NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 264
บทที่ 264 ความใจเด็ดของฉินวี่เฟย
“ฉันปฏิเสธ” หลี่ฝางยิ้มแล้วส่ายหน้า
เมื่อได้ยินคำตอบนั้น ฉินวี่เฟยชะงัก
เพราะว่าฉินวี่เฟยถูกมองว่าเป็นผู้หญิงที่ “สวยอันดับ 1” ของเมืองเอก
มีผู้ชายหลายคนอยากจะมาแต่งงานกับเธอ แต่กลับไม่มีโอกาสนี้เลย
ตอนนี้ ฉินวี่เฟยยื่นเงื่อนไขนี้ขึ้นมาเอง แต่กลับถูกปฏิเสธ…
ฉินวี่เฟยไม่อยากจะเชื่อนัก เธอมองเข้าถามว่า “ทำไมเหรอ เพราะว่าฉันสวยไม่พอเหรอ”
“เธอสวยเหมือนนางฟ้าเลย ผู้ชายคนไหนก็ต้องตกหลุมรัก ฉันเองก็เช่นกัน” หลี่ฝางส่ายหน้า
“งั้นนายคิดว่าตระกูลฉินของฉันเทียบตระกูลหลี่ไม่ติดหรือไง”
“ก็ไม่ใช่เหมือนกัน” หลี่ฝางส่ายหน้าอีกครั้ง “ถึงตระกูฉินของเธอจะไม่เท่ากับตระกูลหลี่ของเรา แต่ที่เมืองเอกเธอก็ถือเป็นตระกูลเศรษฐีอันดับต้นๆ แล้ว”
“ถ้างั้นพราะอะไร” ฉินวี่เฟยยิ่งสงสัยเพิ่มขึ้นอีก
“ง่ายมาก ฉันไม่ชอบเธอ นี่คือข้อที่ 1”
“ข้อที่ 2 ฉันไม่อยากให้การแต่งงานของฉันเป็นธุรกิจเหมือนกับการแต่งงานของเธอ” หลี่ฝางพูด
ฉินวี่เฟยมองหลี่ฝาง เธอหัวเราะ “นายคิดว่านายมีสิทธิ์เลือกเหรอ”
“คนอย่างพวกเรา การแต่งงานพ่อแม่ ผู้ใหญ่เป็นคนตัดสินใจทั้งนั้น เราไม่มีสิทธิ์เลือกหรอก” ฉินวี่เฟยหัวเราะ พร้อมพูดต่อว่า “รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงไม่กล้ามีความรัก เพราะฉันรู้ดีกว่า ต่อให้ฉันมีความรัก มันก็ไปไม่รอดอยู่ดี”
“จะเล่าเรื่องให้ฟังซักเรื่อง”
“ฉันมี่สาว ชื่อฉินหยีหรัน เธอสวยเมหือนฉันเลย แก่กว่าฉัน 5 ปี ตอนนี้แต่งงานไปแล้ว แล้วก็มีลูกแล้วด้วย”
“ก่อนแต่งงาน เธอมีแฟนที่รักเธอมาก แน่นอนว่าพี่สาวฉันก็รักเขามากเช่นกัน แต่สุดท้ายพี่สาวฉันก็ต้องแต่งงานกับมู่หรงฉางเฟิงอยู่ดี”
“แล้วผู้ชายคนนั้นก็ประสบอุบัติเหตุ ขาทั้งสองข้างโดนทับจนขาด อุบัติเหตุครั้งนี้ชัดเจนมากว่ามีคนตั้งใจทำ”
“ส่วนใครเป็นคนส่งคนไปทำ เป็นตระกูลฉินของเรา หรือตระกูลมู่ของเขา พี่สาวฉันก็ไม่อยากไปรับรู้แล้ว เพราะไม่ว่าเป็นใคร มันก็คือการทำร้ายเธอทั้งนั้น”
