NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - ตอนที่ 275
บทที่ 275 ส้าวส้วยทนไม่ไหวแล้ว
หลี่ต๋าคางพ่นควันบุหรี่ออกมา แล้วพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ :“ไม่มีอะไรยาก ฉันแค่เดินเรื่องนิดหน่อย”
“แต่ว่าเดินเรื่องครั้งนี้ ฉันจะพาแกไปด้วย” หลี่ต๋าคางพูด พลางหัวเราะ
ที่จริงในใจของหลี่ต๋าคาง รู้คำตอบอยู่แล้ว
เมื่อหลี่ต๋าคางเห็นหลี่ฝางนั่งดื่มกาแฟราวกับคนไม่เป็นอะไรเลย หลี่ต๋าคางก็รู้ว่าลูกชายของตน ได้เก็บซ่อนความแค้นเอาไว้แล้ว
เมื่อเห็นแบบนี้ หลี่ต๋าคางก็ชื่นชมเป็นอย่างมาก ลูกชายของตน ในที่สุดก็โตขึ้นแล้ว รู้เรื่อง เข้าใจสถานการณ์โดยรวม คิดถึงส่วนรวม
แต่ในขณะเดียวกัน ในใจลึกๆ ของหลี่ต๋าคาง ก็เจ็บปวดเล็กน้อย
หลี่ต๋าคางคิด สามปีที่ผ่านมา ลูกชายเขาต้องเจอกับอะไรมาบ้าง?
ประสบการณ์แบบไหน ที่ทำให้หลี่ฝางสามารถอดกลั้นความแค้นต่อคนที่อยากฆ่าได้……
หลี่ฝางนิ่งเกินไปแล้ว นิ่งจนหลี่ต๋าคางรู้สึกผิด
เด็กอายุราวๆ ยี่สิบ ควรที่จะเปี่ยมไปด้วยพลัง และชอบเอาชนะไม่ใช่เหรอ?
“อดทนไว้ก่อนเถอะ พ่อ ถึงยังไงตระกูลหลี่ของพวกเราก็ลงทุนไปกับบ้านพักตากอากาศนี้เยอะอยู่ ไหนยังจะมีไนต์คลับ สวนสนุก……กิจการตั้งเยอะตั้งแยะ หากพวกเราลงมือ ธุรกิจพวกนี้ ก็ลงทุนเสียเปล่าน่ะสิ?” หลี่ฝางยิ้มอ่อนๆ แล้วพูดขึ้น
“ถ้าหากพ่อบอกแกว่า พ่อไม่ได้สนใจกิจการพวกนั้นเลยล่ะ?” หลี่ต๋าคางหัวเราะเบาๆ พลางพูด
“ถ้าหากฉันบอกว่า สำหรับตระกูลหลี่กิจการพวกนี้ ไม่คุ้มค่าเลยล่ะ……แกจะเลือกทางไหน?” หลี่ต๋าคางยิงคำถามต่อ
“เสี่ยวฝาง ลูกไม่ต้องคิดถึงภาระใดๆ จำไว้ พ่อกับแม่ลูก จะไม่สร้างภาระให้ลูก พวกเราจะเป็นที่พึ่งให้แก ไม่ว่าแกอยากทำอะไร ก็ทำแบบเปิดเผยไปเลย วางใจเถอะ ฉันจะเช็ดล้างให้แกเอง”
หลี่ฝางได้ยินประโยคนี้ ก็รู้สึกอบอุ่นในใจ
“พ่อ พ่อพูดอะไรเหนี่ย ถ้าวันนึงมันเกินกรอบกฎหมายกรอบฟ้าจะทำยังไง? หากวันนึงผมทำฟ้าถล่ม พ่อจะซ่อมให้ผมได้เหรอ?” หลี่ฝางพูดพลางหัวเราะเหอะๆ
“ขอแค่แกมีความสามารถทำให้ฟ้าถล่มได้ ฉันก็สามารถซ่อมได้” หลี่ต๋าคางมองหลี่ฝาง แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
หลี่ฝางเงียบอยู่หลายวินาที จึงพูดขึ้น: “ผมทนได้”
“การแก้แค้นของคนแมน สิบปีก็ยังไม่สาย……ยิ่งไปกว่านั้น ผมต้องรอแค่สองอาทิตย์เอง”
หลี่ต๋าคางพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรต่อ
หลังจากนั้น หลี่ต๋าคางกับลุงเฉียนก็ออกไป
พวกเขายุ่งกับการจัดสถานที่ จัดสถานที่สำหรับงานปาร์ตี้คืนนี้……
ครั้งนี้ที่บ้านพักตากอากาศมีดาราหลายคนมา อีกทั้งยังมีเศรษฐี……แม้แต่นักข่าวก็ตามมาด้วย
หลี่ต๋าคางในฐานะผู้จัดการ นี่เป็นครั้งแรก ที่เขาลงมือออกหน้าด้วยตัวเอง
แน่นอนว่า หลี่ต๋าคางออกหน้าขนาดนี้ ก็เพื่อที่จะโฆษณาให้กับหลี่ฝาง
ขณะนั้น ส้าวส้วยก็เดินมายังเบื้องหน้าของหลี่ฝาง: “เจ้านาย พวกเราไปหาสวีเถิงเฟยกัน”
หลี่ฝางเงยหน้าถาม: “ไปหามันทำไม?”
