้งนั้น
เพราะงั้นพวกเขาไม่รู้ว่าส้งเสียงคือใครด้วยซ้ำ แต่เห็นส้งเสียงตีหลิวเฉียวเฉียวเมื่อครู่ ก็ทำให้พวกเขารู้สึกไม่ดีกับเขามาก
“พนักงาน เอาไข่ไก่ดิบมาให้ฉัน 2 ฟอง”
ผู้หญิงที่ใส่ชุดยีนส์คนนึงกวักมือเรียกพนักงาน พร้อมพูดว่า “เอามาจานนึงเลย อย่าลืมว่าฉันเอาแบบดิบ”
“ครับ”
หลี่หงเทาพยักหน้ารับ พร้อมรีบไปที่ครัว แล้วหยิบไข่ไก่สดมา 1 จาน
การที่ Recalling the past มีไข่ไก่สด แน่นอนว่ามีสาเหตุของมัน
เพราะว่าลูกค้าชอบเล่นเกมอย่างนึง ก็คือใครแพ้ คนนั้นก็ต้องเอาไข่ไก่สดเทลงในเหล้า แล้วดื่มให้หมด
ระหว่างที่ส้งเสียงคลานมา ก็ถูกสายตาหลายคู่มองมาด้วยความดูถูก แล้วยังโดนโจมตีด้วยอะไรบางอย่าง
อย่างเช่น หลายคนนำผลไม้ที่อยู่ในจานโยนใส่บริเวณหัวเขาเต็มๆ
แล้วมีบางคนเอาแชมเปญเขย่าอย่างแรง แล้วเปิดฝ้าหันปากขวดไปที่หัวของส้งเสียงอย่างจัง
ส้งเสียงไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้น เขาทำได้แค่ก้มหน้าแล้วเดินต่อไป
ผู้ชายชาตรีแข็งแกร่งได้ก็อ่อนข้อได้ ส่งเสียงพยายามอดกลั้นเอาไว้
แต่ในเวลานั้น ไข่ไก่ดิบ 2 ฟอง โยนมาที่กัวจองเขาอย่างแรง
เมื่อรับรู้ได้ถึงของเหลวที่อยู่ในไข่ไก่ไหลลงมา ส้งเสียงหันขวับขึ้นมาดูว่าใครกันแน่ที่เป็นคนทำ เพื่อที่เขาจะได้แก้แค้นในภายหลังได้
สุดท้าย เมื่อเขาเตรียมจะเงยหน้าขึ้น ไข่ไก่ 2 ฟองก็ถูกโยนมาที่ตาเขาอีกครั้ง
เขารีบปิดตา จนมองไม่เห็นอะไร
ต้องยอมรับว่า เทคนิคการโยนของผู้หญิงที่สวมชุดยีนส์คนนั้นดีมาก สองมือโอบไว้ด้านล่าง แล้วเอาไข่ไก่ทั้งจาน โยนไปใส่ส้งเสียงทั้งหมด
หลังจากที่โยนเสร็จหมดแล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็ยังคงรู้สึกว่ายังไม่พอใจนัก
ส้งเสียงมาถึงบริเวณด้านหน้าของหลิวเฉียวเฉียว จางเชี่ยนจึงถามขึ้นว่า “เฉียวเฉียวเราก็เอาด้วยจักจานไหม”
หลิวเฉียวเฉียวคิดสักพักก็ส่ายหน้า พร้อมกับพูดว่า “ช่างมันเถอะ”
ถึงแม้ว่าหลิวเฉียวเฉียวจะเกลียดส้งเสียง แต่เธอเองกลัวว่าส้งเสียงจะกลับมาแก้แค้นเช่นกัน
ถ้าหากตอนนี้โยนไข่ไก่ใส่เขาแบบนั้น ต่อไปจะต้องโดนเขาแก้แค้นคืนเป็นสองเท่าแน่นอน
ไม่ว่ายังไง เขาก็ได้รับโทษในสิ่งที่เขาทำไว้แล้ว
ผู้หญิงชุดยีนส์คนนั้นก็แก้แค้นให้เธอไปแล้วไม่ใช่หรือ
พอคิดแบบนี้ หลิวเฉียวเฉียวก็ยิ้มออกมา
วินาทีนั้น หลิวเฉียวเฉียวก็รู้สึกว่าบาดแผลบนตัวของเธอหายเจ็บไปแล้ว
“น้อง เอาเหล้ามา 2 กอง” หลิวเฉียวเรียกพนักงานด้วยสีหน้ามีความสุข
“จางเชี่ยน วันนี้นี้เธอเมาเป็นเพื่อนฉันหน่อย” หลิวเฉียวเฉียวพูดกับจางเชี่ยน
จางเชี่ยนพูดกับหลิวเฉียวเฉียวว่า “เฉียวเฉียว เธอไม่เสียใจเหรอ”
“เสียใจ? ทำไมฉันต้องเสียใจด้วย วันนี้ฉันต้องขอบคุณหลี่ฝางจริงๆ ถ้าไม่ใช่เขา ฉันคงไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของส้งเสียงแน่ๆ”
“แล้วอีกอย่าง ไอ้ผู้ชายคนนี้เดี๋ยวก็ใส่บีกินนี่เต้นรูดเสาให้เราดู เดี๋ยวก็คลานเลียนแบบหมาให้เราดู เราไม่ควรจะฉลองกันหน่อยเหรอ” หลิวเฉียวเฉียวพูดไปยิ้มไป
“แน่นอนสิ”
จางเชี่ยนได้ยิน ก็พยักหน้า “โอเค วันนี้ฉันจะเมาเป็นเพื่อนเธอเอง”
พอส้งเสียงคลานครบรอบเขาลุกยืนขึ้น สายตาเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น
ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงกับเสี่ยวสานรีบวิ่งเข้ามาพร้อมเอาเสื้อให้เขา
ส้งเสียงใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย ก็พูดกับเสี่ยวสานว่า “เมื่อกี้ใครโยนไข่เน่านั่นมาใส่ฉัน พวกแกเห็นชัดไหม”
“เห็นแล้วครับ ผู้หญิงคนนั้น”
เสี่ยวสานชี้ไปยังผู้หญิงชุดยืนคนนั้น ซึ่งในตอนนี้เธอกำลังจิบเหล้าอย่างไม่สนใจอะไร
“คนเดียว?”