“ความจริง พี่สาวของฉันรักผู้ชายคนนั้นมาก ต่อให้เขาขาขาดไปทั้งสองข้าง พี่ก็ยังไม่ทิ้งเขาอยู่ดี”
“แต่ที่บ้านกลับเตือนพี่สาวฉันว่า ถ้าพี่ยังอยู่กับผู้ชายคนนั้นอีก จุดจบที่รอเขาก็ไม่ใช่ขาขาดง่ายๆ แบบนี้ แต่อาจจะเป็น…ความตาย”
“พี่สาวของฉันโดนบังคับให้ออกห่างจากผู้ชายคนนั้น แต่งงานกับมู่หรงฉางเฟิง แล้วผู้ชายที่พี่สาวฉันรักคนนั้นก็ได้เงินก้อนโตทดแทน สองปีก่อน ฉันแอบไปตามดูผู้ชายคนนั้น เขาแต่งงานแล้ว ใส่ขาปลอมสองข้าง แล้วก็ซื้อบ้านฝรั่งเล็กๆ อยู่กับภรรยาคนปัจจุบันของเขา มีความสุขดี”
“ฉันถามเขาว่า ยังคิดถึงพี่สาวฉันไหม”
“นายรู้ไหมเขาตอบฉันว่าไง” ฉินวี่เฟยมองหลี่ฝางด้วยสายตามีเลศนัย
“ตอบว่ายังไง”
“เขาโบกมือ เรียกลูกสาวของตัวเองมา แล้วกอดไว้ในอ้อมอก แล้วก็มองหน้าฉันด้วยสีหน้าที่มีความสุข” ฉินวี่เฟยพูดถึงตรงนั้น ก็ยิ้มด้วยความผิดหวัง “แล้วฉันก็เลยเดินออกมา”
“ฉันถามพี่สาวฉันว่า เธอรักผู้ชายคนนั้นไหม พี่สาวฉันถึงจะบอกว่าไม่รัก แต่ฉันดูสายตาเธอออก เธอรักมาก เพียงแต่ว่า ไม่กล้าจะพูดก็เท่านั้น”
“ฉันรู้ว่าพี่ฉันไม่ได้มีความสุขนัก ถึงแม้เธอจะได้รับความรักความเอ็นดูจากตระกูลมู่หรงมากเท่าไหร่ แต่มู่หรงฉางเฟิงกลับไม่เข้าใจเธอเลย”
“นี่คือสาเหตุที่เธอไม่กล้ามีความรักเหรอ” หลี่ฝางหัวเราะ เหมือนว่าตัวอย่างของฉินหยีหรัน จะเป็นภาพที่ไม่ดีกับเธอเท่าไหร่นัก
ฉินวี่เฟยไม่พูดอะไร แต่เทเหล้าให้กับตัวเอง
เสียงชนแก้วดังขึ้น
เธอเอาแก้วของตัวเองชนเข้ากับแก้วของหลี่ฝาง
“ดื่มเหล้าเถอะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
หลี่ฝางยิ้ม ไม่พูดอะไร
หลังจากที่ดื่มเหล้ากับฉินวี่เฟยไปหนึ่งแก้ว หลี่ฝางก็พูดขึ้นว่า “ถ้าเธอไม่อยากแต่งงานกับมู่เสี่ยวไป๋ เธอก็พูดกับที่บ้านได้นะ”
“พวกเขาคือคนในครอบครัวของเธอ คนที่ใกล้ชิดกับเธอที่สุด ทำไมจะไม่เข้าใจเธอล่ะ”
ฉินวี่เฟยหัวเราะด้วยเสียงเย็นชา “ในสายตาของพวกเขา มีแค่ผลประโยชน์”
“แล้วอีกอย่างพวกเขายังบอกฉันด้วยว่า ที่พวกเขาทำแบบนี้ เพราะหวังดีกับฉัน” ฉินวี่เฟยพูดจบ ก็อดไม่ได้ที่ด่าด้วยคำหยาบ
“หวังดีกับฉันบ้าบออะไร!”