หน้าของส้าวส้วย เต็มไปด้วยความโมโห: “ถึงแม้ผมจะไม่รู้ว่าเจ้านายคุยอะไรกับลูกพี่ใหญ่ แต่ว่าความโมโหนี้ ผมอดทนไม่ไหวจริงๆ”
“แม่งเอ้ย ไอ้หมอนั่น มันรนหาที่ตาย!”
ส้าวส้วยตอนแรกคิดว่า รอให้หลี่ต๋าคางมาถึง ก็จะเล่นสวีเถิงเฟยให้ตาย แม้กระทั่งกวาดล้างตระกูลสวีให้สิ้นซาก
ถึงยังไงในสายตาของส้าวส้วย หลี่ต๋าคางเป็นคนที่ปกป้องลูกชายตนเองสุดๆ
แต่เขาไม่นึกเลย……
หลี่ต๋าคางคุยกับหลี่ฝางไม่กี่นาที จากนั้นก็พาลุงเฉียนไปจัดงานแล้ว……
เล่นอะไรกันเหนี่ย?
เขาจะฆ่าลูกชายตัวเองอยู่แล้ว ลูกพี่ใหญ่ยังจะมีอารมณ์จัดงานอยู่อีกเหรอ?
เมื่อครู่ส้าวส้วยเห็นหลี่ต๋าคางเดินออกไป ก็ถึงกับงง นี่คือลูกพี่ใหญ่ของตนจริงๆ เหรอ?
เมื่อตอนที่อยู่เมืองนอก ไม่ว่าตนกับโหจื่อจะน้อยใจเล็กน้อยขนาดไหน หลี่ต๋าคางก็จะออกหน้า แทนตนกับโหจื่อตลอด
คนอื่นตบเขาหนึ่งที หลี่ต๋าคางตบมันกลับไปสิบที
ถ้าคนอื่นชกเขาหนึ่งที หลี่ต๋าคางก็จะชกมันกลับไปสิบที
สำหรับลูกน้องคนนึง ก็ปกป้องขนาดนี้ ทำไมพอถึงคราวลูกชายของตน ทำไมถึงได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนกันนะ?
ส้าวส้วยคิดไม่ตกเลย
แต่ว่าส้าวส้วยก็รู้อยู่เรื่องนึง ก็คือบุญคุณต้องทดแทน
เมื่อตอนที่อยู่ต่างประเทศ หลี่ต๋าคางปกป้องเขายังไง ในตอนนี้ ตนก็จะปกป้องหลี่ฝางแบบนั้นเช่นกัน
ส้าวส้วยคว้าแขนหลี่ฝาง แล้วไปหาสวีเถิงเฟย
ใครจะรู้ว่าเดินไปได้แค่ไม่กี่ก้าว ก็บังเอิญเจอเหยโก่วกับเซี่ยลู่
หลี่ฝางขมวดคิ้ว สองคนนี้ไม่ได้สนิทกัน พวกเขาทำไมถึงอยู่ด้วยกันนะ?