ส้งเสียงขมวดคิ้ว พร้อมพูดด้วยความสงสัยว่า “เมื่อกี้ฉันรู้สึกว่ามี 2 คนโยนใส่ฉัน!”
“เธอใช้สองมือโยนครับ”
“จะว่าไป เธอเทคนิคดีมากเลยนะครับ โดนเข้าไปเต็มๆ ไม่พลาดเลยซักครั้ง” เสี่ยวสานพูดใบสีหน้าชื่นชมไป
“ไอ้บ้าเอ้ย!” ส้งเสียงใช้ทแตะไปที่ก้นของเสี่ยวสานอย่างจัง พร้อมด่าว่า “แกชมมันอยู่งั้นเหรอ!”
เสี่ยวสานรีบเม้มปาก ไม่กล้าพูดอะไร
เพราะฐานะบ้านของเสี่ยวสาน ต่างจากส้งเสียงเหลือเกิน
เขาทำอะไรให้ส้งเสียงไม่พอใจไม่ได้ เพราะงั้นเมื่อโดนส้งเสียงตี เขาก็ทำได้แค่อดทน
เวลานั้น ชายเสื้อแดงก็เดินเข้ามา พูดกระซิบข้างๆ ส้งเสียงว่า “พี่เสียง เมื่อกี้คนของสถานีโทรทัศน์มาด้วย พวกเขาแอบถ่ายรูปพี่”
“ไอ้บ้าเอ้ย รนหาที่ตายหรือไง!” ส้งเสียงได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เริ่มไม่ดุร้ายขึ้นมาทันที
“ถ้ามันเอาคลิปที่ฉันคลานเลียนแบบหมาไปออกอากาศที่สถานีโทรทัศน์เมื่อไหร่ งั้นชื่อเสียงของฉัน…” แค่คิด ส้งเสียงก็รับไม่ได้แล้ว
ความจริง ในเวลานี้ส้งเสียงยังเหลือชื่อเสียงอะไรอีกกัน
ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงยิ้มแล้วพูดว่า “พี่เสียง พี่ไม่ต้องกังวล ผมให้เสี่ยวสานโทรไปแล้ว ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่หน้าประตูร้านแล้ว”
“นักข่าวสองคนนั่น หนีไปไหนไม่รอดหรอก”
“แล้วก็ผู้หญิงที่โยนไข่ดิบใส่พี่ด้วย…เดี๋ยวอีกซักพัก ก็ไม่รอดเหมือนกัน”
ส้งเสียงหันไปมองผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงคนนั้น “เสี่ยวจวิน แกนี่ทำงานเป็นจริงๆ”
พูดจบ เขาก็หันขวับไปจ้องเสี่ยวสาน
“อ่อใช่ พี่เสียง ถังหยู่ซวนไอ้หมอนั่นจะเอาไงครับ เราจะจัดการยังไง” ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงพูดกับส้งเสียง
ส้งเสียงกัดฟันกรอด ถึงในใจเขาจะรู้สึกไม่ยอมแค่ไหน แต่ก็ทำได้แค่ปล่อยไป
“มันมีหลี่ฝางคอยคุ้มกะลาหัว เราอย่าเพิ่งไปทำอะไรมัน”
ส้งเสียงครั้งนี้คงโดนหลี่ฝางจัดการอยู่แล้ว
หลี่ฝางไม่ได้ธรรมดาอย่างที่เขาแสดงออกมา
เขาไม่ใช่ลูกเศรษฐีธรรมดาทั่วไป แต่เป็นคนที่อันตรายมาก แถมยังมีทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาล
และเวลานั้น ผู้หญิงชุดยีนส์นนั้นก็ยืนขึ้น หลังจากที่จ่ายเงินเสร็จ เธอก็เตรียมจะออกไป
เหมือนว่า เธอเองก็กลัวว่าส้งเสียงจะมาแก้แค้นเธอเช่นกัน
“มันจะออกไปแล้ว รีบตามไป”
เมื่อเห็นว่าผู้หญิงชุดยีนส์คนนั้นจะออกจากบาร์ไป ส้งเสียงก็พูดขึ้นทันที
พอเห็นเหตุการณ์นั้น หลี่ฝางก็ลุกขึ้นและตามออกไป