พอได้ยินประโยคนี้ หลี่ฝางก็รู้สึกว่าฉินวี่เฟยเองก็น่าสงสารไม่น้อย
สำหรับคนภายนอก อาจจะมองว่าเธอมีหน้ามีตา
เป็นถึงลูกหลานตระกูลฉินที่สูงส่ง ทั้งยังเป็นคนที่สวยอันดับ 1 ของเมืองเอก ผู้หญิงคนไหนบ้างจะไม่อิจฉาเธอ
แต่ความขมขื่น ความทุกข์ใจของเธอ กลับไม่มีใครเข้าใจได้
“ถ้าเกิดนายไม่ไปทางมู่เสี่ยวไป๋ซะก่อน มันจะไม่มีเรื่องอะไรเลย ฉันเองก็คงไม่เลือกนาย”
ฉินวี่เฟยดื่มเหล้าเข้าไปแก้วนึงแล้วพูดต่อว่า “ถึงแม้ตระกูลหลี่ของนายจะร่ำรวย แต่ยังไงก็เพิ่งจะมาอยู่ที่นี่ แต่ตระกูลมู่กับฝังรากลึกอยู่ที่นี่มานานแล้ว แล้วยังมีความสัมพันธ์ที่เมืองหลวงอีกด้วย”
“จนถึงวันนั้น พี่ชายฉันบอกฉันว่ามู่เสี่ยวไป๋โดนคนแทงจนเขาโรงพยาบาลแล้ว ถึงน้อยคนจะรู้ว่านายเป็นคนทำ แต่วันนั้นนายโทรหาฉัน… เพราะงั้นฉันเลยรู้เลยว่าเป็นนาย”
“ตอนนั้นฉันกังวลมาก ฉันนึกว่านายแทงเขาจนบาดเจ็บหนัก ตระกูลมู่คงไม่ปล่อยนายไว้แน่”
“แต่คิดไม่ถึงว่า ตระกูลมู่กลับทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมยังไม่เอาเรื่องกับนายด้วย”
“ตอนนั้นฉันก็รู้สึกว่า นายสามารถแย่งฉันไปจากมู่เสี่ยวไป๋ได้”
“อีกอย่าง ถ้าฉันคบกับนาย ที่บ้านจะต้องเห็นด้วยแน่นอน” ฉินวี่เฟยกล่าวด้วยความมั่นใจ
“แต่แค่ฉันคิดไม่ถึงว่า นายจะปฏิเสธฉัน” ฉินวี่เฟยพูดไปก็ยิ้มเจื่อนไป
ผู้หญิงแบบฉินวี่เฟยถูกผู้ขายปฏิเสธ ความรู้สึกนั้นคงไม่ดีนัก
หลี่ฝางรินเหล้าให้เธอ แล้วพูดว่า “ขอโทษนะ ฉันมีคนที่ชอบแล้ว”
“งั้นเหรอ งั้นขอให้นายมีความสุขนะ”
ฉินวี่เฟยหยิบแก้วเหล้าขึ้นมา ดื่มกับเขาอีกแก้ว
“เธอดื่มเก่งไม่เลวนี่” เมื่อเห็นฉินวี่เฟยยกแก้วนั้นจนหมด เขาก็หัวเราะด้วยความไม่อยากเชื่อ
“ผู้หญิงดื่มเหล้าได้สามส่วน ไม่เคยได้ยินคำนี้เหรอ” ฉินวี่เฟยยิ้มมุมปาก
หลี่ฝางส่ายหน้า พร้อมพูดว่า “ไม่เลย”
ดื่มได้ประมาณครึ่งชั่วโมง อยู่ดีๆ หลี่ฝางก็รู้สึกว่าตัวเองเริ่มเวียนหัว สติเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
อีกอย่างทั้งตัวก็เริ่มร้อนขึ้น
เป็นความรู้สึกที่หลี่ฝางอยากจะฉีกเสื้อผ้าตัวเองออกไปจากตัว
นี่มันเกิดอะไรขึ้น บาร์เปิดแอร์เย็นขนาดนี้ ทำไมเขาถึงคงได้รู้สึกร้อน