เซี่ยลู่มองหลี่ฝาง แล้วรีบวิ่งเข้ามาหา
“หลี่ฝาง นายเป็นอะไรเหนี่ย นายบอกว่าวันนี้จะขับรถมารับฉันไม่ใช่เหรอ? สุดท้ายวันนี้ฉันโทรหานายสามสิบกว่าสาย นายไม่รับเลยสักสาย” เซี่ยลู่มองหลี่ฝางอย่างโมโหเล็กน้อย พลางพูด
หลี่ฝางเพิ่งจะนึกขึ้นได้
ว่าเมื่อวานตนสัญญากับเซี่ยลู่ไว้ ว่าวันนี้จะไปรับเธอ
สุดท้ายวันนี้ก็ดันลืมจนหมดเลย
พูดขึ้นมา หลี่ฝางก็รู้สึกผิด: “ขอโทษนะ ฉันลืมน่ะ”
เซี่ยลู่ได้ยินคำตอบนี้ สีหน้าก็บึ้ง ตอนนี้เธอเพิ่งได้รู้ ว่าในใจของหลี่ฝาง ไม่ได้มีตนอยู่เลยแม้แต่น้อย
ถ้าไม่งั้น คำสัญญาที่ให้ไว้เมื่อวาน วันนี้จะลืมมันได้ยังไง?
ไม่ใช่ว่าผ่านไปนานสักหน่อย……
“ช่างเถอะ ดีที่มีพี่เหยโก่ว ฉันเรียกรถอยู่ตั้งนานก็ไม่มีรถว่าง ดีที่พี่เหยโก่วมาทางเดียวกัน พี่เขาก็มาเที่ยวที่บ้านพักตากอากาศนี้ เพราะงั้นพี่เขาเลยให้ฉันติดรถมาด้วย”
“หลี่ฝาง นายอย่าเข้าใจผิดนะ” นิ่งอยู่ครู่ เซี่ยลู่ก็พูดขึ้นพลางกัดริมฝีปาก
หลี่ฝางหัวเราะอย่างดูแคลนในใจ จำเป็นต้องมาอธิบายกับฉันด้วยเหรอ? เธอไม่ใช่แฟนฉันสักหน่อย
ถึงแม้เซี่ยลู่จะคบกับเหยโก่วแล้ว ในใจของหลี่ฝาง ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรแม้แต่น้อย
อย่างมากก็แค่รู้สึกขยาด
ถึงยังไงเหยโก่วคนนี้ ก็เป็นชายวัยกลางคนแล้ว รูปลักษณ์ภายนอกก็ดูดุ……
หลี่ฝางคิดว่า ถ้าเซี่ยลู่จะนอนกับเหยโก่ว ไปนอนกับตาแก่หัวล้านยังดีกว่าอีก!
เหยโก่วคนนั้นมองส้าวส้วย ก็สะดุ้งโหยง
ตอนนี้ ในใจลึกๆ ของเหยโก่ว คงจะเกลียดเซี่ยลู่เอามากๆ
เมื่อกี้ตอนที่เหยโก่วเห็นส้าวส้วยกับหลี่ฝางเดินมาแต่ไกล เขาก็เตรียมตัวหันหลังกลับ แล้วออกไปจากตรงนี้อย่างเงียบๆ ……
แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเซี่ยลู่ยัยผู้หญิงคนนี้ กลับเรียกหลี่ฝางซะเสียงดัง แถมยังวิ่งเข้าไปคุยกับเขาอีก
ในตอนนี้ ทำเอาเหยโก่วรู้สึกเลิ่กลั่กเป็นอย่างมาก
ตั้งแต่วันนั้นที่ภูเขาหมาป่า ส้าวส้วยก็กลายเป็นฝันร้ายของเหยโก่ว
ทุกวันก่อนที่เหยโก่วจะออกจากบ้าน จะสวดมนต์ก่อนออก ภาวนาว่าไม่ให้ตนพบเจอกับส้าวส้วย……
คิดไม่ถึง ว่ายังจะมาเจอ
เหยโก่วทำสีหน้าเลิ่กลั่ก ไม่ได้เข้ามาทักทายส้าวส้วย เขากลัวว่าส้าวส้วยจะจำความเกลียดชังนั้นได้
แต่จะให้เข้าไปทักทาย เขาก็ไม่รู้ว่าจะทักทายยังไง
หรือว่าจะต้องเรียกแบบที่ภูเขาหมาป่า เอ่ยปากเรียกเขาว่าท่านปู่?