แล้วอีกอย่างทำไมเขาถึงได้เมาง่ายขนาดนี้กัน
ในความเลอะเลือน หลี่ฝางรู้สึกว่าตัวเองนอนตัวลงไปบนตัวนุ่มๆ ของใครซักคน
เขาเอนไปเอนมา โดนฉินวี่เฟยประคองให้ลุกขึ้น
“คิดไม่ถึงว่ายานี่จะออกฤทธิ์ช้าขนาดนี้” เธอถอนหายใจพร้อมพูด
ดื่มเป็นเพื่อนหลี่ฝางตั้งครึ่งชั่วโมง เธอเองก็เริ่มเมาแล้ว
เธอประคองหลี่ฝาง ตัวเองก็ตัวเอนไปเอนมาไม่น้อย
ทั้งสองเดินขึ้นไปข้างบนช้าๆ
แต่เวลานี้ ลุงเฉียน กลับหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “เหมือนว่าเสี่ยวฝานจะโดนผู้หญิงคนนี้วางยาแล้วล่ะ”
โหจื่อหัวเราะ “คิดไม่ถึงเลยว่าว่าเจ้านายน้อยของเรา จะมีโชคดีแบบนี้ด้วย”
โหจื่อสังเกตเห็นตั้งแต่แรกแล้ว ในแก้วของหลี่ฝางโดนฉินวี่เฟยวางยาลงไป
คนฉลาดอย่างโหจื่อ แน่นอนว่าเขารู้อยู่แล้วว่าที่ใส่ไปคืออะไร
“จะห้ามดีไหม” โหจื่อมองไปที่ลุงเฉียน พร้อมถาม
“ช่างเถอะ ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนของตระกูลฉิน ต่อไปเราต้องทำธุรกิจที่เมืองเอก คงหนีความช่วยเหลือของตระกูลฉินไม่พ้น”
ลุงเฉียน ยิ้มอย่างมีเลศนัย พร้อมพูดว่า “ในเมื่อเธอยอมที่จะเป็นผู้หญิงของเสี่ยวฝาง งั้นก็เปิดทางให้เธอดีกว่า”
“เธอหน้าตาสวย อีกอย่างฐานะก็ไม่เลว”
ลุงเฉียนพูดด้วยเสียงราบเรียบว่า “เหมาะสมกับหลี่ฝางดี”
โหจื่อกระดกคิ้วขึ้น พร้อมพูดว่า “ผู้หญิงคนนี้ หน้าวตาสวยก็จริง แต่ว่าร้ายเกินไป”
“ฉันคิดว่า เจ้านายน้อยของเรา คงไม่น่าจะชอบคนที่ชอบวางแผนนู่นนี่นั่นตลอดเวลาหรอก” รอยยิ้มของโหจื่อซับซ้อนเหลือเกินเมื่อเขาพูดคำนี้ขึ้นมา
โดนผู้หญิงที่สวยขนาดนี้อ้าแขนเข้าใส่ โหจื่อเองก็ยังรู้สึกอิจฉาเลย
…
ฉินวี่เฟยประคองหลี่ฝางไปที่ห้องแขกด้านบน
พอประคอมเข้าไปด้านใน เธอก็วางเขาลงไว้บนเตียง
แต่ในเวลานี้ ยาที่หลี่ฝางกินเข้าไปเริ่มออกฤทธิ์ ดวงตาสองข้างของเขาเริ่มมีเส้นเลือดขึ้นมา ทั้งตัวร้อนไปจนหมด เขาฉีกกระชากเสื้อผ้าของตัวเองอย่างแรง
“น้ำ น้ำ…” หลี่ฝางตะโกนขึ้นมาอย่างร้อนรน
ฉินวี่เฟยไม่ได้หยิบน้ำให้เขา แต่กลับถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก พร้อมประกบไปที่ปากของเขาแล้วจูบเขาไป