ลังเลอยู่ครู่ สุดท้ายเหยโก่วก็ยังเสนอหน้าเข้ามา ทักทายกับส้าวส้วย
“ลูกพี่……ลูกพี่ก็มาเที่ยวที่บ้านพักตากอากาศเหรอครับ” เหยโก่วพูดขึ้นอย่างเคารพ
“ใครเป็นลูกพี่นาย?”
ส้าวส้วยไม่พูดคำที่สอง ก็ง้างมือตบเขาไปหนึ่งที
เมื่อได้ยินเสียงตบดังเพี๊ยะ เซี่ยลู่ก็ตกใจ
ในเมืองเอกเหยโก่วเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงมากๆ คนแบบนี้ เดินไปที่ไหนไม่มีใครให้เกียรติกัน?
แต่ต่อหน้าส้าวส้วย เหยโก่วกลับกลายเป็นหมาตัวนึงไปแล้วจริงๆ
“ทำไม ไม่เจอกันไม่กี่วัน ลืมผู้อาวุโสไปแล้วหรือไง?” ส้าวส้วยทำหน้าเย็นชาแล้วถามขึ้น
สีหน้าของเหยโก่ว อับอายเล็กน้อย
ดีที่ตรงนี้มีคนอยู่ไม่เยอะ ถ้าหากโดนคนอื่นเห็น งั้นต่อไปตนจะทำกร่างได้ยังไงล่ะ?
“ปู่ ท่านปู่” เหยโก่วโค้งตัว ก้มหัวพลางพูด
ส้าวส้วยถึงจะพยักหน้าอย่างพอใจ แล้วตอบรับ
ต่อมา ส้าวส้วยก็ยื่นมือออกไป แล้วเคาะหัวของเหยโก่ว อย่างแรงสองที: “ต่อไป จำให้ขึ้นใจ”
“ได้ยินมั้ย?” ส้าวส้วยพูดอย่างเย็นชา
“ได้ยินแล้วครับ ได้ยินแล้วครับ” เหยโก่วพยักหน้ารัวๆ
หลี่ฝางเห็นแบบนี้ ก็หัวเราะขึ้นมาอย่างหมดคำจะเอ่ย
คนนึงกดอีกคนนึงจริงๆ ด้วย เหยโก่วคนนี้แข็งแกร่งมาก กลับโดนส้าวส้วยจัดการซะอยู่หมัด
ถ้าหากไม่ได้มาเห็นด้วยตัวเอง หลี่ฝางก็ไม่อยากจะเชื่อ
ส้าวส้วยคนนี้ ก็แค่แบกตัวเหยโก่วขึ้นมา แล้วโยนลงจากภูเขาหมาป่าเองไม่ใช่เหรอ?
เหยโก่วคนนี้ ทำไมถึงได้กลัวส้าวส้วยขนาดนี้นะ!
“ไสหัวไป” ส้าวส้วยเพิ่งพูดขึ้น
เหยโก่วได้ยินคำนี้ จึงรีบคว้าแขนของเซี่ยลู่ แล้วรีบหนี
ถึงแม้เซี่ยลู่ไม่อยากจะจากหลี่ฝาง แต่ด้วยแรงของเธอ จะไปเยอะกว่าเหยโก่วได้ยังไง?
หลี่ฝางมองออก เหยโก่วคนนี้ เป็นคนที่อยู่ในสายตาของเหยโก่ว
แต่ว่าหลี่ฝางก็ไม่ได้ยื่นมือเข้าไปช่วย ถ้าหากในใจของเซี่ยลู่อยากจะไปกับเหยโก่วจริงๆ ล่ะ?
งั้นตนก็กลายเป็นคนไม่ยุ่งเรื่องชาวบ้านเขาน่ะสิ?
ถึงยังไงในสังคม มีผู้หญิงมากมาย ที่อยากจะเป็นผู้หญิงของพวกลูกพี่
บ้านพักตากอากาศนี้จะบอกว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ บอกว่าเล็กก็ไม่เล็ก
หาอยู่สิบกว่านาที ในที่สุดส้าวส้วยกับหลี่ฝาง ก็หาสวีเถิงเฟยกับหวางเฉินเจอ